ประสบการณ์ตรงๆกันเลยนะครับ กับการเลือกรถคันนี้ นอกจากที่คนอื่นกล่าวมาคือเครื่อง เกียร์ ตัวถัง
คือ ข้อแรก ขออย่าให้เป็นรถที่วิ่งมากเกินไปนัก เพราะเจ้าบีเอ็มรุ่นนี้ ทางศูนย์บริการบอกว่า"น้ำมันเกียร์ใช้ได้ตลอดอายุการใช้งาน" (อย่ามองว่าผมโจมตี ผมเคยถามมาสองศูนย์บริการแล้วได้รับคำตอบจาก SA แบบนี้จริงๆ จนผมบังคับให้เปลี่ยนเอง) เพราะงั้น เกียร์จะมีความเสี่ยงเจ๊งกระบ๊ง เร็วมากครับ แต่เครื่อง M52 เนี่ย... รับรองความสนุกครับ
ต่อไปก็เรื่องจุกจิกนะครับ
ควรตรวจสอบสภาพต่อไปนี้
- รางกระจกไฟฟ้า รุ่นนี้ กระจกชอบตกรางครับ รถผมตกครบสี่บานแล้วด้วยซ้ำ
- ปั๊มติ๊ก ... ที่อยู่ดีๆก็ร่วงได้กลางอากาศ
- ไดสตาร์ท ที่ผมเคยได้รับข้อมูลจาก SA ว่าถ้าสตาร์ทไม่ติด ให้เอาอะไรเคาะๆมันไป
- ปีกนกหน้า บูชมันจะเป็นน้ำมัน แต่ถ้าท่านผู้ใดไปเปลี่ยนเป็นบูชตันมา (บางร้านเรียก บูช M3) ไม่เกินสองปี ก็จะได้เปลี่ยนปีกนกใหม่เหมือนผม (มันจะเสียทั้งปีก)
- ระบบแอร์ ทั้งระบบการส่งแอร์ไปสู่ส่วนต่างๆ และ blower แอร์ที่อาจจะหลวมได้ แอร์ที่ไม่เหม็น ก็ยังดี เพราะไม่ต้องถอดคอนโซลมาล้าง
- ภายใน สปริงในเบาะมีเสียงหรือไม่ สภาพพลาสติก เยินขนาดไหน (เยินง่าย เจอเล็บก็เป็นรอยแล้วครับ)
อะไหล่แพงมั้ย?
เบิกศูนย์แพงโพดดดด ครับ
ตัวอย่าง
ไดสตาร์ท ลูกละ 11,000 บาท
คอมเพรสเซอร์ หลักหมื่น (ถ้าจำไม่ผิดคือเกือบสามหมื่น)
แบตเตอรี่ ใช้ 100Amp ได้ ตลาดขายกันลูกละ 5,000 แต่เบิกศูนย์ 80amp ลูกละ 7,000 บาท
ปั๊มติ๊ก ลูกลอย หมื่นกลาง
ชุดรางกระจก กลางพัน คือประมาณ 3-4 พัน จำไม่ค่อยได้ เปลี่ยนมานานแล้ว (ต่อหนึ่งตำแหน่ง)
ช่วงล่าง บิวสไตน์ดำ คู่หน้า 7,xxx หลัง 6,xxx (เปลี่ยนข้างนอก)
ปีกนก ปีกละ 5,xxx สองปีก หมื่นหน่อยๆ
และอื่นๆที่คุณจะต้องเผื่อเงินไว้สำหรับบูรณะรถอีกครับ
นอกจากที่กล่าวมา ผมรักรถคันนี้นะ ขับสนุก แล้วหลังจากซ่อมเท่าที่ดูก็เป็นไปตามอายุกาลเวลาครับ ยางหน้า 205/50R16 ราคาก็ไม่ได้รุนแรงอะไรนัก
อ้อ เผื่อไว้ กินน้ำมันในเมือง 6-7 นอกเมือง 11-12 นะครับ
แล้วช่างข้างนอกเดี๋ยวนี้ซ่อมรุ่นนี้กันสบายแล้วครับ
โชคดีครับ