ผู้เขียน หัวข้อ: ผู้ใช้รถยนต์ติดก๊าซเอ็นจีวีเตรียมทำใจ ปตท. ปรับแน่  (อ่าน 12730 ครั้ง)

ออฟไลน์ apinui

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,954
    • อีเมล์
ครับคุณ Nuay@Protege

ปัญหาจริงๆคือถ้าบริษัทแห่งนี้เป็นของเอกชน 100% กำเนิดโดยเงินของเอกชนอย่างเดียว และไม่ผูกขาด ก็คงไม่มีใครว่าได้ ..

เรื่องต้นทุนการก่อสร้างท่อ หรือสถานีบริการ ก็ตามที่คุณ JC vihicle ว่าไว้ครับ

ลงทุนท่อส่งก๊าส กับสถานีบริการ โดยเอาค่าลงทุนใส่ไปในราคาขาย ... แล้วมันคุ้มทุนที่กี่ปีครับ .... พอคืนทุนแล้วคุ้มทุนแล้ว ลดราคาก๊าซลงให้ไหมล่ะ ...... ????

ทั้งหมดนี้คืนต้นทุนบริษัทฯ .... ถูกไหมครับ ...แต่บริษัทฯกับรัฐบาล พยายามให้ต้นทุนตรงนี้ มาอยู่ที่ประชาชนโดยการใส่ราคาต้นทุนทั้งหมดลงไปในราคาก๊าซ คุณว่าถูกต้องไหมครับ ... ????

"ต่างจากน้ำมัน" ต่างตรงไหนครับ น้ำมันเราทราบกันดีอยู่แล้วว่า นำเข้ามากกว่าผลิตเอง และการนำเข้า การคิดภาษี และ การคิดต้นทุน ชัดเจนอยู่แล้ว โดยคุณดูได้ที่เว็ป eppo ซึ่งราคาดังกล่าว ..... "ไม่มีต้นทุนของการขยายสถานีบริการ หรือแท่นขุดเจาะหรืออื่นๆ" รวมอยู่ในราคาน้ำมันเลยสักบาทเดียว .....

แต่สิ่งที่เหมือนกันคือ น้ำมันดิบ 1 หน่วย สามารถกลั่นออกมาเป็นโปรดักส์ดังนี้

1.ก๊าซปิโตรเลียมเหลวหรือแอลพีจี (liquefied petroleum gas)
2.น้ำมันเบนซิน
3.น้ำมันก๊าด
4.น้ำมันเครื่องบิน 
5.น้ำมันดีเซล(โซล่า) 
6.น้ำมันเตา
7.ยางมะตอย

เห็นไหมว่าได้อะไรมาบ้าง แต่ บริษัทและ รัฐฯพยายามแยกโปรดักส์ที่ขาดทุนอย่าง LPG ออกมาแล้วใส่คำว่า "อุ้ม" รวมถึงน้ำมันดีเซลด้วย

แต่ถามว่าใน 7 โปรดักส์ที่ผลิตมา มันขาดทุนทุกโปรดักส์ป่าวครับ ผมว่าไม่หรอก ..จริงมะ ...

แล้วการขึ้นราคาน้ำมันโดยอ้างราคาน้ำมันดิบ แล้วแปลงมาคิดเป็นราคาน้ำมันเบนซิลและดีเซลตรงๆเลย มันถูกไหมครับ เพราะน้ำมันดิบ 1 หน่วย ไม่ได้ผลิตออกมาได้แค่ LPG เบนซิล และดีเซล นะครับ

และกระบวนการผลิตตรงนี้ ไม่มีต้นทุนของสถานีบริการหรือท่อส่งน้ำมันเลย .... แต่ทำไม NGV ถึงต้องใส่ต้นทุนพวกนี้ลงไป .... สงใสป่าวล่ะ ....

คำว่าอุ้มของรัฐฯ มันไม่ได้อุ้มอะไรเลยครับ .... เค้าก็เอาภาษีที่เก็บจากคนที่ใช้รถนั่นแหละมาจ่ายอยู่ดี ... กองทุนน้ำมัน มันเอาเงินมาจากไหนครับ ??? ... มองกันดีๆ ... เงินเราทั้งนั้นที่รัฐบอกจะเก็บเข้ากองทุนน้ำมัน ... พอน้ำมันขึ้นราคาบอก "อุ้ม"แล้วเอาเงินในกองทุนมาจ่าย ...... พอน้ำมันลง บอกยังไม่ลงขอเก็บเงินคืนเข้ากองทุนน้ำมันก่อน .....

มันเงินเราทั้งนั้น แต่จ่ายต่างกรรมต่างวาระ ...... มองให้ออกครับ รัฐบาลหลอกประชาชนมาเยอะแล้ว ....

และก็ ปตท มันโตมาจากภาษีประชาชนกำเนิดมาจากภาษีประชาชน หากินบนสัมปทานรัฐซึ่งเป็นสมบัติของประชาชนทุกคน ... จะให้เค้ามาหากำไรจากเราอีกหรือครับ .....

ออฟไลน์ NINENOI

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,732
  • Nine & Knight
ส่วนตัวผมหน่ะขึ้นได้ แต่ส่วนที่ขึ้นมาไม่ได้เข้าปตทครับ เอาไปเป็นกองทุนสนับสนุนงานวิจัยและพัฒนาพลังงานทดแทนอื่นๆ เพราะของพวกนี้เอามาใช้เดี๋ยวก็หมดไปจะไม่ยั่งยืนเอา สู้หาพลังงานทดแทนที่สามารถใช้ได้ตลอดดีกว่า ถ้ามีพลังงานทดแทนทางเลือกเยอะๆ ราคาน้ำมันเท่าไหร่ก็ไม่ใช่ปัญหาแล้ว มีแต่จะถูกลงอย่างแน่นอนเพื่อดึงดูดคนมาใช้น้ำมันเหมือนเดิม ไม่งั้นซีคอาหรับจะกินอะไร ขนาดบ้านเค้าอยู่กลางทะเลทรายแดดน่าจะเยอะเค้ายังใช้น้ำมันเลย

ส่วนเรื่องการกลั่นน้ำมันแล้วได้หลายโปรดักนั้นเรื่องจริงครับแล้วแต่ว่าน้ำมันจากที่ไหนจะกลั่นได้อะไรมากกว่า ถ้าต้องการเบนซินมากกว่าก็สั่งจากที่นึง ถ้าต้องการดีเซลมากกว่าก็สั่งอีกที่นึง ส่วน NGV เนี่ย แต่ก่อนเค้าเผาทิ้งบางส่วนนะครับเพราะว่าต้นทุนค่าบรรจุขาย ค่าขนส่ง (รถขนแก๊สใช้น้ำมันดีเซล ถ้าไปไกลๆล่ะต้นทุนบาน) ค่าท่อ ฯลฯ เหล่านี้ทำให้ไม่คุ้มที่จะขายแต่ก็เอามาแยกเป็น LPG ได้อยู่ ต่อมามีการพัฒนามาต้มน้ำเอามาผลิตกระแสไฟฟ้า ซึ่งผมว่าน่าจะเหมาะสมที่สุดแล้วเพราะโรงกลั่นอยู่ระยอง ใกล้แหล่งน้ำระบายความร้อนคือทะเล มีโรงงานอุตสาหกรรมมากมายเท่ากับใช้ไฟฟ้าเยอะมาก แนวท่อก็เยอะตามไปด้วย ทำให้ต้นทุนค่าบรรจุ ค่าขนส่งเนี่ยแทบไม่มีเลยเพราะลงทุนท่อครั้งเดียวใช้ได้อีกนานไม่ต้องเอาหรอกโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เอาโรงไฟฟ้า NGV ดีกว่ามั้ง ส่วนในภาคขนส่งถ้าตามแนวท่อก็พอได้แต่ถ้านอกแนวท่อต้องใช้รถขนส่งล่ะก็ไม่คุ้มเลย แล้วเอามาคำนวณเป็นต้นทุนอย่างนี้ก็บานเลย ปัญหาเรื่องแก๊สไม่พอ รอคิวนานก็ตามมาติดๆ เหมือนกับว่าสนับสนุนให้ใช้แต่ไม่ได้ศึกษาผลกระทบที่เกิดขึ้น มันเป็นพลังงานทางเลือกก็จริงแต่บางคนก็มีตัวเลือกไม่มากหรือไปทางไหนก็ไม่คุ้มก็มีนะครับ

ของผมอยู่ใกล้ปั๊ม NGV 3 ปั๊ม LPG 3 ปั๊ม แต่ก็ยังใช้น้ำมันอยู่ โซฮอลล์91 เพราะใช้รถไม่เยอะ ไปทำงานก็รถตู้บริษัท ก็เลยไม่มีปัญหากับเรื่องพลังงานนัก แต่ถ้าอนาคตจำเป็นต้องใช้รถเยอะก็ยังโชคดีมีพลังงานให้เลือกเยอะ แต่บางคนก้ไม่โชคดีอย่างผมครับ
ถ้าเราซื้อของที่ไม่จำเป็น สุดท้ายเราต้องขายของที่จำเป็น

ออฟไลน์ liveshow

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,751
  • รถไม่แรงแต่แซงยาก
ถ้าอย่างนั้นวี่แวว ของการขึ้นรถโดยสาย สีส้ม สีเหลือง คงมีอีกระลอก ซวยคนใช้ไปอีก :P

ถึงแม้จะขึ้น แต่็ขอให้ขึ้นแบบไม่กระทบบริการสาธารณะด้วยนะครับ เพราะต้นทุนควรให้ผู้ให้บริการควรรับภาระด้วยนะครับ
ถึงแม้ว่าจะได้กำไลน้อยลงแต่ของให้ช่วยผู้บริโภคบ้าง หรือเอาง่ายๆให้ท่านคิดตอนเวลาน้ำมันละครับ เวลาขึ้นขึ้นอย่างเร็ว
แต่เวลาลด แทบจะต้องไปกราบกรานที่อู่เลย

ส่วน LPG ถ้าขึ้นยังงัยก็ของให้แยกส่วนกับครัวเรือน
แต่ถึงแม้จะขึ้น ก็ยังมีวิธีเอาของที่ถูกกว่ามาใช้ได้กับรถอยู่ดี หึหึ
ก็แค่คนธรรมดา ไม่ลองก็ไม่รู้

ออฟไลน์ 6162002

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,089
ไม่ได้เข้ามาซะนาน ได้ความรู้ใหม่ๆ แต่ผมก็ยังสงสัยอยู่ดีครับคือว่า

1. จริงอยู่ที่ว่า แก๊ซธรรมชาติได้ผลิตภัณฑ์หลายอย่าง ที่ขาดทุนคือเฉพาะ NGV LPG ที่ใช้เป็นเชื้อเพลิง แต่ว่า C3 C4 ส่วนอื่น มี Value add หลายเท่า จึงคุ้มค่าที่จะลงทุน เกิดกำไรกับบริษัท  แต่แก๊สจากพม่า ไม่ได้ส่งเข้าโรงแยกแก๊สนะครับ??  เพราะงั้นแก๊สที่ได้ Value add มันมีปริมาณแค่ไม่กี่ร้อยล้านคิวบ์ต่อวันเองครับ ไม่น่าจะถือเป็นกำไรมากมายไม่ใช่เหรอครับ
2.ผมยังงงที่ว่า ปตท.ก็โกหกอะไรน่ะครับ เพราะโดยรวม ปตท. ก็ยังบอกว่ามีกำไรอยู่ดี ถึงจะขาดทุนตรงเชื้อเพลิง แต่ก็ได้กำไรจากทรัพย์สินอื่นๆ แต่ก็น้อยมาก เพียง2%กว่า ทั้งที่น้ำมันประเทศไทยแพงขนาดนี้  ขณะที่ ปิโตรนาส ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานแห่งชาติของมาเลเซีย ขายน้ำมันแค่ 20กว่าบาทได้ ยังมีกำไรร่วม10%
คือ โรงแยกแก๊สเนี่ย สร้างขึ้นเพราะต้องการจะเอากำไรจากพวก C2+ กับกิจการปิโตรเคมีอยู่แล้ว แต่พวกที่เป็นเชื้อเพลิง ก็มีจุดประสงค์ขายกำไรน้อย แต่ทุกวันนี้มันขาดทุน
ถ้าจะให้เอากำไรจากอันอื่นมาหักล้างด้วย จนกำไรแทบไม่เหลือ ผมก็งงว่า ถ้าอย่างนั้น จะสร้างโรงแยกแก๊ซไปทำไมน่ะครับ
3.เรื่องขาดทุน อันนี้เข้าใจว่า ต้นทุนมันไม่ชัดเจน แต่ผมว่า เขาคิดจากราคาส่วนกลางมันก็น่าจะถูกไม่ใช่เหรอครับ สมมติผมซื้อทองมา 10000  ราคาทองตอนนี้ 25000 แต่ผมขายไปแค่ 20000 ก็แปลว่าผมขาดทุนจริงๆไม่ใช่เหรอครับ หรือว่า คำว่ากำไร หมายถึง ราคาขายกับราคา"ต้นทุน" จริงๆเพียงอย่างเดียวครับ?  แต่ถ้าเป็นอย่างหลัง ปตท. (และทุกบริษัทในโลกนี้) ก็คงส่งออกไปในที่ๆขายได้มากกว่าหมดนะครับ

หากผมเข้าใจผิดตรงไหนก็รบกวนชี้แจงอีกรอบทีนะครับ 

ป.ล.เสริมให้ครับว่า จริงๆการกลั่นน้ำมัน  ยังมีกำไรจาก Volume Gain ด้วย  โดยเฉพาะพวกกากน้ำมันหนักๆ พอผ่านการแครก ความหนาแน่นจะลด ได้ปริมาตรมากขึ้น ตรงส่วนนี้ก็เป็นกำไรเพิ่มอีกเล็กน้อยด้วยครับ โดยเฉพาะไอ่น้ำมัน Hydro Crack ที่สมัยก่อน น้ำมันเครื่องชอบเอามาเป็นเอกลักษณ์