ผู้เขียน หัวข้อ: "กระทู้แนวแต่งรถ" เรียนถามคุณเนย คุณTee@abuser คุณแพน หรือขาซิ่งที่ชอบแนวนี้ครับ  (อ่าน 14688 ครั้ง)

ออฟไลน์ YenChar

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,179

สวัสดีครับ
จั่วหัวกระทู้แนวนี้ ขอเข้าคำถามเกี่ยวกับแนวสมรรถนะของรถ
หรือการแต่งรถเลยนะครับ


1. คุณพ่อผมจะเปลี่ยนแคมรี่ 2.4 เป็นอัลติส 1.6ตัวใหม่
แต่คงใช้รถแค่ 1ปีนิดๆ แล้วก็จะยกให้ผมใช้ต่อ
ทีนี้ พอมันมาอยู่ในมือผม ผมสามารถเล่นซนอะไรกับมันได้บ้างมั้ยครับ
พื้นฐานเครื่องตัวนี้ เป็นยังไงบ้างครับในแบบรถบ้านๆด้วยกัน

ใจจริงอยากได้ตัว 1.8 แต่คุณพ่ออ่านรีวิวแล้วบอกว่า 1.6 ก็พอแล้ว
และบวกกับข่าวเรื่อง CVT มันมีเสียงเกียรหอน เลยกลัวๆอยู่น่ะครับ
กลัวจะพังคาเท้าำไปซะก่อน เพราะกะใช้รถประมาณ 8 ปี ครับ

2. จากข้อ1 กรณีนั่งคนเดียว หรือมีผู้โดยสาร1คน น้ำหนักบรรทุกไม่มาก
เจ้าอัลติส 1.6 เทียบกับแคมรี่ปี 2003 ตัว2.4 ด้านสมรรถนะเครื่อง ไหวมั้ยครับ

3. ถ้ารถเล็ก 1.5 แต่งเต็มๆ เทียบกับ อัลติส1.6 แต่งเต็มๆบ้าง(ไม่โบ)
คันไหนวิ่งดีกว่ากันครับ?? (เกียรออโต้ และธรรมดา)
รวมถึงช่วงล่าง การทรงตัว และการเข้าโค้ง

.........................................

4. มีความเห็นอย่างไรกับ Tein Street Basic บ้างครับ
รวมถึง โช๊คอัพพวก Silver หรือพวก สตรัทอย่าง Take
เมื่อเทียบกับระดับสูงๆอย่าง Blistien หรือ Tein

เห็นช่วงนี้ Silver กำลังฮิตมากๆ  บ้านแฟนผมอยู่แถวรามอินทรา
เพื่อนบ้านละแวกนั้นแกสนิทกับผม เล่าว่าแถวนั้นใช้ Silver กันหมดเลย
เพราะราคาไม่แพง ไม่ก็ลงสตรัทปรับเกลียวเอา

อยากทราบว่า โอเคมั้ยครับ??
ถ้าให้ทุกท่านเลือก ท่านเลือกยี่ห้อไหนครับ


5. นอกจากผ้าเบรค คาลิเปอร์ จานเบรคแล้ว
น้ำมันเบรคจุดเดือดสูงๆ จำเป็นมั้ยครับ สำหรับการเบรคอย่างหนักหน่วงและถี่ๆ

แล้วทุกท่าน อัพเกรดอะไรเพิ่มเติม ในส่วนของระบบเบรคมั้ยครับ??


6. ทุกท่านที่ชอบขับรถเร็ว เปลี่ยนผ้าเบรค ยาง
หรือมีอุปกรณ์อะไรที่ต้องเปลี่ยนบ่อยๆบ้างมั้ยครับ??
ถ้าเปลี่ยน ทุกท่านใช้ยี่ห้ออะไร เพราะอะไรครับ

7. สุดท้าย คำว่า "พื้นฐานดี"
พื้นฐานเครื่องยนต์ดี พื้นฐานตัวรถดี เหมาะกับการขับเร็วๆ
หมายความว่าอะไรครับ??

ที่ผมเข้าใจคือ อย่าง E36 จะขุนให้แรง ขุนให้เกาะถนน วิ่งดี ขับสนุก
ทำได้ เพราะพื้นฐานดี
ส่วน รถบ้านๆ พื้นฐานไม่ดี เลยทำให้แรง ให้เกาะถนนยาก  ถูกมั้ยครับ??



ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ 2k

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,755
ขอร่วมแสดงความคิดเห็นเรื่องช่วงล่างฮะ ส่วนตัวคิดว่าสินค้าของ TEIN ขายแพงมากเกินไป basic street แม้จะลงราคามาอยู่ในระดับที่ถูกลงแต่ในราคาระดับ 30000 บาทนั้นความบะเอียดอ่อนในการปรับของมันก็ลดลงด้วย ไม่สามารถปรับความหนืดได้ทำได้เพียงสูงต่ำเท่านั้น ยี่ห้อื่นๆมีให้เลือกมากมายโดยที่ปรับแต่งส่วนต่างๆได้หลากหลายกว่ามากอย่าง silver, BC sport, GAB, HKS และอื่นๆๆๆๆมากมาย ซึ่งส่วนใหญ่ก็สามารถซ๋อมแซมเวลามันรั่ว แตก ซึม แกนหักได้ทั้งนั้นเพียงแต่ไม่มีร้านโช๊คข้างนอกซ๋อใหม่เหมือน TEIN เท่านั้นเอง 

ผมกังขามากๆว่าราคา 5 หมื่นของ TEIN super street นั้นเทียบกับยี่ห้ออื่นๆแล้วมันดีกว่าเค้าไหม? มากน้อยเท่าไหร่? สีเขียวให้ระบบ twin tube ในขณะที่ยี่ห้ออื่นให้ mono tube มาหมดแล้วในขณะที่ราคาถูกกว่าเกือบครึ่ง หรือถ้าเอาราคา 50000 บาทใกล้เคียงกันนั้น Bilstein B12 ให้ระบบ invert mono tube มาแล้ว ซึ่งในเทคโนโลยีนี้ TEIN ต้องมีเงินมากกว่า 50000 บาทไปเยอะเลย อยากให้มีการทดสอบจริงจังฮะว่า twin tube ของเค้าเทียบกับยี่ห้ออื่นแล้วเป็นยังไง? ผมลองสังเกตุดูจากหลายๆที่ TEIN super street ไม่ใช่โช๊คท้ายที่สุดที่คนจะลงหลักปักฐานเป็นตัวสุดท้ายกัน หลายคนว่าอยากจะลองเปลี่ยนไปใช้ยี่ห้ออื่นดูบ้าง(คุณภาพยังไม่ถูกใจ?) หรือบางคนก้ว่าเปลี่ยนจาก TEIN ไปใส่ GAB แล้วมันส์ในอารมณ์กว่ามากทั้งเรื่องความละเอียดอ่อนในการปรับและการเข้าโค้งแรงๆแบบถึงลูกถึงคนนั้นทำได้มั่นใจและนิ่งกว่า TEIN เสียอีก 

จากคำถามข้อ4ก่อนหน้านี้ผมลองศึกษาเกี่ยวกับเรื่องของโช๊คสตรัทมาหลายยี่ห้อเหมือนกัน สุดท้ายผมเลือกที่จะไม่เอา TEIN superstreet ครับ ด้วยเหตุผลที่ว่ามันแพงมากเกินไปเมื่อเทียบกับระบบที่เค้าใส่มาให้ เคยมีสมาชิกในนี้บอกว่าราคาเปิดตัวแรกๆอยู่ที่สามหมื่นนิดๆ แต่ทำไมตอนนี้มันขึ้นไปเป็นห้าหมื่นกว่าๆแล้วทั้งๆที่สินค้าก็ยังเป็นตัวเดิม? แถมยังมีหลายเสียงบอกว่าพอลงสนามหรือเข้าโค้งแบบจริงจังแล้วยังย้วยครับไม่เพียงพอ

ผมเห็นด้วยกับคำพูดของคุณเนยที่เคยบอกไว้ว่าโช๊คสตรัทนั้นแม้มันจะปรับได้หลากหลายระดับแต่มันจะมีเพียงค่าเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้นที่มันเหมาะสมกับเรามากที่สุด เพราะช่วงล่างรถมันมีมากกว่าแค่โช๊คและสปริงเท่านั้น  :)
หมาเฝ้าบ้านแจกฟรีจ้า www.dogfindhome.com


ออฟไลน์ YenChar

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,179
ครับ แอบเห็นด้วยกับคุณ 2K เลยยกประเด็นช่วงล่างเนี้ยแหละครับ

ช่วงนี้ซื้อหนังสือรถบ่อย เจอรถแต่งอะไรๆก็เทอินหมด
เหมือนกับแบรนด์เค้าดีมากๆ พอนึกอะไรไม่ออกก็จับลงเทอิน จบ

ตอนนี้สิงในบอร์ดคลับรถที่สนใจอยู่หลายคลับ
เห็นเค้าพูดถึง Silver กันเยอะ รวมถึง KYB New SR ด้วย

(ผมใช้ SR อยู่)
รู้สึก พอใจแล้วครับ กับรถเล็กๆราคา6แสนนิดๆอย่างวีออส
พอยัดโค้งกับรถรุ่นใหญ่ๆที่ว่าเกาะถนนก็ไปได้เร็วกว่าเค้า
แต่มีบ้าง ที่พอไปเล่นกับรถยุโรปแล้วจะโดนบ้าง ก็เข้าใจในสมรรถนะของรถ
ทีนี้ แอบคิดบ้าง ว่าขนาดเราใส่ค้ำ2ตัว มีแค่โช๊คแต่ง+สปริงโหลด
ยางPS3 ยังไปได้ขนาดนี้
ถ้าใส่ของเทพๆที่เค้านิยมกัน มันจะดีขึ้นซักเท่าไหร่??
แต่ก็ได้แต่คิดแหละครับ เพราะแพงเกินตัว (เลยมาตั้งกระทู้ถามเอาครับ)

ขอบคุณสำหรับคำตอบครับ
ใครชอบแนวนี้ ช่วยกันตอบเยอะๆนะครับ แชร์กันไป

ออฟไลน์ 2k

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,755
ถ้าว่ากันถึงเรื่องของพื้นฐานตัวรถแล้วผมอยากให้คิดว่าการแต่งรถมันก็คือการบวกคะแนนประสิทธิภาพเพิ่มเข้าไป เช่นว่ารถบ้านๆมีอยู่ 30 เอาไปเทียบกับ BMW ที่เค้ามีอยู่เดิมที 65 หากแม้จะเอาไปใส่ชุดแต่งเดียวกันรถบ้านอาจจะได้ออกมาสัก 50 ในขณะที่ BMW เค้าไปถึง 85 แล้วรถที่พื้นฐานดีอยู่แล้วการเอาไปแต่งต่อยอดไม่ต้องเสียเงินราคาแพงมากมายมันก็อยู่ในระดับที่เรียกว่า "เยี่ยม" ได้ง่ายๆ แต่ก็ไม่ใช่ว่าอัลติสจะย่ำแย่อะไร ตัวกำหนดคุณภาพของรถแต่งนั้นอยู่ที่ว่ามีเม็ดเงินและเวลาลงทุนกับมันมากมายเท่าไหนครับ ถ้ามีเงินพอจะเอาไปใส่ชุดแต่ง wide body ใส่โช๊ค invert mono tube มีระบบวาล์วหรูหราภายในแตกต่างจากดช๊คแต่งระดับกลางอย่าง silver, BC sport, TEIN ก็ได้ หรือจะวางเครื่องใหม่ใส่เทอร์โบเอาให้กระทบไหล่กับ 370Z เดิมๆก็ยังได้  

แม้ว่าจำนวนเงินจะเป็นตัวกำหนดคุณภาพรถแต่งก็ตาม มีหลายๆท่านพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าการแต่งรถเราต้องประมาณตนและขีดเส้นของความพอดีให้ตัวเองเสียก่อนว่าไปถึงจุดไหนแล้วถึงจะจบ ขอพูดถึงช่วงล่างอีกครั้งหนึ่ง รถของผมเอาไปใส่โช๊ค silver มาแล้วได้ผลว่าการเกาะถนนและความนิ่งเวลาเข้าโค้งแรงๆเนี่ยมันดีขึ้นชัดเจน แต่ก็ต้องแลกมาด้วยความสบายที่มันหดหายไปเป็นอย่างมาก ตามหลักการที่ว่ารถแต่งได้ประสิทธิภพที่แลกมาด้วยความสบายเด๊ะๆเลย ยกตัวอย่างเช่นหลังใส่โช๊คไปแล้วรถของผมมีอาการกระด้างตกหลุมตึงตังเวลาเจอรอยต่อของทางด่วนอย่างชัดเจนและมีอาการเด้งดึ๋งดั๋งเวลาเจอคอสะพานหรือพื้นทางด่วนที่ไม่เรียบ ในขณะที่ของเดิมๆผมไม่เคยรับรู้อะไรพวกนี้เลย ขนาดผมที่เตรียมใจไว้แล้วว่าใส่แล้วมันจะความสบายหายไปแต่ก็ไม่คิดเลยว่ามันจะหายไปมากขนาดนี้ ไอ้ครั้นจะปรับให้มันไม่กระด้างกระเทือนมากนักมันก็จะเกิดอาการยวบยาบเกินไปไม่แตกต่างจากดช๊คเดิมจากโดรงงานมาก ซึ่งมันจะไม่คุ้มเลยที่จ่ายเงินหลักหมื่นเพื่อแลกมันมา

นี่พูดถึงโชคแต่งระดับกลางๆนะครับ ยิ่งถ้าเป็นประเภทที่แกนโช๊คมีขนาดใหญ่ ใส่ระบบ invert mono tube เข้าไปจะยิ่งจุกมากกว่านี้อีก เราต้องเรียนรู้ความต้องการของตัวเองก่อนว่าเราต้องการให้มันเกาะถนนเข้าโค้งได้ดีขึ้นที่ระดับไหนและของที่ที่สนใจใส่แล้วมันให้ผลยังไงบ้าง เงินหลายหมื่นที่เราจะทุ่มลงไปนั้นเราได้ใช้มันครบถ้วนเต็มเม็ดเต็มหน่วยไหม? คุ้มหรือเปล่าที่จะใส่โช๊คแข็งๆแล้วเพิ่มภาระให้กับชิ้นส่วนช่วงล่างชิ้นอื่นๆให้มันสึกหรอเร็วกว่าโช๊คเดิมๆ เราอาจจะผลักดันใส่โช๊คที่ทำให้ช่วงล่างทัดเทียมหรือเหนือกว่า BMW  ก็ได้แต่ผมบอกได้เลยว่าเอามาใช้ในชีวิตประจำวันไม่ไหว เกวียนยังนุ่มกว่าแน่นอน ส่วนเครื่องยนต์นั้นถ้าจะทำมากกว่าวางเครื่องใหม่ใส่เทอร์โบก็ต้องไม่ลืมด้วยว่าความแรงที่เพิ่มขึ้นย่อมแลกมาด้วยน้ำมันที่มันเสียมากกว่าของเดิมๆ อาจจะหล่นไปเหลือ 4-5 กิโลลิตรในเมืองและไม่เกิน 10 กิโลนอกเมืองหรือน้อยกว่านั้นอีก  คิดว่าถ้าหากมันใช้น้ำมันมากขนาดนั้นแล้วจะยังคงรับได้หรือเปล่า?  นี่อาจรวมถึงการบำรุงรักษาที่อาจจะจ่ายมากกว่าและถี่กว่าเครื่องเดิมๆด้วย

คิดว่าแต่งรถแค่แรงพอประมาณแซงหน้ารถแรงระดับ 200 แรงม้าทั่วไปได้ไล่ตามเค้าในโค้งแบบไม่ห่างมากก็น่าจะแรงเพียงพอบนถนนในประเทศไทยและสามารถใช้งานทุกวันได้แล้ว อีกอย่างด้วยความที่มันเป็นโตโยต้าอัลติสมีของตกแต่งให้เลือกเยอะแยะครับ เลือกได้เยว่าจะว่าเครื่องรุ่นไหนใส่เทอร์โบหรือเอาซูปเปอร์ชาร์จสำเร็จรูปของ HKS มาใส่ ในอนาคตถ้าอยากได้รถที่มันแรงกว่านี้ค่อยเก็บเงินซื้อใหม่เพื่อแรงโดยเฉพาะไปเลย 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 13, 2011, 09:41:22 โดย 2k »
หมาเฝ้าบ้านแจกฟรีจ้า www.dogfindhome.com


ออฟไลน์ GUDJA-MAN

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,649
ผมกังขามากๆว่าราคา 5 หมื่นของ TEIN super street นั้นเทียบกับยี่ห้ออื่นๆแล้วมันดีกว่าเค้าไหม? มากน้อยเท่าไหร่?

มันดีกว่าตรงที่เอาไว้ "คุย" ได้ไงครับ  ;D

ออฟไลน์ udis

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,674
รถผมไปเปลี่ยนยางให้สูงขึ้นนิดเดียวให้ลุยหลุมได้ แต่เข้าโค้งที่ 140 แย่ลงอย่างเห็นได้ชัด ปาดซ้าย ปาดขวาก็แย่กว่า
ผมแนะนำว่าลองเปลี่ยนยางให้แก้มเตี้ยลงหน่อย ก็เข้าโค้งได้สนุกแล้วครับ

เปลี่ยนยางคราวหน้า ผมว่าจะกลับไปหายางขนาดเดิมหรือที่มันเตี้ยกว่าเดิมดู ไม่รู้คิดถูกไหม เจอทางแย่ก็วิ่งขวาเอา ไม่ลุยล่ะ
แต่อดแซงซ้ายเลยครับ ต้องวิ่งต่อตูดตามๆเค้าไป แย่ตรงนี้ แต่เข้าโค้งสนุก ต้้องแลกกันครับ
 ;D ;D ;D

ออฟไลน์ Jae_156JR

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 242
ขอตอบ 4 5 6 นะครับผม

ข้อ 4  TEIN ผมไม่ใส่อ่ะครับ เพราะว่ามันแข็งเกินไป ไม่ใช่แนวผม เทียบราคานี้ ผมเก็บเงินอีกนิด ผมเล่น KW ดีกว่าครับ

...ตอนนี้ผมใส่ KW V3 อยู่ นุ่ม หนึบ กระด้างน้อยมาก ปรับ Bump Rebound ได้ (ตอนปรับผมใช้ค่า default โรงงาน) มี Sub Tank แยก

พูดตรงๆนะครับ TEIN เนี่ย มันคุ้นหูพวก วัยรุ่น มากกว่า ทำโฆษณาเยอะ เลยดูติดหู พอติดหู ก็เลยต้องดี (เหมือน Films 3M กับ Lamina)

Silver นี่พอรู้ราคามาบ้าง ถูกน่าดูเลยครับ แต่ผมไม่เคยใส่นะ เลยไม่กล้าพูดว่าดีหรือเปล่า พวก Coil Over ของ ไต้หวันนี่ น่าเล่นตรงที่ราคานี่แหละ ถูกจนน่าใส่

ข้อ 5 ที่ผมชอบทำกับเบรคในกรณี ที่ยังไม่อยากใส่ เบรคโต คือ เปลี่ยนจานซิ่ง+ผ้าซิ่ง+สายถัก+น้ำมันเบรค ATE SL6 ครับ
เท่านี้ม้าเดิมๆเอาอยู่หมด โดยที่ไม่ต้องไปใส่เบรคโตเกินตัวรถ เดี๋ยวไม่แน่อนาคต ถ้า มีกล่อง F con 3.3 ซักใบ อาจต้องทำเบรคเพิ่ม

ข้อ 6 ชอบขับเร็ว ลองดูผ้าเบรค EBC นะครับ ผมใส่มา 2 ชุดแล้ว ดีทีเดียว แต่ราคาค่อนข้างสูงหน่อย

ออฟไลน์ Pan Paitoonpong

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,457
  • Long live M/T
1. คุณพ่อผมจะเปลี่ยนแคมรี่ 2.4 เป็นอัลติส 1.6ตัวใหม่
แต่คงใช้รถแค่ 1ปีนิดๆ แล้วก็จะยกให้ผมใช้ต่อ
ทีนี้ พอมันมาอยู่ในมือผม ผมสามารถเล่นซนอะไรกับมันได้บ้างมั้ยครับ
พื้นฐานเครื่องตัวนี้ เป็นยังไงบ้างครับในแบบรถบ้านๆด้วยกัน

ในสภาพเดิมไม่ได้ทำอะไร ถือว่าเป็นเครื่องที่น่ารัก แรงบิดมาดีเป็นช่วงกว้าง
และการตอบสนองน่าพึงพอใจเมื่อเทียบขนาด น้ำหนัก ล้อยาง กับตัวเครื่องครับ
ถ้าเล่นซนต่อ ก็พื้นฐานครับ กรอง กล่อง ท่อ เฮด ส่วนเปิดสูตร NA จัดหนัก
ผมไม่ค่อยเห็นด้วยครับ



2. จากข้อ1 กรณีนั่งคนเดียว หรือมีผู้โดยสาร1คน น้ำหนักบรรทุกไม่มาก
เจ้าอัลติส 1.6 เทียบกับแคมรี่ปี 2003 ตัว2.4 ด้านสมรรถนะเครื่อง ไหวมั้ยครับ

ไม่เคยลองจะจะ
แต่เอางี้
ผมเคยเอา Camry ตัวนี้อ่ะ บรรทุกน้ำหนัก 240 โล วัดกับ Altis ปี 2003 บรรทุก 150 โล
วัดกันสามเกียร์แรก Altis 1.6 ขึ้นประมาณ 2 ช่วงคันที่ปลายเกียร์ 2 และ 3.5 ช่วงคันที่ปลายเกียร์ 3

แล้ว Altis 1.6 ตัวปัจจุบันมันเร็วกว่าตัวเก่า..พอนึกภาพออกบ่?



3. ถ้ารถเล็ก 1.5 แต่งเต็มๆ เทียบกับ อัลติส1.6 แต่งเต็มๆบ้าง(ไม่โบ)
คันไหนวิ่งดีกว่ากันครับ?? (เกียรออโต้ และธรรมดา)
รวมถึงช่วงล่าง การทรงตัว และการเข้าโค้ง

ถ้าว่ากันเต็มๆ ผมถือหางรถที่เล็กกว่าและเบากว่าเสมอ (สำหรับการแข่งขันในสนามเท่านั้น)
.........................................

4. มีความเห็นอย่างไรกับ Tein Street Basic บ้างครับ
รวมถึง โช๊คอัพพวก Silver หรือพวก สตรัทอย่าง Take
เมื่อเทียบกับระดับสูงๆอย่าง Blistien หรือ Tein

เห็นช่วงนี้ Silver กำลังฮิตมากๆ  บ้านแฟนผมอยู่แถวรามอินทรา
เพื่อนบ้านละแวกนั้นแกสนิทกับผม เล่าว่าแถวนั้นใช้ Silver กันหมดเลย
เพราะราคาไม่แพง ไม่ก็ลงสตรัทปรับเกลียวเอา

อยากทราบว่า โอเคมั้ยครับ??
ถ้าให้ทุกท่านเลือก ท่านเลือกยี่ห้อไหนครับ

ผมเลือก Tein ไม่ใช่เพราะเลือกตามๆกัน แต่คิดว่ามันเป็นตัวที่ "จบ" ที่สุด
ราคาแพงแน่ล่ะ และบางรุ่นก็แพงจนเวอร์ ไม่รู้กำไรชุดละเท่าไหร่ แต่บางครั้ง
ซื้อของมาแมทช์เองก็เสี่ยง ถ้าเข้ากันดีก็จบ ถ้าเข้ากันไม่ดี ท้ายสุด ก็ต้องเสียเงินเพิ่ม
แต่ต้องดูรุ่นด้วยนะครับว่ารุ่นไหน ถ้า SS ผมมักจะโอเค Basic..บางตัวนุ่มไปนิด
แค่ทำให้ขับตรงๆได้มั่น แต่โยนแล้วไม่ได้มั่นนัก..Type Flex, MonoFlex เน้นแข็ง

Silver นั้นตัวโช้คไม่มีอะไรโดดเด่น แต่สปริงนั้นไม่เลว กลายเป็นว่าเอาสปริง Silver
มาใส่กับโช้คอื่นกลับเวิร์คดีมาก และราคาก็ไม่แพงด้วย แต่ข้อเสียคือมีน้อยรุ่นให้เลือก

Take ยังไม่เคยแตะเลยครับ


5. นอกจากผ้าเบรค คาลิเปอร์ จานเบรคแล้ว
น้ำมันเบรคจุดเดือดสูงๆ จำเป็นมั้ยครับ สำหรับการเบรคอย่างหนักหน่วงและถี่ๆ

แล้วทุกท่าน อัพเกรดอะไรเพิ่มเติม ในส่วนของระบบเบรคมั้ยครับ??

น้ำมันเบรก Dot 3 นี่ก็ไม่กระจอกแล้ว ถ้าคุณไม่ได้ขับในสนามแล้วใช้ Dot3 จนเดือดปุดๆ
ผมว่าขับเหมือนคนบ้าแล้วล่ะ ผมเคยทำได้ครั้งนึง Dot4 ก็เหลือเฟือแล้ว
ส่วนอื่นๆที่อยากให้ทำ คือสำรวจสายเบรกต่างๆ โดยเฉพาะกับรถที่เก่าหน่อย
ทำสายเบรกถักดีๆเข้าหัวแน่นๆสวยๆได้ก็จะดี


6. ทุกท่านที่ชอบขับรถเร็ว เปลี่ยนผ้าเบรค ยาง
หรือมีอุปกรณ์อะไรที่ต้องเปลี่ยนบ่อยๆบ้างมั้ยครับ??
ถ้าเปลี่ยน ทุกท่านใช้ยี่ห้ออะไร เพราะอะไรครับ


นิสัยที่ไม่ควรเอาเยี่ยงอย่างของ Commander CHENG คือชอบทำรถให้มีพลังสูงและเบรกกับช่วงล่างห่วย
ขุน NX เพิ่มจากเดิม 1.6 ลิตร 110 ม้า เป็น 125 เปลี่ยนเครื่องเป็น 150, ไล่ไป 170 และ 205 แต่ตลอดเวลานี้
ช่วงล่างเป็นชุดเดิมเกือบตลอด เบรกก็ไม่ได้ดีมาก ตาอาร์ท Signifer เคยลองรถผมยังบอกเลยว่าบุคลิกของมัน
ออกมาน่ากลัวมาก ทั้งๆที่พละกำลังของรถไม่ได้เยอะอะไรเลย

สิ่งเดียวที่ดีคือยาง Toyo T1R เท่านั้น ที่ทำแบบนี้เพราะต้องการให้ชินการพยศและการควบคุมแย่ๆ
พอไปเจอรถที่ช่วงล่างดีๆ การควบคุมแม่นๆ..อย่าง Mazda สีดำของใครบางคนแถวนี้.. เลยรู้สึกว่า
มั่นใจ และซัดได้เสมอ

ดังนั้นหลังจากที่ใช้สปริงแปลงโนเนมกับ Kayaba SR รั่วๆคู่หน้าบวกโช้คเดิมอัดน้ำมันในคู่หลังมานาน
ตอนนี้จะเปลี่ยนเป็น Ohlins ยกชุดเพื่อความปลอดภัย เพราะอยากมีชีวิตอยู่มีแฟนมีลูกกะเค้า

ส่วน Subaru ผมใช้สตรัท STi สีแดง 4 ต้น ซึ่งเวิร์คโอเคสำหรับตัวรถ แต่มีอาการเทบ้างเนื่องจาก
เป็นการนำเอาสตรัทของ Impreza GC8 ที่หนัก 1.2 ตันมาใช้กับ Legacy หนัก 1.35 ตัน

ส่วน Tiida ผมปล่อยเดิมๆ ไม่ยุ่งอะไร ที่จริงของเดิมติดรถบวกยางหนึบๆก็ทำอะไรหมาๆได้เยอะกว่าที่คาดแล้ว



7. สุดท้าย คำว่า "พื้นฐานดี"
พื้นฐานเครื่องยนต์ดี พื้นฐานตัวรถดี เหมาะกับการขับเร็วๆ
หมายความว่าอะไรครับ??


พื้นฐานดี..ให้มองไปที่ส่วนที่คุณต้องการพิจารณาแล้วถามคำถาม
1) ต้องเปลี่ยนเยอะไหม
2) ต้องใช้งบในการปรับปรุงเยอะไหม
ถ้าคำตอบข้อ 1 และ 2 คือ "ไม่" และเมื่อทำออกมาเสร็จก็ใช้การได้ดี
นั่นคือพื้นฐานที่ให้มาดี

ทั้งนี้ให้ดูด้วยว่าพื้นฐานดีนั้นเหมาะไปใช้ในเรื่องอะไร พื้นฐานย่อมเป็นฐานของพิรามิด
ที่ชี้เป้าไปยังจุดหมายปลายทางที่เราต้องการ

ถ้าเราบอกว่าปลายทางคือการทำเครื่องเทอร์โบ 400 ม้า คุณเอาเครื่อง 1JZ-GTE
มาเทียบกับ SR20DET ขับหลัง..ก็ต้องบอกว่าพื้นฐานมาของ 1JZ-GTE ดีกว่า
ถ้าโจทย์คือการทำรถเทอร์โบ 400 ม้า และแค่นั้น..


- Nissan Tiida บ้านๆ/NX Coupe/AE111/190E1.8

ออฟไลน์ redsun

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,101
ผมว่าซื้ออีกคันเกียร์ธรรมดาไว้แต่งซิ่งน่าจะดีนะครับ
รถคันนี้ขับชิวๆได้ ไม่ช้ำด้วยครับแต่อาจต้องดูแล 2 คัน

ออฟไลน์ LimitedEdition

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,410
ขอตอบเฉพาะเท่าที่รู้นะครับ

3. รถเล็ก 1.5 ทำเต็ม กับ 1.6 ทำเต็ม (สเตปเท่ากัน) ใครแรงกว่า?

เรื่องนี้ตอบลำบาก ต้องดูที่อัตราส่วนแรงม้าต่อน้ำหนัก ว่าสุดท้ายใครแบกน้ำหนักมากกว่ากันครับ
แต่ถ้าจะเอาเรื่องทำออกมาแล้วปรู๊ดปร๊าดสั่งได้ อันนี้รถเล็กตัวเบาถือธงนำอยู่แล้ว
ช่วงล่างก็ต้องดูทรงรถประกอบด้วย รถสูงอย่างแจ๊ซก็จะเหนื่อยกว่าในการทำให้ล้อ 4 ข้างอยู่บนถนน
มากกว่ารถที่เตี้ยกว่าครับ

4. Tein Basic, Silver, และสตรัทปรับเกลียว

รักจะมาทางสตรัทแล้วต้องบอกว่า ต้องทำใจกับความแข็งกระด้างไว้ก่อนเลย
จะหวังให้ออกมาแนวนุ่มหนึบ ประหนึ่งรถยุโรปก็คงจะผิดทางครับ
Silver เริ่มได้ยินคนบอกว่าไม่ค่อยสมประสิทธิภาพที่คุยเอาไว้ให้ได้ยินประปราย
TEIN น่าจะนุ่มหนึบที่สุดในบรรดาพรรคพวกสตรัทด้วยกัน แต่ก็ราคาหนักหนาบานปลายไปด้วย

ดังนั้น ต้องตัดสินใจให้ดีตั้งแต่แรกครับ อยากแข็งกระด้าง แต่เข้าโค้งแล้ว Flat ไม่ใช่โยกโยน
วิ่งเข้าสลาลอมไม่มีเสียอาการ ก็ไปทางสตรัทปรับเกลียว ช่วงชักสั้น ที่มีความแข็งมากหน่อย

แต่ถ้าชอบขับเร็วมากมาก วิ่งแช่ความเร็วสูงยาวยาว เข้าโค้งแล้วยิงออกอย่างมั่นใจ
หักหลบสิ่งกีดขวางได้ แต่ไม่ถึงกับโยนเป็นสลาลอมเล่นบนท้องถนน ขับแล้วไม่เหนื่อย
แบบนี้หันไปทาง Bilstein จะตรงจุดตรงประเด็นกว่า เพราะช็อคอัพที่แข็งมากมาก
ก็จะไม่สามารถขับเร็วได้ แถมขับทางยาวยาวก็เหนื่อยกว่าด้วยครับ

ตัวผม เลือก K-Sport ไปแล้ว สาเหตุก็เพราะราคากับอุปกรณ์ที่ได้ มันดูสมเหตุสมผลกัน
แต่ต้องบอกว่ากระด้างมากอยู่นะครับ ตัวช็อคอัพกับสปริงเซ็ทมาค่อนข้างดีและไม่แข็งมากก็จริง
แต่พอมาเจอกับระยะการทำงานที่สั้นมาก (Short Stroke) มันเลยทำให้ขับลำบากหน่อย
แล้วก็ค่อนข้างจะกระเทือนมาก เมื่อเจอกับผิวทางต่างระดับ หรือเป็นหลุมเป็นบ่อ

5. เรื่องเบรก

ต้องถามตัวเองให้ดีว่าจะขับอัดหนักขนาดไหน จริงจริงแล้วมันก็สำคัญทุกส่วนครับ
จานดี ผ้าดี ทนความร้อนสูงสูงได้ แต่พอความร้อนถูกส่งผ่านมายังน้ำมันเบรก
ซึ่งเป็นตัวกำเนิดแรงเบรกให้กับคาลิปเปอร์โดยตรง ตัวน้ำมันเบรกเองกลับทนร้อนไม่ได้
เดือดและทำให้ไม่สามารถสร้างแรงดันได้ ก็จะเบรกไม่ได้เช่นกัน

รถผมที่วิ่งถนนด้วย สนามด้วย ก็ใช้ DOT4 ตลอดครับ
เรื่องอัพเกรดก็มีแค่นำจานเบรกและคาลิปเปอร์ของ Lantis V6 ซึ่งเป็นเบรกมาสด้าที่ดีกว่ารุ่นอื่น
(รวมทั้ง Mazda 3 ด้วย) มาใส่ พร้อมผ้าเบรก NA-P ก็หยุดม้าทั้ง 175 ตัวได้นิ่งสนิทเหลือเฟือแล้วครับ
ก็ถ้า DOT3 สามารถหยุดม้าพยศกว่า 200 ตัววใน นิสสัน สีน้ำเงินสด ของเจ้าของตัวกลม ได้แล้ว
ก็ถือว่าเป็นการพิสูจน์ถึงประสิทธิภาพของมันได้เป็นอย่างดีล่ะครับ

6. อุปกรณ์ที่ต้องเปลี่ยนบ่อย

ถ้าเป็นคนขับรถเร็ว และรุนแรง รวมถึงชอบเล่นกับโค้งแบบที่ผมขับด้วยแล้ว
คงหนีไม่พ้น ยางที่ 20,000 กม.ก็หมดสภาพ, แท่นเครื่องและเกียร์ที่ขาดบ่อยเกือบทุกไตรมาส,
ผ้าเบรก NA-P ที่ไปก่อนยางเล็กน้อย, บูชปีกนกและบูชกันโคลงรวมทั้งลูกหมากกันโคลง
ที่หมุนเวียนเปลี่ยนหน้ากันไม่ขาดสาย นอกนั้นก็ไม่มีอะไรนะครับ
จริงจริงถ้าขับเร็ว แต่คุมอารมณ์ให้ไม่รุนแรงได้ ไอ้ของพวกนี้ก็จะยืดอายุไปได้อีกเยอะเลย

ออฟไลน์ SignifeR

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,953
  • Impreza Type GDG WRX
    • ร้านหนังสือผ้าสำหรับเด็ก IGGY BOOK
    • อีเมล์
ช่วงนี้แพนตอบแปลกๆไปนะ สังเกตุดีๆ ตัวอักษรนี่แมร่.. ชมพูมาเลย
แถมพูดแต่เรื่อง ความปลอดภัย ครอบครัว ลูก เมีย....

สรุปว่า มันเป็นเอามาก
In Garage Subaru Impreza GDG WRX  y2008 // Nissan March 1.2E y2011

ออฟไลน์ Tee@Abuser

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 326
  • T&T Garage
1. คุณพ่อผมจะเปลี่ยนแคมรี่ 2.4 เป็นอัลติส 1.6ตัวใหม่
แต่คงใช้รถแค่ 1ปีนิดๆ แล้วก็จะยกให้ผมใช้ต่อ
ทีนี้ พอมันมาอยู่ในมือผม ผมสามารถเล่นซนอะไรกับมันได้บ้างมั้ยครับ
พื้นฐานเครื่องตัวนี้ เป็นยังไงบ้างครับในแบบรถบ้านๆด้วยกัน

ถามว่า altis 1600 เล่นอะไรได้บ้าง ก็คงมีพวก Light Tune ธรรมดา พวก ท่อ กรอง กล่อง ประมาณเท่านั้น หรือจะโหด เล่นเครื่องเดิมเซ๊ตโบ ก็ได้ แต่เงินที่ลงทุนกับเครื่องตัวนี้ไม่รู้จะคุ้มค่ากันหรือเปล่า เพราะเหมือนว่า พื้นฐานเครื่องมันทำมาให้ทนๆถึกๆ ไม่ได้ต้องการแรงมาก เน้นขับสบายมากกว่าปรุ้ดปร๊าด เรียกง่ายๆว่า อย่าไปหวังอะไรกับมันมากครับ หรือ ถ้าใจถึงหน่อยก็จัดหนักเล่นข้ามรุ่นเช่น ถ้า N/A ไป 2ZZ-GE หรือจะมีหอยก็เล่นพวก 3S-GTE ไปเลยก็ได้ แต่รถใหม่เสียดายยอะ


2. จากข้อ1 กรณีนั่งคนเดียว หรือมีผู้โดยสาร1คน น้ำหนักบรรทุกไม่มาก
เจ้าอัลติส 1.6 เทียบกับแคมรี่ปี 2003 ตัว2.4 ด้านสมรรถนะเครื่อง ไหวมั้ยครับ


ผมคิดว่า C.C. เยอะกว่าย่อมมี ภาษี ดีกว่า แต่ว่า ถ้า 2.4 เก่าๆโทรมๆมันก็ไม่แน่นะ



3. ถ้ารถเล็ก 1.5 แต่งเต็มๆ เทียบกับ อัลติส1.6 แต่งเต็มๆบ้าง(ไม่โบ)
คันไหนวิ่งดีกว่ากันครับ?? (เกียรออโต้ และธรรมดา)
รวมถึงช่วงล่าง การทรงตัว และการเข้าโค้ง

ต้องลองดูว่าไอ้เต็มๆรถเล็ก 1.5 อะรถอะไร ถ้า สมมุติว่าเป็น Honda Jazz GE ทำ N/A เต็มๆ Altis 1.6 ทำเหมือนกันไม่มีทางขึ้นได้แน่นอน เนื่องจาก องค์ประกอบหลายๆอย่างเช่น พื้นฐานเครื่อง น้ำหนักรถ อัตราทดเกียรฺ์ อื่นๆเพียบบบบบบ ช่วงเรื่องช่วงล่าง ถ้าทำเต็มๆระบบ Altis อาจจะได้เปรียบเพราะ รถเล็ก 1.5 ส่วนใหญ่พื้นฐานช่วงล่างหลังจะเป็นคานแข็งด้วยย อาจจะแพ้ ก็ ตรงนี้แระ

4. มีความเห็นอย่างไรกับ Tein Street Basic บ้างครับ
รวมถึง โช๊คอัพพวก Silver หรือพวก สตรัทอย่าง Take
เมื่อเทียบกับระดับสูงๆอย่าง Blistien หรือ Tein

เห็นช่วงนี้ Silver กำลังฮิตมากๆ  บ้านแฟนผมอยู่แถวรามอินทรา
เพื่อนบ้านละแวกนั้นแกสนิทกับผม เล่าว่าแถวนั้นใช้ Silver กันหมดเลย
เพราะราคาไม่แพง ไม่ก็ลงสตรัทปรับเกลียวเอา

อยากทราบว่า โอเคมั้ยครับ??
ถ้าให้ทุกท่านเลือก ท่านเลือกยี่ห้อไหนครับ

TEIN ของตายแน่นอน ราคารุนแรง ประสิทธิดีมาก ครับ พวก TAEK ไม่เคยใช้เลยยย ส่วน Silver'S นั้น คุณภาพ ตามราคา ครับ ค่อนข้างถูกน่าจะถูกเกือบที่สุดในตลาดแล้วตอนนี้ ถ้าใครไม่คิดมากก็ OK ครับ แต่ผมใช้ K Sport อยู่ ชื้ออาจจะไม่คุ้นหูเท่าไร แต่รถ แดร๊ก ดริฟ บ้านเรา และ รถเซอร์กิต โซนอเมริกา ใช้ค่อนข้างเยอะ ราคาไม่แรงมาก ( อาจจะสุงกว่าเจ้าอื่น ) แต่คุณภาพเนื้อราคาเร้ยยย ค่อนข้างคุ้มค่า ครับ

5. นอกจากผ้าเบรค คาลิเปอร์ จานเบรคแล้ว
น้ำมันเบรคจุดเดือดสูงๆ จำเป็นมั้ยครับ สำหรับการเบรคอย่างหนักหน่วงและถี่ๆ

แล้วทุกท่าน อัพเกรดอะไรเพิ่มเติม ในส่วนของระบบเบรคมั้ยครับ??

ถ้าเบรคโหดๆก็ แนะนำ พวก DOT4 ครับแต่ตัวผมเอง รถคันเก่าผม ใช้ DOT4 เล่นโหดมากๆ น้ำมันเบรคเดือดแป้นเบรคจมเลย เล่นเอาเหวอ เล่นไม่ได้ T^T สุดท้ายมาจบที่ DOT 5.1 แต่ว่ามันกัดซีลเร็วมาก แต่หมดปัญหา เรื่องเดือดไปเลย ปัจจุับันใช้ Jazz เก่าอยู่ใส่ Dot 4 อยู่ ถ้าไม่ได้เอาเป็นเอาตายเต็มที่กับชีวิตมากนั้นก็ไม่มีปัญหา แต่ยามออกรบ เจ้า Dot4 ก็เริ้่มมีอาการ เดือดๆ ( แป้นเบรคเริ้มจมๆ ) มาให้เห็น ส่วนรถผมตอนนี้ อัพเกรด เบรคหน้าแปลงของ Toyota MR2 คาลิปเปอร์เป็น 2 Pot ใส่ และเปลี่ยนผ้าเบรคเป็น NAP ชมพู 4 ล้อ เลย เบรคสั่งได้ดังใจ มากๆ

6. ทุกท่านที่ชอบขับรถเร็ว เปลี่ยนผ้าเบรค ยาง
หรือมีอุปกรณ์อะไรที่ต้องเปลี่ยนบ่อยๆบ้างมั้ยครับ??
ถ้าเปลี่ยน ทุกท่านใช้ยี่ห้ออะไร เพราะอะไรครับ

รถผม honda Jazz GD ที่เปลี่ยนบ่อยๆ เลย พวก ยาง เพราะผมใช้พวก ยางค่า เทรนแวร์ต่ำ มันค่อนข้างนิ่ม ขับไป 2หมื่นกิโล ยางเริ้มออกอาการไม่ดี และก็ ตะแบงใช้ยัน 4 หมื่น กิโล หัวโลนกันเลย ( อันตรายนะ แต่ไม่มีตังค์เปลี่ยน 55+ ) ส่วนเรื่อง ผ้าเบรคนั้น ตอนที่รถผมใช้้เบรค คาลิปเปอร์เดิมๆอยุ่ ผ้าเบรคหน้า NAP ชมพู ผมขับประมาณ 9000 กิโล ผ้าเบรคหมด ไหวมากก เปลี่ยน ผ้าเบรคพร้อมน้ำมันเครื่องเลย ส่วนอื่นๆที่เสียไว ก็พวง ยางหุ้มเพลา ( เล่นจิมคาน่า ด้วย ) เลี๊ยวสุดแรงๆบ่อยๆขาดง่าย ยางแท่นเครื่อง กระแทกแรงๆขาดกระจุยไว บูชปีกนก เปลี่ยนทุก 2 หมื่นกิโล และอืื่นๆเยอะครับ ยิ่งเราใช้รถโหดร้ายมากเท่าไร อุปกรณ์ก็ยิ่งเสื่อมสภาพไวเป็นเงาตามตัวไปด้วยจริงๆ 


7. สุดท้าย คำว่า "พื้นฐานดี"
พื้นฐานเครื่องยนต์ดี พื้นฐานตัวรถดี เหมาะกับการขับเร็วๆ
หมายความว่าอะไรครับ??

สรุปง่ายๆ ตามความเข้าใจผม เช่น Honda New jazz GE รุ่นใหม่ เครื่องยนต์พื้นฐานมาดี แล้ว ทำอะไรก็ง่าย แตะนิดหน่อยๆเป็นแรงๆ เช่นเครื่อง L15A7 ใน Jazz ใหม่เครื่องเดิมๆ ก็วิ่งแล้ว เปลี่ยนกรองแผ่น เปลี่ยนหัวเทียน เปลี่ยนท่อ + กล่องแต่งใบนึง รถอื่นๆ ทำแบบนี้แรงม้า ลงล้ออาจะเพิ่ม 3-5 หรื่อ 5-8 ตัวไม่ค่อยจะเกินนี้ แต่เครื่อง L15A มันพื้นฐานดีมาก ทำนิหน่อย แรงม้าเพิ้่มได้เกิน 15-18 ตัว ใน สเตปเท่าๆกัน  ประมาณนี้ ครับ
T&T Garage & Spp Garage
Sahakorn 17 racing factory

ออฟไลน์ YenChar

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,179
ขอบคุณทุกท่านมากๆครับ

ออฟไลน์ 2k

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,755
อยากให้มีการขยายความคำว่าดีของแต่ละยี่ห้อให้มากกว่านี้น่ะครับคำตอบยังเป็นนามธรรมอยู่ มันนึกไม่ออกจริงๆว่ามันดีขนาดไหนอยากให้บรรยายอีกหน่อยอ่ะครับ เช่นว่าเข้าโค้งพระราม3-ท่าเรือที่160ยังไม่มีหลุด เปลี่ยนเลยแรงๆสามเลนที่ความเร็ว 190 ก็ยังไม่แสดงอาการย้วย หรือผ่านการใช้งานแบบโหดดิบสุดโต่งในสภาวะไหนแล้วยังเอาอยู่บ้างแบบนี้เป็นต้นน่ะ  :)

ในฐานะที่ผมใช้ซิลเวออยู่โอกาสที่จะใช้งานสุดโต่งแบบนั้นหายากมาก แต่ก็ควรจะรู้ว่าขอบเขตของสิ่งที่ตัวเองมีอยู่จุดไหนที่มันเริ่มเข้าใกล้ขีดจำกัดที่จะเอาไม่อยู่แล้ว จะได้ไม่พลาดพลั้งไปบนถนนให้คนอื่นเค้าเดือดร้อน แล้วก็จะได้ให้คำตอบที่ถูกต้องเวลามีคนมาถามว่าใช้ยี่ห้อนี้แล้วมันทำได้ระดับไหน ที่สำคัญไม่อยากไปเล่าให้คนอื่นเค้าฟังแบผิดๆน่ะครับ บอกเค้าไปว่าไอ้นี่ไอ้นั่นมันดีเกินความเป็นจริงมันน่าละอายแก่ใจและทำให้คนอื่นเค้าเสียโอกาสด้วยแทนที่จะได้ของที่ถูกใจ ถ้าเค้าให้ความไว้ใจมาถามเราก็อยากให้คำตอบที่มันอิงความเป็นจริงมากที่สุด อยากให้เม็ดเงินทุกบาทที่จะต้องจ่ายซื้อของที่ใกล้เคียงความต้องการมากที่สุด  :)


งั้นผมลองจัดอันดับดูจากที่คาดประมาณเอาเองเรียงลำดับจากล่างไปหาบนแล้วกัน (ทำไมไม่ทำแต่แรกวะเรา)

กลุ่มสินค้าของ Bilstein เป็นOEMให้กับรถยุโรปดังๆหลายยี่ห้อหลายรุ่น ที่ขายในบ้านเรามี B6 B8 B14 ตัวB6และB8จะแตกต่างกันที่ความสูงและความหนืด B6 จะเหมาะกับคนที่อยากได้โช๊คใหม่ที่เกาะกว่าของเดิมจากโรงงานแต่ไม่ต้องการโหลดเตี้ยหรือกระด้างอะไรมากมายนัก ใส่แล้วรถจะเตี้ยลงกว่าเดิมประมาณ 3 เซนติเมตร ผู้ใช้งานต่างพูดกันว่าคุณภาพเป็นที่น่าพอใจกว่าของติดรดเดิมๆแน่นอนโดยที่ยังไม่ทิ้งความสะดวกนุ่มสบายในการใช้งานในชีวิตประจำวันไปมากนัก B8 จะมีแกนโช๊คที่สั้นลงกว่าB6และหนืดกว่า สำหรับคนที่อยากให้รถเกาะถนนมากขึ้นอีกโดยรถจะเตี้ยลงกว่าเดิมประมาณ 3 นิ้วซึ่งถ้าคนชอบความนุ่มสบายจะเริ่มบ่นกับความแข็งของมันแล้ว B6 และ B8 ไม่สามารถปรับความสูงความหนืดอะไรได้เลยทุกอย่างกำหนดมาให้แล้วตายตัว แต่ก็ยังไม่เจอใครบ่นว่าใส่แล้วคุณภาพไม่ถูกใจสักคน ราคาอยู่ที่ระดับเดียวกับซิลเวอที่สามหมื่นบาท แล้วก็ต้องหาสปริงมาจับคู่ที่เหมาะสมที่สุดกับตัวโช๊คเอง คู่ที่ว่ากันว่าลงตัวที่สุดคือสปริง H&R หรือ ไอบัค

B14จะระดับสูงขึ้นมามากกว่าสองรุ่นข้างต้นเพราะสามารถปรับความหนืดและความสูงได้ ส่วนมุมโทอะไรนั้นไม่แน่ใจว่าปรับได้ไหม ไม่รู้อะไรกับมันครับรู้ว่ามันรับมือมาสด้า3MPSสีเหลืองอันแสนจะร้อนแรงของคลับได้อย่างไร้ข้อกังขาใดๆทั้งสิ้น ค่าตัวจะดดไปที่ประมาณ 50000 บาทแต่ก็ได้มาซึ่งระบบโมโนทูปแบบกลับหัวซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ออกแบบมาเพื่อหนีแรงดึงดูดของโลกทำให้เข้าโค้งได้ดีกว่าโมโนทูปทั่วๆไป  สามารถพบระบบ inverted mono tube นี้ได้ในรถสปอร์ตที่เน้นการชับขี่ที่จริงจังทางโค้งอย่าง Lotus, BMW Z4, และ MAZDA MX5 รุ่นพิเศษที่ครบรอบของเค้า เรื่องลงสนามแข่งเจ้านี่คงจะไม่มีปัญหาเรื่องย้วยแล้ว คุณภาพถ้าไปเทียบกับ TEIN Flex หรือ OHLIN อะไรพวกนี้ไม่รู้แล้วครับเพราะว่า ราคาสูงเกินไปและไม่ได้ใช้งานถึงระดับนั้นแน่ๆ แม้ว่าลูกค้าส่วนใหญ่จะพอใจกับคุณภาพของสินค้ายี่ห้อนี้แต่ข้อเสียที่เด่นชัดและใหญ่หลวงที่สุดของมันก็คือไม่มีการซ๋อมแซมในบ้านเราครับ!!!! พังแล้วพังเลยโยนทิ้งเท่านั้น น่าเสียดายๆๆๆๆๆ มีการรับประกันเปลี่ยนใหม่แต่ก็มีหลายคนบ่นมาว่าแม้ว่าจะอยู่ในช่วงรับประกันแต่ผู้ค้ากลับเล่นแง่เล่นคำงอแงไม่ให้เคลม เสียความรู้สึกกันเป็นแถว

ซิลเวอร์จะอยู่ระดับคุณภาพล่างสุดของกลุ่มสตรัทสำหรับคนที่อยากใช้โช๊คสตรัทแต่มีงบประมาณจำกัดและไม่ได้ใช้รองรับการขับขี่ที่รุนแรงบนความเร็วสูงและโค้งองศาแคบ มีศูนย์บริการซ๋อมได้ในบ้านเราแน่นอน ปรับได้ทั้งความสูงต่ำและความหนืด24ระดับแต่ปรับมุมแคมเบอร์ไม่ได้ กำลังมาแรงด้วยความที่ค่าตัวถูกที่สุดในตลาดราคาเอื้อมถึงได้ง่าย แต่สามารถปรับความต้องการขั้นพื้นฐานได้และให้ระบบโมโนทูปมาพร้อม แต่ลงสนามแล้วไม่ค่อยได้ดั่งใจเท่าไหร่เพราะสาดโค้งแรงๆแล้วจะออกอาการย้วย เรื่องเคลมนั้นง่ายมากและง่ายๆจริงๆจนน่ากลัวว่าอาจจะโดนลูกค้าสัยดอนเสียเอาเปรียบได้

K Sport จะมีราคาที่สูงกว่าเพิ่มขึ้นมาอีก 15000 - 18000 บาท คุณภาพจะเหนือขึ้นมาจากซิลเวอร์อีกขั้น(แต่ผมไม่รู้ว่ามากเท่าไหร่?) ปรับหนืดละเอียดมากกว่าซิลเวอร์ที่ 32 ระดับ ปรับสูงต่ำได้ ตัวกระบอกทำจากวัสดุอลูมิเนียมฟอร์จ คุณสมบัติแข็งและเบา ยี่ห้อนี้มีอุปกรณ์สำหรับใช้ในการช่วยปรับตั้งมุมแคมเบอร์และมุมโทโดยต้องซื้อแยกในราคาประมาณ 10000 บาท น่าจะเหมาะสำหรับคนที่ใช้งานขับขี่ค่อนข้างรุนแรง และซึ่งบนถนนหลวงเป็นประจำ สามารถปรับได้ละเอียดอ่อนกว่าซิลเวอร์และBilstein มีบริการซ่อมบำรุงในบ้านเราพร้อมแต่ไม่ค่อยประชาสัมพันธ์ให้เป็นที่รับรู้เท่าที่ควร(กว่าจะรู้ว่าสองยี่ห้อนี้มีบริการซ่อมค้นหานานพอดู) เอาลงสนามได้แต่ยังย้วยอยู่นิดๆ **** จากปากคำของผู้ใช้งานในฮอนด้าซีวิคที่เค้าใช้ตัวนี้กับ TEIN SS ให้ความเห็นว่าโค้งบนทางด่วนหน้า SC park ที่ความเร็ว 190 สามารถเค้าโค้งเก็บอาการว่าจะแหกโค้งและบานได้เนียนกว่า องค์ประกิบที่เหลือของรถเหมือนกันทุกประการ*****

GAB SS ระดับของคุณภาพน่าจะอยู่ในกลุ่มเดียวกันกับ K Sport เพราะหลายเสียงจากต่างคลับต่างเว็บยืนยันว่ามันส์ นิ่ง หนึบ เหมาะกับการใช้งานบนความเร็วสูง เข้าโค้งแคบองศาต่ำได้ สามารถมุดที่ความเร็วสูงได้อย่างมั่นใจ(แต่ไม่รู้ว่าสูงเท่าไหร่ สูงของสมาชิกฮอนด้าแต่งแรงน่าจะสัก 180 - 190 มั้งเนอะ) ปรับหนืดได้ 32 ระดับ และสูงต่ำได้แต่ปรับแคมเบอร์มุมโทไม่ได้ ตัวกระบอกโช๊คทำจากคาร์บอนที่แข็งและเบา ความเห็นจากคนที่ลงสนามไม่มีข้อมูล ส่วนตัวแล้วคิดว่าเจ้านี่น่าจะแข็งที่สุดในมวลหมู่ทุกยี่ห้อที่กล่าวมาในกระทู้นี้เพราะทุกๆคนต่างยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่าแข็งได้ใจมาก เอาลงสนามน่าจะย้วยน้อยที่สุดแล้วมั้ง คนซ์้อต้องตัดสินใจระหว่างปรับละเอียดอีกขั้นของ K sport กับแข็งยันรถอยู่ของยี่ห้อนี้จะเลือกอะไรดี ข้อเสียที่เด่นชัดที่สุดของมันคือไม่มีซ่อมครับ อันนี้ผมโทรสอบถามจากตัวแทนจำหน่ายและร้านซ๋อมโช๊คที่มีชื่อต่างๆ ตัวแทนจำหน่ายพูดเพียงว่าแตกรั่วในระยะเวลารับประกันเปลี่ยนใหม่ทันทีแต่ถ้าเสียเกินกว่านั้นไม่มีซ๋อมครับตัวใครตัวมัน จากการสอบถามร้านซ่อมโช๊คที่เชี่ยวชาญด้านการซ๋อม TEIN และ OHLIN ต่างก็ไม่สามารถซ๋อมได้เพราะไม่มีอะไหล่ของเค้า โช๊คดีๆแต่ตัวแทนจำหน่ายไม่รับผิดชอบเท่าที่ควรแบบนี้น่าเสียดายมากๆๆๆๆ อ้อราคาอยู่ในกลุ่มเดียวกับ K Sport เช่นกัน

เอาไว้รู้อะไรมากกว่านี้จะสรุปเสริมนะครับ  :)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 16, 2011, 00:19:42 โดย 2k »
หมาเฝ้าบ้านแจกฟรีจ้า www.dogfindhome.com