สงสัยหลายเรื่องเช่นวางJคืออะไร,เครื่องN/Aคืออะไร,mazda mxกับrxแตกต่างกันตรงใหน

[gundam126]

สงสัยหลายเรื่อง
1.วางJคืออะไร เป็นเครื่องยนต์แบบใหน ทำไมอะไรๆก็บอกนำไปวางเจ
2.เครื่องN/Aคืออะไร อ่านใหนหนังสือการ์ตูนรถ(initial d)บอกN/A
3.mazda mxกับrxแตกต่างกันตรงใหน
4.ไฟรถยนต์มีกี่แบบ เห็นมีซีนอน ฮาโลเจนและอื่นๆ แล้วแต่ละแบบมีข้อดีข้อเสียกันอย่างไร
5.การวางเครื่องยนต์ มันมีกี่แบบแล้วแต่ละแบบดีอย่างไร เช่นวางหน้า วางกลาง(วางยังใงตรงกลาง งงครับ)
6.การแต่งรถนี่มีกี่แบบ ที่เข้าใจคือ แบบVIPคือดูหรู ลายไม้เยอะๆ มีเพชรด้วยยิ่งดี มีม่าน แล้วล้อต้องยิ่งแบะออกมากยิ่งเท่ห์ใช่ไหม
7.เบาะเสริมเด็กยี่ห้ออะไรดีที่สุด แล้วผมทั้งcamryและcity zxไม่มีที่ยึดเบาะเด็กเหมือนรถหรูๆเช่นvolvoจะทำได้อย่างไรบ้างครับ ตอนนี้ขี่เวฟนะ แต่บางทีถ้าจะต้องเอาเจ้าตัวเล็กไปด้วยถึงจะขับรถแต่ไม่ค่อยอยากขับกลัวอันตรายเพราะสายคาดไม่ค่อยรองรับกับเด็กเล็กๆเท่าไร
**บางคำถามสงสัยมาตั้งแต่ยังเรียนมหาวิทยาลัยจนตอนนี้ทำงานมาได้หลายปีแล้วเพิ่งจะคิดออกว่าอยากรู้คำตอบจริงๆ

[keanetona]

เอาเท่าที่ผมรู้นะครับ หากข้อมูลผมผิดรบกวนแก้ไขด้วยครับ


1. วางเจ หมายถึงเอาเครื่องโตโยต้าตระกูล JZ มาวาง ที่ใครๆบอกให้วางเจ เพราะมันแรง อะไหล่เพียบ
2. N/A อธิบายง่ายสุดคือ เครื่องยนต์ที่ไม่ได้ใช้ระบบอัดอากาศเช่น เทอร์โบ หรือ ซุปเปอร์ชาร์จ
3. รบกวนเซียนช่วยตอบด้วยครับ
4. ไฟรถยนต์ถ้าเอาตามชนิดหลอดมี2แบบคือ ฮาโลเจน หรือหลอดไส้ ที่มีมาตั้งแต่ดั้งเดิม ข้อดีคือถูก สว่าง แต่สีไม่สวย และ กินไฟ แถมร้อน เนื่องจากหลอดไส้แสงจะเกิดจากการเผาไส้หลอด ส่วนซีนอน เรียกให้ถูกต้องคือ HID ส่วนที่เรียกว่าซีนอนเรียกตามชื่อแก๊สซีนอนในหลอดครับ ข้อดีคือสว่างกว่า สีสวย ประหยัดไฟ ไม่ร้อน แต่ข้อเสียคือ ต้องใช้โคมเฉพาะ ถ้าติดมั่วไฟจะแยงตาชาวบ้าน ต้องใช้ชุดบัลลาสต์เฉพาะ ราคาสูง
5. วางหน้าขับหลัง วางหน้าขับหน้า วางหน้าขับ4ล้อ วางหลังขับหลัง วางหลังขับ4ล้อ ส่วนเครื่องวางกลาง จะวางเครื่องไว้หลังคนขับครับ บางยี่ห้อก็จะเบียดบังให้คนขับเยี้องไปข้างหน้า เช่น lamborghini  และยังมีลักษณะการวางเครื่องอีก2อย่างคือ วางตามยาว และ วางตามขวาง
6. แต่งแบบVIP จะใช้รถตั้งแต่ D-Segment ขึ้นไป หลักๆเน้นล้อโตโหลดแป้ก แต่งสเกิร์ทนิดหน่อย บางที่ก็เรียกว่าแต่งแบบยากูซ่า
7. รบกวนเซียนช่วยตอบด้วยครับ

[diow_1991]

รู้บางข้อ เดี๋ยวรอท่านอื่นเข้ามาตอบเพิ่มนะครับ
1. 1JZ 2JZ  เป็นเครื่อง 6 สูบของโตโยต้า วางได้กับรถที่มีห้องเครื่องใหญ่ๆ ขับเคลื่อนล้อหลัง ที่คนนิยมใช้กันเพราะราคาเชียงกง 6-7 หมื่นบาท และมีหลายแบบให้เลือก GTE นิยมวางในรถแต่ง และมีแบบ VVT-i ที่นิยมมาวางรถกระบะบรรทุกขนของ ส่วนใหญ่จะติดแก๊สกัน
2. เครื่อง NA คือ เครื่องเดิมๆ
6. ใช่ครับ

ผิดพลาดประการใด ขออภัยด้วย

[YIM]

เอาเท่าที่ผมรู้นะครับ หากข้อมูลผมผิดรบกวนแก้ไขด้วยครับ


1. วางเจ หมายถึงเอาเครื่องโตโยต้าตระกูล JZ มาวาง ที่ใครๆบอกให้วางเจ เพราะมันแรง อะไหล่เพียบ
2. N/A อธิบายง่ายสุดคือ เครื่องยนต์ที่ไม่ได้ใช้ระบบอัดอากาศเช่น เทอร์โบ หรือ ซุปเปอร์ชาร์จ
3. รบกวนเซียนช่วยตอบด้วยครับ
4. ไฟรถยนต์ถ้าเอาตามชนิดหลอดมี2แบบคือ ฮาโลเจน หรือหลอดไส้ ที่มีมาตั้งแต่ดั้งเดิม ข้อดีคือถูก สว่าง แต่สีไม่สวย และ กินไฟ แถมร้อน เนื่องจากหลอดไส้แสงจะเกิดจากการเผาไส้หลอด ส่วนซีนอน เรียกให้ถูกต้องคือ HID ส่วนที่เรียกว่าซีนอนเรียกตามชื่อแก๊สซีนอนในหลอดครับ ข้อดีคือสว่างกว่า สีสวย ประหยัดไฟ ไม่ร้อน แต่ข้อเสียคือ ต้องใช้โคมเฉพาะ ถ้าติดมั่วไฟจะแยงตาชาวบ้าน ต้องใช้ชุดบัลลาสต์เฉพาะ ราคาสูง
5. วางหน้าขับหลัง วางหน้าขับหน้า วางหน้าขับ4ล้อ วางหลังขับหลัง วางหลังขับ4ล้อ ส่วนเครื่องวางกลาง จะวางเครื่องไว้หลังคนขับครับ บางยี่ห้อก็จะเบียดบังให้คนขับเยี้องไปข้างหน้า เช่น lamborghini  และยังมีลักษณะการวางเครื่องอีก2อย่างคือ วางตามยาว และ วางตามขวาง
6. แต่งแบบVIP จะใช้รถตั้งแต่ D-Segment ขึ้นไป หลักๆเน้นล้อโตโหลดแป้ก แต่งสเกิร์ทนิดหน่อย บางที่ก็เรียกว่าแต่งแบบยากูซ่า
7. รบกวนเซียนช่วยตอบด้วยครับ

ข้อ 3 เนี่ย ถ้าสังเกต
MX จะเป็นรถสปอร์ท 2 ประตู ที่ใช้เครื่องยนต์ลูกสูงธรรมดา เช่น MX-3, MX-5, MX-6
RX จะใช้ชื่อนี้เฉพาะรถ Wankel Rotary เท่านั้น เช่น RX-2, RX-3 (Savanna), RX-4 (Luce), RX-5 (Cosmo), RX-7, RX-8

[LimitedEdition]

1. มันเป็นชื่อรหัสเครื่องยนต์ครับ 1JZ-GE, 1JZ-GTE, 2JZ-GE, 2JZ-GTE, 2J-GTE VVTi อะไรประมาณนั้น
เป็นเครื่องยนต์หกสูบแถวเรียงของโตโยต้า ถ้า 1J ก็ 2.5 ลิตร ถ้า 2J ก็ 3.0 ซึ่งเป็นบล็อคสหกรณ์
ได้ถูกจับวางลงในรถโตโยต้าหลายรุ่นตั้งแต่รถบ้าน รถหรู ยันรถสปอร์ต โดยแต่ละเวอร์ชันมีแรงม้าและแรงบิดต่างกันหมด

ประเด็นคือ เนื่องจากมันวางในรถจำนวนมากมายหลายรุ่น ทำให้ปริมาณเครื่องมันมีไหลเข้ามาในเซียงกงเยอะ
ราคาก็เลยซื้อง่ายขายคล่อง แถมยังพกความแรงติดตัวมาอีก อุปกรณ์ก็ไม่ซับซ้อนมากมายอะไร แล้วการที่เป็นเครื่อง
หกสูบแถวเรียงวางตามยาว ทำให้ไม่ว่าจะจับดัดแปลงลงไปนอนในฝากระโปรงรถคันไหนก็ไม่ใช่เรื่องยาก

ดังนั้น ใครที่มีรถขับหลัง ห้องเครื่องหน้ายาวพอประมาณ แล้วอยากแรงไม่ว่าจะข้ามสายพันธุ์หรือไม่ก็เถอะ
สูตรแบบจบครบถ้วนกระบวนความ นึกอะไรไม่ออก ก็มองหา J มาใส่ซะ จะโบไม่โบ จะ VVTi หรือไม่
ก็ขึ้นกับงบประมาณ และจุดประสงค์ของการนำรถของท่านไปหาหัวใจใหม่ครับ มันเลยติดปากว่า "วาง J" เนี่ยแหละ

ส่วนเรื่องทางเทคนิคเชิงลึก ผมเข้าใจว่าในบทความ Fart & Furious ของ Commander Cheng น่าจะมีอยู่บ้างนะครับ
ถ้ายังไงลองให้ท่าน Commander มาตอบอีกที จะได้รู้ลึกระดับรูขุมขนของเครื่องกันเลยทีเดียว

2. NA หรือ N.A. จริงจริงผมว่าต้องเขียนแบบนี้ถึงจะถูกนะ เพราะ N/A โดยทั่วไปหมายถึง Not Available จนเป็นสากลไปแล้ว
มันเป็นตัวอักษรย่อของคำว่า Natural Aspiration หรือ Natural Aspirated Engine แปลว่าเครื่องยนต์สันดาปแบบ
หายใจด้วยตัวเอง ไม่มีระบบอัดอากาศไม่ว่าจะเป็น Turbo, Supercharger, หรืออะไรต่างต่างที่ช่วยเพิ่มปริมาณอากาศนั่นเองครับ

3. MX และ RX ก็เหมือนชื่อรุ่นของรถยนต์ยี่ห้ออื่นอื่นทั่วไปครับ

MX เป็นรถสปอร์ตขนาดเล็กที่เรียกว่า Roadster เทียบได้ก็ประมาณ MR-S, Z3, Z4 คือรถเปิดประทุนที่ทำไว้ขับเล่นเล่น
พอสนุกสนานได้ จากความคล่องตัวของขนาดตัวที่เล็กและเบา ตำแหน่งที่นั่งต่ำและกระชับ รถบาลานซ์น้ำหนักได้ดี
ทำให้เล่นแผลงแผลงได้ง่าย แต่ใส่เครื่องยนต์ไม่แรงมาก ยิ่งทำให้เล่นพิเรนทร์ได้ง่ายขึ้นเพราะมันจะไม่แว้งกลับมากัดเราเวลาพลาด

RX เป็นรถสปอร์ตขนานแท้ วางตำแหน่งมาชนกับ 3000GTO, Supra, Fairlady แนวนี้โดยเฉพาะ
ขนาดตัวใหญ่ขึ้นมากว่า Roadster วางเครื่องแรงเต็มพิกัด คำว่า RX นั้น มาสด้าสงวนไว้ใช้กับรถที่วางเครื่องโรตารี
อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ (ที่แรงงั้นงั้น พังง่าย กินน้ำมันบาน แต่เสียงหวานจนหลง) ของมาสด้าเท่านั้นครับ

4. เพ่ิมเติมคุณ keanetona นิดเดียวว่าสมัยก่อนมีโคมไฟชนิดที่เรียกว่า Sealed-Beam ครับ
เป็นโคมไฟทรงกลมหรือเหลี่ยม ที่ด้านหน้ามีกระจกเป็นปริซึมหักเหแสง ไม่สามารถถอดมาเปลี่ยนหลอดได้
ต้องเปลี่ยนยกโคมสถานเดียว ลองหารถยุค 70-80 ดูส่วนใหญ่จะใช้โคมไฟแบบนี้กันเยอะ

ข้อ 6. นี่ไม่รู้จะตอบยังไง เพราะไม่มีพจนานุกรมหรือสถาบันไหนกำหนดไว้เป็นหมวดหมู่ว่าการแต่งรถมีกี่ประเภท
ถ้าหลักหลักที่เห็นก็มี VIP, Street-used, Circuit, Gymkhana, Drift, Drag, Off-road, และแบบเรื้อนเรื้อนครับ

ข้อ 7. ยังไม่มีลูกเลยยังไม่ทราบเหมือนกันครับ แต่ยี่ห้อเดียวในดวงใจผมคงเป็น Recaro
เบาะแบบนี้มีรุ่นที่สามารถใช้กับเข็มขัดนิรภัยปกติของรถได้ครับ มีวิธีการติดตั้งและรัดเบาะชัดเจน
ผมเข้าใจว่าจะมีเฉพาะเบาะรุ่นแพงแพงด้วยซ้ำมั้งครับ ถึงจะมีที่ยึดกับ ISOFIX มาให้

[YIM]

เสริมนิดนะครับ

MX เท่าที่ผ่านมามี 3 รุ่น

MX-3 คิดง่ายๆ คือ Mazda 323 2 ประตู
http://en.wikipedia.org/wiki/Mazda_MX-3

MX-5 คือรถสปอร์ตเปิดประทุนน้ำหนักเบา อย่างที่ทุกท่านรู้

MX-6 ง่ายๆ 626 2 ประตู
http://en.wikipedia.org/wiki/Mazda_MX-6

RX เนี่ย สมัยก่อนมันมีเยอะ ไล่มาก่อน
RX-2 คือ Mazda Capella (ต้นตระกูล MZ6) วาง rotary มีตัวถัง Sedan, Coupe
RX-3 คือ Mazda Grand Familia (808) วาง Rotary อันนี้เป็นบรรพบุรุษสายตรงของ RX-7 บางตลาดเรียก Savanna  มีตัวถัง sedan, coupe, wagon
RX-4 คือ Mazda Luce วาง rotary ครับ มีทั้ง sedan, coupe, wagon
RX-5 คือ Mazda Cosmo รุ่น 2 วาง rotary (ใช้พื้นฐานร่วมกับ Luce)

จะเห็นว่าตั้งแต่ RX-2 ถึง RX-5 นั้น ถึงจะมีตัวแรงออกมา แต่ก็ยังไม่ใช่ sport พันธุ์แท้แต่อย่างใด เป็นเพียงการเอาเครื่อง rotary วางบนตัวถังรถบ้าน จนมาถึง.....

RX-7
RX-7 เนี่ย เป้าหมายของ Mazda คือทำรถสปอร์ตใหม่ มาแทน RX-3 แต่เนื่องจาก RX-3 นั้นใช้พื้นฐาน sedan ซึ่งเรื่อง handling ย่อมสู้รถ sport แท้ๆ ไม่ได้ ก็เลยออกมาเป็น RX-7 ที่เป็น pure sport ครับ

RX-8 อันนี้ผมก็ไม่ค่อยเข้าใจ แต่เหมือนกับมันเป็นรถสปอร์ต ขับสนุกๆ ไม่จริงจังเท่า RX-7 แต่นั่งได้ 4 คนหรือเปล่าครับ?

4. Sealed Beam เนี่ย เป็นหลอดไฟขนาดมาตรฐานที่เวลาเปลี่ยนต้องเปลี่ยนทั้งโคม โดยมีแค่ 2 size ครับ กำหนดขนาดโดยตัวกฎหมายเลยครับ ใช้เฉพาะที่ USA เป็นส่วนมาก โดยเหตุผล เขาอ้างว่า การทำให้มันเป็นชิ้นเดียว ปลอดภัยกว่า และรั่วยากกว่า และเป็นสากล แต่สุดท้ายก็มายกเลิกกฎหมายเมื่อปี 1983 ไปรถที่ USA จึงได้เหมือนชาวบ้านเขา

อันนี้รูปครับ Volvo 200 ในตลาด US ใช้ sealed beam ตามกฎหมายกำหนด


อันนี้ Volvo 200 ในตลาดโลก ไฟปกติ

[Chariot]

วางเจ คือ การถือศีล กินผัก ไม่กินเนื้อสัตว์และของกลิ่นแรง...

อ้าว ไม่ใช่เหรอ..

วางเจ ก็คือ วางเครื่องตระกูล JZ

ตระกูลนี้เป็น 6 สูบเรียง มีลักษณะวางตามยาว ขับเคลื่อนล้อหลัง

โดยหลักๆแล้ว คนในตระกูลนี้แบ่งเป็น...

1JZ รุ่นพ่อ ซึ่งมีทั้งเจฝาขาว เจฝาดำ เจโบ และเจวาล์วแปรผัน

2JZ รุ่นลูก เท่าที่รุ้ก็มี 2เจฝาดำ กับ 2เจโบ

ด้วยความที่คนในตระกูลนี้มีนิสัยขยัน แรงเยอะ ไม่งอแง จุกจิกจู้จี้ มีความอดทนสูง จึงเป็นที่รักของรถขับหลังหลายรุ่น

อย่างรถผมเองก็ซั่มกับเจฝาขาวแล้ว ทนทานโคตรๆ

ขนาดขับจนเครื่องฮีทควันขึ้น 2 รอบ คิกดาวน์จนถึง 7พันรอบ กรองเปลือยอย่างโปร่ง พอร์ตไอดีไม่ได้ล้าง ก็ยังไม่เป็นไร สตาร์ทไม่มีควันขาว เร่งไม่มีควันดำ เรียบลื่นปกติดี...เหอะๆๆ

[Alcatraz]

ตอบข้อ 5 เพิ่มเติม

เครื่องวางกลางส่วนใหญ่เป็น super car ทั้งหลายยกตัวอย่าง  audi r8 ferrari enzo,430,458  บูกัตติ ลัมโบทั้งหลาย เป็นต้นครับ  toyota mrs น่าจะวางกลางด้วย
เครื่องวางหลังก็ porche ทุกรุ่น ที่ยกเว้นน่าจะ คาเยน พานาเมร่า ส่วน carera gt น่าจะวางกลางรวมทั้งตัวไฮบริดใหม่ด้วย

ส่วนใหญ่รถพวกนี้ไม่ค่อยมีใครไปยุ่งกับเครื่องมันเท่าไรนักหรอกครับ

[YIM]

เครื่องวางกลาง ถ้าไม่ใช่ super car ก็เป็นรถที่ต้องการพื้นที่ใช้สอยมากๆ หรือรถที่เล็กมากๆ จนต้องเอาเครื่องไปวางเกือบๆ ใต้ท้อง เช่น  Mitsubishi i, Honda Acty, Isetta เป็นต้น

[5thAvenue]

เสริมครับ

เครื่องวางกลาง



เครื่องวางท้าย มีภาพประกอบ

[vampire opera]

เบาะเสริมเด็ก booster seat สำหรับเด็กเล็ก 4 ขวบขึ้นไป ผมใช้ของ graco ก็ใช้ได้ดีนะ
ราคาก็ 2xxx.- ลองไปเลือกดูครับ มีหลายยี่ห้อ หลายราคา

วิธีใช้ booster seat มันจะมีช่องคล้องสาย belt ครับ
สายจะไม่ไปคาดที่คอเด็กครับ ใช้กับรถทั่วไปได้เลย

[liveshow]

เครื่องวางท้าย มีภาพประกอบ

รูปสุดท้ายนี่เอาฮา เลยใช่ไหมครับ  ระวังหน้าลอยนะครับ  

5.การวางเครื่องยนต์ มันมีกี่แบบแล้วแต่ละแบบดีอย่างไร เช่นวางหน้า วางกลาง(วางยังใงตรงกลาง งงครับ)

วางหน้าขับหน้า ดีตรงที่ราคาไม่แพง ต้นทุนถูกในการผลิต  รับลมเต็มๆ ซ่อมง่าย แต่ บาลลาทช์ของตัวรถจะไม่ค่อยได้ 50-50 ในรถบ้านๆทั่วไป
วางหน้าขับหลัง ต้นทุนสูง ในการทำต้องวางชุดขับเคลื่อนผ่านตัวรถ แต่ขับสนุกกว่าเยอะ
วางหนัาขับ4     แบบ subaru เน้นขับแบบสนุก ค่าดูแลแพง ไว้ตะกุยดินได้เล็กน้อย

วางกลาง ส่วนใหญ่ จะเจอะในรถพวก ขี้ง็กทั่งหลาย นั่งได้สองคน สิ่งที่ดีเลย ทำมาเพื่อขับสนุกโดยเฉพาะ เน้นสมรรถนะ เข้าโค้งสนุก บาลาทซ์ค่อยข้างจะดี

วางหลัง ไม่รู้  
    

[YIM]

วางหลังเนี่ย สมัยโบราณ (ก่อนพวกเรา 80% ในนี้จะเกิด ) เขาเชื่อว่ามันประหยัดที่ในห้องโดยสาร และการที่น้ำหนักลงที่ท้ายรถ (ซึ่งเป็นล้อที่ใช้ขับเคลื่อน) จะทำให้ได้ traction และการยึดเกาะที่ดี

แต่พอเอาเข้าจริง กลับกลายเป็นว่า traction มันดันลงล้อหลังมากไป ถ้าตีนหนักๆ ก็เลื้อยง่ายๆ อีกทั้งเวลาเข้าโค้ง ถ้าเหยียบคันเร่ง รถจะปัดง่าย (Oversteer อีก) แต่ในทางกลับกัน เวลาเลี้ยวปกติ ถ้า traction ล้อหลังมันไม่ทำให้รถหมุน หน้ารถมันเบา ทำให้ล้อหน้าจิกพื้นได้น้อย กลายเป็นว่า Understeer (หน้าแหก) อีก

สรุปตอนนี้ก็เหลือแค่ Porsche ที่ยังยึดติดกับระบบนี้ (แต่ 911 สมัยใหม่ มีระบบ computer ควบคุมจนปลอดภัยในระดับหนึ่งแล้ว อีกทั้งบางรุ่น เช่น Carrera S กับ Turbo ยังขับ 4 อีก เลยตัดปัญหาไปได้เยอะ)

ทุกวันนี้ผมก็ยังทึ่งกับคนที่ขับ 911 Turbo 930 ได้โดยไม่หมุนนะครับ รถมันไม่มี technology อะไร แต่ดันมีตั้ง 286 แรงม้า แล้วยัง turbo lag กระจายอีก ผมเดาว่ามันน่าจะพยศสุดๆ เลย

[keanetona]

วางหลังเนี่ย สมัยโบราณ (ก่อนพวกเรา 80% ในนี้จะเกิด ) เขาเชื่อว่ามันประหยัดที่ในห้องโดยสาร และการที่น้ำหนักลงที่ท้ายรถ (ซึ่งเป็นล้อที่ใช้ขับเคลื่อน) จะทำให้ได้ traction และการยึดเกาะที่ดี

แต่พอเอาเข้าจริง กลับกลายเป็นว่า traction มันดันลงล้อหลังมากไป ถ้าตีนหนักๆ ก็เลื้อยง่ายๆ อีกทั้งเวลาเข้าโค้ง ถ้าเหยียบคันเร่ง รถจะปัดง่าย (Oversteer อีก) แต่ในทางกลับกัน เวลาเลี้ยวปกติ ถ้า traction ล้อหลังมันทำให้รถหมุน หน้ารถมันเบา ทำให้ล้อหน้าจิกพื้นได้น้อย กลายเป็นว่า Understeer (หน้าแหก) อีก

สรุปตอนนี้ก็เหลือแค่ Porsche ที่ยังยึดติดกับระบบนี้ (แต่ 911 สมัยใหม่ มีระบบ computer ควบคุมจนปลอดภัยในระดับหนึ่งแล้ว อีกทั้งบางรุ่น เช่น Carrera S กับ Turbo ยังขับ 4 อีก เลยตัดปัญหาไปได้เยอะ)

ทุกวันนี้ผมก็ยังทึ่งกับคนที่ขับ 911 Turbo 930 ได้โดยไม่หมุนนะครับ รถมันไม่มี technology อะไร แต่ดันมีตั้ง 286 แรงม้า แล้วยัง turbo lag กระจายอีก ผมเดาว่ามันน่าจะพยศสุดๆ เลย

Convair คันนี้ครับ เครื่องวางท้าย ที่โดน Ralph Nader ด่าเสียไม่มีดิบดี

[YIM]

วางหลังเนี่ย สมัยโบราณ (ก่อนพวกเรา 80% ในนี้จะเกิด ) เขาเชื่อว่ามันประหยัดที่ในห้องโดยสาร และการที่น้ำหนักลงที่ท้ายรถ (ซึ่งเป็นล้อที่ใช้ขับเคลื่อน) จะทำให้ได้ traction และการยึดเกาะที่ดี

แต่พอเอาเข้าจริง กลับกลายเป็นว่า traction มันดันลงล้อหลังมากไป ถ้าตีนหนักๆ ก็เลื้อยง่ายๆ อีกทั้งเวลาเข้าโค้ง ถ้าเหยียบคันเร่ง รถจะปัดง่าย (Oversteer อีก) แต่ในทางกลับกัน เวลาเลี้ยวปกติ ถ้า traction ล้อหลังมันทำให้รถหมุน หน้ารถมันเบา ทำให้ล้อหน้าจิกพื้นได้น้อย กลายเป็นว่า Understeer (หน้าแหก) อีก

สรุปตอนนี้ก็เหลือแค่ Porsche ที่ยังยึดติดกับระบบนี้ (แต่ 911 สมัยใหม่ มีระบบ computer ควบคุมจนปลอดภัยในระดับหนึ่งแล้ว อีกทั้งบางรุ่น เช่น Carrera S กับ Turbo ยังขับ 4 อีก เลยตัดปัญหาไปได้เยอะ)

ทุกวันนี้ผมก็ยังทึ่งกับคนที่ขับ 911 Turbo 930 ได้โดยไม่หมุนนะครับ รถมันไม่มี technology อะไร แต่ดันมีตั้ง 286 แรงม้า แล้วยัง turbo lag กระจายอีก ผมเดาว่ามันน่าจะพยศสุดๆ เลย

Convair คันนี้ครับ เครื่องวางท้าย ที่โดน Ralph Nader ด่าเสียไม่มีดิบดี

นาย Ralph Nader คนนี้แหละครับ ทำให้รถวางเครื่องหลังแทบจะสูญพันธุ์ ทำให้รถรุ่นต่อจาก Corvair คือ Camaro ต้อวกลับไปวางเครื่องด้านหน้า เพราะยอดขายของ Corvair โดนหนังสือ Unsafe at Any Speed ของนายคนนี้ ทำซะฉิบหายวายวอดหมด

[RhinoMango]

โตตรจะชอบ Corvair เลยครับ สวยมาก

[LimitedEdition]

จริงจริงแล้ว ผมว่าปัญหาในหนังสือ Unsafe at any speed
จากที่เคยฟังอาจารย์สมัยเรียนวิศวฯ ตอน ป.ตรี เล่ามาบอกว่าเค้าเขียนไว้ชัดนะครับ
ว่าปัญหาไม่ได้มาจากแค่เครื่องวางหลัง แต่เป็นการนำชุดช่วงล่างลักษณะเดียวกับรถโฟล์คเต่ามาใช้
ซึ่งมันไม่เหมาะกับรถท้ายยาว และมีน้ำหนักตัวมากแบบนี้ เพราะเวลามันรับน้ำหนักมาก
แล้วเกิดการขยับตัวขึ้นลงของช่วงล่าง มันจะทำให้มุมล้อหลังเปลี่ยนทันที
กลายเป็นล้อหลังพาให้รถเลี้ยวได้

แถมการแก้ไขโดย GM แทนที่จะแก้ไขงานวิศวกรรม
เพ่ิมประสิทธิภาพช่วงล่างให้ดีขึ้น เพื่อการทรงตัวที่ดีมากขึ้น
กลับกลายเป็นบอกให้ลดลมยางคู่หน้าลง เพื่อให้ด้านหน้ามีแทรคชันมากขึ้น
ก็แปลกดีที่ทำแบบนี้ มันเลยพาคนไปตายกันเพียบครับ รถรุ่นนี้

[YIM]

จริงจริงแล้ว ผมว่าปัญหาในหนังสือ Unsafe at any speed
จากที่เคยฟังอาจารย์สมัยเรียนวิศวฯ ตอน ป.ตรี เล่ามาบอกว่าเค้าเขียนไว้ชัดนะครับ
ว่าปัญหาไม่ได้มาจากแค่เครื่องวางหลัง แต่เป็นการนำชุดช่วงล่างลักษณะเดียวกับรถโฟล์คเต่ามาใช้
ซึ่งมันไม่เหมาะกับรถท้ายยาว และมีน้ำหนักตัวมากแบบนี้ เพราะเวลามันรับน้ำหนักมาก
แล้วเกิดการขยับตัวขึ้นลงของช่วงล่าง มันจะทำให้มุมล้อหลังเปลี่ยนทันที
กลายเป็นล้อหลังพาให้รถเลี้ยวได้

แถมการแก้ไขโดย GM แทนที่จะแก้ไขงานวิศวกรรม
เพ่ิมประสิทธิภาพช่วงล่างให้ดีขึ้น เพื่อการทรงตัวที่ดีมากขึ้น
กลับกลายเป็นบอกให้ลดลมยางคู่หน้าลง เพื่อให้ด้านหน้ามีแทรคชันมากขึ้น
ก็แปลกดีที่ทำแบบนี้ มันเลยพาคนไปตายกันเพียบครับ รถรุ่นนี้

ขอบคุณครับ

สารภาพว่า ไม่เคยอ่านหนังสือเล่มนี้ครับ อาศัยอ่านจากพวก webboard ที่เขาคุยกัน แต่เมื่อกี้ลองไปเปิด summary ใน wikipedia แล้ว เป็นอย่างที่คุณเนยว่าเลยครับ คือช่วงล่างแบบ beetle (swing axle) มันทำให้มุม camber เปลี่ยนได้เยอะเกิน ทำให้ oversteer กระทันหันได้

แต่สุดท้ายรถรุ่นนี้ ตอนหลัง ก็เพิ่มกันโคลงหน้า ให้หน้าจิกพื้นมากขึ้น แล้วก็เอา Swing Axle ออก แล้วก็เปลี่ยนเป็น ล้อหลังแบบอิสระนี่ครับ แต่มันก็ช้าไปหน่อย

ให้นั่งรุ่นนี้ กับ Pinto เลือกอะไรดีหว่า?

[keanetona]

จริงจริงแล้ว ผมว่าปัญหาในหนังสือ Unsafe at any speed
จากที่เคยฟังอาจารย์สมัยเรียนวิศวฯ ตอน ป.ตรี เล่ามาบอกว่าเค้าเขียนไว้ชัดนะครับ
ว่าปัญหาไม่ได้มาจากแค่เครื่องวางหลัง แต่เป็นการนำชุดช่วงล่างลักษณะเดียวกับรถโฟล์คเต่ามาใช้
ซึ่งมันไม่เหมาะกับรถท้ายยาว และมีน้ำหนักตัวมากแบบนี้ เพราะเวลามันรับน้ำหนักมาก
แล้วเกิดการขยับตัวขึ้นลงของช่วงล่าง มันจะทำให้มุมล้อหลังเปลี่ยนทันที
กลายเป็นล้อหลังพาให้รถเลี้ยวได้

แถมการแก้ไขโดย GM แทนที่จะแก้ไขงานวิศวกรรม
เพ่ิมประสิทธิภาพช่วงล่างให้ดีขึ้น เพื่อการทรงตัวที่ดีมากขึ้น
กลับกลายเป็นบอกให้ลดลมยางคู่หน้าลง เพื่อให้ด้านหน้ามีแทรคชันมากขึ้น
ก็แปลกดีที่ทำแบบนี้ มันเลยพาคนไปตายกันเพียบครับ รถรุ่นนี้

ขอบคุณครับ

สารภาพว่า ไม่เคยอ่านหนังสือเล่มนี้ครับ อาศัยอ่านจากพวก webboard ที่เขาคุยกัน แต่เมื่อกี้ลองไปเปิด summary ใน wikipedia แล้ว เป็นอย่างที่คุณเนยว่าเลยครับ คือช่วงล่างแบบ beetle (swing axle) มันทำให้มุม camber เปลี่ยนได้เยอะเกิน ทำให้ oversteer กระทันหันได้

แต่สุดท้ายรถรุ่นนี้ ตอนหลัง ก็เพิ่มกันโคลงหน้า ให้หน้าจิกพื้นมากขึ้น แล้วก็เอา Swing Axle ออก แล้วก็เปลี่ยนเป็น ล้อหลังแบบอิสระนี่ครับ แต่มันก็ช้าไปหน่อย

ให้นั่งรุ่นนี้ กับ Pinto เลือกอะไรดีหว่า?

เลือกยาก

convair ถึงชนถึงคว่ำก็ยังไม่มีไฟลุก แต่ pinto นี่โดนเสยแล้วไฟลุกเลยนะนั่น