ผู้เขียน หัวข้อ: สงสัยมานานแล้วว่า ทำไมรถเกรย์ญี่ปุ่นไม่ค่อยมีปัญหาเรืองน้ำมัน แต่รถเกรย์ยุโรปมี  (อ่าน 4251 ครั้ง)

ออฟไลน์ YIM

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,015
  • ไม่น่ารัก เราไม่มอง!!
    • อีเมล์
ไม่เคยได้ยินเลยว่า Alphard เติมน้ำมันแล้วรวน หรือ Estima เครื่องดับ อะไรแบบนี้ แต่รถยุโรป นี่ได้ยินเป็นประจำ มันเป็นเพราะอะไรครับ ขอบคุณครับ
JDM เท่านั้น จะครองโลก!

civicferio

  • บุคคลทั่วไป
คิดว่าอยู่ที่ระบบการทำงานของเครื่องมากกว่า หลังๆรถยุโรปมันใช้ระบบหัวฉีดอิเลกทรอนิคบวกกับกลไกที่ชับซ้อนกว่า
แน่นอนในขนาดเครื่องเดียวกัน เครื่องยุโรปจะทำงานได้ดีกว่ารถญี่ปุ่น ที่ส่วนใหญ่เน้นระบบที่ล้ากว่ารถยุโรป แต่ความง่ายของระบบมันกลับกลายเป็นดีในแง่ไม่จุกจิก

เทียบกับคนก็เหมือนให้ไฮโซ กับชาวนากินส้มตำปลาร้านั่นแหละ ไฮโซบางคนกินท้องอาจเสียก็มีเพราเคยกินแต่อาหารดีๆ

ออฟไลน์ J!MMY

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 15,628
    • www.headlightmag.com
    • อีเมล์
เรื่องมาตรฐานด้านมลพิษ คือประเด็นสำคัญครับ

ในความเป็นจริง ยุโรป มีการใช้ มาตรการด้านการควบคุมมลพิษที่เข้มงวดกว่าเรามาก
และเข้มงวดกว่าญี่ปุ่นเองด้วยซ้ำ มาตรฐานด้านมลพิาของญี่ปุ่นในยุคหนึ่ง
ยังถือว่า ล้าหลังเมืองไทย แต่ตอนนี้ ดูเหมือนว่า จะพอกัน หรือนำหน้าไปนิดเดียว ไม่เยอะ

น้ำมันที่ขายในญี่ปุ่นนั้น มีความแตกต่างจากบ้านเรา แต่ไม่เยอะมากพอจะกลายเป็นประเด็น
เท่ากับน้ำมันที่ขายกันในยุโรปตอนนี้ ซึ่งมีความสะอาดของสน้ำมัน รวมทั้ง ช่วยในการลดมลพิษ
จากท่อไอเสียลงได้ จนเหลือระดับ Euro 5 (และใกล้จะเป็น Euro 6 กันในอีกไม่นานนัก)

ขณะที่บ้านเรา ย่ำอยู่กับ Euro 3 มานานหลายปีแล้ว กำลังจะไป Euro 4 ในต้นปีหน้า
ความล่าช้า ก็มาจากการที่ผู้ผลิตรถส่วนใหญ่ โอดครวญกัน ว่า ทำไม่ทัน ไม่พอหรอก
โน่นนี่นั่น ความจริง คือ ถ้าภาครัฐเข้มงวดกันตั้งแต่แรก และไม่ยอมกับบริษัทรถยนต์ง่ายๆ
รวมทั้ง ไม่ยอมกับผู้ผลิตน้ำมันในบ้านเราด้วยง่ายๆ แต่แรก ไม่ได้มีการเอื้อเฟื้อเกื้อกูลกัน
ในเชิงนโยบายอย่างที่เป็นอยู่ เราคงได้เห็นมาตรฐานมลพิษ Euro 4 และ ใกล้เป็น Euro 5 ไปนานแล้ว

นั่นคืออีกเหตุผลสำคัญครับ

ออฟไลน์ reyeshenry

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,114
เรื่องมาตรฐานด้านมลพิษ คือประเด็นสำคัญครับ

ในความเป็นจริง ยุโรป มีการใช้ มาตรการด้านการควบคุมมลพิษที่เข้มงวดกว่าเรามาก
และเข้มงวดกว่าญี่ปุ่นเองด้วยซ้ำ มาตรฐานด้านมลพิาของญี่ปุ่นในยุคหนึ่ง
ยังถือว่า ล้าหลังเมืองไทย แต่ตอนนี้ ดูเหมือนว่า จะพอกัน หรือนำหน้าไปนิดเดียว ไม่เยอะ

น้ำมันที่ขายในญี่ปุ่นนั้น มีความแตกต่างจากบ้านเรา แต่ไม่เยอะมากพอจะกลายเป็นประเด็น
เท่ากับน้ำมันที่ขายกันในยุโรปตอนนี้ ซึ่งมีความสะอาดของสน้ำมัน รวมทั้ง ช่วยในการลดมลพิษ
จากท่อไอเสียลงได้ จนเหลือระดับ Euro 5 (และใกล้จะเป็น Euro 6 กันในอีกไม่นานนัก)

ขณะที่บ้านเรา ย่ำอยู่กับ Euro 3 มานานหลายปีแล้ว กำลังจะไป Euro 4 ในต้นปีหน้า
ความล่าช้า ก็มาจากการที่ผู้ผลิตรถส่วนใหญ่ โอดครวญกัน ว่า ทำไม่ทัน ไม่พอหรอก
โน่นนี่นั่น ความจริง คือ ถ้าภาครัฐเข้มงวดกันตั้งแต่แรก และไม่ยอมกับบริษัทรถยนต์ง่ายๆ
รวมทั้ง ไม่ยอมกับผู้ผลิตน้ำมันในบ้านเราด้วยง่ายๆ แต่แรก ไม่ได้มีการเอื้อเฟื้อเกื้อกูลกัน
ในเชิงนโยบายอย่างที่เป็นอยู่ เราคงได้เห็นมาตรฐานมลพิษ Euro 4 และ ใกล้เป็น Euro 5 ไปนานแล้ว

นั่นคืออีกเหตุผลสำคัญครับ

ชัดเจนกับคำตอบของคุณจิมมี่

ออฟไลน์ Satanic za'

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,073
เรื่องมาตรฐานด้านมลพิษ คือประเด็นสำคัญครับ

ในความเป็นจริง ยุโรป มีการใช้ มาตรการด้านการควบคุมมลพิษที่เข้มงวดกว่าเรามาก
และเข้มงวดกว่าญี่ปุ่นเองด้วยซ้ำ มาตรฐานด้านมลพิาของญี่ปุ่นในยุคหนึ่ง
ยังถือว่า ล้าหลังเมืองไทย แต่ตอนนี้ ดูเหมือนว่า จะพอกัน หรือนำหน้าไปนิดเดียว ไม่เยอะ

น้ำมันที่ขายในญี่ปุ่นนั้น มีความแตกต่างจากบ้านเรา แต่ไม่เยอะมากพอจะกลายเป็นประเด็น
เท่ากับน้ำมันที่ขายกันในยุโรปตอนนี้ ซึ่งมีความสะอาดของสน้ำมัน รวมทั้ง ช่วยในการลดมลพิษ
จากท่อไอเสียลงได้ จนเหลือระดับ Euro 5 (และใกล้จะเป็น Euro 6 กันในอีกไม่นานนัก)

ขณะที่บ้านเรา ย่ำอยู่กับ Euro 3 มานานหลายปีแล้ว กำลังจะไป Euro 4 ในต้นปีหน้า
ความล่าช้า ก็มาจากการที่ผู้ผลิตรถส่วนใหญ่ โอดครวญกัน ว่า ทำไม่ทัน ไม่พอหรอก
โน่นนี่นั่น ความจริง คือ ถ้าภาครัฐเข้มงวดกันตั้งแต่แรก และไม่ยอมกับบริษัทรถยนต์ง่ายๆ
รวมทั้ง ไม่ยอมกับผู้ผลิตน้ำมันในบ้านเราด้วยง่ายๆ แต่แรก ไม่ได้มีการเอื้อเฟื้อเกื้อกูลกัน
ในเชิงนโยบายอย่างที่เป็นอยู่ เราคงได้เห็นมาตรฐานมลพิษ Euro 4 และ ใกล้เป็น Euro 5 ไปนานแล้ว

นั่นคืออีกเหตุผลสำคัญครับ

ขอบคุณมากครับสำหรับความรู้ดีๆ

ออฟไลน์ YIM

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,015
  • ไม่น่ารัก เราไม่มอง!!
    • อีเมล์
ขอบคุณทุกท่านสำหรับคำตอบครับ

ถ้าเป็นแบบนี้ อนาคต รถเกรย์จากฝั่งยุโรป คงจะขายยากขึ้นมั้งเนี่ย
JDM เท่านั้น จะครองโลก!

ออฟไลน์ Mr.Joe

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 441
ขออณุญาตฝากข้อมูลอีกอันให้คุณ Jimmy ด้วยครับ
ปัญหาอีกอันคือบริษัทนำ้มันแห่งชาติเองก็ไม่ค่อยเอาด้วยกับนำ้มันคุณภาพดีๆ
ผู้ผลิตรถเองก็ต้องจูนเครื่องให้รับนำ้มันคุณภาพตำ่หน่อย ทั้งที่ไม่ได้เห็นด้วยครับ
ปัญหาคือถ้าจูนรถให้ใช้ได้ดีเต็มเสปค รถลูกค้าก็จะรวนหากเติมนำ้มันแห่งชาติบ่อยๆ
ที่โรงงานรถทุกยี่ห้อเราก็รันรถทดสอบกับนำ้มันทุกยี่ห้อ 3-5 คันต่อยี่ห้อไปเลย
พอ 10,000-30,000-50,000-80,000-100,000 ก็เอาเครื่องมาเปิดที
ผลก็อย่างที่คงเดาได้กับนำ้มันแห่งชาติ