เหมือนกันแค่รูปทรง แตกต่างกันมากครับ!
เรื่องการขับขี่ ไม่ขอพูดถึงล่ะกันครับ เพราะผมไม่เคยขับ ดูแต่รูป กับอ่านในเว็บครับ
Lancer Cedia เห็นมีแต่เกียร์ Auto ครับ เกียร์ MT ไม่ค่อยเห็น ราคาถูกหน่อยจะอยู่ราวๆ 3 แสนบาทครับ
ส่วน EVO VII ราคาถูกสุดอยู่ที่ 7 แสนบาทจะเกียร์ MT และ AT
แตกต่างกันอย่างไร
เครื่อง Cedia ขับหน้า 2 ล้อ จะเป็นเครื่อง 1.6 SOCH 108 แรงม้า และ 1.8 SOCH 122 แรงม้า
แอร์มือหมุน
แก้มหน้าและฝากระโปรงเป็นเหล็ก
เครื่อง EVO VII ขับเคลื่อน 4 ล้อ จะเป็น 4G63T MT 280 แรงม้า ส่วน AT GT-A 272 แรงม้า
ตัวเกียร์ Auto GT-A สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้ที่พวงมาลัย
แอร์ Auto
แก้มหน้าและฝากระโปรงเป็นอลูมิเนียม ช่วยลดน้ำหนัก
EVO VII เห็นหลายคนเอาไปติดแก็ส LPG ครับ
รายละเอียดเพิ่มเติมลองดูที่
http://xn--43cly6c.blogspot.com/2011/05/evo-vii-viii-ix-cedia.htmlEvolution VIIผลิตขึ้นในปี 2001 จำนวน ตัวถังรหัส CT9A รุ่นที่ผลิต GSR , RS , GTA
บอดี้ ได้รับการพัฒนามาจาก Mitsubishi รุ่น CEDIA ในบ้านเรา ปรับปรุงด้านความแข็งแรงในส่วนต่างๆให้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้าง ซุ้มช็อคหน้า หลัง คานหน้า เสาประตู จุดยึดช่วงล่าง และคานป้องกันการบิดตัวต่างๆ เพื่อรับมือกับแรงม้า และแรงบิด ที่มากขึ้น บอดี้มีความยาว 4,455 มิลลิเมตร กว้าง 1,770 มิลลิเมตร สูง 1,450 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อยาว 2,625 มิลลิเมตร กันชนหน้าแบบช่องระบายความร้อนอินเตอร์คูเลอร์ กระจังหน้าแบบเปิดกว้าง นอกจากนี้ยังมีการลดน้ำหนักตัวถัง ด้วยการเปลี่ยนกระจกหน้าให้บางลงอีก 10 เปอร์เซ็นต์ ฝากระโปรงหน้า และแก้มหน้าเป็นอะลูมิเนียม ในรุ่น GSR มีน้ำหนักรวมอยู่ที่ 1,400 กิโลกรัม
เครื่องยนต์ยังยืนหยัดกับ 4G63 ครั้งนี้ ทาง Mitsubishi ได้ทำการเพิ่มเติมเสริมความแรงจาก Evo VI ( 6.5 ) รุ่น Tommi Makinen ด้วยการเปลี่ยนเทอร์โบใหม่ให้มีค่า A/R ไอเสียให้น้อยลง และโข่งหลังแบบ 2 NOZZLE ปรับปรุงท่อไอดี และพอร์ตไอดีให้มีขนาดใหญ่ขึ้น ในรุ่น TD05 HR-16G 6-9.8T ส่วนในรุ่น RS ยังคงใช้แบบเทอร์โบแบบไททาเนี่ยมรุ่น TD05 HRA-16G 6-9.8T เฮดเดอร์ไอเสียให้มีความโค้งน้อยลงช่วยลดแรงดันไอเสียย้อนกลับ แคมชาฟท์รุ่นใหม่แบบภายในกลวง ลดภาระการทำงานให้กับเครื่องยนต์ และ Rocker Cover แบบ Magnesium ป้องกันความเสียหายที่เกิดขึ้นกับฝาสูบในรอบสูง ขยายอินเตอร์คูเลอร์ขนาดกว้างขึ้นอีก 20 มม. เปลี่ยนท่ออินเตอร์เป็นแบบอลูมิเนียม หัวฉีดน้ำอินเตอร์จาก 2 หัวเป็น 3 หัว และออยล์คูลเลอร์ให้กว้างขึ้นอีก 30 มม. ป้องกันปัญหาเรื่องความร้อนได้อย่างเห็นผล และทำให้เครื่องยนต์มีแรงบิดมากกว่าเดิมจาก 38.0 กก.-ม. เป็น 39.0 กก.-ม ที่ 3,500 รอบต่อนาที
ช่วงล่าง เพิ่มเทคโนโลยี ACD หรือ ACTIVE CENTER DIFFERENTIAL ทำหน้าที่กระจายแรงบิดระหว่างล้อหน้า และหลังให้สมดุลกัน ที่จะทำงานร่วมกันกับ AYC เพื่อให้เกิดการตอบสนองกับพวงมาลัยให้มากที่สุด ระบบเบรกแบบ ABS + ESB ซึ่งใช้คอมพิวเตอร์คำนวณแรง G แล้วสั่งการห้ามล้อให้เหมาะสมกับสภาพถนน และใน Evo 7 ได้รับการพัฒนาระบบเกียรให้มีอัตราทดที่จัดจ้านขึ้น แบบ SUPER CLOSE RATIO แบบ 5 จังหวะในรุ่น W5M51 และเกียรออโตเมตริกแบบ INVECS II ในรุ่น GTA ซึ่งถือเป็น Evo สายพันธ์แรกที่เป็นเกียรออโต้ ช่วงล่างแบบปีกนกอลูมิเนียม โดยขยายฐานล้อขึ้นอีก 15 มม. ทั้งหน้าและหลัง เพิ่มช่วงชักช็อคหน้าอีก 15 มม. พร้อมดิสเบรกของ BREMBRO ทั้ง 4 ล้อ