เปรียบ2คันนี้หน่อยครับ

[mann]

1.http://www.one2car.com/CarInfor/cardetails.aspx?caridx=E12090193&row=2


2.http://www.one2car.com/CarInfor/cardetails.aspx?caridx=E20090228&row=2

สมมุตินะแต่อิงความจริง....ถ้าจะซื้อน่าจะเลือกตัวไหนมากที่สุดครับ

(ขับเล่นๆและอาจจะแต่งไว้คุยหน่อย)


ปล.ขอประวัติรุ่นนี้ด้วย...อิอิ

[Pan Paitoonpong]

ฺBluebird ATTESA น่ะเอง

ตัวนี้รู้สึกว่าเมืองไทยจะมาขายกันอยู่ราวๆช่วงปี 90-92 อะไรประมาณนี้ ก่อนที่จะถูกทดแทนด้วย Bluebird SSS
ตอนนั้นมันถือว่าเป็นรถที่นิสสันเอาไว้แข่งกับ Corona หน้ายิ้ม และ Accord ตาเพชร ซึ่งถ้ามองจากจำนวนรถที่เห็นในท้องตลาด เราก็คงรู้ดีว่าขายสู้สองคันนั้นไม่ได้เลย

แต่ว่าถ้าเป็นตัวรถก็ไม่ได้เสียเปรียบมากและบางอย่างก็ดีกว่าคู่แข่ง และพิกัดการวางตลาดก็ค่อนข้างจะมาแปลก
คู่แข่งสมัยนั้นอย่าง Toyota จะมีให้เลือกในรุ่น 1.6ลิตรคาร์บูเรเตอร์, 2.0ลิตรคาร์บูเรเตอร์ และ 2.0ลิตรหัวฉีด
Accord มีแต่ 2.0ลิตร คาร์บูกับหัวฉีด ส่วน Bluebird จะมีเครื่อง 1.8 คาร์บู กับ 2.0หัวฉีด

พลังเครื่องยนต์ไม่ได้มากอะไร รุ่น 1.8 ก็ม้าแค่ 90 ส่วน 2.0 นั้นก็แค่ 115แรงม้า ถ้าจำไม่ผิดเพื่อนๆในรุ่นเขา 16วาล์วกันหมดแล้วแต่ CA20E ใน Bluebird ยังมีแค่ 8 วาล์ว

นอกจากนี้ Bluebird รุ่นนี้สมัยเปิดตัวใหม่ๆก็ไม่ใช่รถปลอดปัญหานัก ส่วนมากมักจะมาจากการประกอบเครื่องที่ไม่เรียบร้อย เซ็ตเครื่องไม่ลงตัว สมัยก่อนไม่มีเน็ต คนเลยไม่ค่อยรู้ ต้องเจอคุยกับเจ้าของตัวจริง ของเพื่อนแม่ผมกับของญาติผมเอง รถคนละคัน มาจากคนละที่ เจอวิ่งแล้วกระตุก กระชากและสะอึกเวลาแซงเหมือนกัน นี่คือสมัยปี 92 โน่นเลยนะ รถยังใหม่อยู่

ส่วนอย่างอื่นไม่มีปัญหาอะไร ดีไซน์รถนั้นสวย ทุกวันนี้ภายในและภายนอกของมันก็ยังดูไม่น่าเบื่อ และวัสดุอุปกรณ์ภายในดูจะทนแดดแรงๆบ้านเราได้มากพอๆกับ Sentra B13 และดีกว่า Cefiro A31 เยอะ

ถ้าจับมาแต่งต่อ รับรองว่าถึงจะไม่ได้ของแต่งเพียบแบบรถใหม่ๆ คุณสามารถแต่งจนหมดเงินยิ่งกว่าเงินที่จ่ายตอนซื้อรถได้แน่นอน กระจังญี่ปุ่น กันสาดกระจก มูนรูฟ กันชนแต่ง มีให้เล่นเยอะ ส่วนเครื่องยอดนิยมก็คือ SR20 ไม่ว่าจะเป็น DE หรือ DET ก็ตาม U12 ตัวนี้จะมีรุ่นที่วาง SR20DET ขายในญี่ปุ่น เครื่องพวกนี้จะมีฝาครอบวาล์วสีแดง อินเตอร์คูลเลอร์อยู่ด้านบน ขนาดไม่ใหญ่ไม่คลุมฝาครอบวาล์วหมด 205 แรงม้า และสามารถดันเพิ่มเป็น 235-240ได้ในงบไม่มาก ขับสนุกให้ยิ้มได้พักใหญ่ๆ

สำหรับรถสองคันที่เอามาโพสท์ ผมขอไม่เลือกดีกว่าว่าคันไหนเพราะประสบการณ์การดูรถจากเว็บนั้น การเห็นแค่รูปถ่าย มันต่างจากตัวจริงที่เจอเยอะเหมือนกันครับ ไหนๆก็รถรุ่นเดียวกัน สเป็คเหมือนกันทุกอย่าง คันไหนสภาพดีกว่า ผมก็เอาอันนั้น แต่ดูแค่สภาพตัวถัง เครื่อง เกียร์ ช่วงล่าง ไม่สน เพราะยังไงก็คงจะวางใหม่อยู่แล้วจ้า

[J!MMY]

ขอเสริมอีกหน่อย

นิสสัน ในยุคสมัยนั้น ถึงแม้มีการโฆษณาว่าใช้เหล็ก Durasteel
ซึ่งจำได้ว่าเป็นของ Nippon Steel นี่ละ

แต่การเก็บสต็อกเหล็ก ของสยามกลการในสมัยก่อนนั้น
ต้องใช้คำว่า ปล่อยไปตามยถากรรมมากๆ
ดังนั้น ต่อให้ใช้ระบบจุ่มสีทั้งคัน แคธโธดิค อีดีพี ที่โฆษณาแข่งกับ แคทไอออน อีดีพี ของโตโยต้า สมัยนั้นยังไง
สนิม ก็จะโผล่ให้เห็นในวันนี้ได้อยู่ดีนั่นเอง

เรื่องตัวถัง ของ รถนิสสันในยุคเก่าๆ บอกได้เลยครับว่า ทำใจ เจอสนิมแน่ๆ

ส่วนประวัติ บลูเบิร์ดหนะ ยาวมาก " เดี๋ยวพี่เขียนเอง แต่ยังไม่ใช่ปีนี้"

[mann]

แล้วถ้าเอาแบบที่ถามคือ เกียร์ออโต้+เครื่องเดิม8วาวล์
มันจะทันกินหรือเปล่าครับ(แล้วระหว่างนั้นก็ออกตามหาsr20)

ปล.เขาบอกว่ารุ่นนี้เกียร์ออโต้จะเป็นรุ่นนำเข้าจริงหรือเปล่าครับ

[Pan Paitoonpong]

แล้วถ้าเอาแบบที่ถามคือ เกียร์ออโต้+เครื่องเดิม8วาวล์
มันจะทันกินหรือเปล่าครับ(แล้วระหว่างนั้นก็ออกตามหาsr20)

ปล.เขาบอกว่ารุ่นนี้เกียร์ออโต้จะเป็นรุ่นนำเข้าจริงหรือเปล่าครับ

ทันกินอะไรอะไรล่ะครับ ทันกินข้าวเย็นบ้านแน่นอน แต่คงไม่ทันแอคคอร์ด LXi หรือ Corona 2.0GLi
แต่ไปเรื่อยๆก็พอได้นะ ไม่ถือว่าอืดอะไรถ้าใจเย็น แต่ถ้าเป็นพวกชอบตีนมิดติดเหล็กรถ ไม่ชอบแน่

ส่วนรุ่นรถนำเข้า จิมมี่บอกว่า มันมีรถที่เป็นรถสั่งนำเข้าเองตามออเดอร์เป็นกรณีพิเศษ
แต่ไม่ได้จำกัดว่าพอเป็นเกียร์ออโต้แล้วต้องนำเข้าเท่านั้น เพราะในความจริงถ้าจะนับเฉพาะ
การขายแบบเป็นทางการแล้ว ต้องถือว่าไม่มีการนำเข้า เพราะในยุคที่ Attesa เปิดตัวนั้น
ภาษีนำเข้ายังสูง 617% ทำให้ไม่มีใครอยากนำรถเข้ามายกเว้น

1. คนรวย...แต่ถ้ารวยมาก มันก็คงไม่ขับ Bluebird
2. บุคคลทางการฑูต เช่นพนักงานสหประชาชาติ (รถทะเบียนฟ้า อ-02) ก็จะนำเข้ามาได้โดยไม่เสียภาษีทำให้ทำราคาได้ถูกมากครับ