ผู้เขียน หัวข้อ: การรอซื้อรถแบบนี้ คิดมากเกินไปไหมเนี่ย  (อ่าน 5143 ครั้ง)

ออฟไลน์ zetturn

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 9
ออกจะแอบบ่นนิดนึงและยาวนิดนึงนะครับ ถ้ากลัวเบื่อข้ามไปดีกว่านะครับ

อันดับแรกเลย คือ ความต้องการขัดแย้งกันเอง เป็นคนรูปร่างใหญ่ทั้งครอบครัว ภรรยาและลูกอีก 2 คน
ปัจจุบันใช้กระบะแค็บ แต่ดันอยากได้รถคันเล็กๆแบบ March เพราะเบื่อการหาที่จอดรถและกลับรถมาก
แต่พอเห็นรีวิวพี่จิมก็เบาใจได้ ไปลองของเพื่อนก็โอเครับได้ ผ่าน

พอดีกับบทความรถใหม่ของพี่จิมออกมา เออดีแฮะปีหน้ามีให้เลือกหลายรุ่น
ตอนแรกเล็งๆไว้ว่าจะรอดู Eco ของ Mitsu ตั้งแต่เมื่อต้นปีนี้ซึ่งก็รอถึงปีหน้า ก็ไม่เป็นไรรอได้

พอเริ่มคิดถึงเวลาลูกๆโต ก็เลยมองไปยัง Tiida กว้างกว่านะ บรรทุกได้เยอะกว่า
การตกแต่งภายในก็ถูกใจมากกว่า แต่พอคิดถึงเวลาใช้รถ

ก็มีแค่ขับไปทำธุระและไปส่งลูกเฉพาะวันฝนตก ไปซื้อของในห้างเดือนละหน
ขับไปเยี่ยมญาติบ้าง(ใกล้ๆกันไม่เกิน 10 กิโลเมตร) รวมๆอาทิตย์นึงมากสุด
ไม่น่าจะเกิน 70กิโลเมตร/อาทิตย์ เต็มที่มีไปต่างจังหวัดปีละครั้ง

อยากจะบอกว่าอยู่ในเมืองที่ใช้รถมอเตอร์ไซค์สะดวกกว่ามาก
เพราะระยะทางไม่ไกลแต่รถเยอะและติดมาก แถมการขับรถของแต่ละคนแบบสุดจะบรรยาย

ก็เลยหันกลับมามองรถเล็กๆเหมือนเดิม ระหว่างรอหาข้อมูลเพิ่มเติม
Fiesta ก็โอเคดีนะรูปลักษณ์ถูกใจ ภายในสวยดูดีกว่า March
แต่ข้อเสียที่มองข้ามไม่ได้ ทำให้ต้องตัดใจไปแบบน่าเสียดาย

ตอนนี้มี ??? Almera ??? กำลังจะออกมารูปลักษณ์โอเค
กว้างขวางถูกใจภรรยา แต่ผมก็ไม่ชอบด้วยเหตุผลหลายๆอย่าง
(ถึงแม้รถคันจริงจะยังไม่ออกมาก็ตาม)

ตอนนี้กำลังรอว่า March จะมีการตลาดอะไรมาสู้กับ Eco Car
ของอีกสองค่ายที่กำลังจะเปิดตัวปีหน้า ทั้ง Mitsu และ Suzuki
เพราะมองย้อนกลับไปก็ปล่อยตัว sport ออกมาเดือนธันวาก่อนที่ Brio จะวางขาย

จะเป็นรุ่นพิเศษ หรือ จะมีโอกาส Minor Change ซึ่งยากเต็มที
แต่ที่คิดขึ้นมาเพราะว่า เห็นในคลับของ March มีกระทู้ว่าทางญี่ปุ่นได้มีการ
บินมาเก็บข้อมูลผู้ใช้ March รวมถึงมีการอ้างว่า สอบถามถึงสีรถที่อยากจะให้มีเพิ่ม ในรุ่น Minor Change

แต่ถ้าทาง Mitsu ออกมาได้เร็วกว่า ฟังค์ชั่นในรถเหนือกว่า ตัดสินใจเลือกแล้ว
ก็ยังกลัวว่าปัญหาในรถล็อตแรก ของหลายๆยี่ห้อจะมีตามมาอีกมั๊ย

สรุปทางเลือก
- รอดูถึงเดือนมีนาคมปีหน้าตามเดิม ได้ใช้รถใหม่ช้าหน่อยก็ช่างมัน มีตัวเลือกเยอะกว่า
- ไม่ต้องรอแล้วคิดมากไปก็ป่วยการ ซื้อ March ตอนนี้เลย

ที่คิดมากแบบนี้ก็เพราะว่าอยากให้มันคุ้มค่าและตรงกับความต้องการมากที่สุดล่ะครับ
ไม่อยากมานั่งเบื่อๆเซ็งๆในภายหน้า รู้งี้..........

หลายๆท่านเวลาจะซื้อรถคิดมากกันแบบนี้รึเปล่าครับ
(จริงๆยังมีองค์ประกอบและเหตุผลมากกว่านี้อีก แต่แค่นี้ก็ยาวมากแล้ว)

ออฟไลน์ LaTeX

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 973
Re: การรอซื้อรถแบบนี้ คิดมากเกินไปไหมเนี่ย
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กรกฎาคม 26, 2011, 02:13:38 »
สรุปทางเลือก
- รอดูถึงเดือนมีนาคมปีหน้าตามเดิม ได้ใช้รถใหม่ช้าหน่อยก็ช่างมัน มีตัวเลือกเยอะกว่า
- ไม่ต้องรอแล้วคิดมากไปก็ป่วยการ ซื้อ March ตอนนี้เลย

ที่คิดมากแบบนี้ก็เพราะว่าอยากให้มันคุ้มค่าและตรงกับความต้องการมากที่สุดล่ะครับ
ไม่อยากมานั่งเบื่อๆเซ็งๆในภายหน้า รู้งี้..........


รอดีกว่าครับ ถ้าไม่รีบร้อนออกรถอะไร เพิ่มตัวเลือกจะได้ไม่เสียโอกาส

แต่ถ้าคิดว่าพอใจMarchตัวปัจจุบันมากแล้ว ก็ออกตัวนี้เลยก็ไม่เสียหายนะครับ
ถ้าเราชอบแบบนี้อยู่แล้ว คาดว่าตัวที่ออกมาใหม่ๆก็ไม่ได้ให้ความพอใจต่างกันมาก ก็ออกเลยขับเลย
แล้วพยายามไม่ไปใส่ใจตามรุ่นใหม่ๆ ก็ได้อยู่นะครับ


ออฟไลน์ benzd

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 262
    • อีเมล์
Re: การรอซื้อรถแบบนี้ คิดมากเกินไปไหมเนี่ย
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: กรกฎาคม 26, 2011, 06:36:10 »
ตอนนี้ี่คิดมากคือ ภาษีรถคันแรกกับ  ซื้อรถปลายปีนี้จะได้ราคาขายต่อสู้ซื้อรถต้นปีหน้าไม่ได้

ออฟไลน์ Yinglek

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 321
    • อีเมล์
Re: การรอซื้อรถแบบนี้ คิดมากเกินไปไหมเนี่ย
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: กรกฎาคม 26, 2011, 06:59:39 »
มีรถใช้อยู่แล้ว อดใจรออีกสักนิดอาจได้รถที่ถูกใจมากขึ้นนะค่ะ :)
X6 , Panamera , Everest

ออฟไลน์ 2k

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,755
Re: การรอซื้อรถแบบนี้ คิดมากเกินไปไหมเนี่ย
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: กรกฎาคม 26, 2011, 09:16:30 »
ผมมองว่าคิดแบบนี้สิ้นเปลืองครับ รถขนาดเล็กอย่าง ยาริส มาร์ช แจ๊สมันไม่ได้เล็กไปกว่ารถขนาดกลางอย่างซีวิค อัลติส ทีด้าสักเท่าไหร่เลย ถนนประเทศไทยเน้นการจอดในข่องเป็นหลักซ฿งแต่ละช่องก็เป็นมาตรฐานเท่ากันหมดไม่ใช่ว่าแบ่งแยกนี่ของรถเล็ก นี่รถขนาดกลาง นี่ของรถบรรทุก มันก็เท่าๆกันหมด หรือถ้าต้องจอดริมข้างทางหรือจอดขวางบ่อยๆนั้นการจอดขวางเองก็ต้องเว้นระยะห่างระหว่างคันหน้าอย่างน้อย 1 คันรถอยู่แล้วไม่เช่นนั้นรถที่เราขวางเค้าจะเข็นเราออกไม่ได้เลย ความแตกต่างที่ไม่ถึง1ฟุตเช่นนี้ใช้ความเคยชินเล็กน้อยก็ถอยหลังเข้าซองหรือแนบชิดริมฟุตบาทเรียบร้อยแล้ว

เรื่องเหตุผลที่ว่าพอลูกโตขึ้นก็ต้องขยับขยายไปหารถที่ขนาดใหญ่กว่านั้นคนส่วนใหญ๋ในสังคมเองก็เป็นเช่นนี้กัน แต่ผมก็มองว่าเปลืองอีกเช่นกันเพราะขนาดความแตกต่างของรถขนาดเล็กและรถขนาดกลางนั้นมันห่างกันเพียงไม่กี่เซนติเมตรเท่านั้นเอง ไม่เพียงพอที่จะอัดคนเพิ่มเข้าไปได้อีก1คนเต็มที่ก็รองรับได้ในกรณีที่สมาชิกในบ้านอ้วนขึ้นเท่านั้นเอง ความแตกต่างนั้นมันมาจากการตบแต่งภายในและสีที่ใช้ต่างหาก ยกตัวอย่างเช่นมาสด้า2กับฮอนด้าแจ๊สคนมักจะพูดกันว่าภายในมาสด้าแคบมากกกกส่วนภายในแจ๊สกว้างมากกกก แคบกับกว้างของเค้าตัดสินเพียงแค่ว่าเบาะของแจ๊สพับได้มากกว่าเลยขนของได้มากกว่าเล็อกน้อยเท่านั้นเอง แต่คนก็ชอบพูดราวกับว่ามันเป้นความแตกต่างขนาดรถขนาดเล็กกับลีมูซีนรุ่นยาวพิเศษ

ถ้าตอนนี้ซื้อมาร์ชแล้วในอนาคตต้องขายทิ้งไปเพื่อซ์อทีด้ามันก็เป็นการเสียเงินสองต่อ ขาดทุนตอนขายต่อทั้งๆที่ตัวรถยังไม่มีอะไรให้ซ่อมหนักเลย ต่อให้เป็นยี่ห้อตลาดยังไงการขายต่อเจ้าของก็ขาดทุนไม่ต่างกัน เงินที่ได้มาหลังการขายก็ต้องเอาเงินที่เก็บมาได้เพิ่มเข้าไปเพื่อซื้อทีด้าที่ใหญ่กว่า ซึ่งกรณีนี้ก็ควรจะซ์อทีด้าไปเลยทีเดียวจบกว่าหรือถ้ามีลูกๆเพิ่มก็น่าจะไปมองรถใหญ่เช่นเสปซวากอนหรือฮุนได้ H1ไปเลย อันนี้และความแตกต่างด้านขนาดมีผลมากมายนั่งสบายไม่เหมือนกันแน่ๆ ไม่ต้องซื้อๆขายๆเสียดายเงินครับ เดี๋ยวจะกลายเป็นว่าเก็บเงินมาตั้งนานเอาไปลงกับเรื่องรถอย่างเดียวหมด ส่วนต่างตอนขาดทุนเอามาใช้พาลูกๆไปเที่ยวดีกว่า  :)
หมาเฝ้าบ้านแจกฟรีจ้า www.dogfindhome.com


ออฟไลน์ liveshow

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,751
  • รถไม่แรงแต่แซงยาก
Re: การรอซื้อรถแบบนี้ คิดมากเกินไปไหมเนี่ย
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: กรกฎาคม 26, 2011, 09:36:17 »
มันต้องมีจุดประสงค์ก่อนว่าอยากใช้รถไปทำอะไรอะครับ

ดูๆจากจขกท มีกระบะอยู่แล้ว ซื้ออีกคันก็เอา march ก็ได้ครับถ้าเน้นขับในเมือง
หาที่จอดง่ายผมทดสอบมาแล้ว กระบะกับมาร์ช  และอีกอย่างถ้าไปลองกันมาทั้งบ้านแล้วพอใจ
จองไปเลยครับ ไม่งั้น ก็รอกันอยู่อย่างนี้ หรือไม่ก็หาจนไม่จบ ถึงแม้อยากได้ทีด้า แต่การใช้งานเท่าๆกันกับมารช์
ก็เอามารช์ก้ได้ครับมันไม่ต่างกันมาก จะทีด้า หรือมารช์ หรือ eco car ตัวอื่นๆ นั้งได้ 5 คนในเมืองได้เหมือนกัน
และถ้าบอกว่ามันจะวิ่งไหวไหม มันไหวอยู่แล้วละครับ อีกอย่างข้างหลังมารช์ก็จับข้าวสาร 50 โล ยัดได้ 4 กระสอบสบายๆ
เลยนะครับ รถพวกนี้ไม่เหมาะสำหรับบรรทุกพวกของหนักเท่าไรครับ

ผมเคยใช้กระบะเหมือนจขกท. แต่พอเวลามาเปลี่ยนเป็น eco car ผมก็ลองย้อนไปดูตัวเองตอนใช้ กะบะ มันก็ไม่ได้บรรทุกของอะไรเหมือนกันนี่หว่า
มีแต่คนกับ laptop แถมเสื้อผ้าอีกหน่อย ตอนแรกก็กลัวว่าจะขนไม่หมดเวลาไปซื้อต้นไม้ ปุ๋ย ดิน กระเบื้อง
แต่มันก็เอามาหมดแล้ว แม้กระทั่ง tv lcd 42" ก็จับยัดมาหมดแล้ว

อย่าไปคิดมากครับ เอารถที่สบายเงินเรา สบายใจเรา และเข้ากับเราได้ก็ ทุกอย่างมีความสุขครับ
ถามคนในบ้าน ถามตัวเรา ถามไอ่หมูกระปุกออมสินว่ามันพร้อมไหม ถ้าพร้อมก็ไปศูนย์บริการ-ขาย โลดครับ
ก็แค่คนธรรมดา ไม่ลองก็ไม่รู้

HIGHSEA

  • บุคคลทั่วไป
Re: การรอซื้อรถแบบนี้ คิดมากเกินไปไหมเนี่ย
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: กรกฎาคม 26, 2011, 09:41:18 »
เป็นเรื่องปรกติครับกับการซื้อรถ 1 คันเพื่อตอบโจทย์ทุกอย่าง ซึ่งการออกแบบของแต่ละรุ่นก็เพื่อการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป
ใช้กระบะแคปแล้วจะเปลี่ยนมาใช้รถเล็กยังไงก็คิดดีๆนะ ผมเคยใช้รถใหญ่แล้วมาใช้รถเล็กมันอึดอัดยังไงไม่รู้ เวลาฝนตกหนักน้ำท่วม
ถนนหรือทางไม่ดีซื้อของเยอะก็คิดถึงรถใหญ่ แต่ขับง่ายจอดง่ายมุดสะดวกก็คิดถึงรถเล็ก :D
ผมไม่รู้ว่าจะซื้อเพิ่มหรือขายคันเดิม ถ้าซื้อเพิ่มแล้วเป็นรถเล็กแบบประหยัดน้ำมันก็ไม่ต้องคิดมากหรอกครับ รุ่นที่อยู่ในใจ
เป็นรถที่เขาใช้ทั่วๆไปไม่น่าจะมีปัญหาอะไรมาก ซึ่งถ้ารอใด้ถึงมีนาก็ดีครับ ช่วงนี้ก็เก็บข้อมูลไปก่อนถึงเวลานั้นจริงๆ
ก็คงจะตัดสินใจใด้แล้ว

ออฟไลน์ zetturn

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 9
Re: การรอซื้อรถแบบนี้ คิดมากเกินไปไหมเนี่ย
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: กรกฎาคม 26, 2011, 10:29:09 »
ขอบคุณทุกท่านที่ช่วยแสดงความคิดเห็นกันนะครับ

ตอนนี้ี่คิดมากคือ ภาษีรถคันแรกกับ  ซื้อรถปลายปีนี้จะได้ราคาขายต่อสู้ซื้อรถต้นปีหน้าไม่ได้

- ภาษีรถคันแรกไม่หวังล่ะครับ ได้ก็ดีไม่มีก็ช่าง ไม่ซีเรียส

ต่อให้เป็นยี่ห้อตลาดยังไงการขายต่อเจ้าของก็ขาดทุนไม่ต่างกัน เงินที่ได้มาหลังการขายก็ต้องเอาเงินที่เก็บมาได้เพิ่มเข้าไปเพื่อซื้อทีด้าที่ใหญ่กว่า ซึ่งกรณีนี้ก็ควรจะซ์อทีด้าไปเลยทีเดียวจบกว่า

- ถ้าซื้อแล้วรถไม่มีปัญหาต้องซ่อม ก็กะจะใช้ยาวไปเลยครับ

เอาเข้าจริงๆแล้วภายในกระบะแค็บไม่ได้กว้างเลยนะครับ แค่คนนั่งหน้าสบายกว่านิดหน่อย
ส่วนในแค็บจากที่ใช้อยู่ ถ้าลูก 2 คนไปโรงเรียนแล้วมีกระเป๋าใบยักษ์แบบนักเรียนสมัยนี้
ในแค็บจะใส่อะไม่ได้แล้วครับ เด็กๆก็นั่งกันเกือบจะเต็มแล้วครับ


ออฟไลน์ Nikle_pk

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,678
Re: การรอซื้อรถแบบนี้ คิดมากเกินไปไหมเนี่ย
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: กรกฎาคม 26, 2011, 11:32:38 »
ผมเชียร์ให้ซื้อรถขนาดกลางขึ้นไปนะครับ

ไหนๆซื้อแล้วซื้อรถที่ใหญ่หน่อย กว้างหน่อยดีกว่าครับ

ที่กล้าแนะนำเพราะผมซื้อ March มาแทน Civic เพราะ

หวังเรื่องการประหยัดน้ำมัน สุดท้ายใช้มา 5 พันกว่า กิโล

ไม่ปลื้มครับ และรู้สึกเสียดาย ถ้าย้อนเวลาได้ซื้อ Civic ไปแล้วครับ
My Review !!! New Vellfire 2.5ZG Edition !!!
http://community.headlightmag.com/index.php?topic=44242.0

ออฟไลน์ Nuttie

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 989
Re: การรอซื้อรถแบบนี้ คิดมากเกินไปไหมเนี่ย
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: กรกฎาคม 26, 2011, 16:46:30 »
สำหรับบางคน ไม่ต้องคิดอะไรมาก บางทีไปลูบๆคลำๆก็ตัดสินใจจอง-ชื้อ เลย

แต่บางคนก็ใช้เวลาตัดสินใจอยู่น๊าน นาน


ผมว่าคิดไว้เยอะๆ มองไว้หลายๆทางน่ะดีแล้วครับ แต่อย่าถึงขนาดเครียดเพราะเลือกไม่ถูก

ผมก็เป็นอีกคนที่ตัวเลือกตอนนี้เยอะ ก็กำลังรอดูที่ทยอยๆจะเปิดตัวปลายปีนี้กับปีหน้าเนี่ยแหละครับ  :)

ออฟไลน์ CONANN

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 8
    • อีเมล์
Re: การรอซื้อรถแบบนี้ คิดมากเกินไปไหมเนี่ย
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: กรกฎาคม 26, 2011, 22:38:02 »
ตอนนี้ี่คิดมากคือ ภาษีรถคันแรกกับ  ซื้อรถปลายปีนี้จะได้ราคาขายต่อสู้ซื้อรถต้นปีหน้าไม่ได้

ถ้าคุณรู้ข้อมูลและเงื่อนไขอย่างละเอียดของนโยบายนี้คุณจะรู้ครับ ว่าไม่ควรรออย่างยิ่งหรือไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องรอ(ถ้าไม่รีบหรือไม่จำเป็นต้องใช้รถจะรอก็ไม่ว่ากัน) มันไม่ใช่ราคารถยนต์ลดลงไปทันที 100,000 อย่างที่หลายคนเข้าใจนะครับ สิ่งที่แปะไว้บนป้ายหาเสียงกับเงื่อนไขอย่างละเอียดของนโยบายมันต่างกันครับ จะว่าไปเขาก็ไม่ได้โกหกเพียงแต่ไม่ได้อธิบายให้ละเอียดตอนหาเสียงเท่านั้นเอง แบบนี้ล่ะครับที่เขาเรียกกันว่า "มันเป็นเทคนิคหาเสียง" หุหุ  ;)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 26, 2011, 23:20:59 โดย CONANN »

ออฟไลน์ H.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,896
    • อีเมล์
Re: การรอซื้อรถแบบนี้ คิดมากเกินไปไหมเนี่ย
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: กรกฎาคม 27, 2011, 01:04:37 »
จขกท. ใช้รถเหมือนครอบครัวผม มันทำให้ผมคิดหนักว่าจะซื้อรถดีมั้ย ซื้ออะไร สวิฟ,มาร์ช หรือ แจ็ซ (ผมมองแจ็ซน่าจะเอนกประสงค์)

หรือ....
ไม่ซื้อ
ใช้เช่าเอาเวลาไป ตจว.

ก็น่าคิดหนักนะ
H.