ผู้เขียน หัวข้อ: สอบถามวิธีการดูแลรถสีดำครับ กำลังจะออกรถใหม่ Wrap ใสหรือเคลือบดี  (อ่าน 16612 ครั้ง)

ออฟไลน์ pk71

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 115
    • อีเมล์
สืบเนื่องจากกระทู้ "จองเลยดีมั้ยครับ Volvo S60 DRIVe 1.6 ยังไม่เคยขับตัวจริง" http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php/topic,16611.0.html

ว่าจะออกรถสีดำครับ ที่บ้านไม่มีใครมีความรู้เรื่องการดูแลรถสีดำเลยครับ เพราะใช้กันแต่สี silver ฮ่าๆ ปกติบ้านผมมีแม่บ้านดูแลรถให้ทุกวัน เค้าจะปัดขนไก่กับเอาผ้าชุบน้ำเช็ดแล้วเอาผ้าแห้งเช็ดตามทุกเช้า รถสวยกันทั้งบ้าน เพราะไม่เห็นรอยไม่มีฝุ่น  ;D  แต่คิดว่าคงทำไม่ได้กับรถสีดำแน่ๆ เลยมาขอคำแนะนำครับ

สิ่งที่กังวลกับรถสีดำ
1. รอยขนแมวที่เค้าว่ากันว่ามาง่ายมากๆ
2. ฝุ่นเกาะเห็นชัดแม้จะล้างทุกวัน
3. ไม่อยากเข้า car care บ่อยๆครับ เห็นบางคนบอกไปเคลือบสีทุกอาทิตย์ ตรงๆก็คือขี้เกียจและไม่สะดวกครับ ทำทีละหลาย ชม. และจ่ายจุกจิกตลอด ถ้านานๆไปทีแล้วจ่ายเปรี้ยงเดียวจะสะดวกกว่าครับ
4. นอกจากรอยขนแมวธรรมดาแล้ว ยังมีแมวจริงๆด้วยครับ ชอบแอบไปนอนบนรถบ่อยๆ ไม่รู้จะทิ้งรอยอะไรไว้บ้างมั้ย  :o
5. ไม่ค่อยมั่นใจว่าถ้าสอนให้แม่บ้านล้างแบบ pro จะทำได้จริงมั้ย กลัวแอบเนียนทำแบบเคยๆ

ทางเลือกที่เจอจากการค้นคว้า
1. Wrap sticker ใส - แต่ก็มีหลายเจ้ามาก ราคาก็ต่างกันมาก มีตั้งแต่ 2X,XXX-6X,XXX ที่ 6X,XXX นี่เค้าว่าวัสดุเค้าเกรดดีกว่า ก็ไม่รู้จริงเท็จยังไง แถมแต่ละเจ้าก็มีวิธี wrap ต่างกัน บางเจ้าต้องทำในห้องปลอดฝุ่น บางเจ้ามาทำให้ถึงบ้าน  บางเจ้า wrap ไม่ถอดชิ้นส่วนเลย บางเจ้าถอดนั่นนี่  etc. แต่ทุกเจ้าบอกเหมือนกันว่าไม่ทิ้งรอยเวลาลอกออก ไม่รู้จะจริงมั้ย  อีกทั้งยังกังวลว่าติดแล้วจะเนียนมั้ย บางคนบอกว่า wrap ใสทำยากและทิ้งรอยกาวให้เห็นชัด แล้วรถจะเงาเหมือนเดิมมั้ยครับ หรือหมองลงไปเพราะ sticker  ซึ่งถ้าไม่ติดปัญหาเหล่านี้  Wrap ใสคงเป็นทางออกที่ดี เพราะน่าจะกันรอยได้ดีสุดรวมถึงสะเก็ดหินเล็กและการล้างรถแบบปกติของแม่บ้านผม  ;D
2. เคลือบแก้ว/คริสตัล/อื่นๆ - นี่ก็ราคาหลากหลาย ความคงทนก็ตามราคา แต่ก็เคลือบได้บางๆ กันรอยไม่น่าจะหนาเท่า wrap แต่น่าจะสีสวยกว่า(มาก)
3. Wrap sticker ดำด้าน - เพื่อตัดปัญหาการทิ้งรอยกาวของการ wrap ใส แต่ไม่รู้จะดูแว๊นไปมั้ย  ;D

ใครมีข้อแสนอแนะอื่น หรือคำแนะนำของแต่ละทางเลือกที่กล่าวมา รวมถึงแนะนำร้าน/product ที่น่าจะเหมาะกับความต้องการของผม รบกวนด้วยนะครับ

ขอบคุณมากครับ  :)

ออฟไลน์ natty ib-cm

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 669
รอฟังผู้รู้มาตอบครับ

ออฟไลน์ GUDJA-MAN

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,649
ข้อ 2 น่าสนใจที่สุด

ออฟไลน์ view_skyline

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 14
จากประสบการณ์ส่วนตัว เอาเท่าที่พอตอบได้นะครับ อาจผิดหรือถูก และไม่ตรงคำถามไปบ้าง เพิ่งเริ่มหาข้อมูลเหมือนกัน

การเคลือบสีและเคลือบแก้วให้ผลงานที่ใกล้เคียงกัน

- เคลือบสีเหมาะกับผู้ที่มีเวลาให้รถ สนุกกับการดูแลผิวรถ ได้ทดลองหรือผสม wax ตัวต่างๆ ออกมาเป็นผลงานและภูมิใจในฝีมือของตนเอง หรือมีเวลาเข้า car care อย่างต่ำเดือนละ 1-2 ครั้ง
- เคลือบแก้วเหมาะกับผู้ที่ไม่ค่อยมีเวลาให้รถ ทำงานมาเหนื่อย พักผ่อนดีกว่า แต่อยากให้รถสวยอยู่ ลงทุนครั้งเดียว ยาวๆ ไปเลย

ส่วนตัวผมเคลือบสีเองบ้าง และเข้า car care เป็นส่วนใหญ่ เพราะร้านประจำฝีมือดีและอยู่ไม่ไกลบ้าน
จากที่เห็นการเคลือบสีที่ดี ดูแลความสะอาดอยู่ตลอด ให้ผลงานที่ใกล้เคียงกับการเคลือบแก้วเลยทีเดียว

ส่วนเคลือบแก้วเคยเห็นผลงาน สวย ใส เหมือนกระจก เห็นครั้งแรกรู้สึกผลงานผลงานสวยกว่าการเคลือบสีอยู่นิดหน่อย
การเช็ดฝุ่น ทำความสะอาดยังต้องทำเหมือนเดิม และต้องเข้าไปดูแลงานเคลือบทุก 3 เดือน (แล้วแต่ร้าน)

แต่ผมยังไม่ค่อยเชื่อคำโฆษณาที่ว่าเคลือบแก้วแล้วอยู่ได้นานเป็น 5 ปี อันนี้คงต้องรอให้ผุ้มีประสบการณ์มาตอบ

จากทางเลือกของ จขกท. ส่วนตัวผมจะเลือกเคลือบแก้ว หาข้อมูลสัก 2 วัน น่าจะได้ร้านและบริการที่ตรงใจ
ส่วนสีดำด้านอยู่ที่ความชอบส่วนตัวมากกว่า ถ้ารถสวย มั่นใจ ทำเลยครับ (แต่เคยเห็น Vigo ยกสูง สีดำด้าน ล้อขาว รู้สึก.....)

ผมว่าลึกๆ มนุษย์ทุกคนชอบความสวย ใส แวววาวมากกว่า ยิ่งเป็น S60 เคลือบแก้วละก็ผมว่า จขกท. จะหลงรักมันมากขึ้นเยอะเลย

ออฟไลน์ Eddy5659

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,619
เอาประสบการณ์ตัวเองแล้วกันนะครับ

1 ช่วงแรกๆ ดูแลเคลือบสี อาจจะซื้อโปรแกมจากร้าน หรือทำเองก็ได้ไม่ยาก หาเครื่อง DA ราคา  1,xxx , cleaner และ wax อาจจะเป็น synthetic หรือ past ก็ได้
ทำไปซัก ปี ถึงสองปี เพราะระยะแรกคุณยังรักรถมากรับรองสละเวลามากแน่นอน และที่สำคัญคือยังลงทุนไม่เยอะ

ศึกษาด้วยตนเองได้ที่ http://www.thaiwashercarclub.com/
มีข้อมูลวิธีการ และผลิตภัณฑ์มากมาย

2 ผ่านไปอีกปี สองปี ค่อยถามตัวเองว่าเริ่อมเบื่อสีเดิมหรือยัง ถ้าเบื่อก็ค่อยไป wrap จะทำดำด้าน หรือเปลี่ยนสีเลยก็ได้ ราคาทั้งคัน 2x,xxx

3 แต่ถ้าคิดว่าสีดำปัจจุบันนี้แหละสวย แหละอยากให้เป็นอย่างงี้ไปก็เคลือบแก้วไปเลย รับรองสีสวยแน่ๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 04, 2011, 07:24:22 โดย Eddy3585 »
2007 Toyota Vios
2009 Toyota Hilux Vigo
2010 Toyota Camry
2011 Ford Ranger
2011 Isuzu Dmax
2011 Toyota Hilux Vigo
2015 Ford Ranger
2015 Ford Everest 2.2 Titanium
2015 Ford Everest 3.2 Titanium+
2016 Toyota Hilux Revo 2.4 J m/t (5 คันจะที่รัก)
2017 BMW 320d iconic

ออฟไลน์ LimitedEdition

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,410
จะออกสีดำก็ต้องรักและใส่ใจหน่อยครับ ถ้าทำไม่ไหวผมแนะนำไปสีอื่นจะดีกว่า
หรือไม่ก็ทำเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ แล้วไม่รู้ไม่ชี้ จะได้ไม่เจ็บใจเวลามันรอยเยอะ

ไม่มีวิธีไหนหรอกนะครับ ที่จะทำให้สีเงางามตลอดโดยไม่เกิดรอย
ทั้ง Wrap ใส เคลือบแก้ว ถ้าไม่รักษามันก็เกิดรอยได้ทั้งนั้น เพียงแต่อาจจะเกิดยากกว่าบ้าง
เพราะประเด็นที่มันเห็นรอยง่าย มันไม่ได้อยู่ที่ชั้นเคลือบสี แต่มันอยู่ที่พื้นสีดำซึ่งเป็นเงาสะท้อน
มันเลยเห็นรอยได้ง่ายมากกว่า แล้วผมก็คุยกับคนเล่น Wax มา ถ้าเคลือบแก้วรักษาไม่ดี
เอาไว้ขนไก่ปัด เอาผ้าชุบน้ำลูบบ่อยบ่อย รับรองได้ว่ารอยก็มาเหมือนกันครับ มันไม่ได้แข็งเป็นแก้วน้ำอย่างนั้น

จริงจริงวิธีที่ผมใช้ ก็อย่างที่เล่าไปกระทู้ที่แล้ว เคลือบเดือนละครั้ง
เสียเวลาที่คาร์แคร์แค่ 2 ชม. เท่านั้นเอง ไม่ได้นานอะไรมากแล้ว
แต่ก็แล้วแต่ครับ บางคนอาจจะคิดว่าเรื่องรถใช้เวลา 2 ชม. ถือว่าเสียเวลามาก ก็นานาจิตตัง

ส่วนเรื่องการสอนให้แม่บ้านล้างแบบ Pro ก็น่าลองครับ
เพราะสุดท้ายแล้ว ถ้าระหว่างช่วงที่ไม่ได้ไปคาร์แคร์แล้วต้องให้แม่บ้านล้าง
เรื่องนี้จะเป็นตัวแปรสำคัญที่สุด เพราะได้ล้างบ่อยที่สุด และถ้าล้างไม่ดีก็จะสร้างความเสียหายกับสีได้ง่ายที่สุด

และนิดนึงครับ คือไม่อยากให้คิดว่ารอทีเดียว แล้วไปทำโครมเดียวจบ
ของบางอย่างมันไปแล้วไปเลย แก้ไม่ได้นะครับ บางทีขัดยังไงก็ลบรอยไม่หมด ขัดมากก็สีไหม้ด้านเป็นปื้นอีก
สีรถยนต์มันชอบที่จะให้ดูแลแบบสม่ำเสมอ มากกว่ารอสะสมไปนานนานแล้วจัดหนักหนเดียวครับ
ยกเว้นคุณจะทำสีใหม่ได้ทุก 5 ปีแบบไม่เดือดร้อนกระเป๋า อันนั้นจะใช้ยังไงก็ตามสะดวกกันได้เลยครับ

ออฟไลน์ Amj

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 480
สีที่ออกมาจากโรงงานเป็นสีที่ดีที่สุดแล้ว ผมว่าไม่น่าจะไปห่อหุ้มอะไรมันไว้หรอกครับ

รถพึ่งถอยออกมาใหม่ๆ คิดจะดูแลสีรถแล้ว เป็นเรื่องที่ดีมากครับขอตอบคำถามด้วยความรู้อันน้อยนิดหวังว่าพอจะช่วยได้นะครับ
ขอแยกเป็นประเด็นให้แล้วกันนะครับ
1. ถ้าเลือกเข้าคาร์แคร์ขัดเคลือบดูแลสีรถ และต้องนัดเข้าไปทำบ่อยๆทุกเดือน ซื้อเป็นแพคเกจ
    วิธีนี้จะดีหากตัวเราเองมีเวลา แต่หากไม่มีเวลาวิธีนี้จะน่าเบื่อมาก นอกจากนั้น การเข้าไปทำแต่ละครั้งยังทิ้งช่วงค่อนข้างนาน
    ปรกติแล้วแว๊กซ์จะใช้เวลาเซ็ตตัวไม่เกิน 12-16 ชม. ในสภาพอากาศร้อนบ้านเรา การเพิ่มชั้นแว๊กซ์ โดยการเคลือบหลายๆครั้ง
    ควรจะทำต่อเนื่องหลังจากผ่านเวลาเซ็ตตัวไปแล้ว คือทำหลัง 12 ชม.จะดีที่สุด จึงจะทำให้ชั้นเลเยอร์ของแว๊กซ์มีความหนา
    และทนทานมากขึ้น แต่การทิ้งช่วงนานขนาดเป็นเดือนแล้วค่อยไปทำใหม่ ค่อนข้างไม่ได้ผล สิ่งที่เห็นได้คือพอเอารถเข้าไปทำ
    รถก็จะกลับมาเงางามสวยเหมือนเดิม แต่มันผิดหลักการสร้างชั้นแว๊กซ์ แต่ก็อีกนั้นแหละ ลูกค้าคนไหนจะทิ้งรถไว้ให้ 24-48 ชม.ได้
    นอกจากนี้ตลอดระยะเวลา 1 เดือน กว่าจะเอารถเข้ามาทำอีกครั้ง หากตัวเราล้างรถเอง แต่ล้างไม่ถูกวิธีสุดท้ายก็เป็นรอยขนแมว
    เหมือนเดิมครับการเป็นรอยขนแมวได้นั้นก็เพราะชั้นแว๊กซ์ถูกทำลายและเป็นรอยไปด้วยแล้ว

2. ดูจากคำถามแล้ว ผมอยากแนะนำเคลือบแก้วมากกว่าครับ
    เคลือบแก้วจริงๆ อยู่ได้ประมาณ 1 ปี ราคาอยู่ที่ประมาณ 12000-15000 ไม่ควรเกินนี้
   สิ่งที่ต้องมองหาคือ การเคลือบแก้วหากจะได้ผลดีออกมาสวย (สวยมากกว่าการลงแว๊กซ์) ร้านจะต้องมีความรู้จริงๆ
   สิ่งสำคัญก่อนการเคลือบแก้วคือการเตรียมพื้นผิวรถ หากรถมีชั้นแล๊คเกอร์ที่หนา สะท้อนเงาได้ไม่คม การลงแก้วไปก็ไม่ได้งานที่สวยงามครับ
   หากจะทำเคลือบแก้วจริงๆ ลองไปถามขั้นตอนจากทางร้านก่อนจะดีที่สุดครับ โดยขอแนะนำคร่าวๆแล้วกัน
   1 หลังร้านอัดฉีดแล้ว ต้องมีการลูบดินน้ำมัน
   2 มีการติดเทปกาวปิดรอยต่อชิ้นส่วนรถ เช่นรอยระหว่างฝากระโปรงกับตัวถัง (ความเอาใจใส่)
   3 มีการเช็คการสะท้อนของชั้นแล๊คเกอร์ หากหนาไปไม่คม ควรมีการขัดชั้นแล๊คเกอร์ก่อน (wet sand )
   4 ขัดหยาบเก็บงาน
   5 ขัดละเอียดเก็บงาน
   6 คลีนเนอร์
   7 ลงเคลือบแก้ว
   8 ทิ้งให้เซ็ตตัว 12 ชม. ลงเคลือบแก้วชั้นที่ 2
   9  สามารถเอารถไปใช้ได้แล้วแต่ยังไม่ควรล้างหรือโดนน้ำอย่างน้อย 48 ชม. เพื่อการเซ็ตตัวของชั้นแก้วที่สมบูรณ์

ขั้นตอนทั้งหมดทำในห้องปลอดฝุ่น สรุปว่าต้องทิ้งรถไว้ 1 คืน

หลังจากนั้นไม่ว่ารถจะเปลื้อนยังไง ก็ล้างด้วยน้ำเปล่าธรรมดาลูบด้วยฟองน้ำ อย่างถูกวิธี หรือเอามือเปล่าๆลูบออกก็ยังได้
และใช้ผ้าไมโครเช็ดแห้ง ทั้งหมดนี้สามารถล้างรถเสร็จได้ภายใน 20 นาที แบบไม่เหนื่อย

สุดท้ายครับ รถสีดำหากจะรักสีดำ ต้องรู้วิธีการล้างรถลูบรถครับ หากทำถูกวิธีถึงจะล้างบ่อยแค่ไหนขนแมวก็ไม่ขึ้นครับ
หรือถ้าพลาดก็ขึ้นน้อยมากๆ ผมอยากถ่ายรูปรถ teana สีดำของเพื่อนบ้านให้ดูจริงๆ ล้างทุกเย็นรถสะอาดมากๆ แต่เต็ม
ไปด้วยรอยขนแมว ผมแนะนำวิธีลูบรถให้เขาไป เขาก็ไม่ทำบอกว่ารถสีำดำกับรอยขนแมวเป็นเรื่องคู่กัน ขนาดผมให้ดูรถผม
ว่าไม่มีรอยขนแมว เขาก็ยังบอกว่าลูบรถไปทางเดียว ลูบได้ช้า ล้างแบบปรกติดีกว่าไม่เหนื่อยเสร็จไว (ล้างแบบปรกติคือ
ถูรถเหมือนเรากำลังโบกมือบ๊ายบายครับ) ส่วนวิธีที่ถูกคือ ล้างโดยลูบไปทางเดียวใน youtube มีให้ดูเยอะ

ลองดูรูปแนบละกันครับ ใครที่คิดว่ามันเงาเหมือนแว๊กซ์เฉยๆ ดูรูปแล้วลองคิดใหม่ครับ
* สูตรการลงแว๊กซ์ไม่มีสูตรสำเร็จ มันขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล ผลงานตอนจบคือสิ่งพิสูจน์แนวทางที่ทำมา
** แก้คำผิด **
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 04, 2011, 09:46:08 โดย Amj »

ออฟไลน์ jetto

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 35
จากประสบการณ์ของผม ผมว่าเคลือบแก้ว/คริสตัลน่าจะตอบโจทย์คุณได้เยอะกว่าแต่ไม่หมดนะครับ

ผมเคยเคลือบคริสตัลมา เค้ารับประกันงานห้าปี แต่ทุกปีต้องไปเข้าเซอร์วิสกับที่ร้าน ให้ผลที่ดีมาก ผ่านไปห้าปีสีรถยังเหมือนรถใหม่

แต่คุณต้องเข้าใจและยอมรับก่อนว่า
1. เวลาเคลือบแก้ว/คริสตัล สีรถจะไม่ฉ่ำเท่าลง WAX แต่จะเงาๆเท่านั้น เรื่องฝุ่นไม่ต้องกังวลเพราะจะแทบไม่ติด สังเกตุได้ตอนลุยฝนมาจะไม่เขรอะเท่าตอนยังไม่เคลือบ   
2. มันสามารถกันรอยขนแมวได้เท่านั้น แต่ถ้าเจอเศษหินก็ไม่ไหวเหมือนกัน ( ผมว่าอันนี้ Wrap น่าจะเอาอยู่ )

ยังไงๆลองศึกษาดูเยอะๆแล้วกันครับ เห็นตอนนี้มีอันใหม่มาเป็น Wrap ใสแบบเงาเหมือนลง Wax แต่ราคาน่าจะโหดมากเพราะดูจากรถที่ไปทำ  :o