ผู้เขียน หัวข้อ: รบกวนขอความเห็นระหว่าง Audi Q5 เบนซิน กับ ดีเซล ครับ  (อ่าน 21207 ครั้ง)

ออฟไลน์ forevertop

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 36
  • OSK 115
สวัสดีครับ เนื่องจากคำแนะนำของหลายๆท่านเกี่ยวกับ RR Evoque
จึงอยากจะเพิ่มตัวเลือกให้กับตัวเองเป็น Audi Q5 อีกซักตัวครับ
ส่วนตัวชอบดีเซลครับ เลยอยากถามความคิดเห็นของทุกท่านว่า

1. ตัวไหนน่าเล่นกว่ากันครับ เบนซินหรือดีเซล สำหรับ Q5 เพราะอะไรครับ
2. การบริโภคน้ำมันต่างกันมากไหมครับ
3. การดูแลรักษาและความจุกจิกน่ะครับ

ถ้าเป็นไปได้ท่านใดใช้อยู่ขอข้อมูลด้วยนะครับ

ขอบคุณครับผม
"Life will find a way"

ออฟไลน์ pongisra

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,459
Re: รบกวนขอความเห็นระหว่าง Audi Q5 เบนซิน กับ ดีเซล ครับ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2011, 14:52:37 »
1. ผมว่าแล้วแต่ชอบนะครับ แต่รู้สึกว่าศูนย์ไม่ขายดีเซล ถ้าจะเอาดีเซลต้องซื้อกับ grey
2. ดีเซลประหยัดกว่าแน่นอนครับ
3. อันนี้ไม่ทราบครับ

ออฟไลน์ N'droid

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 468
  • แฟนพันธุ์แท้ android
Re: รบกวนขอความเห็นระหว่าง Audi Q5 เบนซิน กับ ดีเซล ครับ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2011, 14:53:37 »
ผมว่าดีเซลน่าเล่นกว่าครับ เพราะรถใหญ่แบบนี้น่าจะซดน้ำมัน  เดี๋ยวนี้ดีเซลประหยัดกว่าเบนซิลแล้วด้วยครับ

การกินน้ำมันผมว่าดีเซลประหยัดกว่าครับ

เรื่องการดูแลรอท่านท่านต่อไปครับ
รีวิวแรกในชีวิตครับ /////รีวิว Toyota hilux vigo smart cab ///// รีวิวตามภาษาเด็กอายุ 14
http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php/topic,16817.0.html

//// รีวิว isuzu grand adventure "รอเวลานี้มานาน”
http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php/topic,17338.0.html

ออฟไลน์ TorTy

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,992
Re: รบกวนขอความเห็นระหว่าง Audi Q5 เบนซิน กับ ดีเซล ครับ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2011, 14:55:41 »
ผมเองก็เป็นคนที่ชอบรถดีเซลครับแต่ในกรณี Q5 นี่ต้องคิดเยอะหน่อยครับ
เพราะอย่างที่ผมได้ตอบไปก่อนหน้านี้ครับว่ารถ Q5 กว่า 90% เป็น เบนซิน
ครับสำหรับในไทยนะครับแต่ก็ไม่ต้องกังวลมากครับเพราะ Q7 เองที่เข้ามาก็

เป็นเครื่องดีเซลครับอยู่ที่ชอบแหละครับแต่อย่างที่บอกไปน้ำมันต้องเลือกเติม
หน่อยนะครับเพราะที่กฤษมาตรฐานน้ำมันสูงกว่าบ้านเราครับโดยทั่วไปดีเซลจะ
ชอบบอกว่าเติมเชลล์ดีแต่มันก็ไม่ใช่ว่าจะดีทุกปั๊มนะครับและเชลล์เองการควบคุม
มาตรฐานในไทยก็สู่เจ้าอื่รไม่ได้ส่วนตัวรถดีเซลผมเติม
1.Caltex
2.PTT
3.Esso
4.บางจากชึ่งนะเวลานี้เป็นเจ้าเดียวที่ผ่าน EURO 4 ครับ แต่เร็วๆนี้จะเป็นมาตรฐานที่ทุกเจ้าต้องทำครับ

การบริโภคน้ำมันต่างกันมากไหมครับ ทำตามนี้ได้เลยครับมีข้อมูลที่แจ้งจากโรงงานไว้แล้วทั้งแบบในเมือง นอกเมือง หรือแบบผสมกดที่ ตัว ! สีดำครับ
แล้วกด Technical Data จะมีข้อมูลอยู่ครับ http://configurator.audi.co.uk/controller?next=model-page&mandant=accx-uk

การดูแลรักษาและความจุกจิกน่ะครับ เท่าที่ผมสอบถามหัวหน้าช่างมาตัวเบนซินบอกว่าไม่มีอะไรครับปกติดีเปลี่ยนถ่ายของเหลวตามระยะอย่างเดียว
แต่ส่วนตัวเชื่อว่า Diesel ก้ไม่น่จะมีปัญหาเหมือนกันครับ Audi เป็นยี่ห้อที่ไม่ได้มีปัญหาเรื่อวเครื่องยนต์เท่าไหร่อยู่แล้วครับส่วนใหญ่ที่มีอย่างมากก็จะเป็น
ที่ระบบ Electronic ครับซึ่งถ้าเทียบกับบีเอ็มทนกว่าครับ

ขอออกความเห็นหน่อยนะครับถ้าผมจะซื้อ Q5 นะและอยากได้เครื่องดีเซลผมไปจอง X3 2.0d Highline แบบไม่คิดมากเลย BSI 5 ปี 1 แสนโล เห็นว่าจะปรับให้เป็น 6 ปี 1.2 แสนโล
เพราะเท่าที่ฝังเหมือนจะกังวลเรื่องอะไหล่และความจุกจิดพอสมควรรถพวกนนี้ยังไงก็ต้องมีบ้างครับแต่การที่ได้รับการแก้ไขจากศูนย์ส่วนใหญ่เค้าจะมีข้อมูลจากต่างประเทศมาอยู่แล้วครับ
เอาแค่เรื่อง upgrade software ถ้ามีความจำเป็น Audi Q5 ยังเข้าศูนย์ได้แต่ที่เข้าได้ง่ายกว่าและไม่ต้องตามข่าวเองก็คือ X3 สองตัวนี้ประสิทธิภาพไม่ทิ้งกันหรอกครับอยากให้ลองไปขับ
เท่าที่ผมใช้ BMW มาสัมผัสได้อย่างนึงว่าบีเอ็มถ้าคุณเป็นคนที่ชอบขับรถบีเอ็มออกแบบรถมาเน้นที่คนขับมากๆครับในบรรดาคู่แข่งผมให้อันดับตามนี้เรื่องความสวยแล้วแต่ชอบครับแต่รถใหม่ๆ
หลายรุ่นถ่ายรูปไม่ขึ้นครับเว้นสายมันเยอะต้องไปดูตัวจริงครับบีเอ็มที่ Service ดูแลลูกค้าดีเท่าที่ผมเจอมามี Barcelona กับ Eoropa ครับถ้าไม่ห่วงเรื่องอัตรการกินน้ำมันที่มากกว่า RX270/RX350
น่าสนใจนะครับถ้าห่วงเรื่องความจุกจิกแต่ดูแล้วน่าจะไม่ชอบเพราะถามแต่รถยุโรปหรือถ้าไม่รีบรออีกนิด  ML-Class ก็จะมาแล้วนะครับขนาดจะอยู่ในกลุ่มเดียวกับ X5 ไม่ทราบว่าสนใจรึเปล่า
1.BMW
2.Audi
3.Mercedes


ออฟไลน์ beerrl

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,672
    • อีเมล์
Re: รบกวนขอความเห็นระหว่าง Audi Q5 เบนซิน กับ ดีเซล ครับ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2011, 15:47:07 »
เป็นรถที่น่าใช้มากครับ เบนซิน จะมีปัญหาเรื่องน้ำมันน้อยกว่าดีเซล สำหรับน้ำมันในเมืองไทย เพราะ เครื่องดีเซลในยุโรปเขาไปถึงระดับ Euro5 ขี้นไปแล้ว ถ้าเป็นรถที่นำเข้ามาจากยุโรปโดยไม่มีการดัดแปลงอะไร อาจจะมีผลกับคุณภาพน้ำมันดีเซลในเมืองไทยได้ครับ
จึงสังเกตุเห็นว่าทำไม ส่วนใหญ่คนเอาเข้ามาถึงเอาเครื่องเบนซิน มากกว่า

แต่ถ้าเป็นรถที่ประกอบเมืองไทย หรือ นำเข้ามาแล้วมีการปรับให้เหมาะกับเมืองไทยแล้ว อย่างเช่น BMW diesel, Benz cdi หรือ volvo D5 หรือ D3 หรือ พวกเครื่องของ GM, Ford ดีเซลที่ผลิตเมืองไทย อันนี้ไม่มีปัญหาครับ
Volvo 850GLT
Honda odyssey
Toyota Camry hybrid
Suzuki swift eco
Hyundai tucson crdi
Nissan Xtrail 2.0V 4wd
Honda Civic FC 1.8EL

PKS8

  • บุคคลทั่วไป
Re: รบกวนขอความเห็นระหว่าง Audi Q5 เบนซิน กับ ดีเซล ครับ
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2011, 15:52:55 »
เห็นด้วยกับคุณ Torty ครับ เชียร์ X3 มากกว่าครับ

เพราะแม้ผมจะชอบ Audi ยังไง เวลาซ่อมอู่ที่ว่าดังๆแน่ๆ ผมไปลองมาหมด ดีแค่แรกๆ หลังๆรถเริ่มเยอะงานเริ่มไม่ละเอียด

ผิดกับ BMW ซึ่งผมต้องบอกตรงๆว่า ถ้าเทียบรุ่นกันแล้ว BMW ขับสนุกกว่า Feeling การขับมันดีกว่าแบบอธิบายไม่ถูก แถมอู่เยอะกว่าอะไหล่เยอะกว่าไม่ต้องไปง้อช่างแบบ Audi ครับ

ปล. Europa ที่ว่าดีๆ ก็มีที่แย่ๆแบบรับไม่ได้เหมือนกันครับ

ออฟไลน์ a-k-e

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 167
Re: รบกวนขอความเห็นระหว่าง Audi Q5 เบนซิน กับ ดีเซล ครับ
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2011, 16:50:59 »
X3 ผมใช้อยู่ เครื่องดีเซลดีมากครับ ในเมืองกินเฉลี่ย 11-12 km/litre
ถ้านอกเมืองแบบรถไม่ติด ถ้าขับเรื่อย ๆ เปิดแอร์ปกติ สามารถไปได้สูงสุดเฉลี่ยที่ 19-20 km/litre นะครับ
ลองมาแล้วจากบูรพาวิถี จากสุวรรณภูมิมาสาทร

ถ้าเป็น Q5 ยังไง ๆ ผมก็คิดว่าเลือก X3 ดีกว่า
แต่ถ้าชอบ Audi จริง ๆ และไม่ซีเรียสเรื่องค่าน้ำมัน ... ไปเบนซินเถอะครับ
เสียงเงียบกว่า แรงก็คงมากพออยู่แล้ว

ออฟไลน์ prai

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,154
Re: รบกวนขอความเห็นระหว่าง Audi Q5 เบนซิน กับ ดีเซล ครับ
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2011, 17:20:30 »
เครื่องดีเซลของ VW ไม่ดังอย่างที่คิดนะครับ ที่แน่ๆ ยืนยันเลยว่าตัว 3.0 TDI เงียบกว่า เงียบกว่าเครื่องดีเซลของค่าย MB แน่นอนครับ
ส่วนตัวถ้าเป็น Q5 เล่นเบนซินเถอะครับ ด้วยปัจจัยหลายๆ อย่างประกอบกันแล้ว เบนซิลดีกว่าครับ มันก็ไม่กินน้ำมันมากมายอะไรนะครับ
แล้วเอาไปจูน ABT นะ สุดๆ ครับ

ออฟไลน์ J!MMY

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 15,628
    • www.headlightmag.com
    • อีเมล์
Re: รบกวนขอความเห็นระหว่าง Audi Q5 เบนซิน กับ ดีเซล ครับ
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2011, 17:26:37 »
ถ้าตราบใดที่ผู้จำหน่ายในเมืองไทย
ยังไม่มีความชัดเจนในการทำตลาด
และยังคงเป็นเกรย์ ที่มีรถสั่งเข้ามาเยอะอย่างนี้
ผมมองว่า การวื้อ BMW X3 ยังเป็นทางเลือกที่ play safe ดีกว่าครับ

ออฟไลน์ templeboy

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,280
Re: รบกวนขอความเห็นระหว่าง Audi Q5 เบนซิน กับ ดีเซล ครับ
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2011, 17:28:17 »
กินกันไม่ลงจริงๆครับระหว่าง Q5 กับ X3 มีดีมีเสียแตกต่างกันไป แต่ถ้าเรื่องรูปร่างก็ต้องบอกว่า Q5 ทำมาได้ลงตัวกว่ามากมาย ในขณะที่ X3 ก็มีรับประกัน 5 ปี จาก BMWTH แถมราคาขายต่อก็ (น่าจะ) ไม่ตกเท่ากับ Q5

เรื่องอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมัน ตัว X3 ดีเซลก็ต้องดีกว่า Q5 เบนซินอยู่แล้ว (ประมาณ 17 vs 12 โล/ลิตร อ้างอิงจาก specsheet) แต่ถ้าจับดีเซลของทั้งคู่มาชนกัน ก็สูสีครับ X3 ดีกว่าเล็กน้อย (ประมาณ 16 vs 17 โล/ลิตร) อันนี้พูดถึงเครื่อง 2.0 นะครับ ไม่นับเอา 3.0 หรือ 3.2

แต่ที่ Q5 ดีเซลพ่ายแพ้ X3 เต็มๆ เห็นจะเป็นเรื่องของพละกำลัง (170 vs 184hp) และอัตราเร่ง (0-100 = 9.9 vs 8.5 secs) ครับ ตรงนี้ห่างชั้นกันพอสมควร นอกจากนั้นตัว Q5 ดีเซลถ้าซื้อจากเกรย์ก็จะมีโอกาสเจอปัญหาน้ำมันได้อีก เพราะฉะนั้นถ้าเป็นผมจะตัดตัวเลือก Q5 ดีเซลทิ้งก่อนเลย

จากนั้นมาดู Q5 เบนซิน ซึ่งก็พอจะสู้กับ X3 ได้อยู่ ทั้งเรื่องอัตราเร่ง (0-100 = 8.5 vs 8.5 secs) และพละกำลัง (180 vs 184hp) อันนี้เปรียบเทียบกับ Q5 2.0 เบนซินตัวต่ำสุดนะครับ แต่ถ้าเทียบกับ 2.0 TFSI ตัวท็อป Q5 ก็เหนือกว่าชัดเจน ที่อัตราเร่ง 7.6 secs และ 211hp ครับ

สรุป...ถ้าเอาหล่อ เท่ห์ แรงแบบไม่กลัวเปลือง + ออฟชั่นตรึม รับกับเรื่องซ่อมแพงซ่อมนานซึ่งอาจจะเกิดขึ้นได้ ก็จัด Q5 S-Line Plus ซึ่งรับรถได้ทันทีตามศูนย์เกรย์ทั้งหลาย
แต่ถ้าเอาอุ่นใจ เป็นรถคันเดียวในบ้าน ขับสบายๆเพลิน 5 ปี ไม่ต้องมาเครียดอะไร...แต่ก็ขับดีไม่ใช่เล่น ขายต่อก็ชิวๆราคาตกบ้างแต่ไม่ถึงกับน่าเกลียด ก็จัด X3 ไปครับ....จองตอนนี้รออีก 6 เดือนนะครับกว่าจะได้รถ

ลองตัดสินใจดูนะครับ  ;D
ถ้าทำอะไรดีๆ แล้วคนมองว่าสร้างภาพ...ก็ช่างเขา อย่างน้อยเราก็ยังได้ทำดี ไม่เหมือนเขา...ที่แค่ "คิดดี" ยังทำไม่ได้
ว.วชิรเมธี

ออฟไลน์ forevertop

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 36
  • OSK 115
Re: รบกวนขอความเห็นระหว่าง Audi Q5 เบนซิน กับ ดีเซล ครับ
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2011, 21:49:47 »
ขอบคุณทุกๆความเห็นครับ

คือว่ารถคันนี้ตั้งใจจะใช้ประมาณ 10 ปีขึ้นน่ะครับ
ผมใช้ประมาณปีละ ไม่เกิน 10,000 km ครับ

เท่ากับว่าตอนนี้จะทำการบ้าน 3 ตัวนี้ครับ

Range Rover Evoque SD4 ดีเซล (ใฝ่ฝันจะใช้ Range Rover มานาน)
Audi Q5 เบนซิน
BMW X3 2.0d ดีเซล

สำหรับ X3 มี BSI 5 ปี แล้วหลังจากนั้นล่ะครับ
พอดีได้กลับไปอ่านรีวิวของพี่จิมมี่อีกครั้ง
เจอย่อหน้าสุดท้ายของตอนสรุปเข้าไป
เรื่องราคาอะไหล่ของ BMW รุ่นใหม่ๆหลังพ้น BSI 5 ปีแล้ว
คงหนักหนาเอาการเหมือนกันน่ะครับ

โดยส่วนตัวเข้าใจเรื่องค่าดูแลของรถประเภทนี้พอควรครับ
แต่ก็อยากให้ได้ที่ถูกใจและปัญหาไม่มากนักน่ะครับ
เพราะตั้งใจจะอยู่กันยาวน่ะครับ ไม่มีปัญญาเปลี่ยนบ่อยน่ะครับ

ยังรอรับฟังทุกความคิดเห็นนะครับ

ขอบคุณครับ
"Life will find a way"

ออฟไลน์ pongisra

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,459
Re: รบกวนขอความเห็นระหว่าง Audi Q5 เบนซิน กับ ดีเซล ครับ
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2011, 22:20:38 »
ขอบคุณทุกๆความเห็นครับ

คือว่ารถคันนี้ตั้งใจจะใช้ประมาณ 10 ปีขึ้นน่ะครับ
ผมใช้ประมาณปีละ ไม่เกิน 10,000 km ครับ

เท่ากับว่าตอนนี้จะทำการบ้าน 3 ตัวนี้ครับ

Range Rover Evoque SD4 ดีเซล (ใฝ่ฝันจะใช้ Range Rover มานาน)
Audi Q5 เบนซิน
BMW X3 2.0d ดีเซล

สำหรับ X3 มี BSI 5 ปี แล้วหลังจากนั้นล่ะครับ
พอดีได้กลับไปอ่านรีวิวของพี่จิมมี่อีกครั้ง
เจอย่อหน้าสุดท้ายของตอนสรุปเข้าไป
เรื่องราคาอะไหล่ของ BMW รุ่นใหม่ๆหลังพ้น BSI 5 ปีแล้ว
คงหนักหนาเอาการเหมือนกันน่ะครับ

โดยส่วนตัวเข้าใจเรื่องค่าดูแลของรถประเภทนี้พอควรครับ
แต่ก็อยากให้ได้ที่ถูกใจและปัญหาไม่มากนักน่ะครับ
เพราะตั้งใจจะอยู่กันยาวน่ะครับ ไม่มีปัญญาเปลี่ยนบ่อยน่ะครับ

ยังรอรับฟังทุกความคิดเห็นนะครับ

ขอบคุณครับ

BMW หลังจาก 5ปี  ก็น่าจะมีค่าบำรุงรักษาต่ำกว่าอีกสองตัวที่เหลือนะครับ

ถ้า Choice คือ 3 ตัวนี้ แล้วห่วงเรื่องค่าบำรุงรักษา และการบำรุงรักษาเป็นพิเศษ X3 น่าจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกับความต้องการ และเป็นการ "Play safe" อย่างที่พี่ Jimmy ว่าครับ


เพิ่มเติมอีกนิดว่า เครื่อง BMW 2.0d ตัวนี้ ถูกติดตั้งอยู่ในรถตั้งแต่ 1-Series, 3-Series, 5-Series, X1 และ X3 ซึ่งรถรุ่นดังกล่าวที่ใช้เครื่อง 2.0d มีวิ่งอยู่ในถนนเมืองไทยไม่น้อย น่าจะทำให้การบำรุงรักษาในส่วนของเครื่องยนตร์ X3 2.0d หายห่วงไปได้ระดับนึง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 16, 2011, 22:32:41 โดย pongisra »

ออฟไลน์ templeboy

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,280
Re: รบกวนขอความเห็นระหว่าง Audi Q5 เบนซิน กับ ดีเซล ครับ
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2011, 23:16:17 »
3 ตัวที่เลือกมาไม่มีตัวไหนซ่อมถูกเลยครับ มีแต่แพง แพงมาก แพงโคดดดๆๆๆๆครับ

ถ้ากังวลเรื่องนี้ ก็ต้องอย่างที่คุณ pongisra บอกไว้เลยครับว่ายิ่งต้องจัด X3 เพราะค่าบำรุงรักษาถูกที่สุดในสามตัวนี้ทั้งก่อนและหลัง 5 ปีครับ แถมราคาขายต่อยังมีแนวโน้มจะตกน้อยที่สุดด้วยครับ เรียกว่าคุ้มกว่าสองตัวที่เหลือในทุกมิติ

เห็นว่าใช้ปีละ 10,000 km เพราะฉะนั้นก็ประมาณ 10 ปี ถึงจะครบ 100,000 โล ซึ่งในช่วง 10 ปีนี้ก็ไม่น่าจะห่วงเรื่องซ่อมมากนักครับ เพราะมี BSI ให้แล้ว 5 ปี อีก 5 ปีก็คงจะไม่เท่าไหร่ เพราะระยะก็ไม่มากมายอะไร จากประสบการณ์ส่วนตัวผมว่าระยะทางมีผลมากกว่าระยะเวลาครับ
ถ้าทำอะไรดีๆ แล้วคนมองว่าสร้างภาพ...ก็ช่างเขา อย่างน้อยเราก็ยังได้ทำดี ไม่เหมือนเขา...ที่แค่ "คิดดี" ยังทำไม่ได้
ว.วชิรเมธี

ออฟไลน์ a-k-e

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 167
Re: รบกวนขอความเห็นระหว่าง Audi Q5 เบนซิน กับ ดีเซล ครับ
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: พฤศจิกายน 17, 2011, 01:33:51 »
อย่างที่คุณ templeboy ว่าไว้นะครับ
ถ้าสิ่งที่คุณให้ความสำคัญคือค่า maintenance ตลอดอายุการใช้งาน
ทำไมถึงมองว่า BSI 5 ปีจบ แล้ว X3 จะเกิดปัญหาล่ะครับ ?? (ถึงแม้ BSI อาจจะต่อเป็น 6 ปีได้)
เพราะปัญหาที่จะเกิดหลัง BSI จบ มันคือสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับ Audi และ Land ในวินาทีแรกที่คุณถอยรถออกมาเลย

ที่สำคัญ ต่อให้ไม่มีการรับประกันใด ๆ การซ่อม BMW ก็ถูกกว่า 2 Brand ที่ว่าอยู่แล้วครับ ...
BMW ซ่อมแพง แต่อีก 2 อัน แพงกว่า และแพงกว่าโคด ๆ แล้วอย่างนี้ปัญหาที่คุณมองใน X3  ... คุณคิดว่ามันจะไม่หนักกว่ากับอีก 2 brand ที่ว่าหรือ?
และจำนวนช่าง อู่ ที่น่าจะ support ได้ ก็มีเยอะกว่าแน่นอน อย่างน้อยก็ดูได้จากยอดจอง X3 ที่ลากกันไปยาวถึงกลางปีหน้า
แสดงว่าต่อไปจะมีรถให้ช่างทั้งศูนย์และอู่ได้ลองฝีมือกันเยอะแน่นอน ไม่ต่างกับ F10 หรือ E-Class
และแน่นอนว่าเยอะว่า Q5 และ Land ชัวร์ ๆ

ที่สำคัญ ... คุณเคยลองนั่ง X3 ขณะขับบนทางขรุขละ ทางเรียบ หรือที่ความเร็วต่าง ๆ หรือยัง ?
มันไม่ใช่แค่ เร็ว เร่งดี แรงเยอะ หรอกนะครับ ... ไปลองก่อนดีกว่าแล้วจะรู้
ว่าไอ้คำว่าช่วงล่างขั้นเทพ ความนุ่มที่ลืมไปว่านั่งบน SUV น่ะ มันเป็นอย่างไร

ถ้ามองที่เหตุผล ผมแนะนำว่า X3 คือ Choice ที่มาอันดับ 1
แต่ถ้ามองกันที่ใจ (555) คุณอยากได้ัตัวไหน ก็ไปตัวนั้นเถอะครับ คู่กันแล้วไม่แคล้วกัน
หัวกระทู้บอก Audi ในกระทู้บอกชอบ RR คุยไปคุยมามีแต่คนเชียร์ X3
เป็นผมก็ตัดสินใจลำบากเหมือนกันครับ :)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 17, 2011, 01:37:24 โดย a-k-e »