ผู้เขียน หัวข้อ: ช่วยเปรียบเทียบรถ D segment กับ Benz C200 ตัวMinor(ล่าสุด) ให้หน่อยคับ  (อ่าน 27931 ครั้ง)

ออฟไลน์ north

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 431
มีโครงการจะเปลี่ยนรถใหม่คับ ตอนแรกกะจะออก new Camry 2012 คับ
ช่วงเดือนมีนาคม 2555
พอดีว่าเห็นราคา Benz C 200 ตัว Standard แล้วราคาล่อใจมากคับ
คือถ้าผมสู้หน่อย อาจจะเปลี่ยนจาก D-Segment เป็นตัว C Class คับ

แต่ไม่รู้เลยคับว่า สมรรถนะ มันต่างกันตรงไหนอย่างไรบ้างคับ
ทราบแต่ว่า D segment จะกว้างกว่า    ส่วน C Class ช่วงล่างหนึบกว่า
ราคาขายต่อนี่อันไหนตกกว่ากันคับ  กะว่าจะใช้รถแค่ 4 ปีคับ  ผมใช้รถเยอะคับ เดือนนึง 5,000 กว่าโล
อย่างไรแล้วรบกวนผู้รู้ ช่วยเปรียบเทียบให้หน่อยนะคับ 
เอาแบบเป็นข้อๆ เลยนะคับ
ขอบคุณมากคับ

ออฟไลน์ mongolias

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,369
ใช้รถเยอะ แล้วมีเวลาดูแลรถบ้างหรือเปล่าครับ
ถ้ามีความรู้เรื่องรถบ้าง ต้องการรถที่ความปลอดภัยสูง มีงบซ่อมบำรุงเมื่อคราวหมดประกัน รับได้กับความจุกจิกบ้างของระบบไฟฟ้า(มีมากกว่ารถญี่ปุ่น) ก็ไปเบนซ์ครับ

แต่ถ้า ชอบรถที่ไม่จุกจิก ที่นั่งด้านหลังกว้างหน่อย ก็ไปรถญี่ปุ่นครับ(ถ้าเป็นเทียน่าจะดีมากๆเลย)

โดยส่วนตัว ผมเลือกเบนซ์ครับ เหตุผล แค่คำว่าสักครั้งในชัวิตครับ ด้วยราคาที่ดั๊มพ์ลงมาใกล้ๆกับ D-segment แล้ว ถ้าการเพิ่มงบของคุณ ไม่ได้ลำบากอะไรมากมาย
เมื่อมีโอกาสที่จะได้ใช้แล้ว ก็คว้าเอาไว้ครับ


ออฟไลน์ babynew

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 94
    • อีเมล์
ใช้รถเยอะ แล้วมีเวลาดูแลรถบ้างหรือเปล่าครับ
ถ้ามีความรู้เรื่องรถบ้าง ต้องการรถที่ความปลอดภัยสูง มีงบซ่อมบำรุงเมื่อคราวหมดประกัน รับได้กับความจุกจิกบ้างของระบบไฟฟ้า(มีมากกว่ารถญี่ปุ่น) ก็ไปเบนซ์ครับ

แต่ถ้า ชอบรถที่ไม่จุกจิก ที่นั่งด้านหลังกว้างหน่อย ก็ไปรถญี่ปุ่นครับ(ถ้าเป็นเทียน่าจะดีมากๆเลย)

โดยส่วนตัว ผมเลือกเบนซ์ครับ เหตุผล แค่คำว่าสักครั้งในชัวิตครับ ด้วยราคาที่ดั๊มพ์ลงมาใกล้ๆกับ D-segment แล้ว ถ้าการเพิ่มงบของคุณ ไม่ได้ลำบากอะไรมากมาย
เมื่อมีโอกาสที่จะได้ใช้แล้ว ก็คว้าเอาไว้ครับ



ขอถามต่อจาก จขกท หน่อยครับ

ผมใช้รถน้อย กะว่าจะใช้ระยะยาว ระหว่าง D segment กับ Benz C200 อะไรน่าสนกว่ากันครับ

ออฟไลน์ mongolias

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,369
ใช้รถเยอะ แล้วมีเวลาดูแลรถบ้างหรือเปล่าครับ
ถ้ามีความรู้เรื่องรถบ้าง ต้องการรถที่ความปลอดภัยสูง มีงบซ่อมบำรุงเมื่อคราวหมดประกัน รับได้กับความจุกจิกบ้างของระบบไฟฟ้า(มีมากกว่ารถญี่ปุ่น) ก็ไปเบนซ์ครับ

แต่ถ้า ชอบรถที่ไม่จุกจิก ที่นั่งด้านหลังกว้างหน่อย ก็ไปรถญี่ปุ่นครับ(ถ้าเป็นเทียน่าจะดีมากๆเลย)

โดยส่วนตัว ผมเลือกเบนซ์ครับ เหตุผล แค่คำว่าสักครั้งในชัวิตครับ ด้วยราคาที่ดั๊มพ์ลงมาใกล้ๆกับ D-segment แล้ว ถ้าการเพิ่มงบของคุณ ไม่ได้ลำบากอะไรมากมาย
เมื่อมีโอกาสที่จะได้ใช้แล้ว ก็คว้าเอาไว้ครับ



ขอถามต่อจาก จขกท หน่อยครับ

ผมใช้รถน้อย กะว่าจะใช้ระยะยาว ระหว่าง D segment กับ Benz C200 อะไรน่าสนกว่ากันครับ
ที่ผมพิมพ์เรื่องใช้รถเยอะ แล้วมีเวลาดูแลรถบ้างหรือเปล่านี่ เป็นคำถามครับ ไม่ได้หมายความว่าใช้รถเยอะแล้วใช้เบนซ์มันดูคุ้มกว่า
ที่ต้องถามเพราะว่า คุณต้องยอมรับว่าเบนซ์ มันจุกจิกกว่ารถญี่ปุ่นแน่ๆ (ระบบไฟฟ้ามันเยอะกว่า ก็เป็นเรื่องปกติครับ) และราคาอะไหล่ก็แพงกว่ารถญี่ปุ่นพอสมควร ซึ่งก็จะเกี่ยวข้องกับเงินสำรองในกระเป๋าคุณอยู่ดี

ส่วนสำหรับคุณ babynew ใช้รถเยอะหรือใช้รถน้อย มันไม่สำคัญหรอกครับ สิ่งสำคัญคือคุณได้ซื้อรถที่คุณชอบ ในราคาที่คุณยอมรับได้ ไม่ทำให้การใช้ชีวิตของคุณต้องเปลี่ยนเพราะรถคันนั้นๆ(เห็นบางคนผ่อนรถต่อเดือน แทบจะเท่าเงินเดือนตัวเองแล้วผมเหนื่อยแทน)
กรณีคุณbabynew ถ้าใช้รถนาน ผมว่าเบนซ์น่าสนนะครับ เพราะถ้าใช้แค่ 3-4 ปี แล้วเปลี่ยน นี่เงินหายไปหลายแสนแน่ เผลอๆ อาจจะร่วมล้าน แต่ถ้าใช้เกิน 10 ปี ถ้าคิดเป็นรายปี แล้วน่าจะหายไปปีละแสน ผมว่ามันก็โอเคนะ

ตัวผมเองแม้จะมองว่ารถเห็นพาหนะที่พาผมไปจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่งเท่านั้น แต่ถ้าวันนึงผมมีกำลังพอที่จะเล่นตราดาว ผมก็จะไม่ลังเลใจที่จะซื้อครับ เพราะผมถือว่าคนเราเกิดมาแล้ว ถ้าอะไรทำให้เรามีความสุขได้ แล้วไม่เดือนร้อนเราและคนรอบข้าง ก็ทำไปเถอะครับ

ออฟไลน์ babynew

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 94
    • อีเมล์
ใช้รถเยอะ แล้วมีเวลาดูแลรถบ้างหรือเปล่าครับ
ถ้ามีความรู้เรื่องรถบ้าง ต้องการรถที่ความปลอดภัยสูง มีงบซ่อมบำรุงเมื่อคราวหมดประกัน รับได้กับความจุกจิกบ้างของระบบไฟฟ้า(มีมากกว่ารถญี่ปุ่น) ก็ไปเบนซ์ครับ

แต่ถ้า ชอบรถที่ไม่จุกจิก ที่นั่งด้านหลังกว้างหน่อย ก็ไปรถญี่ปุ่นครับ(ถ้าเป็นเทียน่าจะดีมากๆเลย)

โดยส่วนตัว ผมเลือกเบนซ์ครับ เหตุผล แค่คำว่าสักครั้งในชัวิตครับ ด้วยราคาที่ดั๊มพ์ลงมาใกล้ๆกับ D-segment แล้ว ถ้าการเพิ่มงบของคุณ ไม่ได้ลำบากอะไรมากมาย
เมื่อมีโอกาสที่จะได้ใช้แล้ว ก็คว้าเอาไว้ครับ



ขอถามต่อจาก จขกท หน่อยครับ

ผมใช้รถน้อย กะว่าจะใช้ระยะยาว ระหว่าง D segment กับ Benz C200 อะไรน่าสนกว่ากันครับ
ที่ผมพิมพ์เรื่องใช้รถเยอะ แล้วมีเวลาดูแลรถบ้างหรือเปล่านี่ เป็นคำถามครับ ไม่ได้หมายความว่าใช้รถเยอะแล้วใช้เบนซ์มันดูคุ้มกว่า
ที่ต้องถามเพราะว่า คุณต้องยอมรับว่าเบนซ์ มันจุกจิกกว่ารถญี่ปุ่นแน่ๆ (ระบบไฟฟ้ามันเยอะกว่า ก็เป็นเรื่องปกติครับ) และราคาอะไหล่ก็แพงกว่ารถญี่ปุ่นพอสมควร ซึ่งก็จะเกี่ยวข้องกับเงินสำรองในกระเป๋าคุณอยู่ดี

ส่วนสำหรับคุณ babynew ใช้รถเยอะหรือใช้รถน้อย มันไม่สำคัญหรอกครับ สิ่งสำคัญคือคุณได้ซื้อรถที่คุณชอบ ในราคาที่คุณยอมรับได้ ไม่ทำให้การใช้ชีวิตของคุณต้องเปลี่ยนเพราะรถคันนั้นๆ(เห็นบางคนผ่อนรถต่อเดือน แทบจะเท่าเงินเดือนตัวเองแล้วผมเหนื่อยแทน)
กรณีคุณbabynew ถ้าใช้รถนาน ผมว่าเบนซ์น่าสนนะครับ เพราะถ้าใช้แค่ 3-4 ปี แล้วเปลี่ยน นี่เงินหายไปหลายแสนแน่ เผลอๆ อาจจะร่วมล้าน แต่ถ้าใช้เกิน 10 ปี ถ้าคิดเป็นรายปี แล้วน่าจะหายไปปีละแสน ผมว่ามันก็โอเคนะ

ตัวผมเองแม้จะมองว่ารถเห็นพาหนะที่พาผมไปจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่งเท่านั้น แต่ถ้าวันนึงผมมีกำลังพอที่จะเล่นตราดาว ผมก็จะไม่ลังเลใจที่จะซื้อครับ เพราะผมถือว่าคนเราเกิดมาแล้ว ถ้าอะไรทำให้เรามีความสุขได้ แล้วไม่เดือนร้อนเราและคนรอบข้าง ก็ทำไปเถอะครับ

ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ IncarRus

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,519
    • อีเมล์
ข่าว BMW 3-series ใหม่, เครื่องดีเซล 3 สูบ 150 ม้า เงียบๆ ไปเนอะ  :-\
แล้ว Skoda Superb ไม่อยู่ในตัวเลือกหลอครับ  ;)

ออฟไลน์ 6162002

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,089
ขออนุญาติร่วมถามด้วยนะครับ ถ้าเพิ่มเจ้า Hyundai Sonata เข้าไปเปรียบเทียบด้วย คิดว่ามันเป็นอย่างไรบ้างเหรอครับ

ออฟไลน์ TorTy

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,992
เค้าห่วงเรื่องอะไหล่กับราคาขายต่อ Skoda Superb คงต้องตัดออกไปแหละครับราคาขายแย่แน่ๆครับ

ออฟไลน์ north

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 431
คือเหมือนอย่างที่คุณ mongolisa บอกอะคับ คือ Benz มันเป็นรถในความฝันผมคับ ถ้ามีโอกาสก็อยากที่จะเป็นเจ้าของมันคับ
และพอดีว่าราคารถมันลดลงมาแบบพอที่จะเอื้อมถึงคับ ก็เลยเกิดอาการสนใจคับ แต่ไม่มีความรู้และไม่ได้ศึกษาในตัวมันเลย

ส่วนรถ D segment มันเป็นรถที่ผมเอื้อมได้แบบไม่เดือนร้อนคับ
 (จริงๆอยากรอ Teana ปี 2013 นะคับแต่ผมว่ามันนานไปคับ ถ้าไปดูกระทู้ที่ผมถามเก่าๆ จะเห็นได้ว่าผมรอรถมาจะปีละ  ก็เลยตัดสินใจลงตัวที่ Camry 2012 คับ)
ผมชอบรถใหม่ๆคับ ใช้ไป 4 ปีก็ยังเป็นตัวที่เราขับอยู่
แต่ Benz นี้มันนอกเหนือจากที่ผมคาดไว้คับ และอีกอย่าง Benz เค้าบอกว่า รับประกัน 3 ปีไม่จำกัดระยะทางนี่หละคับ ก็เลยน่าสนใจ
ทราบคับว่าอะไหล่ Benz จะแพงกว่ารถญี่ปุ่น แต่ว่าถ้าเราอยู่ใน 3 ปี ก็น่าจะหายห่วงเรื่องตรงนี่หรือเปล่าคับ

แต่พวกสมรรถนะรถ ความต่างกันนี่ไม่รู้เลยจริงๆ คับ


ออฟไลน์ Alcatraz

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,608
    • อีเมล์
อยากบอกว่าอย่าไปหวังอะไรกับ c200 standard 2.1ล้าน มากเลยครับช่วงล่างที่ว่าหนึบกว่าน่ะ Avantgade ครับ ส่วนออฟชั่นน่ะน้อยกว่า camry hybrid ซะอีก
แต่ที่ว่ามาไม่ได้หมายความว่า c200 มันห่วยนะครับ อยากให้ลองไปขับดู

ออฟไลน์ Mach

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 34
    • อีเมล์
อยากบอกว่าอย่าไปหวังอะไรกับ c200 standard 2.1ล้าน มากเลยครับช่วงล่างที่ว่าหนึบกว่าน่ะ Avantgade ครับ ส่วนออฟชั่นน่ะน้อยกว่า camry hybrid ซะอีก
แต่ที่ว่ามาไม่ได้หมายความว่า c200 มันห่วยนะครับ อยากให้ลองไปขับดู

เห็นด้วยครับ ถ้าไม่รีบก็รอ camry ใหม่ (option แยะกว่า c200 แน่นอนครับ)หรือรอดู BMW series 3 ตัวใหม่ ก็ได้
ส่วนผมจอง C200 ไปเพราะรีบใช้รถและรถคันเก่าเกิดอุบัติเหตุครับ :'(
ยังไงก็ขอให้ได้รถคันที่ชอบนะครับ


ออฟไลน์ J!MMY

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 15,628
    • www.headlightmag.com
    • อีเมล์
เรามีรีวิวของ C-Class W204 ซึ่ง น่าจะพอให้ใช้อ้างอิงในเรื่องฟีลลิงการขับได้บ้างอยู่ครับ
ลองศึกษาเปรียบเทียบดูครับ

ออฟไลน์ north

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 431
ขอบคุณคับ

ออฟไลน์ neuro

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 292
    • อีเมล์
ตอบคุณ north นะครับ ผมก็เป็นคนหนึ่งตอนตัดสินใจซื้อเจ้า c200 cgi w204 นี้ผมมี teana อยู่แล้วแต่ให้พ่อใช้
ผมไปลองขับ camry hybrid แล้วไม่ประทับใจเรื่องการเร่งการออกตัวเพราะผมต้องขับรถวันละ 120 กม. ทุกวัน
ผมเลยไปออกเจ้า c200 มาพูดถึงสมรรถนะเทีบยกับ teana , camry แล้วดีกว่าชัดเจนครับ ออกตัว เร่งแซง
ดีกว่ามากครับ แต่เรื่องภายใน option ที่ให้มาสู้ d segment ไม่ได้แน่นอนครับ

ปัญหาของ c200 คือ
1. แอร์เหม็นเกือบทุกคันในลอ๊ตแรกๆ  ไม่รู้ตอนนี้แก้ยัง
2. ใบปัดนำ้ฝนติดและดังครืดๆทุกคัน
3.มีเสียงดังก๊อกแก๊กที่คอนโซลหน้าและแผงข้างประตูเกือบทุกคัน
4.ค่าบำรุงรักษาที่แพงกว่ารถ ญป. ค่าใช้จ่ายชนิดที่เรียกว่าเข้าศูนย์สามครั้งเท่ากับ รถ ญป. เข้าทั้งปี
5.ยิ่งถ้าอยู่ ตจว. แบบผม แล้วลำบากครับขับรถ 500 กม. มาเข้าศูนย์ 1 วันรวมค่าเสียเวลา ค่าใช้จ่ายเป็นหมื่นครับ

ข้อดีของ c200 ตัวนี้
1. ได้ image ที่ดีครับ ออก camry , teana ,accord ป้ายแดงมารู้สึกเฉยๆ แต่ถ้าคุณออก benz ป้ายแดงมานี่ฮือฮาแน่นอนครับ
2. สมรรถนะที่ดีกว่าแน่นอนครับ
3. ตัวที่ผมออกมามี pre-safe ครับ ผมต้องการจุดนี้มากๆ ถึงได้เอา benz มาครอบครอง

สรุปครับ  ความเห็นส่วนตัวถ้าท่านไม่มีปัญหาทางการเงิน มีรายได้หลักแสนต่อเดือนการถอย benz สักคันเป็นกำไรชีวิต โอเคครับ
              แต่ถ้าการเงินไม่ firm มากและอยู่ ตจว. ไม่น่าเล่นครับ
สำหรับผมตอนนี้ถ้าเลือกผมคงมองไปที่ camry 2012 ที่จะมาต้นปีหน้าครับ สบายใจกับ toyota มีศูนย์เกือบทุกอำเภอ  ราคาขายต่อดี
ค่าบำรุงรักษาต่ำ ราคาก็ไม่แรง   พอได้แนวทางนะครับ

ออฟไลน์ Backseat Driver

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 188
ผมชอบเบนซ์ที่ช่วงล่างแน่นมั่นใจกว่าCamry Hybridที่ใช้อยู่เห็นๆเลย แต่ไฮบริดมันได้ตอนแซงครับ พุ่งดีสะใจมาก
ต้องดูแล้วล่ะครับว่าชอบแบบไหน ถ้าชอบแน่นๆขับแล้วมั่นคงไม่เน้นพุ่งๆเบนซ์น่าสนใจ ไฮบริดพุ่งดีเวลาเร่งแซงทางไกล จับเปลี่ยนล้อ18ทำช่วงล่างนิดหน่อยก็พอไหว เทียน่านุ่มสบายราคาโดนเอาเงินส่วนต่างไปเติมน้ำมันก็น่าสนใจครับ

ออฟไลน์ mckyparty

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 748
    • อีเมล์
แนะนำมือสองก้อได้ ใจมาทางตราดาว ถ้าไม่เข้าศูนย์ ซ่อมบำรุงไม่แพงครับ ขนาด W124 เข้าศูนย์ยังน้ำออกตาออกหูเลย แต่ถ้าออกป้ายแดง ยังไงก้อต้องเข้าอยู่เพื่อรักษาผลประโยชน์เราเอง

ลองดู E ตากลม ล้านกว่าๆ หรือ C ใหม่มือสอง ไม่ถึงล้านก้อมีแยะครับ

ออฟไลน์ Sman

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 537
ถ้ามีโอกาส หรือมีเงินเหลือพอ ตัวล่างสุดของเมอร์ซิเดส ตัวนี้ ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่า แคมรี่ หรือเทียน่า หรอกครับ แถมยังได้ภาพพจน์

แต่จะเหมาะถ้าใช้ไปสัก 8-10 ปี ครับ

ออฟไลน์ north

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 431
ขอบคุณทุกๆ ความเห็น ทุกๆคำแนะนำ และทุกๆ คำเสนอแนะนะคับ
ขอบคุณมากๆ คับ :) :)

ออฟไลน์ sedan lover

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 429
ผมเห็นด้วยกับแนวทางคุณ neuroน่ะครับ กำลังทรัพย์พร้อมก็จัดไปเลยครับ

จากข้อมูล เห็นแจ้งว่าใช้งานเยอะ 5000km/mo ประมาณ 160-170km/day ถ้าเข้าศูนย์ง่ายไม่ไกล

นำไปใช้งานในสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมไม่โหดร้ายมาก เข้าศูนย์สะดวก และทนความจุกจิกที่เพิ่มขึ้นกว่ารถญี่ปุ่นได้

เช่นเมื่อรถเข้าศูนย์นานๆนั้น ไม่มีผลกระทบต่อการเดินทาง(มีรถหลายๆคันในบ้านที่สามารถใช้งานแบบเดียวกันได้)ก็จัดไปเลยครับ

เพราะผมก็เคยมีความคิดแบบนี้มาก่อนเหมือนกัน บวกลบคูณหาร ไปลงที่ F10 ;D แต่หลักๆก็ยังใช้ G8 อยู่ดี สบายใจ
ดีครับ ทุกอย่างถูกกว่าเยอะ
Entryตัวนี้ ส่วนตัวก็คิดว่าน่าสนใจนะครับ

ออฟไลน์ north

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 431
ผมเห็นด้วยกับแนวทางคุณ neuroน่ะครับ กำลังทรัพย์พร้อมก็จัดไปเลยครับ

จากข้อมูล เห็นแจ้งว่าใช้งานเยอะ 5000km/mo ประมาณ 160-170km/day ถ้าเข้าศูนย์ง่ายไม่ไกล

นำไปใช้งานในสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมไม่โหดร้ายมาก เข้าศูนย์สะดวก และทนความจุกจิกที่เพิ่มขึ้นกว่ารถญี่ปุ่นได้

เช่นเมื่อรถเข้าศูนย์นานๆนั้น ไม่มีผลกระทบต่อการเดินทาง(มีรถหลายๆคันในบ้านที่สามารถใช้งานแบบเดียวกันได้)ก็จัดไปเลยครับ

เพราะผมก็เคยมีความคิดแบบนี้มาก่อนเหมือนกัน บวกลบคูณหาร ไปลงที่ F10 ;D แต่หลักๆก็ยังใช้ G8 อยู่ดี สบายใจ
ดีครับ ทุกอย่างถูกกว่าเยอะ
Entryตัวนี้ ส่วนตัวก็คิดว่าน่าสนใจนะครับ


ผมบ้านอยู่กทมคับ  แต่ว่าก็จะมีบ้างบางวันคับที่อาจจะขับรถไปทำงานที่ชลบุรีคับ ขับทางมอเตอร์เวย์คับ
ปกติผมมีรถแค่คันเดียวคับ  ตอนนี้ขับ Vios อยู่คับ ขับมาได้จะ 4 ปีแล้วคับ ก็เลยคิดว่าถึงเวลาต้องเปลี่ยนรถแล้วหละคับ
ตอนนี้ก็มานั่งคิดว่าถ้าราคา Vios ขายตอนนี้ราคามันตกมาก(เพราะนโยบายรัฐบาล) ก็อาจจะเก็บไว้เป็นรถสำรองคับ ส่วนน้ำมันนี่ก็เติมฟรีคับ
เงินเดือนของผมตอนนี้อยู่ที่ 6 หลักต้นๆ คับ ถามว่าถ้าผ่อน Benz ตอนนี้มีปัญหาไหม ก็คงตอบว่าน่าจะไม่มีปัญหาคับ
แต่อนาคตไม่รู้จริงๆ คับ ก็เลยเกิดอาการลังเลคับ  แต่อย่างที่บอกคับ Benz มันเป็นรถในฝันผมไงคับ
อีกอย่างผมว่ามันเท่ห์มากเลยนะคับ ผมอายุ 27 ปีทำงานแล้วหาเงินซื้อ Benz ป้ายแดงได้ด้วยตัวผมเอง (อันนี้ผมคิดเองคนเดียวนะคับ55)
เออ แล้วระหว่าง Benz C200 กับ Camry 2012 ถ้าผมขับไป 4 ปีแล้วขายต่อ อันไหนราคาตกกว่ากันคับ
เออ ความจุกจิกนี่ เห็นว่า Benz มีการรับประกัน 3 ปี ไม่จำกัดระยะทางคับ อย่างนี้เราก็ไม่ต้องจ่ายค่าอะไรเลยไม่ใช่หรือคับ
หรือว่าถ้าจะจ่ายก็จ่ายน้อยมากใช่หรือเปล่าคับ คือผมเข้าใจอย่างนี้คับ

ออฟไลน์ beebird

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,058
    • อีเมล์
ผมเห็นด้วยกับแนวทางคุณ neuroน่ะครับ กำลังทรัพย์พร้อมก็จัดไปเลยครับ

จากข้อมูล เห็นแจ้งว่าใช้งานเยอะ 5000km/mo ประมาณ 160-170km/day ถ้าเข้าศูนย์ง่ายไม่ไกล

นำไปใช้งานในสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมไม่โหดร้ายมาก เข้าศูนย์สะดวก และทนความจุกจิกที่เพิ่มขึ้นกว่ารถญี่ปุ่นได้

เช่นเมื่อรถเข้าศูนย์นานๆนั้น ไม่มีผลกระทบต่อการเดินทาง(มีรถหลายๆคันในบ้านที่สามารถใช้งานแบบเดียวกันได้)ก็จัดไปเลยครับ

เพราะผมก็เคยมีความคิดแบบนี้มาก่อนเหมือนกัน บวกลบคูณหาร ไปลงที่ F10 ;D แต่หลักๆก็ยังใช้ G8 อยู่ดี สบายใจ
ดีครับ ทุกอย่างถูกกว่าเยอะ
Entryตัวนี้ ส่วนตัวก็คิดว่าน่าสนใจนะครับ


ผมบ้านอยู่กทมคับ  แต่ว่าก็จะมีบ้างบางวันคับที่อาจจะขับรถไปทำงานที่ชลบุรีคับ ขับทางมอเตอร์เวย์คับ
ปกติผมมีรถแค่คันเดียวคับ  ตอนนี้ขับ Vios อยู่คับ ขับมาได้จะ 4 ปีแล้วคับ ก็เลยคิดว่าถึงเวลาต้องเปลี่ยนรถแล้วหละคับ
ตอนนี้ก็มานั่งคิดว่าถ้าราคา Vios ขายตอนนี้ราคามันตกมาก(เพราะนโยบายรัฐบาล) ก็อาจจะเก็บไว้เป็นรถสำรองคับ ส่วนน้ำมันนี่ก็เติมฟรีคับ
เงินเดือนของผมตอนนี้อยู่ที่ 6 หลักต้นๆ คับ ถามว่าถ้าผ่อน Benz ตอนนี้มีปัญหาไหม ก็คงตอบว่าน่าจะไม่มีปัญหาคับ
แต่อนาคตไม่รู้จริงๆ คับ ก็เลยเกิดอาการลังเลคับ  แต่อย่างที่บอกคับ Benz มันเป็นรถในฝันผมไงคับ
อีกอย่างผมว่ามันเท่ห์มากเลยนะคับ ผมอายุ 27 ปีทำงานแล้วหาเงินซื้อ Benz ป้ายแดงได้ด้วยตัวผมเอง (อันนี้ผมคิดเองคนเดียวนะคับ55)
เออ แล้วระหว่าง Benz C200 กับ Camry 2012 ถ้าผมขับไป 4 ปีแล้วขายต่อ อันไหนราคาตกกว่ากันคับ
เออ ความจุกจิกนี่ เห็นว่า Benz มีการรับประกัน 3 ปี ไม่จำกัดระยะทางคับ อย่างนี้เราก็ไม่ต้องจ่ายค่าอะไรเลยไม่ใช่หรือคับ
หรือว่าถ้าจะจ่ายก็จ่ายน้อยมากใช่หรือเปล่าคับ คือผมเข้าใจอย่างนี้คับ

จ่ายค่าบำรุงรักษา ตามระยะ พวกน้ำมันเครื่อง กรอง หรือเปล่าเอ่ย ... ไม่เคยใช้ MB แฮะ

แต่เชื่อว่า ตัดสินใจไม่ผิดครับ C200 แจ่มแน่นอนครับ  ;)

ออฟไลน์ neuro

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 292
    • อีเมล์
ประกัน 3ปี หนึ่งแสนกิโล  ได้เฉพาะการเคลม part ที่เสียหายด้วย defect ของการผลิตนะครับ
ส่วนการเข้าศูนย์เช็คระยะ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องอะไรทุกอย่างควักกระเป๋าทั้งหมดนะครับ
ขอย้ำว่าไม่เหมือน BSI  และการขอเคลมยากมาก ของผมแอร์เหม็นเปรี้ยวทำเรื่องขอเคลม
ยังไม่ได้เลย บอกให้เปลี่ยนโน่นเปลี่ยนนี่ คราวที่แล้วเสียไปหมื่นกว่าบาท ก็ยังไม่หาย
เรื่องศูนย์บริการถือว่าดีครับ แต่การเคลมต้องได้รับการอนุมัติจาก MBTH ผมถึงไม่ว่าศูนย์
เพราะรู้ว่าศูนย์เองก็โดนกดดันจาก MBTH เยอะ

ฟังดู จขกท. คงมีใจกับ c200 ผมว่าลองดูตัว entry 2.1 M ก็ดีนะครับครั้งหนึ่งที่ได้ขับ benz ป้ายแดง
ยิ่งบ้านอยู่ใน กทม. ด้วยก็ถือว่า โอเคนะครับ มีบริการไปรับรถที่บ้านด้วยเวลาเข้าเช็คระยะ

ออฟไลน์ north

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 431
ประกัน 3ปี หนึ่งแสนกิโล  ได้เฉพาะการเคลม part ที่เสียหายด้วย defect ของการผลิตนะครับ
ส่วนการเข้าศูนย์เช็คระยะ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องอะไรทุกอย่างควักกระเป๋าทั้งหมดนะครับ
ขอย้ำว่าไม่เหมือน BSI  และการขอเคลมยากมาก ของผมแอร์เหม็นเปรี้ยวทำเรื่องขอเคลม
ยังไม่ได้เลย บอกให้เปลี่ยนโน่นเปลี่ยนนี่ คราวที่แล้วเสียไปหมื่นกว่าบาท ก็ยังไม่หาย
เรื่องศูนย์บริการถือว่าดีครับ แต่การเคลมต้องได้รับการอนุมัติจาก MBTH ผมถึงไม่ว่าศูนย์
เพราะรู้ว่าศูนย์เองก็โดนกดดันจาก MBTH เยอะ

ฟังดู จขกท. คงมีใจกับ c200 ผมว่าลองดูตัว entry 2.1 M ก็ดีนะครับครั้งหนึ่งที่ได้ขับ benz ป้ายแดง
ยิ่งบ้านอยู่ใน กทม. ด้วยก็ถือว่า โอเคนะครับ มีบริการไปรับรถที่บ้านด้วยเวลาเข้าเช็คระยะ


ขอบคุณอีกครั้งครับ 
ตอนแรก Sale ของ Benz ก็บอกผมอย่างนี้คับ คือ รับประกัน 3 ปีไม่รวมพวกของเหลว
แต่เห็นมีเพื่อนท่านนึงในweb นี้มาบอกผมว่า 3 ปีรวมทุกอย่างเลย (เพราะเค้าเพิ่งไปจองมา) ผมก็เลยไม่ชัวร์เลยคับ
คิดว่า Sale ตุกติก   สรุป ตามที่ sale บอกตั้งแต่แรกนี่ถูกต้องแล้วใช่ไหมคับ

ออฟไลน์ Cepa

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 16
ดูจากโจทย์ที่ขับค่อนข้างเยอะ ทางไกล  เดิมขับวีออส  เงินเดือน แสนต้นๆ ขับเดือนละ 5000 กิโล

เบนซ์ขับดีกว่า เบรคดีกว่า เมื่อเทียบเทียน่า แอคคอร์ด  คัมรี่

แต่ไม่ได้ห่างเยอะ เหมือนรถญี่ปุ่นสมัยก่อน

ความอยาก มีได้สำหรับคนยังไม่เคยมีเบนซ์  เป็นเรื่องธรรมดามากๆ

ถ้าใช้เยอะ  หลังสามปี ( ใช้ไปแสนกว่ากิโล ) หมดประกัน  โอกาสจุกจิก เรื่องอะไหล่ต่างๆ  ต้องเจอแน่

ถึงตอนนั้น ค่าใช้จ่าย ซ่อมบำรุง  เบนซ์ย่อมแพงกว่า เยอะ

ถ้าจะขาย เดาว่าเหลือครึ่งนึง  เพราะใช้เยอะ+ หมดประกัน

ดังนั้น อยู่ที่เงินจริงๆ ทั้งเงินเก็บ และเงินเดือนที่เข้ามาเพิ่ม  ถ้าอยากมีเบนซ์  และคิดว่า สี่ปีใช้เยอะ  ขายแล้วเหลือซักล้านนึง  รับได้ ( รถญี่ปุ่นก็อาจหายไปซัก 40%  แต่คิดเป็นเม็ดเงินแล้วน้อยกว่า)

ก็ซื้อเลยครับ

แต่ถ้ายังเสียดายเงิน หรือ  รายรับอาจจะไม่แน่นอน อาจต้องมองๆรถญี่ปุ่นก่อน


อาการแบบนี้ ตัวเองเคยเป็น  เคยผ่านมาก่อนน่ะครับ 555  ตอนนี้มองๆคัมรี่ไฮบริดต้นปีหน้าอยู่เหมือนกัน  เก็บตังที่มีอยู่ลงทุนให้งอกเงยต่อ

ความเห็นส่วนตัวนะครับ


ออฟไลน์ north

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 431
ดูจากโจทย์ที่ขับค่อนข้างเยอะ ทางไกล  เดิมขับวีออส  เงินเดือน แสนต้นๆ ขับเดือนละ 5000 กิโล

เบนซ์ขับดีกว่า เบรคดีกว่า เมื่อเทียบเทียน่า แอคคอร์ด  คัมรี่

แต่ไม่ได้ห่างเยอะ เหมือนรถญี่ปุ่นสมัยก่อน

ความอยาก มีได้สำหรับคนยังไม่เคยมีเบนซ์  เป็นเรื่องธรรมดามากๆ

ถ้าใช้เยอะ  หลังสามปี ( ใช้ไปแสนกว่ากิโล ) หมดประกัน  โอกาสจุกจิก เรื่องอะไหล่ต่างๆ  ต้องเจอแน่

ถึงตอนนั้น ค่าใช้จ่าย ซ่อมบำรุง  เบนซ์ย่อมแพงกว่า เยอะ

ถ้าจะขาย เดาว่าเหลือครึ่งนึง  เพราะใช้เยอะ+ หมดประกัน

ดังนั้น อยู่ที่เงินจริงๆ ทั้งเงินเก็บ และเงินเดือนที่เข้ามาเพิ่ม  ถ้าอยากมีเบนซ์  และคิดว่า สี่ปีใช้เยอะ  ขายแล้วเหลือซักล้านนึง  รับได้ ( รถญี่ปุ่นก็อาจหายไปซัก 40%  แต่คิดเป็นเม็ดเงินแล้วน้อยกว่า)

ก็ซื้อเลยครับ

แต่ถ้ายังเสียดายเงิน หรือ  รายรับอาจจะไม่แน่นอน อาจต้องมองๆรถญี่ปุ่นก่อน


อาการแบบนี้ ตัวเองเคยเป็น  เคยผ่านมาก่อนน่ะครับ 555  ตอนนี้มองๆคัมรี่ไฮบริดต้นปีหน้าอยู่เหมือนกัน  เก็บตังที่มีอยู่ลงทุนให้งอกเงยต่อ

ความเห็นส่วนตัวนะครับ






ขอบคุณคับผม
คาดว่าอาจจะรอ Camry 2012 มาก่อนคับ ว่าตัวจริงออกมาเป็นอย่างไรบ้าง แต่ก็แอบไปคุยกับ sale Benz ไว้บ้างคับ