ผู้เขียน หัวข้อ: ประสบการณ์ระบบเบรคอันเลวร้ายบนดอยอินทนนท์ :(  (อ่าน 53738 ครั้ง)

ออฟไลน์ TTL

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,277
ขับรถมาก็ตั้งนาน ปกติเวลาขึ้นดอยส่วนมากก็ไม่ค่อยได้เจอแบบขึ้นยาวลงยาวสักเท่าไรพวกปายอะไรก็ไปมาหมดแล้ว ครั้งนี้มีโอกาสเอาPajeroไป + อินทนนท์มันเป็นทางขึ้นที่เรียกว่าขึ้นก็ขึ้นยาวลงก็ลงยาว
 
ปัญหาคือ ชุดผ้าเบรคผมN-Brake (ของดีมากนะ แต่มาวันนี้ผิดหวังอย่างรุนแรงครับ)ผมก็วิ่งๆขึ้นไปใช้ทั้งเกียร์Lและเกียร์2 พอไปถึงยอดดอยปรากฎว่าได้ยินเสียงขูดๆกัน

เลยลงไปจากรถ มองไปล้อหลังขวางานเข้าครับไหม้แล้วก็ผ้าเบรคหมดฝั่งอื่นสภาพยังดีอยู่(ก่อนขึ้นมามัีนก็ยังokอยู่นะ) แต่อีกฝั่งซึ่งก็ใช้ของN-brakeก็เหลือไม่เยอะมากแต่ก็พอลงไปได้ครับ

ก็เลยคิดในใจว่าชุดเบรคหลังที่ผมเปลี่ยนมาเนี่ยยี้ห้อนี้ยอมรับครับเบรคนุ่มนวลมาก แต่เคลมมา่แล้วคู่นึงครับ แล้วนี่คือคู่ล่าสุดที่เขาเคลมมาให้ผมๆก็ไม่มีปัญหาครับ

แต่ปัญหาผมมันอยู่ที่ว่า วิ่งได้แค่1.1หมื่นเอง เขาก็ไม่ไำด้ขึ้่นบ่อยปกติมันต้องใชได้มากกว่านี้เยอะนะครับนี่กลับหมดไม่เหลือเลยจานเบรคเป็นรอยเละเทะไปหมดเลย(เป็นคลื่นเลย)

ก็เลยหมดอารมณ์เที่ยวสูงสุดแดนสยามเลยครับ มันเซ็งมากๆครับ ก็เลยคิดว่าขอให้รถลงมาได้โดยดีก็ค่อยเลี้ยงลงมาเรื่อยจนสักพักวิ่งมาจากยอดได้3กม. ได้ยินเสียงดังปุ้ง!! ก็กำลังจะเบรคแต่เบรคไม่ได้เพราะ

มันลงเขาภาพที่เห็นฉากต่อมาคือผ้าเบรคทั้งแผ่นของด้านหลังฝั่งขวามันหลุดออกไปเลย นึกในใจงานเข้าแล้ว ก็เลยเบรคๆลงมาที่มีแค่3เบรคนั้นแหละเบรคก็แถบจะไม่ไว้เเล้วเพราะว่าเบรคหน้าก็ไหม้ตามเนื่องจาก

รับภาระไม่ไว้ ผมจำเป็นต้องจอดที่จุดพักทันที่ รอช่างที่รู้จักที่เชียงใหม่ตั้งแต่ 11.00-17.00 กว่าช่างจะมา แต่พอมาก็ทำได้ดีมากๆครับ ก็เปลี่ยนทั้งหมด4ล้อเลย วิ่งๆมาอยู่ยอมรับเลยอยากลงเร็วมากๆเพราะมันค่อน

ข้างมืิด+เหนื่อยก็เหนื่อยครับ เลยยัดเกียร์Dไม่คิดชีวิตที่นี่แน่นอนครับเกียร์Dมันไม่มีหน่วงซิ ก็ต้องใช้เบรคช่วยตลอด(ลงดอยอินทนนท์ใครไปจะรู้มันลงยาวๆเลยครับไม่เหมือนพวกปายที่ขึ้นๆลงๆ จะเน้นโค้งซะ

มากกว่า) เบรคไปเบรคมาเอาจนเบรคร้อน ชิบหายอีกเบรคFADEจนได้  เซ็งมากๆครับ ช่างก็ขับตามหลังมาดีๆมาก ผมไม่ขับมันแล้วให้ช่างขับแทนเลยพี่แกก็๋เลยสอนเลยว่า เวลาลงเขาควรจะใช้2หรือL ขับเ้นีย

นมากๆเล่นเอาขอหลับได้เลยหละครับ........กระทู้ออกแนวบ่นแต่สำหรับผมแล้วประสบการณ์สำหรับชีวิตมากๆครับ คือก็ในกระทู้แบบนี้ก็มีคำถามเะหมือนกันครับ

- N-brake มันดีจริงหรือ---คือยอมรับนะเบรคดีมากๆครับ แต่ทำไมมันไม่ทนเลยครับ ปัญหามีมา2ชุดแล้วเล่นเอา จะเลิกใช้เลยหละ
                                     ตอนนี้ที่บ้านใช้Bendix ทั้ง2คัน แต่ใช้เป้นแบบMetal kingครับ ก็คิดว่ามันดีมันทนครับแต่N-brakeมันนิ่มดีจริงๆครับหนึบด้วย แต่ทำไมมันไม่ทนเลยสงสัยมากๆ
                                     แล้วนอกจากผ้าเบรค2ยี่ห้อดัง มีอะไรที่ดีบ้างครับขอราคาอย่าแรงเวอร์นะครับแต่ขอคุณภาพ+คงทน (ขับรถเร็วครับแต่ไม่ได้ขับโหด) <<จะได้เก็บข้อมูลเพื่อเลี่ยนครั้งหน้าครับ

-อยากทราบเทคนิดที่ถูกต้องจริงๆ เวลาีที่เราจะต้องขึ้นภูเขาหรือลงเขาครับวิธีที่ผมใช้มันถูกต้องรึป่าวครับคือ ขาขึ้นก็ใส่2หรือไม่ก็Lแล้วแต่สภาพที่ควรจะใช้ ขาลงตามช่างสอนให้ดูถ้าชั่นมากๆให้ Lแต่ถ้า พอสมควร
 ใส่ 2 เอาไว้ ให้มันหน่วงๆพยายามอย่าใช้เบรคเยอะ อันนี้ก็ีจริงครับ คือผมก็ไม่อยากใช้เบรคเยอะอยู่แล้วแต่มันก็รีบลงมาจริงๆครับ

เหนื่อยจริงๆครับวันนี้ มันเป็นอะไรที่เครียดมากๆครับ เวลาเบรคมีปัญหา ยิ่งตอนที่เบรคมันหลุดนะ ต้องเก็บสติเลยหละครับ ขับมาตั้งนานขึ้นลงเขาก็ไม่เคยเจออะไรแบบนี้เลยผิดหวังจริงๆนะผ้าเบรคที่เคยปลื้ม
แต่กับต้องมามีปัญหาแบบนี้ คือมันเสียความรู้สึกจริงๆครับ..

   *อันนี้สังเกตุดีครับ ไม่มีผ้าเบรคในคาลิเปอร์เลยมันหลุดออกไปเลย สุดๆเลยจริงๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 21, 2018, 22:25:31 โดย TTL »

ออฟไลน์ Arado_kung

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,070
    • อีเมล์
Re: ประสบการณ์ระบบเบรคอันเลวร้ายบนดอยอินทนนท์ :(
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ตุลาคม 27, 2011, 22:02:27 »
ผมใช้ผ้าเบรคติดรถวิ่งขึ้น-ลงดอยอินทนนท์ยังไม่หลุดเป็นแผ่นแบบนี้เลย ผมว่าน่าจะมีปัญหามาจากการผลิตแล้วล่ะครับ

ออฟไลน์ nuttanva

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 91
    • อีเมล์
Re: ประสบการณ์ระบบเบรคอันเลวร้ายบนดอยอินทนนท์ :(
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: ตุลาคม 27, 2011, 22:44:17 »
ส่วนตัว เคยใช้ Nbrake n-sport500 ใส่civicFD
การเบรค ถือว่าดีมากเลยครับ เบรคโหดๆ บ่อยๆ อยู่ตลอด ใช้จนหมด

แล้วก็เปลี่ยนเป้น Nbrake NA-P ใช้มาประมานสี่พันกิโลแล้ว ขับโหดๆเหมือนเดิม ก็ไม่มีปัญหาอะไรนะครับ เท่าที่สังเกต เบรคก็ยังหนาปกติ แต่ตัวนี้จะมีเสียงดังแต่มันเบรคดีกว่าตัว n500อะครับ

แต่เคสนี้ พึ่งเคยเห็น อันตรายจริงๆ

ส่งเรื่องให้ทางผู้ผลิตทราบจะดีไหมครับ

ออฟไลน์ PJ"

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,722
  • Fake Forester
    • อีเมล์
Re: ประสบการณ์ระบบเบรคอันเลวร้ายบนดอยอินทนนท์ :(
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: ตุลาคม 27, 2011, 22:51:00 »
ถึงกับหลุดเลยเหรอครับ น่ากลัวจริงๆ

แต่ขับลงเขาใส่เกียต่ำค้างไว้ดีที่สุดครับ รีบยังไงขอปลอดภัยไว้ก่อน

ออฟไลน์ motion

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 253
    • อีเมล์
Re: ประสบการณ์ระบบเบรคอันเลวร้ายบนดอยอินทนนท์ :(
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: ตุลาคม 28, 2011, 00:56:30 »
เกียร์ auto สำหรับผม ขึ้นเขา ลงเขา ใส่ไว้ที่ 2 ตลอด หรือไม่ก็กด off OD

เบรคแทบไม่ได้ใช้เลยครับ

ดูจากลักษณะของปัญหาแล้ว ลองพิจารณาดูการคลายตัวของลูกสูบเบรคหน่อยก็ดีนะครับ บางทีคลายไม่สุดหรือไม่คลายก็เป็นได้ครับ

ออฟไลน์ อืม...นะ

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 648
  • Spirit of the "R"
Re: ประสบการณ์ระบบเบรคอันเลวร้ายบนดอยอินทนนท์ :(
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: ตุลาคม 28, 2011, 01:26:38 »
ผมว่ามันหมดเร็วเกินไปนะครับ ลองเช็คลูกสูบเบรคดูน่าจะดีนะครับ
'18 Honda Jazz gk5 s mt
'11 Volkswagen Scirocco R
'04 Honda Integra dc5 Type R
'96 Honda Prelude bb1

ออฟไลน์ Ruksadindan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,051
Re: ประสบการณ์ระบบเบรคอันเลวร้ายบนดอยอินทนนท์ :(
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: ตุลาคม 28, 2011, 01:54:31 »
น่ากลัวมาก แต่ขาขึ้นอาจไม่ต้องเคร่งเกียร์ L ขนาดนั้นก็ได้ครับ ให้มันปรับเอง

popdemonic

  • บุคคลทั่วไป
Re: ประสบการณ์ระบบเบรคอันเลวร้ายบนดอยอินทนนท์ :(
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: ตุลาคม 28, 2011, 02:00:16 »
N-brakeชมพูเมื่อสิบกว่าปีที่แล้วพี่ที่รู้จักขับVento VR6 เบรคไม่อยู่เกือบเอาชีวิตไม่รอด

ผมเองไม่เคยใช้ยี่ห้อนี้ครับ ใช้ยี่ห้อพวกฝรั่งๆสำหรับรถยุโรป ก็ไม่เคยเจออะไรแบบนี้

อาการนี้บอกได้เลยครับว่าQC ไม่ผ่านครับ แน่นอนเลย ที่เจออย่างมากคือผ้าร้าวเพราะทน

ร้อนไม่ไหว แต่ตัวbacking plateก็ไม่เคยหลุดครับ โดยปกติสมัยก่อนขึ้นเขาลงห้วย ขับเร็ว

เบรคเดิมๆก็ไม่เคยเจออะไรแบบนี้นะครับ มีแค่เริ่มรู้สึกว่ามันเริ่มเฟด (ความรู้สึกของแป้นเบรคบอกได้)

ผมก็จะใช้engine brake ช่วยๆมันหน่อย พอขับไปซักพักพอมันเริ่มเย็นตัวลง ก็กลับมาสู้ภาวะปกติ

เราก็ประคองรถไปได้เพราะเราจะรู้แล้วว่า ลิมิตของผ้าเบรคนั้นมันแค่ไหน ปกติคนทั่วไปชอบ

แช่เบรค(เลียเบรค)เวลาลงเขา โดยเข้าใจว่า แตะเบาๆชะลอไปเรื่อยๆ มันคงไม่ร้อนหารู้ไม่ว่านั่นแหละครับ

ยิ่งทำให้ความร้อนสะสมมากกว่า คุณแตะเบรคลงไปเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นเวลาขับลงเขา

อย่าไปเลียเบรค ถึงจุดที่ต้องเบรคก็เผื่อเบรคลงไปหน่อยแล้วก็กดลงไป จากนั้นไปต่อ อย่าไปชะลอ

ตั้งแต่ยอดเขาจนถึงตีนเขาไม่มีประโยชน์ นอกเสียจากเบรคจะเฟดแล้ว ผมว่าระยะเวลาเดินทาง

ยิ่งช้าด้วย อันนี้แล้วแต่ประสบการณ์แต่ละคนครับ เอนจิ้นเบรค ก็ใช้ให้เกิดประโยชน์ ไม่ใช่สุ่มสี่สุ่มแปด

เชนเอะอะตบเกียร์ต่ำ ต้องดูความเร็ว และรอบให้มันสัมพันธ์ เอนจิ้นเบรคนี้ใช้เป็นหละคุณอนันต์ ใช้ไม่เป็น

นอกเสียจากจะบรรลัยแล้ว เสี่ยงชีวิตด้วยครับ  

ปล เหนือสิ่งอื่นใด ดูไลน์ถนน ดูสัญญาณไฟเวลาแซง จังหวะดี นอกเสียจากจะปลอดภัยจาก เบรคเฟด
ยังทุ่นเวลา และปลอดภัยด้วยครับ เบรคไว้ใช้คราวที่จำเป็น เวลาเราลงเขา แรงส่งมันมีมาอยู่แล้ว
ให้ใช้ให้เป็นประโยชน์ เวลาแซงมันไม่เค้นเครื่อง ดูไลน์ถนน ดูจังหวะดีๆ รับรองไม่มีปัญหาครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 28, 2011, 02:03:06 โดย popdemonic »

ออฟไลน์ J!MMY

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 15,628
    • www.headlightmag.com
    • อีเมล์
Re: ประสบการณ์ระบบเบรคอันเลวร้ายบนดอยอินทนนท์ :(
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: ตุลาคม 28, 2011, 02:12:02 »
กรณีนี้ ให้ลองติดต่อผู้ผลิตเบรกดู เพื่อจะหาสาเหตุร่วมกัน  ถ้าคุณมีเวลาว่างพอนะครับ
ผมถือว่า แบบนี้ ไม่ใช่เรื่องดีเลย ที่ผู้บริโภคจะต้องมาประสบเรื่องอะไรแบบนี้
กับสภาพเส้นทางแบบนี้

การขึ้น หรือลงเขา ใช้ L หรือ 2 ครับ อย่าใช้ D ให้รถมันมีเกียร์ช่วยหน่วงเป็น Engine Brake ไว้อีกนิดนึงดีกว่า

popdemonic

  • บุคคลทั่วไป
Re: ประสบการณ์ระบบเบรคอันเลวร้ายบนดอยอินทนนท์ :(
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: ตุลาคม 28, 2011, 02:15:15 »
กรณีนี้ ให้ลองติดต่อผู้ผลิตเบรกดู เพื่อจะหาสาเหตุร่วมกัน  ถ้าคุณมีเวลาว่างพอนะครับ
ผมถือว่า แบบนี้ ไม่ใช่เรื่องดีเลย ที่ผู้บริโภคจะต้องมาประสบเรื่องอะไรแบบนี้
กับสภาพเส้นทางแบบนี้

การขึ้น หรือลงเขา ใช้ L หรือ 2 ครับ อย่าใช้ D ให้รถมันมีเกียร์ช่วยหน่วงเป็น Engine Brake ไว้อีกนิดนึงดีกว่า

นอนดึกนะเนี่ย

ออฟไลน์ Tee@Abuser

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 326
  • T&T Garage
Re: ประสบการณ์ระบบเบรคอันเลวร้ายบนดอยอินทนนท์ :(
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: ตุลาคม 28, 2011, 02:48:05 »
เอออ....

พี่ครับ รถพี่ใช้ N Brake รุ่นไหนอะครับ EC กล่องเหลือง , NAO/NBP กล่องดำ , NAP กล่องชมพู

ต้องถามก่อนอะครับผมเพราะว่าในแต่ละรุ่น การทนความร้อนมันก็ต่างกัน ฟิกชั้น ก็ต่างกันครับผม


T&T Garage & Spp Garage
Sahakorn 17 racing factory

ออฟไลน์ LimitedEdition

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,410
Re: ประสบการณ์ระบบเบรคอันเลวร้ายบนดอยอินทนนท์ :(
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: ตุลาคม 28, 2011, 04:43:19 »
อย่างที่ตี้บอกครับ

ต้องดูด้วยว่าผ้าเบรก N-Brake นี่รุ่นไหน
เป็นแบบ Replacement, High Performance, หรือว่า Racing
ถ้าเป็นแบบ Replacement ประสิทธิภาพการเบรกก็ไม่ต่างจาก OEM เท่าไหร่ครับ

อีกส่วนหนึ่ง ผมขอวิเคราะห์คร่าวคร่าวจากคนนั่งอ่านอย่างเดียว
ถ้าผ้าเบรกเปลี่ยนมาพร้อมกัน 4 ล้อ แล้วมันไหม้อยู่ล้อเดียว สึกจนหมดในล้อเดียว
แบบนี้ตัวการแรกที่ควรสงสัยคือ คาลิปเปอร์ ที่ล้อนั้นนั่นแหละครับ
แสดงว่าลูกสูบมันไม่คืนตัวกลับ ทำให้ผ้าเบรกเสียดสีกับจานอยู่ตลอดเวลา
มันเลยหมดเร็วผิดปกติ และเกิดความร้อนสะสมจนไหม้ก่อนพรรคพวกอีก 3 ล้อ

และไหนไหนแล้วถ้าได้ตรวจเช็ค ก็ควรจะเช็คให้ครบทั้งสี่ล้อไปเลย
เพราะรถส่วนใหญ่ เบรกหน้าหมดเร็วกว่าเบรกหลังอยู่แล้วครับ
ดังนั้น ถ้าเบรกหลังสองข้างมันสึกเร็วกว่าที่ด้านหน้ามาก ก็น่าสงสัยทั้งคู่

ส่วนเรื่องการขับรถขึ้นและลงเขา เรื่องนี้ผมก็ใช้เป็นตัวอย่างหน่อยนะครับ
ว่าการที่เราได้รถยนต์มา เราควรจะศึกษาคู่มือให้ดี ว่าอะไรคืออะไร
กรณีนี้ถือว่าโชคดี ที่ไม่ได้ประสบอุบัติเหตุ และเอาชีวิตรอดมาได้ปลอดภัย
แต่ถ้าโชคร้ายกว่านี้เสียหน่อย การใช้เกียร์ D ลากเบรกลงเขา ก็อาจจะทำให้
เกิดอุบัติเหตุร้ายแรง จนถึงขั้นเสียชีวิตได้ เหมือนกับที่เราได้ยินข่าวรถทัวร์
ลงเขาแล้วเบรกแตกบ่อยบ่อยกันนั่นแหละครับ ก็เล่นใส่เกียร์ว่างบ้างล่ะ ดับเครื่องบ้างล่ะ

จริงจริงแล้วเกียร์อัตโนมัติ ไม่มีอะไรต่างไปจากเกียร์ธรรมดาเลย ถ้าเราศึกษาให้ดี
รถเกียร์อัตโนมัต มีเกียร์เดินหน้าจะสี่หรือห้าเกียร์ รถเกียร์ธรรมดาก็มีสี่หรือห้าเกียร์
และเกียร์มันก็ใช้ขับเคลื่อนรถเหมือนกัน ไม่ใช่ว่ารถเกียร์อัตโนมัติจะมีเกียร์เดียวเลือกไม่ได้

ตำแหน่งสัญลักษณ์ต่างต่างบนคันเกียร์ ก็ควรศึกษาให้ทราบดีว่ามันหมายถึงอะไรครับ
อย่าง L ในรถบางรุ่นบอกว่าเป็นเกียร์ 1 และ 2 คือเมื่อใส่ตำแหน่งนี้ รถจะวิ่งอยู่แค่สองเกียร์นี้
บางคัน L คือเกียร์​ 1 อย่างเดียว บางคัน L หมายถึงเกียร์ต่ำ เช่นในกรณีของ CVT แต่ต่ำที่ว่าก็
ทำให้รถวิ่งไปถึง 60-70 กม./ชม. ได้ ดังนั้น มันเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องศึกษาจากคู่มือครับ

วิธีการขับรถขึ้นหรือลงเขา ก็ให้คิดเหมือนเราขับรถเกียร์ธรรมดานั่นแหละครับ
ถ้าทางชัน ขับเกียร์ธรรมดาเราต้องใช้เกียร์ต่ำ เวลาขับเกียร์อัตโนมัติ ก็ต้องเลือกคันเกียร์ไว้ที่ L หรือ 2

ถ้าไปได้เร็วหน่อยไม่ชันมาก ก็อยู่ที่ D3 หรือ D with O/D Off เป็นต้น

ของแบบนี้ เสียเวลาศึกษากันหน่อยเถิดครับ พลาดพลั้งไป สิ่งที่เกิดขึ้นตามมามันไม่คุ้มกันเลย

ออฟไลน์ 911turbo

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 288
Re: ประสบการณ์ระบบเบรคอันเลวร้ายบนดอยอินทนนท์ :(
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: ตุลาคม 28, 2011, 09:54:29 »
เรื่องผ้าเบรคไม่มีความรู้ครับ แต่เรื่องขับรถทางดอยพอรู้อยู่

ขับขึ้นดอยมักไม่ใช่ปัญหา เพราะจะ D 2 L มันก็ขึ้นได้หมด เหยียบๆเข้าไป
แต่ขับลงขอแนะนำเป็นอย่างยิ่งว่าให้ใช้เฉพาะ 2 หรือ L
ช่วงยอดดอยอินลงมาถึง กม 39-40 เกียร์ L อย่างเดียวเลยครับ ช่วงนั้นชันตลอด แค่ L ความเร็วก็ขึ้นไป 50-60 แล้ว ต้องคอยย้ำเป็นช่วงๆ  เวลาเบรคผมย้ำไปเลย จาก 60 เหลือ 30 อะไรก็ว่าไป สักพักพอรถไหลๆ ก็จะมาแถวๆ 50-60 ก็ย้ำเบรคต่อ  อย่าเลียเบรค แบบ ค้างที่40 ตลอด เบรคหมดแน่

ค่อยๆปล่อย L-2 ไปนั่นแหละ ใครมันอยากเร็วให้มันแซงไป ถ้าเป็นเจ้าถิ่นเค้าหาจังหวะแซงได้อยู่แล้ว พวกนี้จำได้ทุกโค้ง       เวลาขับลงดอยมา ใครขับไม่เป็นดูไฟเบรคได้เลย แดงตลอด ลากยาว ตั้งแต่ยอดจนพื้นล่าง เบรคใหม้หมด

ออฟไลน์ mongolias

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,368
Re: ประสบการณ์ระบบเบรคอันเลวร้ายบนดอยอินทนนท์ :(
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: ตุลาคม 28, 2011, 10:00:13 »
เวลาขับรถขึ้นดอย ผมใช้ D ตลอดครับ
แต่เวลาลงจะลดเหลือ L แทน
ขาขึ้นผมไม่กลัวครับ แต่ขาลงนี่แหละต้องรู้จักใช้เบรค ใช้เอนจิ้นเบรคให้ช่วยลดภาระของเบรค
เส้นอินทนนท์ จริงอยู่ที่เป็นทางลงยาว แต่มันก็ไม่ได้จำเป็นว่าต้องกดเบรคตลอดครับ
ลองปรับวิธีการขับขี่ดูก่อนก็น่าจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง

ส่วนผ้าเบรค ผมว่า 1หมื่น ก.ม. นี่มันไปไวเกินไปหรือเปล่า ผมใช้ Bendix ล่าสุดได้ราวๆ 50000 ก.ม. ผมยังรู้สึกว่ามันไปเร็วเลย
ยังไงลองปรึกษาผู้ผลิตดูครับ ว่ามันเป็น Defect ของผ้าเบรคหรือเปล่าครับ

ออฟไลน์ TTL

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,277
Re: ประสบการณ์ระบบเบรคอันเลวร้ายบนดอยอิน
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: ตุลาคม 28, 2011, 10:20:53 »
ต้องขอขอบคุณความคิดเห็นของทุกๆท่านนะครับ :)
ได้ความรู็เพิ่มอีกเยอะเลยเรื่องการขับขี่ขึ้นลงภูเขาครับ

คือเรื่องของเรื่อง N-brakeชุดนี่คือคุณพ่อเป็นคนเอาไปทำ(บอกตรงๆจำรุ่นไม่ได้จริงๆครับ)แต่ราคาถ้าคุณพ่อผม+-ไม่ผิดอยู่ที่คู่หลังราคา1850บาท รูสึกว่าจะไม่รวมค่าแรงนะครับ
แต่ตอนทำมาผมก็ลองขับมันนิ่มนวลมากๆครับ แต่ปัญหาก็เคยเกิดขึ้นมาชุดนึงเเล้วคือเบรคหลังมีปัญหาแบบนี่แหละครับก็เลยนำไปเคลม ทางบริษัทNbrakeก็รับผิดชอบแล้วก็เอาชุดใหม่มาให้ผมอีก
แต่ที่นี่ ผมก็ไม่คิดว่าระบบเบรคมันจะมีปัญหาแบบนี้เพราะว่า ก่อนที่จะเปลี่ยนเป้นชุดNbrakeเนี่ย ได้ทำการเปลียนลูกสูบเบรคทุกล้อ!!! ทุกล้อเลยนะครับ 
แต่ที่นี่มันก็ตามที่คุณเนยบอก ว่าชุดหลังมันต้องหมดช้ากว่าชุดหน้าแต่ที่นี่ ชุดหลังขวามันดันไหม้แล้วชุดหลังซ้ายก็เหลือไม่เยอะอยา่งที่มันควรจะเป็นครับ
ตอนนี้ก็ไม่รู้ิอาจจะคิดว่าชีวิตจจะกลับไปใช้Metal kingดีกว่ามันไม่เคยทรยศผมเลยนะ....ยังไงโดยส่วนตัวมันก็ยังสงสัยว่าลูกสูบเบรคที่ร้านทำให้มันดีจริงรึป่าว
้เพราะไม่รู็นะพอผมเปลี่ยนเบรคทั้งหมดบนดอยอินทนนท์แล้ว(เบรคไม่ค่อยมียี่ห้อ) ก็ยอมรับว่ามันนิ่มนวลพสมควรครับ ลูกสูบเบรคตอนทำใหม่หมดทำมารแล้วเบรคได้นิ่มนวลขึ้นมากจริงๆครับ

ผมคิดว่าในกรณีของผมมันน่าจะมีหลายสาเหตุระครับ 1.เป็นที่ผ้าบรคมันมีปัญหาเองด้วย 2.ระบบสูบเบรคมันอาจจะมีปัญหา(สันนิฐานไว้ก่อน เพราะ่ว่ามันก็พึ่งทำไปทั้งชุด)  ที่นี่ต้องเข้าใจว่า
เบรคมันไหม้ตอนขาขึ้นครับเรียกว่าไม่ค่อยได้ใช้เบรคสักเท่าไรในช่วงนั้นแล้วพอถึงยอดก็พักรถสักพัก แล้วที่นี่พอวิ่งลงไปนิดเดียวจริงๆก็หลุดออกมาแนวนี่เลยครับ ส่วนอาการFADEเจอในเบรคชุดใหม่ซึ่งอันนี้ยอมรับว่าอาจจะมาจากการขับขี่ที่ไม่ถูกต้องครับรวมถึงผ้าเบรคที่เปลี่ยนใหม่เป็นผ้าเบรคที่ไม่ค่อยได้มียี่ห้อสักเท่าไรแต่ก็okมันนุ่มนวลดีครับ..

ออฟไลน์ Tee@Abuser

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 326
  • T&T Garage
Re: ประสบการณ์ระบบเบรคอันเลวร้ายบนดอยอินทนนท์ :(
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: ตุลาคม 28, 2011, 11:38:47 »
เท่าที่อ่านๆมาตามความเข้าใจ

ถ้าเบรค N Brake ของพี่ ถ้าเดาๆจากราคา น่าจะเป็นรุ่น EC ECO กล่องเหลือง Standard เลยนะครับ ทนร้อนได้ไม่เกิน 350 องศา เกินกว่านั้นไหม้ ซึ้งรุ่นนี้เป็นรุ่นประหยัด ลงเขายังไงก็ไหม้ อะครับผม ไม่อยู่แน่ๆคับ โทษผ้าเบรคได้เลยเพราะว่า รุ่นนี้ไม่ได้ทำมาเพื่องานนี้เลยครับ พี่ต้องเลือกรุ่นที่ สูงกว่านั้น ทนร้อนกว่านั้น และถ้าเอารุ่นนี้มาเทียบกับ Bendix Metal King ก็ไม่ได้คับ เพราะถ้า King นั้นเกรดสูงกว่า N Brake ตัว EC ครับผม แนะนำถ้าขึ้นลงเข้าบ่อย ให้เล่นพวก N Brake NBP กล่องดำ ทนความร้อนประมาณ 500 องศา หรือถ้างบไม่จำกัดเล่น NAP กล่องชมพู ทน 800 องศา ไปเลยคับ ยังไงก็อยู่คับสำหรับ NAP ชมพูจริงๆ แต่ถ้าชอบคุณภาพดี กว่ากินจานน้อยกว่า ( ราคาสูงกว่านิดนึง ) แนะำำนำให้ลองเล่นพวก N Sport ดุครับ ( แต่ผมไม่มั้นใจว่า N Sport นั้น ได้ผลิตของ Pajero มาหรือเปล่านะคับ )

และถ้าผ้าหมดเป็นข้างๆ ไม่พร้อมกันเนี๊ย ไม่ได้ผิดที่ตัวผ้าเบรคครับ แต่เกิดจากตัว คาลิปเปอร์ของรถพี่มีปัญหาครับ ลูกสูบเบรค อาจจะติด สลักคาลิปเปอร์ อาจจะตาย แค่นี้สักข้าง มันทำให้ ลูกสูบหรือคาลิปเปอร์ขยับไม่ได้ ทำให้เบรคเลียตลอดเวลา พอเบรคเลียตลอดเวลา ผ้าจะสึกมาก กินจานมาก และ พอร้อนจัดจนเกินความสามารถของตัวเนื้อผ้าเบรคไปแล้ว ก็ตัวใครตัวมันแบบ เคสของพี่เลยครับ แตก หัก กระจุย ไม่แปลกเลยครับ
T&T Garage & Spp Garage
Sahakorn 17 racing factory

ออฟไลน์ TTL

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,277
Re: ประสบการณ์ระบบเบรคอันเลวร้ายบนดอยอินทนนท์ :(
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: ตุลาคม 28, 2011, 12:46:36 »
เท่าที่อ่านๆมาตามความเข้าใจ

ถ้าเบรค N Brake ของพี่ ถ้าเดาๆจากราคา น่าจะเป็นรุ่น EC ECO กล่องเหลือง Standard เลยนะครับ ทนร้อนได้ไม่เกิน 350 องศา เกินกว่านั้นไหม้ ซึ้งรุ่นนี้เป็นรุ่นประหยัด ลงเขายังไงก็ไหม้ อะครับผม ไม่อยู่แน่ๆคับ โทษผ้าเบรคได้เลยเพราะว่า รุ่นนี้ไม่ได้ทำมาเพื่องานนี้เลยครับ พี่ต้องเลือกรุ่นที่ สูงกว่านั้น ทนร้อนกว่านั้น และถ้าเอารุ่นนี้มาเทียบกับ Bendix Metal King ก็ไม่ได้คับ เพราะถ้า King นั้นเกรดสูงกว่า N Brake ตัว EC ครับผม แนะนำถ้าขึ้นลงเข้าบ่อย ให้เล่นพวก N Brake NBP กล่องดำ ทนความร้อนประมาณ 500 องศา หรือถ้างบไม่จำกัดเล่น NAP กล่องชมพู ทน 800 องศา ไปเลยคับ ยังไงก็อยู่คับสำหรับ NAP ชมพูจริงๆ แต่ถ้าชอบคุณภาพดี กว่ากินจานน้อยกว่า ( ราคาสูงกว่านิดนึง ) แนะำำนำให้ลองเล่นพวก N Sport ดุครับ ( แต่ผมไม่มั้นใจว่า N Sport นั้น ได้ผลิตของ Pajero มาหรือเปล่านะคับ )

และถ้าผ้าหมดเป็นข้างๆ ไม่พร้อมกันเนี๊ย ไม่ได้ผิดที่ตัวผ้าเบรคครับ แต่เกิดจากตัว คาลิปเปอร์ของรถพี่มีปัญหาครับ ลูกสูบเบรค อาจจะติด สลักคาลิปเปอร์ อาจจะตาย แค่นี้สักข้าง มันทำให้ ลูกสูบหรือคาลิปเปอร์ขยับไม่ได้ ทำให้เบรคเลียตลอดเวลา พอเบรคเลียตลอดเวลา ผ้าจะสึกมาก กินจานมาก และ พอร้อนจัดจนเกินความสามารถของตัวเนื้อผ้าเบรคไปแล้ว ก็ตัวใครตัวมันแบบ เคสของพี่เลยครับ แตก หัก กระจุย ไม่แปลกเลยครับ
ขอบคุณมากๆครับ สำหรับคำแนะนำ แนะนำได้เห็นภาพเลย ตอนนี้ก็เริ่มหันเอนๆไปทางด้านลูกสูบมันมีปัญหาแต่อยากทราบว่าจะรู้ได้ไงว่าลูกสูบมันมีปัญหาแล้ว เพราะว่าคือบอกคุณพ่อแล้ว ได้คำตอบกลับมาว่า
ก็มันพึ่งทำใหม่่ทั้งหมดเสียไปหลายบาท สูบมันจะมีปัญหาได้ยังไง ผมก็เลยก็นะฟังจากพ่อพูดพ่อไม่ค่อยจะยอมรับว่ามันเป้นที่สูบสักเท่าไร เพราะว่าตอนนี้ที่ใช้ผ้าเบรคแบบธรรมดา ไม่ได้มียี่ห้อเบรคก็เนียนไม่ได้ต้านเท้าเลยครับ อยากทราบว่าพอมีวิธีเช็คไมครับ หรือถ้าให้ร้านรื้อออกมาเช็คมันยุ่งยากไมครับ...

ออฟไลน์ Tee@Abuser

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 326
  • T&T Garage
Re: ประสบการณ์ระบบเบรคอันเลวร้ายบนดอยอินทนนท์ :(
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: ตุลาคม 28, 2011, 13:03:07 »
เท่าที่อ่านๆมาตามความเข้าใจ

ถ้าเบรค N Brake ของพี่ ถ้าเดาๆจากราคา น่าจะเป็นรุ่น EC ECO กล่องเหลือง Standard เลยนะครับ ทนร้อนได้ไม่เกิน 350 องศา เกินกว่านั้นไหม้ ซึ้งรุ่นนี้เป็นรุ่นประหยัด ลงเขายังไงก็ไหม้ อะครับผม ไม่อยู่แน่ๆคับ โทษผ้าเบรคได้เลยเพราะว่า รุ่นนี้ไม่ได้ทำมาเพื่องานนี้เลยครับ พี่ต้องเลือกรุ่นที่ สูงกว่านั้น ทนร้อนกว่านั้น และถ้าเอารุ่นนี้มาเทียบกับ Bendix Metal King ก็ไม่ได้คับ เพราะถ้า King นั้นเกรดสูงกว่า N Brake ตัว EC ครับผม แนะนำถ้าขึ้นลงเข้าบ่อย ให้เล่นพวก N Brake NBP กล่องดำ ทนความร้อนประมาณ 500 องศา หรือถ้างบไม่จำกัดเล่น NAP กล่องชมพู ทน 800 องศา ไปเลยคับ ยังไงก็อยู่คับสำหรับ NAP ชมพูจริงๆ แต่ถ้าชอบคุณภาพดี กว่ากินจานน้อยกว่า ( ราคาสูงกว่านิดนึง ) แนะำำนำให้ลองเล่นพวก N Sport ดุครับ ( แต่ผมไม่มั้นใจว่า N Sport นั้น ได้ผลิตของ Pajero มาหรือเปล่านะคับ )

และถ้าผ้าหมดเป็นข้างๆ ไม่พร้อมกันเนี๊ย ไม่ได้ผิดที่ตัวผ้าเบรคครับ แต่เกิดจากตัว คาลิปเปอร์ของรถพี่มีปัญหาครับ ลูกสูบเบรค อาจจะติด สลักคาลิปเปอร์ อาจจะตาย แค่นี้สักข้าง มันทำให้ ลูกสูบหรือคาลิปเปอร์ขยับไม่ได้ ทำให้เบรคเลียตลอดเวลา พอเบรคเลียตลอดเวลา ผ้าจะสึกมาก กินจานมาก และ พอร้อนจัดจนเกินความสามารถของตัวเนื้อผ้าเบรคไปแล้ว ก็ตัวใครตัวมันแบบ เคสของพี่เลยครับ แตก หัก กระจุย ไม่แปลกเลยครับ
ขอบคุณมากๆครับ สำหรับคำแนะนำ แนะนำได้เห็นภาพเลย ตอนนี้ก็เริ่มหันเอนๆไปทางด้านลูกสูบมันมีปัญหาแต่อยากทราบว่าจะรู้ได้ไงว่าลูกสูบมันมีปัญหาแล้ว เพราะว่าคือบอกคุณพ่อแล้ว ได้คำตอบกลับมาว่า
ก็มันพึ่งทำใหม่่ทั้งหมดเสียไปหลายบาท สูบมันจะมีปัญหาได้ยังไง ผมก็เลยก็นะฟังจากพ่อพูดพ่อไม่ค่อยจะยอมรับว่ามันเป้นที่สูบสักเท่าไร เพราะว่าตอนนี้ที่ใช้ผ้าเบรคแบบธรรมดา ไม่ได้มียี่ห้อเบรคก็เนียนไม่ได้ต้านเท้าเลยครับ อยากทราบว่าพอมีวิธีเช็คไมครับ หรือถ้าให้ร้านรื้อออกมาเช็คมันยุ่งยากไมครับ...

เปลี่ยนใหม่ก็มีปัญหาได้ครับ ไม่ใช้ว่าของใหม่จะไม่มีปัญหา แหะๆ

ทางที่ดี ครับตอนนี้รื่อ คาลิปเปอร์ออกมาล้าง เคลียลูกสูบ ถอดออกมาให้หมดครับ ล้างทำความสะอาดเอากระดาษทราย ละเอียด ขัดถูเบาๆบริเวณลูกสูบ บางทีลูกสูบเปลี่ยนมาใหม่ อาจจะมีความเป็นได้ว่า ใส่ของเทียบมา(ไม่ได้แท้ ) ขนาดผิดสเปกอาจจะใหญ่กว่าแค่ 0.01 มิล แค่นี้ก็มีผลต่อระบบเบรคแล้วครับ

เออแล้วพี่ อย่าลืมเปลี่ยนน้ำมันเบรคด้วยนะครับ หลังจากที่เบรคเฟสควันท่วมไปขนาดนั้น น้ำมันเบรคมันเดือดไปแล้วแน่นอน น้ำมันเบรคของพี่ตอนนี้น่าจะศูนย์เสียการทนความร้อนไปแล้ว เเนะำนำว่าให้เปลี่ยน ไล่น้ำมันเบรคเดิมทิ้งและเปลี่ยนใหม่ไปเลย

แนะนำ DOT 4 ขึ้นไปเลยนะครับ เช่นพวกของ Ate อะไรพวกนี้ ครับผม
T&T Garage & Spp Garage
Sahakorn 17 racing factory

popdemonic

  • บุคคลทั่วไป
Re: ประสบการณ์ระบบเบรคอันเลวร้ายบนดอยอินทนนท์ :(
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: ตุลาคม 28, 2011, 13:43:14 »
ติดใจนิดนึงว่าทำไมลูกสูบเบรค ถึงจำเป็นต้องเปลี่ยนหมด4ลูก 4ล้อครับ?

ใช้รถมาบางคัน25ปี ลูกสูบเบรคยังไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ เปลี่ยนแต่

piston seal,dust boot แค่นั้นเอง นอกเสียจากรถจมน้ำเหมือนตอนนี้

แล้วซีลขาด

nattanon_661

  • บุคคลทั่วไป
Re: ประสบการณ์ระบบเบรคอันเลวร้ายบนดอยอินทนนท์ :(
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: ตุลาคม 28, 2011, 14:40:41 »
ปรกติเวลาผมขับลงเขา+ขึ้นเขานี่ผมแทบไม่แตะเบรกใช้เกียร์ต่ำตลอดเลยนะครับ จะแตะเบรกก็ต่อเมื่อมันเข้าใกล้รถคันข้างหน้า แต่ถึงจะกดเบรกยาวๆก็เถอะมันไม่น่าจะหมดเร็วขนาดนี้ - -* ว่าแต่ เค้าเอาของปลอมมาใส่ให้คุณรึเปล่าครับ อุอิ

ออฟไลน์ TTL

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,277
Re: ประสบการณ์ระบบเบรคอันเลวร้ายบนดอยอินทนนท์ :(
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: ตุลาคม 28, 2011, 17:18:26 »
ขอบคุณๆ Tee มากๆนะครับ รวมถึงท่านๆอื่นๆด้วย

พรุ่งนี้กะจะให้ช่างที่รู็จักกัน จัดการให้เลยครับ ยังไงก็ขอบคุณสำหรับคำแนะนำอีกครั้งนะครับ 

ส่วนคำถามที่สงสัยว่าทำไม ผมถึงเปลีั่ยนสูบทั้งหมด คำตอบนี้ได้รับจากคุณพ่อซึ่งเป้นคนนำไปทำ

ง่ายๆครับคือรถมันอายุค่อนข้างมากเเล้วรวมถึงชีวิตคนบนรถต้องมาอยู่ที่เบรคทั้ง4ชุดนี้ ทางร้านก็แนะนำให้เปลี่ยนเหมือนกัน

คุณพ่อก็เลยตกลงเปลี่ยน เพื่อความสบายใจและความปลอดภัยครับเมื่อเปลี่ยนมาก็ดีครับเบรคนุ่มนวลขึ้นเยอะมากๆครับ

แต่ยังไงก็แล้วแต่ผมคิดว่าจะไม่นำรถเข้าไปServiceที่ร้านนี้อีกต่อไปครับ...

ออฟไลน์ turbo46

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 31
    • อีเมล์
Re: ประสบการณ์ระบบเบรคอันเลวร้ายบนดอยอินทนนท์ :(
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: ตุลาคม 29, 2011, 14:46:50 »
ไม่รู้ว่ามีใครบ้างที่ใช้ผ้าเบรคของ Girling เหมือนผมบ้างนะครับ ยี่ห้อนี้แรกๆผมแทบไม่สนใจเลยด้วยซ้ำทั้งราคาและชื่อเสียง(เพราะไม่ค่อยได้ยิน) แต่คนรู้จักที่เปิดร้านอะไหล่เค้าบอกว่าเป็นสูตรเดียวกับผ้าเบรค TRW หรือ Lucas เก่า และเป็นผ้าเบรค OEM ของวอลโว่บางรุ่นด้วย พอเค้าไปค้นในอากู๋ก็พบฟี้ดแบ็คดีๆเยอะเหมือนกัน ก็เลยลองเอามาใส่ cedia ดู ผลปรากฎว่าดีกว่าของเดิม(Akebono คู่ละ 2750)แบบรู้สึกได้ คือถ้าขับออกบ้านมาตอนเช้าจะรู้สึกธรรมดาไม่ต่างจากของเดิมเท่าไหร่ แต่ถ้าขับเร็วหรือผ้าเบรคเริ่มร้อนได้ที่ เบรคทีนี่หัวทิ่มเลย ผมชอบขับรถไปปาย  ม่อนแจ่ม(ทางไปสะเมิง) อินทนนท์ ดอยสุเทพ ขับไปพะเยาทางดอยสะเก็ด ขับไปตากทางดอยขุนตาน ห้วยน้ำดัง ลงดอยแบบหนักๆก็เบรคไม่มีไหม้เลยนะครับ อยู่ทางเหนือเลยมีโอกาสเทสต์ผ้าเบรคบ่อยหน่อย ราคา มันถูกจนน่ากลัวแต่ประสิทธิภาพกลับตรงกันข้าม ยังไงก็ลองเก็บไปพิจารณาดูนะครับ เป็นประสบการณ์และความเห็นส่วนตัวล้วนๆ เลยอยากเอามาแบ่งบันครับผม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 01, 2011, 00:08:15 โดย turbo46 »

ออฟไลน์ TTL

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,277
Re: ประสบการณ์ระบบเบรคอันเลวร้ายบนดอยอินทนนท์ :(
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: ตุลาคม 29, 2011, 19:46:17 »
ไม่รู้ว่ามีใครบ้างที่ใช้ผ้าเบรคของ Girling เหมือนผมบ้างนะครับ ยี่ห้อนี้แรกๆผมแทบไม่สนใจเลยด้วยซ้ำทั้งราคาและชื่อเสียง(เพราะไม่ค่อยได้ยิน) แต่คนรู้จักที่เปิดร้านอะไหล่เค้าบอกว่าเป็นสูตรเดียวกับผ้าเบรค TRW หรือ Lucas เก่า และเป็นผ้าเบรค OEM ของวอลโว่บางรุ่นด้วย พอเค้าไปค้นในอากู๋ก็พบฟี้ดแบ็คดีๆเยอะเหมือนกัน ก็เลยลองเอามาใส่ cedia ดู ผลปรากฎว่าดีกว่าของเดิม(Akebono คู่ละ 2750)แบบรู้สึกได้ คือถ้าขับออกบ้านมาตอนเช้าจะรู้สึกธรรมดาไม่ต่างจากของเดิมเท่าไหร่ แต่ถ้าขับเร็วหรือผ้าเบรคเริ่มร้อนได้ที่ เบรคทีนี่หัวทิ่มเลย ผมชอบขับรถไปปาย  ม่อนแจ่ม(ทางไปสะเมิง) อินทนนท์ ดอยสุเทพ ขับไปพะเยาทางดอยสะเก็ด ขับไปตากทางดอยขุนตาน ห้วยน้ำดัง ลงดอยแบบหนักๆก็เบรคไม่มีไหม้เลยนะครับ อยู่ทางเหนือเลยมีโอกาสเทสต์ผ้าเบรคบ่อยหน่อย ราคาคู่ละ 550 บาทเองครับ มันถูกจนน่ากลัวแต่ประสิทธิภาพกลับตรงกันข้าม ยังไงก็ลองเก็บไปพิจารณาดูนะครับ เป็นประสบการณ์และความเห็นส่วนตัวล้วนๆ เลยอยากเอามาแบ่งบันครับผม
55 อะไรจะบังเอิญขนาดนั้น ผมนี่แหละทีสนใจมันพอดีเลย พอดีตั้งแต่ชุดN ของผมพังช่างก็เอาไอเจ้ายี่ห้อนี่หละมาใส่ให้ผม

พอดีได้มีโอกาสคุยกับช่างหลังเอารถไปตรวจเรื่องเบรคก็วันนี้แหละ ช่างบอกว่าผ้่าเบรคยี่ห้อนี้เป็นผ้าเบรค ที่รถยุโรปส่วนมากใช้ ผมจำไม่ได้แล้วมีหลายยี่ห้อที่่ช่างบอกเหมือนกันครับ

เช่นLand Rover ครับ และมีอีกหลายยี่ห้อที่ช่างบอกว่าใช้ยี่ห้อนี้ ผมใช้พึ่งเปลี่ยนมาบอกได้เลยว่าการเบรคทำได้นุ่มนวลมากๆครับ ปลื้มมากๆครับ แต่คงต้องรอดูว่าระยะยาวจะเป็นยังไงครับ

แต่ที่แน่ๆระยะสั้นตอนนี้เออมันดีนะ ตอนแรกๆก็ว่าๆมันNo name แต่พอใช้ไปเรื่อยๆรู็สึกว่าokเลยหละยี่ห้อนี้ก็เลยมีโอกาสได้คุยกับช่างก็วันนี้แหละครับเลยรู้เรื่องมันขึ้นมาเลย คิดว่าเปลี่ยนครั้งหน้าอาจจะจับ

ยัดเจ้านี้อีกครั้งเหมือนกันครับแ่ต่อาจจะเล่นรุ่นท็อปๆของมันหน่อยครับ ไม่ก็กลับไปใช้ชีวิตอย่างเดิมคือBendix ใครบอกไม่ดีผมไม่สน ถ้าใช้แล้วตัวเองพอใจผมก็okครับ....ตอนนี้ช่วงนี้ก็อยู่เ้หนือเหมือนกัน

แอบหนีนำ้ท่วม  ;D ก็เลยมีโอกาสขับรถยาวๆเพราะว่าบ้านที่เชียงใหม่ผมอยู่ไกลจากตัวเมืองมากๆครับ ขับกันให้สะใจไปเลยจริงๆครับ....   :)

popdemonic

  • บุคคลทั่วไป
Re: ประสบการณ์ระบบเบรคอันเลวร้ายบนดอยอินทนนท์ :(
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: ตุลาคม 29, 2011, 22:30:01 »
จริงๆมันยี่ห้อ Elring ครับ ไม่ใช่Girling แต่คนไทยชอบเรียกเป็นGirling กัน รวมผมด้วยนะ

ยี่ห้อนี่เป็นแบรนด์ชั้นนำของโลกเลยครับ เป็นmaker ทำชิ้นส่วนรถยนต์เยอะมาก พวก

คาลิปเปอร์ ซีลยาง ซีลข้อเหวี่ยง ประเก็นฝาสูบ ฝาครอบวาล์ว เรียกง่ายๆอะไรที่เป็น

ชิ้นส่วนรถพวกซีล ประเก็นElring ทำหมดครับ เพราะฉะนั้นคุณภาพเชื่อกินได้ครับ

เอาเป็นว่ารถยุโรปทุกยี่ห้ออย่างน้อยต้องมีชิ้นส่วนชิ้นหนึ่ง เป็นของบริษัทนี้ครับเอา

ให้เห็นภาพมากขึ้น เหมือน Bosch,Hella,Valeo ครับ เป็นMaker ทำชิ้นส่วนซัพพลายบริษัท

ผลิตรถยนต์ ใครที่คุ้นเคยรถยุโรป จะไม่แปลกใจกับยี่ห้อนี้ บริษัทใหญ่ที่เป็นผู้ผลิตเบรค

oem.ให้รถยุโรปหลักๆนอกจากBremboแล้วก็มี Lucas,Elring,Ate ผมไม่แน่ใจว่ามัน

เป็นบริษัทเดียวกับบริษัทใดบริษัทหนึ่งรึป่าวจำไม่ได้ พวกนี้ มันเป็นบริษัทเดียวกันแต่

แยกแบรนด์ออกมา เช่น TRW กับLucas จริงๆก็บริษัทเดียวกัน หรือPagid กับTextar

จริงๆก็บบริษัทเดียวกัน บริษัทโช้คชั้นนำของโลก เช่นSachs กับBoge จริงๆกก็บริษํทเดียวกันครับ


ออฟไลน์ RhinoMango

  • Very Rhino User
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,290
  • Let's get back to '94.
Re: ประสบการณ์ระบบเบรคอันเลวร้ายบนดอยอินทนนท์ :(
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: ตุลาคม 29, 2011, 22:55:07 »
ผมใช้ NA-P ชมพูมาจะหมื่นโลแล้วครับ ช่วยชีวิตผมไว้หลายครั้งมาก ถึงแม้จะจับดีจนล้อล็อคเลยก็เหอะ

:. Volkswagen Vento VR6 '94 // :. Nissan NX "กูปรี" '94

You can Follow me on Twitter : @rhinomango

ออฟไลน์ LimitedEdition

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,410
Re: ประสบการณ์ระบบเบรคอันเลวร้ายบนดอยอินทนนท์ :(
« ตอบกลับ #25 เมื่อ: ตุลาคม 30, 2011, 00:23:57 »
พวกลูกสูบเบรกนี่ ถ้ามันไม่เสีย อย่าได้ริจะได้ซ่อมเลยครับ

บางครั้งเราซื้อชุดซ่อมมา เปลี่ยนลูกสูบและซีลยางใหม่
แต่ตอนช่างถอดใส่นั่นแหละ อาจจะไปทำให้เกิดรอยขูดขีดบนห้องสูบของคาลิปเปอร์
หรือไม่ก็การใส่เข้าไปไม่พอดี ซีลยางบิดตัวอยู่ หรืออื่นอื่นสารพัด ทำให้ลูกสูบมันขัดตัว
มันขยับตัวไม่ได้สะดวกตามปกติ มันก็เลยเกิดอาการเบรกติดนิดนิดอยู่ตลอด

อีกจุดหนึ่งที่ต้องตรวจสอบคือ สลักถ่างผ้าเบรกครับ บางทีช่างเป็นฝรั่งทำเกิน
ถอดประกอบเสร็จแล้ว ไม่ได้ให้ความสำคัญกับตัวถ่างเบรก ซึ่งเป็นลวดอันเล็กเล็ก
เกี่ยวไว้บนขอบผ้าเบรกทั้งสองฝั่ง แค่นี้ผ้าเบรกด้านนึงมันก็ไม่ถอยกลับแล้วครับ

วิธีตรวจสอบเบื้องต้น ขับรถมาทางไกลไกล จอดรถปุ๊บ
เดินออกมาแตะล้อแม็กทุกล้อเลย ถ้าล้อไหนร้อนกว่าล้ออื่นจนลวกมือ
นั่นแหละครับ เบรกติดแน่นอนไม่ต้องสืบ

ออฟไลน์ turbo46

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 31
    • อีเมล์
Re: ประสบการณ์ระบบเบรคอันเลวร้ายบนดอยอินทนนท์ :(
« ตอบกลับ #26 เมื่อ: ตุลาคม 30, 2011, 00:43:00 »
จริงๆมันยี่ห้อ Elring ครับ ไม่ใช่Girling แต่คนไทยชอบเรียกเป็นGirling กัน รวมผมด้วยนะ

ยี่ห้อนี่เป็นแบรนด์ชั้นนำของโลกเลยครับ เป็นmaker ทำชิ้นส่วนรถยนต์เยอะมาก พวก

คาลิปเปอร์ ซีลยาง ซีลข้อเหวี่ยง ประเก็นฝาสูบ ฝาครอบวาล์ว เรียกง่ายๆอะไรที่เป็น

ชิ้นส่วนรถพวกซีล ประเก็นElring ทำหมดครับ เพราะฉะนั้นคุณภาพเชื่อกินได้ครับ

เอาเป็นว่ารถยุโรปทุกยี่ห้ออย่างน้อยต้องมีชิ้นส่วนชิ้นหนึ่ง เป็นของบริษัทนี้ครับเอา

ให้เห็นภาพมากขึ้น เหมือน Bosch,Hella,Valeo ครับ เป็นMaker ทำชิ้นส่วนซัพพลายบริษัท


เอ.........แต่ผมว่ามันน่าจะเป็น Girling นะครับ เพราะเว็ปของเค้าก็มีนะ  http://www.girlingauto.com/en/Products/Brake-Pads/  ไม่แน่ใจว่าอันเดียวกันรึเปล่านะครับ

ผลิตรถยนต์ ใครที่คุ้นเคยรถยุโรป จะไม่แปลกใจกับยี่ห้อนี้ บริษัทใหญ่ที่เป็นผู้ผลิตเบรค

oem.ให้รถยุโรปหลักๆนอกจากBremboแล้วก็มี Lucas,Elring,Ate ผมไม่แน่ใจว่ามัน

เป็นบริษัทเดียวกับบริษัทใดบริษัทหนึ่งรึป่าวจำไม่ได้ พวกนี้ มันเป็นบริษัทเดียวกันแต่

แยกแบรนด์ออกมา เช่น TRW กับLucas จริงๆก็บริษัทเดียวกัน หรือPagid กับTextar

จริงๆก็บบริษัทเดียวกัน บริษัทโช้คชั้นนำของโลก เช่นSachs กับBoge จริงๆกก็บริษํทเดียวกันครับ



ออฟไลน์ TTL

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,277
Re: ประสบการณ์ระบบเบรคอันเลวร้ายบนดอยอินทนนท์ :(
« ตอบกลับ #27 เมื่อ: ตุลาคม 30, 2011, 10:27:48 »
ขอบคุณมากครับ  :)

กระืู็ทู็้นี้ทำให้ผมมีความรุ็เรื่องเบรคมากขึนเลยหละที่เดียวครับ

ส่วนเรื่องเบรค เป็นGirlling นะครับ เห็นแปะอยู่ที่ตัวผ้าเบรคเลยครับ

popdemonic

  • บุคคลทั่วไป
Re: ประสบการณ์ระบบเบรคอันเลวร้ายบนดอยอินทนนท์ :(
« ตอบกลับ #28 เมื่อ: ตุลาคม 30, 2011, 15:07:38 »
ขอบคุณมากครับ  :)

กระืู็ทู็้นี้ทำให้ผมมีความรุ็เรื่องเบรคมากขึนเลยหละที่เดียวครับ

ส่วนเรื่องเบรค เป็นGirlling นะครับ เห็นแปะอยู่ที่ตัวผ้าเบรคเลยครับ

ขอบคุณครับ ถ้ายี่ห้อนี้ไม่คุ้นเลยครับ  ;) รู้จักแต่Elring โลโก้แดงๆครับ

ออฟไลน์ 6162002

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,089
Re: ประสบการณ์ระบบเบรคอันเลวร้ายบนดอยอินทนนท์ :(
« ตอบกลับ #29 เมื่อ: ตุลาคม 30, 2011, 15:29:37 »
น่ากลัวแฮะ อะไรมันจะหลุดออกมาได้ปานนั้น รถผมใช้ผ้าเบรคอะไรไม่รู้ อันถูกๆ ขึ้นเขาลงเขาก็ไม่เคยไหม้แฮะ  จขกท. ถ้ารู้สาเหตุ มาเล่าให้ฟังบ้างนะครับ

ป.ล.เท่าที่ผมลองขับอยู่ สามคัน March , CR-V , Mighty-X  เอนจิ้นเบรคมันต่างกันค่อนข้างมากเลยด้วยครับ ผมว่าน่าจะมีผลต่อการลงเขา CR-V รู้สึกพอๆกับ March

แต่ เอนจิ้นเบรคของ March เกียร์ 1 มันแค่พอๆกับ Mighty-X เกียร์2ของผมเอง คือลงจากลานจอดรถวนๆไป มันจะเร็วขึ้นเรื่อยๆ ต้องคอยแตะเบรค
แต่ถ้าเป็น Mighty-X ผม ถ้าเป็นเกียร์1แล้ว ไม่เคยต้องแตะเบรคเลย ถึงจะเป็นเนินประมาณ50องศา เพราะเอนจิ้นเบรคเหลือเฟือมากๆครับ แต่ชอบลงเกียร์2เพราะมันไวดี ไม่ต้องแตะทั้งเบรคทั้งคันเร่ง(ยกเว้นเจอรถขวาง)