ผู้เขียน หัวข้อ: รู้สึกกันไหม ว่า B-segment(1.2 1.5) กับ C-segment(1.6 1.8)มีความแตกต่างน้อยลงเรื่อยๆในทุกด้าน  (อ่าน 22207 ครั้ง)

GreenG

  • บุคคลทั่วไป
ผมรู้สึกว่า ความแตกต่างของ B กับ C มันน้อยลงเรื่อยๆ เช่น

Vios City สมัยนี้ ฐานล้อใหญ่กว่า corolla สมัยก่อน และเท่ากับ altis เก่า
ส่วน New altis ฐานล้อยาวเท่ากับ almera

เบาะรถเล็กสมัยนี้ สามารถพับได้และมีที่วางแขนแบบรถใหญ่ในรุ่น top
มีเบาะหนัง และอุปกรณ์ความปลอดภัยมากกว่ารถ C-segment รุ่นเริ่มต้นซะอีก เช่น Altis 1.6E กับ City SV

Almera ตัว top กับ Altis 1.8G มีอุปกรณ์ใกล้เคียงกันมาก

คิดเห็นกันอย่างไรครับ

เพราะบางคนขับรถแต่ในเมือง ซื้อ C-seg เครื่อง 1.8 ก็ไม่ได้ออกต่างจังหวัด ไม่ขับเร็วๆกัน แล้วจะซื้อรถที่เครื่องใหญ่โตไปทำไมหนอ ;)

ถ้าอย่างนี้ใน อนาคต C-segment ต้องหาจุดเด่น เช่น ขับดี อุปกรณ์เยอะๆ มาเป็นจุดเด่นให้คนซื้อกันหรือเปล่าครับ

+อันนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ ต้องใช้วิจารณ์ญาณในการเชื่อนะครับ :D+
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 14, 2011, 18:51:34 โดย SilverG »

ออฟไลน์ Iwata Kana Σ4

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,483
  • Archievement in Control
    • อีเมล์
แต่ผมกลับคิดว่า

มันค่อยๆแทนที่เซกมนต์มากกว่าแหะ

จาก B -> C ทั้ง C -> D,D -> E ครับ
ความมีระดับ มาพร้อมศักดิ์ศรีที่เหนือใคร
มีเป้าหมาย ที่อะไรก็ไม่อาจขวาง
มีอำนาจ ที่เลือกใช้ได้ตามใจ
มีชีวิต อย่างที่ใคร ก็ไม่อาจปฎิเสธ

GreenG

  • บุคคลทั่วไป
ก็เป็นได้ครับ เพราะพี่ว่า อย่าง อัลติส(หน้าหมู)ที่บ้านพี่ พอไปเทียบกับ city ตัวใหม่ ภายในมันพอๆกันเลย
แต่หน้าสั้นกว่าเท่านั้นเอง

ส่วนรถพี่ น้องมีนา ฐานล้อมันยาวกว่า corolla(คันเก่า) ซะอีกครับ :D
คันเก่าพี่ ฐานล้อมันยาวกว่า brio หน่อยเดียวจริงๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 14, 2011, 16:01:39 โดย SilverG »

ออฟไลน์ joeyote

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 966
มันก็จริงนะครับ

บางที B seg บางคัน ยังทำทุกๆด้าน ได้ดีกว่า C seg บางคัน


เช่น City, Fiesta ใหม่ ผมมองว่า ดีกว่า Optra, Cedia, Sunny, Altis1.6โฉมก่อน ในด้านสมรรถนะ

มองแค่ด้านสมรรถนะ นะครับ ด้านอื่น ยังไม่ชัดมากกก

PAST: 2009 HONDA CITY SV
          2007 MINI ONE
          2007 PEUGEOT 207
          2013 HONDA ACCORD 2.0EL G9
          2016 MAZDA 2 Skyactiv XD High Plus L
NOW:  2012 ISUZU D-MAX Hilander 4DR Z/P
          2017 Subaru XV 2.0i-P

ออฟไลน์ YIM

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,015
  • ไม่น่ารัก เราไม่มอง!!
    • อีเมล์
แต่ผมกลับคิดว่า

มันค่อยๆแทนที่เซกมนต์มากกว่าแหะ

จาก B -> C ทั้ง C -> D,D -> E ครับ

เห็นด้วยอย่างยิ่ง

เอาง่ายๆ ในขณะที่ Vios ขยับเข้าใกล้ Corolla เมื่อ 20 ปีที่แล้ว Corolla Altis ก็ขยับเข้าใกล้ Camry หรืออาจจะแซงแล้วเหมือนกัน (แต่ที่แน่ๆ แซง Corona Exsior T190 แล้วแน่ๆ)

โดยมากเมื่อเวลาผ่านไป รถ segment เดิม มักจะใหญ่ขึ้น หรูขึ้น และที่สำคัญ แพงขึ้นไปเรื่ิอยๆ ดังนั้นการแบ่ง segment ที่ดูง่ายที่สุด คือดูตามราคา และชื่อชั้นครับ

เช่น รถ C-Segment เป็นรถ C-Segment เพราะมันหรู แพง และดีกว่ารถ B-Segment แต่ด้อยค่ากว่ารถ D-Segment ในช่วงเวลาเดียวกันครับ

บริษัทรถ หรือสินค้าอะไรก็แล้วแต่โดยปกติ marketing เขาจะต้องระวังให้มีช่องว่างของสินค้าแต่ละ segment อยู่แล้วครับ ไม่งั้นจะเกิดปัญหาสินค้าคนละ segment ตีกันเองได้ ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นก็เจ๊งครับ

คิดง่ายๆ สมมุติเมื่อ Nissan ทำให้ March ดีเท่า Sunny เมื่อ 20 ปีก่ิอน Nissan ก็ต้องทำให้ Tiida ดีเท่า Bluebird เมื่อ 20 ปีที่แล้วเหมือนกัน เพื่อรักษาช่องว่างระหว่าง March กับ Tiida เอาไว้ ไม่ให้มาทับกันเอง

เพราะถ้าเมื่อไรสินค้าระดับล่าง ใช้ดีใกล้เคียงสินค้าระดับบนเมื่อไร หรือผู้ใช้มองว่าสินค้าระดับล่างคุ้มค่ากว่าสินค้าระดับบนเมื่อไร ก็แสดงให้เห็นว่า ฝ่ายการตลาดกำลังเอ๋อแล้วครับ

ลองไปศึกษากรณี Camry V6 กับ Avalon ใน Australia ดูนะครับ อันนี้ชัดเจนมากว่า Avalon เป็นรถที่ไม่ได้่ดีกว่า Camry ชัดเจนนัก (แถม design ยังโบราณด้วย เพราะเอารถที่ตกรุ่นใน US มาขาย) ใช้เครื่อง V6 เหมือนกัน ผลก็คือ Camry ขายดีกว่า Avalon อย่างเทียบไม่ติด สุดท้ายทางแก้ของ Toyota คือ เลิกขาย Avalon แล้วแบ่ง Camry เป็นสองรุ่น คือรุ่นเครื่อง 4 สูบ เรียก Camry ส่วนรุ่น V6 เรียก Aurion แล้วแยกตลาดกันชัดเจน

อ้อ ลืมไป รถคนละ segment เนี่ย ถ้าจะเทียบ ต้องเทียบในช่วงเวลาเดียวกันเท่านั้นครับ เช่น ถ้า Altis E140 ก็ต้องเทีัยบกับ Vios XP90 ไม่ใช่ Vios ไปเทียบกับ AE101 อันนี้ก็ไม่แฟร์ครับ รถมันออกมาต่างกันตั้ง 20 ปี เทคโนโลยี และสภาวะทางการตลาดไม่เหมือนกัน


เพราะบางคนขับรถแต่ในเมือง ซื้อ C-seg เครื่อง 1.8 ก็ไม่ได้ออกต่างจังหวัด ไม่ขับเร็วๆกัน แล้วจะซื้อรถที่เครื่องใหญ่โตไปทำไมหนอ ;)

ถ้าอย่างนี้ใน อนาคต C-segment ต้องหาจุดเด่น เช่น ขับดี อุปกรณ์เยอะๆ มาเป็นจุดเด่นให้คนซื้อกันหรือเปล่าครับ

อีกอย่าง เป็นเรื่องสถานะทางสังคมครับ เพราะรถยังมีสถานะบางอย่าง เป็น luxury goods เหมือนกับ เสื้อผ้า นาฬิกาอยู่ การจ่ายแพงกว่า มันบ่งบอกถึงสถานะทางสังคมที่สูงกว่าได้ครับ และัมนุษย์ก็เป็นสัตว์สังคมที่ต้องการแสดงออกอยู่แล้ว (ที่สำคัญก็คือ เพื่อสืบพันธุ์ ;D) การแสดงออกว่าเรารวยกว่า มันเป็นสัญชาติญาณในการหาคู่อยู่แล้วครับ ดังนั้น คนที่ชอบอวดว่าขับ Benz สวมนาฬิกา Rolex มันก็มาจากธรรมชาติเรียกร้องด้วยส่วนหนึ่ง ซึ่งตรรกะ และเหตุผล อาจจะอธิบายไม่ได้เสมอไปครับ

ส่วนอีกคำถามนึง แน่นอนครับ ถ้่าบริษัทเขายังอยากขาย C-Segment เขาก็ต้องหาข้อดียัดเข้าไป ให้คุ้มค่ากับคนที่จะยอมจ่ายแพงขึ้น ถ้าไม่งั้น คนก็ไปเล่นรถเล็กหมดครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 14, 2011, 16:16:15 โดย YIM »
JDM เท่านั้น จะครองโลก!

ออฟไลน์ udis

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,674
มันก็จริงนะครับ

บางที B seg บางคัน ยังทำทุกๆด้าน ได้ดีกว่า C seg บางคัน


เช่น City, Fiesta ใหม่ ผมมองว่า ดีกว่า Optra, Cedia, Sunny, Altis1.6โฉมก่อน ในด้านสมรรถนะ

มองแค่ด้านสมรรถนะ นะครับ ด้านอื่น ยังไม่ชัดมากกก

สมรรถนะ จากที่เคยนั่งมา  Optra, Cedia, Sunny, Altis1.6 ผมรู้สึกว่าดีกว่า City, Fiesta ครับ
และยังไม่เคยเห็นว่า B seg คันไหนทำทุกๆด้านได้ดีกว่า C seg ครับ
 ;D ;D ;D

GreenG

  • บุคคลทั่วไป
เห็นด้วยกับ คุณ YIM ตอนนี้ บริษัทรถต้องหาจุดขายให้ได้ว่า C-seg ต่างจาก B-seg อย่างไร เพราะตัวรถมันไล่ๆเข้ามาเรื่อยๆครับ

ราคาก็ถูกกว่ามิฉะนั้น จะเป็นแบบญี่ปุ่นแน่ๆ เลย คนหันมาซื้อ B-seg หมด หรือไม่ก็ไปรถ MPV

ออฟไลน์ joeyote

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 966
มันก็จริงนะครับ

บางที B seg บางคัน ยังทำทุกๆด้าน ได้ดีกว่า C seg บางคัน


เช่น City, Fiesta ใหม่ ผมมองว่า ดีกว่า Optra, Cedia, Sunny, Altis1.6โฉมก่อน ในด้านสมรรถนะ

มองแค่ด้านสมรรถนะ นะครับ ด้านอื่น ยังไม่ชัดมากกก

สมรรถนะ จากที่เคยนั่งมา  Optra, Cedia, Sunny, Altis1.6 ผมรู้สึกว่าดีกว่า City, Fiesta ครับ
และยังไม่เคยเห็นว่า B seg คันไหนทำทุกๆด้านได้ดีกว่า C seg ครับ
 ;D ;D ;D

สมรรถนะของผม คือ อัตราเร่ง 0-100  80-120 และความเร็วสูงสุด
ถ้ารถ C seg ที่ผมกล่าวมา  ทำได้ดีกว่า B seg ที่ผมกล่าว
ผมว่าถูก  และผมเองก็บอกว่าบางคัน  ไม่ใช่ทุกคันนะครับบ   ;D ;D ;D ;D
PAST: 2009 HONDA CITY SV
          2007 MINI ONE
          2007 PEUGEOT 207
          2013 HONDA ACCORD 2.0EL G9
          2016 MAZDA 2 Skyactiv XD High Plus L
NOW:  2012 ISUZU D-MAX Hilander 4DR Z/P
          2017 Subaru XV 2.0i-P

ออฟไลน์ YIM

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,015
  • ไม่น่ารัก เราไม่มอง!!
    • อีเมล์
เห็นด้วยกับ คุณ YIM ตอนนี้ บริษัทรถต้องหาจุดขายให้ได้ว่า C-seg ต่างจาก B-seg อย่างไร เพราะตัวรถมันไล่ๆเข้ามาเรื่อยๆครับ

ราคาก็ถูกกว่ามิฉะนั้น จะเป็นแบบญี่ปุ่นแน่ๆ เลย คนหันมาซื้อ B-seg หมด หรือไม่ก็ไปรถ MPV

ที่ญี่ปุ่นเนี่ย เหตุผลที่เขาไม่ซื้อรถใหญ่กันเพราะ

1. หาที่จอดยาก
2. ค่าทางด่วนแพงมาก ถ้าเดินทางไกลๆ นั่งรถไฟดีกว่า
3. ตรอกซอกซอยเขาแคบ ฝีมือไม่ถึง เป็นรอยแน่
4. รถใหญ่เกินพิกัดภาษี 5-Number เสียภาษีเพิ่มอีก (แต่เดี๋ยวนี้ ไม่ค่อยมีผลแล้ว)
5. Kei Car (รถเครื่อง 660 เช่น Wagon R, Mira) เสียภาษีถูกกว่า ค่าทางด่วนถูกกว่า ไม่ต้องยื่นหลักฐานที่จอดรถ

ที่ญี่ปุ่นมันไม่ใช่ว่าซื้อรถใหญ่แล้วไม่คุ้มหรอกครับ แต่วิถีชีวิตเขา ไม่เหมาะกับรถใหญ่เลยเสียมากกว่า

ในทางตรงข้ามถ้าเป็น US
1. ถนน Interstate ทั้งยาว ทั้งใหญ่
2. ระบบรถไฟไม่ค่อยเท่าไร เลยต้องขับรถเดินทางบ่อย
3. คนตัวใหญ่

จึงต้องใช้รถเครื่องใหญ่ เพื่อจะได้ไม่ต้องใช้รอบสูงมาก และตัวถังใหญ่ เพื่อให้นั่งทางไกลไม่อึดอัด

ส่วนเมืองไทย อืมม...... ตอนนี้ยังดูไม่ออก รู้แค่อย่างเดียว กระบะท้าย ใช้่ประโยชน์ได้สากกะเบือยันเรือรบ
JDM เท่านั้น จะครองโลก!

GreenG

  • บุคคลทั่วไป
ผมดีใจนะครับ ที่นอกจาก city แล้ว ยังมี almera ที่น่าใช้มากๆ
เป็น Eco car คันใหญ่กว่า Altis(หน้าหมู)

ยังไงถ้าแม่จะซื้อคันใหม่จริงๆ จะแนะนำคันนี้เป็น เบอร์ 1 ไม่เอาอัลติสแน่ๆครับ

ออฟไลน์ Tan Int

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,709
    • อีเมล์

แน่นอนว่า ส่วนมาก ถ้ารถเปลี่ยนรุ่นใหม่
ขนาดมักเพิ่มทีละนิดๆ จนมันเริ่มเหยียบอีก Segment ในอดีต.......

(ยกเว้น Civic Hatchback ตัวปัจจุบัน รายนั้นสาละวันเตี้ยลง เล็กกว่าเดิม)

แต่ถ้าลองเทียบกันรุ่นต่อรุ่น
เช่น Vios J AT กับ Altis J AT
วีออสได้แพ้พอดี

ยกเว้นเอาราคาว่า
เช่น Vios G Limited กับ Altis J MT
วีออสชนะ
1994 Civic EH9 (4dr) VTi (Made in Japan)
1998 Civic EK 1.6VTi-E Special Edition
2011 Corolla Altis E CNG (Come back)

ออฟไลน์ Oslan

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 659
ผมว่าไม่ครับ ถ้าเอารถอดีต ไปเทียบกับรถปัจจุบัน รถปัจจุบันก็ย่อมดีกว่าอยู่แล้ว เพราะทุกอย่างมันพัฒนาขึ้น
ฉะนั้นผมว่าถ้ามองว่า B จะมาเทียบ C โดยดูจากรถ B ปัจจุบันไปเทียบกับ C อดีัต มันก็ไม่ถูกต้องนัก

ถ้าเราจะเทียบจริงๆ ก็ควรเทียบ C และ B รุ่นปัจจุบันทั้งคู่ ซึ่งก็ต้องดูต่อไปอีกว่าคันไหนออกก่อน ออกหลัง
ซึ่งถ้าเป็นตัวปัจจุบันทั้งคู่ แล้ว B ออกมาหลัง C สัก 2 ปี จะมีเทคโนโลยีใหม่กว่าก็ไม่แปลก

ส่วนเรื่อง Option หรืออุปกรณ์ อย่างเบาะหนัง เบาะพับได้ บลาๆ อย่าเอามานับเลยครับ การตลาดทั้งนั้น
ตัวท็อปนี่ทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ ผมว่าน่าจะรู้กันอยู่แล้วว่ามันการตลาด ระหว่างเลือก Option เยอะ หรือได้รถที่สมรรถนะดีขึ้น ในราคาไล่เลี่ยกัน ซึ่งไม่น่าจะเอามาเป็นประเด็นเลยครับ

หรือเอาง่ายๆ ถ้าเทียบตัวท็อป B กับตัวท็อป C ยังไงตัวท็อป C ก็ยังมี Option ที่เหนือกว่า
ซึ่งผมเชื่อว่าหลายคนมอง Option ตัวท็อปส่วนใหญ่จะเป็นอะไรที่สิ้นเปลือง ไม่จำเป็น ซึ่งก็นั่นแหละครับ มันคือการตลาด ขึ้นอยู่กับที่ว่าคุณจะเลือก Option หรือจะเลือกรถที่เลื่อนระดับขึ้นมาอีกชั้นหนึ่ง

ปล.ขอฝากความคิดเห็นนะครับ
ออกตัวก่อน ผมไม่ได้ไม่ชอบคุณ SilverG หรืออคติอะไรนะครับ แต่อ่านแล้วมันรู้สึกได้จริงๆ
คือ เชียร์ Almera หรือพวกรถเล็กมากไปมั้ยครับ = =''

GreenG

  • บุคคลทั่วไป
ปล.ขอฝากความคิดเห็นนะครับ
ออกตัวก่อน ผมไม่ได้ไม่ชอบคุณ SilverG หรืออคติอะไรนะครับ แต่อ่านแล้วมันรู้สึกได้จริงๆ
คือ เชียร์ Almera หรือพวกรถเล็กมากไปมั้ยครับ = =''

ผมชอบครับ เลยรู้สึกการมาของมันคุ้มค่า ในแง่คนมีครอบครัว สามารถซื้อรถใหญ่ในราคารถเล็ก :)

ออฟไลน์ YenChar

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,179
ออกตัวก่อนว่าผมก็ชอบรถเล็กนะ


แต่ผมว่า คุณ จขกท ตั้งกระทู้แนวๆนี้อีกแล้ว

.....

เข้าเรื่อง

บ้านแม่ยายผม ใช้ BMW E36 เอามาเทียบกับน้องออสผม
มิติห้องโดยสาร น้องออสผมใหญ่กว่า ความกว้าง ก็กว้างกว่า

ในขณะที่ Lancer EX  มาเทียบกับ มิตซุท้ายเบนซ์
ก็เห็นความต่างชัดเจนแล้วครับ

ออฟไลน์ Oslan

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 659
เพราะบางคนขับรถแต่ในเมือง ซื้อ C-seg เครื่อง 1.8 ก็ไม่ได้ออกต่างจังหวัด ไม่ขับเร็วๆกัน แล้วจะซื้อรถที่เครื่องใหญ่โตไปทำไมหนอ ;)

คือ ยกตัวอย่างประโยคนี้ ผมอ่านแล้วมันรู้สึกได้น่ะครับ มันดูชักนำความคิดมากไป ซึ่งผมก็ไม่เห็นด้วยเท่าไหร่

C ไม่ได้ดีกว่า B แค่ที่เครื่องนะครับ มันบ่งบอกได้หลายสิ่ง หลายอย่าง ขึ้นอยู่กับคนๆนั้นต้องการอะไรในตัวรถ

ตัวอย่างก็ง่ายๆ คนบางคนไม่ได้ออกต่างจังหวัด ไม่ขับเร็วๆ แต่ซื้อ D-seg เพราะต้องการความสบาย ความหรูหรา ต้องการบ่งบอกฐานะและการยอมรับทางสังคม
หรือบางคนนานๆ ออกต่างจังหวัดที ปีละครั้ง ก็อาจคิดเผื่อเอาไว้ได้ ให้ขับสบาย นั่งสบาย มีไว้ดีกว่าขาดเมื่อยามจำเป็นครับ

สังคมคนไทยส่วนใหญ่ก็เป็นอย่างที่ผมยกตัวอย่าง ซึ่งอาจมีบางกลุ่มคิดต่าง เอาความคุ้มค่าเข้าว่า ซึ่งก็ไม่ได้ผิดอะไร (ผมก็อยู่ในกลุ่มหลังนี่เหมือนกันครับ)

แต่ผมว่าการชักนำความคิดมากเกินไปนี่สิครับ ที่มันไม่ดีเท่าไหร่ บางคนอ่านอาจจะไม่รู้ึสึกอย่างผมก็ได้ แต่ผมอ่านแล้วมันรู้สึกได้จริงๆ เหมือนนั่ง Taxi แล้วเจอพวกยัดเยียดให้ไปนับถือคริสต์แบบอ้อมๆ อะครับ (คนเคยเจอคงเข้าใจนะครับ 555)

GreenG

  • บุคคลทั่วไป
อิอิอิ ... จะมาไปเน้อ ผม  ;)

ใช่แล้ว เพื่อนๆพี่ๆน้องๆ เขียนมาจริงครับ บางทีผมมองแบบชักนำความคิดไปหน่อย
แต่ว่าจริงๆก็อยากเสนอความเห็นครับ

ต้องเบาๆลงบ้างดีกว่าครับ ;)


ออฟไลน์ udis

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,674
มันก็จริงนะครับ

บางที B seg บางคัน ยังทำทุกๆด้าน ได้ดีกว่า C seg บางคัน


เช่น City, Fiesta ใหม่ ผมมองว่า ดีกว่า Optra, Cedia, Sunny, Altis1.6โฉมก่อน ในด้านสมรรถนะ

มองแค่ด้านสมรรถนะ นะครับ ด้านอื่น ยังไม่ชัดมากกก

สมรรถนะ จากที่เคยนั่งมา  Optra, Cedia, Sunny, Altis1.6 ผมรู้สึกว่าดีกว่า City, Fiesta ครับ
และยังไม่เคยเห็นว่า B seg คันไหนทำทุกๆด้านได้ดีกว่า C seg ครับ
 ;D ;D ;D

สมรรถนะของผม คือ อัตราเร่ง 0-100  80-120 และความเร็วสูงสุด
ถ้ารถ C seg ที่ผมกล่าวมา  ทำได้ดีกว่า B seg ที่ผมกล่าว
ผมว่าถูก  และผมเองก็บอกว่าบางคัน  ไม่ใช่ทุกคันนะครับบ   ;D ;D ;D ;D

ถ้าคิด 0-100 ตามข้อมูล HLM ก็ยังมี Accord, Lancer EX, Impreza , Lagacy, Sonata, Mazda3, Focus
จริงๆ Civic FD 1.8 ก็เกือบแพ้ครับ ห่างกัน 0.18 วินาทีเองครับ

สำหรับสมรรถนะของผม คือ อัตราเร่ง ช่วงล่าง การควบคุม ระบบเบรค
ถ้ามีคนถามว่า Accord กับ City คันไหนสมรรนะดีกว่า ผมจะตอบว่า City ตามที่คุณบอกก็แล้วกันครับ
 ;D ;D ;D

ออฟไลน์ YenChar

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,179
คนขับซีวิค ดูดีมีฐานะกว่า คนขับซิตี้


ทั้งๆที่ใครจะไปรู้  คนขับซิตี้ อาจจะมีทรัพย์สินมากกว่าคนขับซีวิค
มีหน้าที่การงานที่ดีกว่า

เพียงแค่  เค้าพอใจแค่ซิตี้ ไม่ต้องการรถที่ใหญ่มากไปกว่านี้
แค่นั้นเอง
....

ผู้ใหญ่ที่ผมรู้จักท่านนึง ดูเผินๆเหมือนผู้หญิงวัยกลางคนธรรมดาๆ
ท่านขับยาริส เพราะท่านพอใจแค่นี้ ไม่ต้องการรถที่ใหญ่มากไปกว่านี้
ทั้งๆที่ท่านมีเงินพอจะซื้อรถใหญ่กว่านี้ได้สบายๆ แต่ท่านก็ไม่เอา เพราะมันไม่จำเป็น...

ออฟไลน์ lexus

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,240
มันก็น่าคิดนะคับ สำหรับคนที่ดูc segmentมือ2 กับจะซื้อb segmentมือ1 (เคยคิดเทียบกันอยู่เหมือนกัน ;D)

ออฟไลน์ joeyote

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 966
มันก็จริงนะครับ

บางที B seg บางคัน ยังทำทุกๆด้าน ได้ดีกว่า C seg บางคัน


เช่น City, Fiesta ใหม่ ผมมองว่า ดีกว่า Optra, Cedia, Sunny, Altis1.6โฉมก่อน ในด้านสมรรถนะ

มองแค่ด้านสมรรถนะ นะครับ ด้านอื่น ยังไม่ชัดมากกก

สมรรถนะ จากที่เคยนั่งมา  Optra, Cedia, Sunny, Altis1.6 ผมรู้สึกว่าดีกว่า City, Fiesta ครับ
และยังไม่เคยเห็นว่า B seg คันไหนทำทุกๆด้านได้ดีกว่า C seg ครับ
 ;D ;D ;D

สมรรถนะของผม คือ อัตราเร่ง 0-100  80-120 และความเร็วสูงสุด
ถ้ารถ C seg ที่ผมกล่าวมา  ทำได้ดีกว่า B seg ที่ผมกล่าว
ผมว่าถูก  และผมเองก็บอกว่าบางคัน  ไม่ใช่ทุกคันนะครับบ   ;D ;D ;D ;D

ถ้าคิด 0-100 ตามข้อมูล HLM ก็ยังมี Accord, Lancer EX, Impreza , Lagacy, Sonata, Mazda3, Focus
จริงๆ Civic FD 1.8 ก็เกือบแพ้ครับ ห่างกัน 0.18 วินาทีเองครับ

สำหรับสมรรถนะของผม คือ อัตราเร่ง ช่วงล่าง การควบคุม ระบบเบรค
ถ้ามีคนถามว่า Accord กับ City คันไหนสมรรนะดีกว่า ผมจะตอบว่า City ตามที่คุณบอกก็แล้วกันครับ
 ;D ;D ;D

แต่โจทย์เค้าถามถึง  B และ C seg       Accord, Legacy, Sonata เป็น D-seg  ดังนั้นผมจะไม่นำมาเทียบ ตามโจทย์
ตีโจทย์ให้แตกด้วยนะครับ      แล้วผมก็ได้ย้ำไปแล้ววววววววววววว ว่าบางคัน  กลับไปอ่านให้ชัดๆด้วยนะครับ  ;D ;D ;D ;D
PAST: 2009 HONDA CITY SV
          2007 MINI ONE
          2007 PEUGEOT 207
          2013 HONDA ACCORD 2.0EL G9
          2016 MAZDA 2 Skyactiv XD High Plus L
NOW:  2012 ISUZU D-MAX Hilander 4DR Z/P
          2017 Subaru XV 2.0i-P

ออฟไลน์ Terng

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,762
มันก็จริงนะครับ

บางที B seg บางคัน ยังทำทุกๆด้าน ได้ดีกว่า C seg บางคัน


เช่น City, Fiesta ใหม่ ผมมองว่า ดีกว่า Optra, Cedia, Sunny, Altis1.6โฉมก่อน ในด้านสมรรถนะ

มองแค่ด้านสมรรถนะ นะครับ ด้านอื่น ยังไม่ชัดมากกก

สมรรถนะ จากที่เคยนั่งมา  Optra, Cedia, Sunny, Altis1.6 ผมรู้สึกว่าดีกว่า City, Fiesta ครับ
และยังไม่เคยเห็นว่า B seg คันไหนทำทุกๆด้านได้ดีกว่า C seg ครับ
 ;D ;D ;D

สมรรถนะของผม คือ อัตราเร่ง 0-100  80-120 และความเร็วสูงสุด
ถ้ารถ C seg ที่ผมกล่าวมา  ทำได้ดีกว่า B seg ที่ผมกล่าว
ผมว่าถูก  และผมเองก็บอกว่าบางคัน  ไม่ใช่ทุกคันนะครับบ   ;D ;D ;D ;D

ถ้าคิด 0-100 ตามข้อมูล HLM ก็ยังมี Accord, Lancer EX, Impreza , Lagacy, Sonata, Mazda3, Focus
จริงๆ Civic FD 1.8 ก็เกือบแพ้ครับ ห่างกัน 0.18 วินาทีเองครับ

สำหรับสมรรถนะของผม คือ อัตราเร่ง ช่วงล่าง การควบคุม ระบบเบรค
ถ้ามีคนถามว่า Accord กับ City คันไหนสมรรนะดีกว่า ผมจะตอบว่า City ตามที่คุณบอกก็แล้วกันครับ
 ;D ;D ;D

แต่โจทย์เค้าถามถึง  B และ C seg       Accord, Legacy, Sonata เป็น D-seg  ดังนั้นผมจะไม่นำมาเทียบ ตามโจทย์
ตีโจทย์ให้แตกด้วยนะครับ      แล้วผมก็ได้ย้ำไปแล้ววววววววววววว ว่าบางคัน  กลับไปอ่านให้ชัดๆด้วยนะครับ  ;D ;D ;D ;D
ขอปรามตามประสาเพื่อนพี่น้องนะครับว่าพอหอมปากหอมคอแล้วกัน เดี๋ยวบานปลายครับผม ความคิดเห็นแตกต่างกันได้แต่อย่าแตกแยกคร้าบ
=====================
รถที่ใช้เป็นประจำ
2013 Toyota Camry Extremo 2.0
2015 Ford Ranger T6 XLT Open Cab 2.2 MT
2018 Toyota CHR HV Mid
=====================

ออฟไลน์ 5thAvenue

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,434
  • Hi!!!!
    • อีเมล์

"กิเลส"ของมนุษย์ ทำให้ยังต้องมี Segment ของรถต่อไป
"การแข่งขัน" ทางตลาดทำให้รถต้องพัฒนาในทุกๆ ด้าน


ออฟไลน์ Terng

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,762
ผมก็เคยคิดครับ ไอ้เรื่องจะ B or C-Segment เคยคิดว่าจะเอา City / Altis ดีหว่า

สุดท้ายเอาอัลติส 1.6 ครับ เพราะห้องโดยสารกว้างกว่า สมรรถนะไม่ใช่เรื่องใหญ่ไม่ได้เอาไปแข่ง ภาพลักษณ์ก็ดูดีกว่า เคยมีคนขึ้นมาบนรถผมแล้วถามว่าโห นี่คันเป็นล้านเลยใช่มั้ย (บังเอิญผมติดจอและเปลี่ยนมาตรวัดเรืองแสงมาสองอย่างเลยไปคล้าย 2.0 หรือแคมรีก็ไม่แน่ใจ) อาจารย์ก็พาลไปนึกว่ามันเป็นแคมรีด้วยวันที่ผมไปเยี่ยม โดนแซวว่ารวยจนซื้อแคมรีขับได้แล้วเหรอเก่งจริงๆ ส่วนนึงที่ซื้อ C-Segment มาก็เพราะอิมเมจเหล่านี้ด้วยแหละครับ เพราะในเมื่อ B/C มันไม่ได้แตกต่างกันมากขนาดนั้น ผมจ่ายเพิ่มได้รถใหญ่กว่าที่กว้างกว่า (ความกว้างนะครับ ไม่ใช่ฐานล้อ ยืดเท้าได้สุดแล้วหัวไหล่เบียดกันก็ไม่ดีอยู่ดีแหละครับ) และได้ภาพลักษณ์ที่ดีกว่า ก็คุ้มกว่าในสายตาผมอยู่ดี

ไม่งั้นผมไปออกมาร์ชมาขับก็ได้ครับถ้าผมไม่แคร์สองเรื่องที่ผมบอก ดังนั้นต่างคนต่างคิดเวลาเลือกรถ รถที่ตัวเองเลือกมาย่อมดีสำหรับตัวเองที่สุดอยู่แล้วครับ  ;)
=====================
รถที่ใช้เป็นประจำ
2013 Toyota Camry Extremo 2.0
2015 Ford Ranger T6 XLT Open Cab 2.2 MT
2018 Toyota CHR HV Mid
=====================

ออฟไลน์ MoO Cnoe

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,487
    • อีเมล์
สำหรับโดยส่วนตัวผม คิดว่ายังไงก็ยังเทียบไม่ได้อะครับ
ถึงจะ B-seg ตัวใหม่ กับ C-seg ตัวเก่าก็เถอะ

คิดดูอย่างภาพรวมนะครับ ในด้านของราคา
เช่น ตอนที่civic เตารีดออกมาใหม่ๆ ราคา
มันเท่ากับ brio ตอนนี้นะครับ ทำให้เห็นว่า
ขนาดมันสัมพันธ์กับราคา ยิ่งใหญ่ขึ้นยิ่งแพง
ถึง C-seg เมื่อก่อนขนาดเท่ากับ B-seg ปัจจุบัน
แต่ต้องอย่าลืมว่า ราคามันเท่ากันนะครับ

อีกตัวอย่างนึง ที่เห็นได้ชัดก้คือ ขนาดที่เรามองเห็นภายนอก
เช่น Cefiro A32 กับอัลติสตัวปัจจุบัน ยังไงๆ มองจากข้างนอก
อัลติสก็ใหญ่กว่า แ่ต่นั่งข้างในจริงๆแล้ว ยังไงอัลติส
้ก้ไม่นั่งสบายเท่าเซฟิโร่อยู่ดี ทั้งๆที่ข้างนอกมันดูใหญ่กว่าชัดๆ
เป็นเพราะรูปทรงของรถด้วย ที่รถใหม่ๆเดี๋ยวนี้ จะออกแนว
พองลมนะครับ

ประเด็นถัดมาเรื่องทำไมใช้แค่ในเมือง ต้องขับรถใหญ่ๆด้วย
บางท่านเห็นเรื่องความปลอดภัยเป็นหลักสำคัญ แพงยังไง
แต่ถ้ามันปลอดภัยกว่า เค้าก็พร้อมที่จะจ่ายครับ
เพราะร่างกายคนเราไม่ได้ซ่อมได้ง่ายและกลับคืนมายาก
เช่น คุณขับเทียน่า กับคุณขับมาร์ช ถ้าโดนชนแรงๆ
คุณคิดว่าใครจะบาดเจ็บน้อยกว่ากันครับ ถ้าปัจจัยภายนอก
และสถานการณ์เหมือนกันทั้งหมด

ใช่ครับที่อาจจะบอกได้ว่าอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยก็มีมาให้เหมือนกัน
ถุงลมก็มีเท่ากัน ระบบเข็มขัดนิรภัยดึงกลับก็มีเหมือนกัน
ABS EBD เหมือนกัน แต่ "โครงสร้างทางวิศวกรรม"
ต่างกันมากครับ นี่ก็เป็นเหตุผลหลักว่าทำไมหลายๆคนถึง
ยอมที่จะซื้อรถใหญ่ทั้งๆที่ใช้แค่ในเมือง

ออฟไลน์ Surrealism

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 27
เอาของใหม่ไปเทียบกับของเก่า คุณก็เห็นแต่ข้อดีของ ของใหม่ครับ
ถ้าจะเทียบ B กับ C ก็ควรจะเทียบในยุคเดียวกันสิครับ และที่สำคัญควรจะเป็น
บริษัทรถเดียวกันด้วย
ง่ายๆ  ทีด้า กับ มาร์ช ต่างกันไหม
หรือจะมีใครบอกว่า เฟียสต้าตัวท๊อป ไม่ต่าง กับ Focus TDCI


ส่วนเรื่องรถใหญ่ ง่ายๆครับ  กรุงเทพไม่ได้มีแค่
โซนรถติดทั้งหมด และ ซื้อรถมาคงไม่ได้ขับแค่ชั่วโมงเร่งด่วนครับ

ถ้าจะคุยประเด็นนี้ 
พูดแล้วก็วนไปวนมา แล้วกลับมาที่ความชอบส่วนตัวของแต่ละคนอีกครับ
พึ่งจะกระทู้ที่แล้ว จขกท ลืมแล้วเหรอครับ

ออฟไลน์ 6162002

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,089
มันก็จริงนะครับ

บางที B seg บางคัน ยังทำทุกๆด้าน ได้ดีกว่า C seg บางคัน


เช่น City, Fiesta ใหม่ ผมมองว่า ดีกว่า Optra, Cedia, Sunny, Altis1.6โฉมก่อน ในด้านสมรรถนะ

มองแค่ด้านสมรรถนะ นะครับ ด้านอื่น ยังไม่ชัดมากกก

สมรรถนะ จากที่เคยนั่งมา  Optra, Cedia, Sunny, Altis1.6 ผมรู้สึกว่าดีกว่า City, Fiesta ครับ
และยังไม่เคยเห็นว่า B seg คันไหนทำทุกๆด้านได้ดีกว่า C seg ครับ
 ;D ;D ;D

สมรรถนะของผม คือ อัตราเร่ง 0-100  80-120 และความเร็วสูงสุด
ถ้ารถ C seg ที่ผมกล่าวมา  ทำได้ดีกว่า B seg ที่ผมกล่าว
ผมว่าถูก  และผมเองก็บอกว่าบางคัน  ไม่ใช่ทุกคันนะครับบ   ;D ;D ;D ;D

ถ้าคิด 0-100 ตามข้อมูล HLM ก็ยังมี Accord, Lancer EX, Impreza , Lagacy, Sonata, Mazda3, Focus
จริงๆ Civic FD 1.8 ก็เกือบแพ้ครับ ห่างกัน 0.18 วินาทีเองครับ

สำหรับสมรรถนะของผม คือ อัตราเร่ง ช่วงล่าง การควบคุม ระบบเบรค
ถ้ามีคนถามว่า Accord กับ City คันไหนสมรรนะดีกว่า ผมจะตอบว่า City ตามที่คุณบอกก็แล้วกันครับ
 ;D ;D ;D

แต่โจทย์เค้าถามถึง  B และ C seg       Accord, Legacy, Sonata เป็น D-seg  ดังนั้นผมจะไม่นำมาเทียบ ตามโจทย์
ตีโจทย์ให้แตกด้วยนะครับ      แล้วผมก็ได้ย้ำไปแล้ววววววววววววว ว่าบางคัน  กลับไปอ่านให้ชัดๆด้วยนะครับ  ;D ;D ;D ;D

เท่าที่ผมจับใจความได้ โจทย์ที่คุณสองคนพูดถึงกันอยู่คือ "สมรรถนะ" นี่ครับ  แล้วคุณก็บอกว่า มันคืออัตราเร่ง เพราะงั้น จะเอา C หรือ D Segment มาเทียบก็ไม่น่าจะผิดอะไรนะครับ นอกจากคุณจะบอกว่า สมรรถนะ B ดีกว่า C แต่ D ดีที่สุด ทั้งที่ อัตราเร่ง(ซึ่งคุณบอกว่ามันคือ สมรรถนะ) แย่กว่า B ครับ (ถึงจะบางคันก็ตาม)

ก็ไม่ได้บอกว่าใครผิดนะครับ แต่ถ้าคุณยืนยันว่า "สมรรถนะ" หมายถึงอัตราเร่งอย่างเดียวจริงๆ มันก็จริงตามที่คุณ udis บอกแล้วครับ  อย่าทะเลาะกันเพราะเรื่องแค่นี้เลยครับ
เพราะคำว่า "สมรรถนะ" ของสองท่านไม่เหมือนกัน  (แต่ผมก็เข้าใจคำว่า สมรรถนะตามคุณ udis เหมือนกันแฮะ)

ออฟไลน์ Cross MPV

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 325
มันขยับแค่เรื่องตัวถังครับ
แต่เรื่องตัว Base ของรถยนต์แต่ละ Segment ยังคงเหมือนเดิม

ลองคิดดูว่าช่วงล่างของ Vios ก็ยังเทียบของ Altis ไม่ได้อยู่ดีนั่นแหละครับ
(ถอยไปแค่ Altis รุ่นก่อน เพราะตัวถังไม่ต่างจาก Vios มากนัก)
ส่วนเครื่องยนต์นั้น ถ้าเทียบจากอดีตมามันก็ย่อมดีขึ้นตามลำดับ
หรือคุณบอกว่า B Segment ดีขึ้นแล้ว C Segment ห่วยลง มันก็ดีขึ้นพร้อมๆ กันครับ

จริงๆ คุณฌองก็เคยขับรถมานานแล้วหนิครับ น่าจะรู้ว่าส่วนที่มันพัฒนาขึ้น
มันคือตัวถังที่ตีโป่งมากขึ้น อ็อพชั่นมากขึ้น และก็สำคัญที่สุดที่เป็นจุดประสงค์ของบริษัทผลิตรถยนต์
นั่นก็คือ "การขึ้นราคา" ดังนั้นต่อไปแม้มันจะขยับไปอีกสักเท่าไร ราคามันก็ขึ้นตามกลายเป็นห่วงโซ่อยู่ดี

++++++++++++++++++
ส่วนเรื่องว่าคนขับรถแต่ในเมือง จะขับคันใหญ่ไปเพื่ออะไร?

ตรงนี้ขอแทรกนิดหนึ่งว่า จริงๆแล้ว C Segment ไม่ถือเป็นรถใหญ่นะครับ มันคือ Compact Car
นี่ตะหากที่จะบอกว่ามันเป็นรถที่ใช้ขับขี่ไปไหนมาไหนทั่วไปในขนาดที่ไม่ใหญ่โตมาก
ส่วน B Segment คือ Sub Compact นั่นก็แปลว่าเล็กกว่าเขาหน่อยหนึ่ง (รากฐานคำว่า Sub คือครึ่ง)

มาเข้าคำถามจริงๆ ผมว่ามันเป็นสิทธิ์ส่วนบุคคลนะครับ บางคนขับรถคันใหญ่ไม่ใช่ว่าจะเอามาผลาญน้ำมันหรอก
แต่บางคนนั่งรถคันเล็กแล้วรู้สึกอีดอัด ไม่โปร่งโล่ง หรือบางคนอาจจะชื่นชอบในช่วงล่างของรถคันนั้นที่รถเล็กให้ไม่ได้
หรือแม้แต่ตัวถังที่ใหญ่ขึ้น มันทำให้ผู้ใช้รถเขารู้สึกสบายใจกว่าถ้าขับในเมืองแล้วเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา
Find a vacuum and fill it.

ออฟไลน์ YIM

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,015
  • ไม่น่ารัก เราไม่มอง!!
    • อีเมล์
อันนี้ผลการทดสอบ ระหว่าง Camry กับ Vios

เอาไปดูกันเล่นๆ ครับ

JDM เท่านั้น จะครองโลก!

ออฟไลน์ 6162002

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,089
อันนี้ผลการทดสอบ ระหว่าง Camry กับ Vios

เอาไปดูกันเล่นๆ ครับ



จริงๆก็พอจะเดาออกอยู่ว่า ยังไงแคมรี่ก็แข็งแรงกว่า แต่ไม่คิดว่าจะต่างกันขนาดนี้เลยครับ ขอบคุณสำหรับคลิปครับ  อยู่ในวีออสนี่ ถ้าไม่รัดเข็มขัด ตายแหงมๆ ตกออกมานอกรถโดนทับไปอีกรอบ *-*

ออฟไลน์ Oslan

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 659
Vios กระเทือนถึงตูด = =''