ทำไมสิ่งประดิษฐ์ที่เรียกว่า "รถยนต์" แนวโน้มราคามีแต่ขึ้นและขึ้น

nuTTy

สังเกตุจากนวัตกรรมอื่นๆไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือ, Hard disk, TV LED/LCD/Plasma, Carmera
ของพวกนี้ตอนสร้างใหม่ๆรุ่นแรกๆจะแพง แต่หลังจากนั้นเทรนก็จะค่อยๆถูกลง ...
เช่น TV 29" เมื่อ 20 ปีก่อน ราคาไม่ต่ำกว่าสองหมื่นห้า แต่เดี๋ยวนี้ LED 29" ซึ่งเทคโนโลยี่แจ๋วกว่าก็แค่หมื่นกลางๆ

แต่รถยนต์กลับตรงกันข้าม เทคโนโลยี่ดีขึ้นกว่าเมื่อ 20 ปีก่อน กลับยิ่งแพงขึ้น ไมเนอร์เชนจ์ก็ยังแพงขึ้นไม่ยอมลดราคาลง
จะมีถูกลงก็ต่อเมื่อล้างสต็อคจริงๆ แต่ก็ไม่กี่รุ่นที่ยอมลดราคา เช่น พวกรถยุโรปหรือล่าสุดก็ Focus TDci  ที่ลดล้างสต็อค  ;)

ทำไมเทรนราคารถยนต์ถึงไม่ถูกลงเมื่อจะออกรุ่นใหม่หรือไมเนอร์เชนจ์บ้างล่ะครับ..

- เป็นเพราะค่าแรงสูงขึ้น แต่อุปกรณ์อิเลคโทรนิคอื่นๆก็ใช้แรงงานเหมือนกัน
- เป็นเพราะรถยนต์คือสินค้าฟุ่มเฟือย .. พวกกล้อง,  I-PAD ก็ฟุมเฟือยยิ่งกว่า






nuTTy

ยกเว้นรุ่นนี้ให้คันนึงที่มูลค่าไม่มีวันเสื่อมราคาไปตามกาลเวลา มีแต่เพิ่มและเพิ่ม

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 21, 2011, 17:07:26 โดย สมาชิกคนที่2455 »



YIM

สังเกตุจากนวัตกรรมอื่นๆไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือ, Hard disk, TV LED/LCD/Plasma, Carmera
ของพวกนี้ตอนสร้างใหม่ๆรุ่นแรกๆจะแพง แต่หลังจากนั้นเทรนก็จะค่อยๆถูกลง ...
เช่น TV 29" เมื่อ 20 ปีก่อน ราคาไม่ต่ำกว่าสองหมื่นห้า แต่เดี๋ยวนี้ LED 29" ซึ่งเทคโนโลยี่แจ๋วกว่าก็แค่หมื่นกลางๆ

แต่รถยนต์กลับตรงกันข้าม เทคโนโลยี่ดีขึ้นกว่าเมื่อ 20 ปีก่อน กลับยิ่งแพงขึ้น ไมเนอร์เชนจ์ก็ยังแพงขึ้นไม่ยอมลดราคาลง
จะมีถูกลงก็ต่อเมื่อล้างสต็อคจริงๆ แต่ก็ไม่กี่รุ่นที่ยอมลดราคา เช่น พวกรถยุโรปหรือล่าสุดก็ Focus TDci  ที่ลดล้างสต็อค  ;)

ทำไมเทรนราคารถยนต์ถึงไม่ถูกลงเมื่อจะออกรุ่นใหม่หรือไมเนอร์เชนจ์บ้างล่ะครับ..

- เป็นเพราะค่าแรงสูงขึ้น แต่อุปกรณ์อิเลคโทรนิคอื่นๆก็ใช้แรงงานเหมือนกัน
- เป็นเพราะรถยนต์คือสินค้าฟุ่มเฟือย .. พวกกล้อง,  I-PAD ก็ฟุมเฟือยยิ่งกว่า





จริงๆ คอมพิวเตอร์และมือถือ ราคาไม่ได้ถูกลงเลยนะครับ

เพียงแต่ segment เดิม มี function มากขึ้นต่างหากครับ

ยกตัวอย่างง่าย

ปีที่แล้ว PC ที่ใช้ CPU 2GHz ราคา 30000 บาท

ปีต่อมา PC 2GHz นี้ ราคาเหลือ 24000 บาท แต่ ณ เวลานี้ มันกลายเป็นสินค้าที่ตก segment มาแล้ว
เพราะคอมพิวเตอร์ใน segment ราคา 30000 บาท ใช้ CPU 2.4 (จริงๆ อาจะเป็น 32000 เพราะค่าเงินมันมักจะลดไปเรื่อยๆ)

จริงๆ ราคาอาจจะขึ้นได้อีก หากเงินเฟ้อ และมีปัจจัยอื่นๆ

รถยนต์ก็เหมือนกันครับ

10 ปีที่แล้ว รถราคา 700000 ไม่มี ABS มาวันนี้ รถราคา 720000 มี ABS แล้ว เป็นต้น (20000 ที่เพิ่มขึ้น มาจากค่าเงินที่ลดลง และอื่นๆ ครับ)

สรุปแล้ว ผมมองว่า มันก็เหมือนๆ กันครับ คือ สินค้าชนิดเดียวกัน ราคาลดลงเมื่อตกรุ่น (รถยนต์ก็เหมือนกัน มีการเพิ่ม option ลดราคา) แต่ก็จะมีรุ่นใหม่มาเสียในช่วง segment เดิม แต่อาจจะเป็นเพราะรถยนต์ใช้เวลาพัฒนานานกว่า เลยมองเห็นไม่ชัดครับ

ถ้ามันถูกลงจริง ดูง่ายๆ ครับ สินค้าตัวที่แพงที่สุด (flagship) ของบริษัท ราคาถูกลงกว่าสินค้า flagship ตัวก่อนหรือเปล่า (และสินค้านี้ต้องมี "ศักดิ์ศรี" หรือ image เท่ากันด้วย) เช่น iPhone 5 ถูกกว่า iPhone4 ตอนเปิดตัวหรือไม่ ถ้าถูกกว่า แสดงว่าสินค้าราคาลดลงครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 21, 2011, 17:43:13 โดย YIM »
JDM เท่านั้น จะครองโลก!



Nioka

เงินเฟ้อครับ

จริงๆมันก็มีหลายปัจจัยแต่

ผมให้น้ำหนักกับเงินเฟ้อมากกว่าเหตุผลอื่นๆ



LaTeX

เงินเฟ้อครับเทียบออฟชั่นกับราคาแล้วรถยนต์ก็มีค่าถูกลงครับแต่แพงขึ้นตามเงินเฟ้อเพราะมีปัจจัยคือต้นทุนครับ
ต้นทุนสินค้าผมมองว่าสินค้าอิเล็กโทรนิกส์ต้นทุนจะลดเรื่อยๆเมื่อผลิตมากๆ
เพราะวัตถุสิ้นเปลืองใช้น้อยกว่ามาก
แต่รถยนต์ใช้วัสดุสิ้นเปลือง คือแรงงาน โลหะค่อนข้างจะมากกว่าซึ่งจะกดต้นทุนส่วนนี้ลงไปได้ยาก



WINKUNG

สิ่งที่ใช้ขับเคลื่อนรถยนต์อย่าง "น้ำมัน" ก็แพงขึ้นทุกวัน  >:(



tokyo

จริงๆ คอมพิวเตอร์และมือถือ ราคาไม่ได้ถูกลงเลยนะครับ

เพียงแต่ segment เดิม มี function มากขึ้นต่างหากครับ

ยกตัวอย่างง่าย

ปีที่แล้ว PC ที่ใช้ CPU 2GHz ราคา 30000 บาท

ปีต่อมา PC 2GHz นี้ ราคาเหลือ 24000 บาท แต่ ณ เวลานี้ มันกลายเป็นสินค้าที่ตก segment มาแล้ว
เพราะคอมพิวเตอร์ใน segment ราคา 30000 บาท ใช้ CPU 2.4 (จริงๆ อาจะเป็น 32000 เพราะค่าเงินมันมักจะลดไปเรื่อยๆ)

จริงๆ ราคาอาจจะขึ้นได้อีก หากเงินเฟ้อ และมีปัจจัยอื่นๆ

คอม  แล้วราคาแรมหละครับ
มือถือ  3310เมื่อก่อนมัน3-4พันไม่แน่ใจ แต่เด๋วนี้จอสีถ่ายรูปได้ มีmp3 พันกว่าบาทเอง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 21, 2011, 19:18:44 โดย tokyo »
07 mazda 3



Ji.Cl.

อยากให้นึกไว้ว่า ก๋วยเตี๋ยว รองเท้าแฟชั่น ข้าวราดแกง แพงขึ้นเร็วกว่ารถเยอะครับ

สมัยก่อนยายเล่าให้ฟังว่าก๋วยเตี๋ยวชามละ 0.50 ตอนนี้ ต่ำๆ 20 บาท แพงขึ้น 40 เท่า ใน 50 ปี

รองเท้านักเรียน 25 บาท สมัยนี้ 300 บาท แพงขึ้น 12 เท่า ใน 50 ปี

Corolla KE10 รุ่นแรกสุดขายในไทย 70,000 บาท ปัจจุบัน 800,000 บาท แพงขึ้น 11 เท่า ใน 50 ปี

แต่ดูขนาดรถ ออปชั่นที่ได้สิครับ ถ้าถัวเฉลี่ยสินค้าทุกประเภทว่าแพงขึ้นเท่าไรในแต่ละปี เงินเดือนทั่วไปเพิ่มขึ้นอัตราเท่าไร รถยนต์จะแพงขึ้นช้ากว่าค่าเฉลี่ยนั้น

ในขณะที่ออปชั่น เทคโนโลยีสูงขึ้นเรื่อยๆ

ผมขอสรุปว่า สิ่งประดิษฐ์ที่เรียกว่า "รถยนต์" ถูกลงทุกวันต่างหากครับ





ส่วนพวกคอม คอมสเปก A จะราคาถูกลงเรื่อยๆ แต่ว่า ซอฟต์แวร์ที่ใช้ได้ก็จะหยุดแค่สเปกนั้นครับ

ถ้าเคยใช้คอม 7-8 ปี ไม่เปลี่ยน ก็จะตื่นขึ้นมาพบว่า "ซอฟต์แวร์กูโบราณชิบ" แต่จะเปลี่ยนก็ไม่ได้ เพราะสเปกไม่ถึงตัวใหม่

นอกจากจะไปอัพเกรดคอม แต่ยังไงก็ไม่เท่าซื้อเครื่องใหม่ ที่มีสเปกสูงขึ้นมาจากโรงงานครับ

การที่ราคามันถูกลง เทียบไม่ได้กับค่าเสียโอกาสในการที่จะได้ใช้ซอฟต์แวร์ใหม่ ตอนที่มันยังใหม่

พอถึงจุดที่ราคาลง ซอฟต์แวร์ที่เคยใหม่ก็เริ่มไม่ใหม่ แล้วก็มีคอมสเปกแรงกว่าออกมาแทนเพื่อยั่วเราร่ำไป



ถ้าเป็นแบบที่คุณคิด เวลารถไมเนอร์ ตัวที่จะต้องลด คือตัวบอดี้ก่อนเชนจ์ไงครับ (ถ้ามีเจ้าไหนบ้าพอจะขายคู่นะครับ)



shando

ยกเว้นรุ่นนี้ให้คันนึงที่มูลค่าไม่มีวันเสื่อมราคาไปตามกาลเวลา มีแต่เพิ่มและเพิ่ม



เห็นแล้วนึกถึงเรื่องtower hiest ;D



prai

ของทุกสิ่งไม่ได้ถูกลงครับ แต่มันมีของรุ่นใหม่ขึ้นมาแทนที่รุ่นเก่าเสมอครับ



gorilla

รถยนต์มีแนวโน้ม-รถขนาดเดียวกันใหญ่ขึ้นจากเมื่อก่อน ราคาแพงขึ้น เทคโนโลยีมากขึ้น

คือ เงินเท่ากันเทียบกับสมัยก่อน จะได้รถเล็กลง เครื่องเล็กลง เทคโนโลยีมากขึ้น ความปลอดภัยมากขึ้น แรงและประหยักมากขึ้น

สำหรับผมปัจจัยอื่นๆที่จำเป็นในการดำลงชีวิตมันขึ้นราคาน่ากลัวมากกว่าเยอะ เช่น ของกินของใช้ในชีิวิตประจำวัน

ส่วนสินค้าเทคโนโลยีนั้น ราคาถูกลงเรื่อยๆ และจริงๆความสามารถทางด้านฮาร์ดแวร์มันเกินความต้องการพื้นฐานโดยทั้วไปไปมากแล้วครับ

ใครใช้ cpu แค่ 2 core ก็ยังใช้ได้อีกนาน  ถ้าไม่ได้เล่นเกม 3 มิติ หรือทำงานพวกมีเดียหนักๆ




BestHuafoo

รถที่แพงขึ้น เกิดจากออฟชั่นภายในดีขึ้น ต้นทุนสูงขึ้น ค่าแรงสูงขึ้น
คนมีกำลังซื้อมากขึ้น ปัจจัยหลายอย่างส่งเสริมให้มันมีราคาสูง


ส่วนคอมพิวเตอร์ ราคาไม่เคยถูกลง
หากมีงบ 40000 บาท
10 ปีก่อน  คุณจะได้แค่

Pentium 3
128 mb ram
30GB HDD
การ์ดจอ 64mb
จอ CRT 14"

แต่ปัจจุบัน คุณจะได้
Core i7 ระบบประมวลผลถึง 4 แกน
4-8GB ram
1 Tera-byte HDD
ที่เก็บข้อมูลความเร็วสูง SSD
การ์ดจอ 1GB ตัวเขื่องๆ เล่นเกมไม่มีสะดุด
จอ LED 23 นิ้ว

และมันก็จะตกยุคภายในอีก 3-4 ปีนับจากนี้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 21, 2011, 20:04:38 โดย BestHuafoo »



Yoshio

ราคาเท่าเดิมแต่ได้อะไรมากขึ้น



lepon

ปี 2534  ค่าแรงขั้นต่ำกทม. 82 บาท/วัน

sunny b11 คันละ สามแสน (ต้องทำงานเก็บเงิน 3,658 วัน)
เครื่อง 1.3 ไม่มี เพาเวอร์ เซ็นทรัลล็อค กระจกไฟฟ้า 
วิ่งได้ 150 กม./ชม. กินน้ำมัน 13-15 กม./ลิตร (ตอนเครื่องยังฟิต)

ปี 2554 ค่าแรงขั้นต่ำกทม.  215 บาท/วัน
march mt ราคา 375,000 (ทำงานเก็บเงิน 1,745 วัน)
เครื่องเหลือ 1.2 แต่มีเพาเวอร์
วิ่งได้เกิน 150 กม./ชม. กินน้ำมันเกิน 20 กม./ลิตร

เทียบกันรุ่นต่อรุ่น ถูกกว่าเดิม สิ่งที่ได้ ดีกว่าเดิม ปลอดภัยกว่า ที่มาตราฐานสูงกว่าเดิม










NONT4477

ผมว่านะเอาจริงๆแล้ว คงมีแต่ทองแหละที่ราคาขึ้น
เมื่อก่อนสมัยผมเกิด (20กว่าปีที่แล้ว) พ่อบอก เงินเดือน ป.ตรี ซื้อทองได้2บาท (ไม่แน่ใจนะครับ)
ตอนนี้ เงินเดือน ป.ตรี ซื้อทองได้ครึ่งบาท  >:(
Top Gear's Biggest FAN!!! (IN MY House)
I'm NAC1701  ^ ^



kengointer

ผมว่านะเอาจริงๆแล้ว คงมีแต่ทองแหละที่ราคาขึ้น
เมื่อก่อนสมัยผมเกิด (20กว่าปีที่แล้ว) พ่อบอก เงินเดือน ป.ตรี ซื้อทองได้2บาท (ไม่แน่ใจนะครับ)
ตอนนี้ เงินเดือน ป.ตรี ซื้อทองได้ครึ่งบาท  >:(

คิดเหมือนผมเลย



LimitedEdition

อัตราเงินเฟ้อไงครับ เงิน 1 บาทวันนี้ มีค่าไม่ถึง 1 บาทในพรุ่งนี้
เราถึงได้ปรับฐานเงินเดือนขึ้นทุกปี เพราะค่าเงินมันอ่อนตัวลงนั่นเอง
ดังนั้น ค่าใช้จ่ายแต่ละปีก็สูงขึ้นทุกปี ใครผลิตของออกมาขายก็ต้องขึ้นราคา
ไม่งั้นก็ขาดทุนเพราะรายจ่ายเพิ่ม แต่รายได้ไม่เพิ่มครับ

ยกตัวอย่าง เบนซ์ S280 รุ่นหางปลาไฟตั้งสมัยก่อน
ขายป้ายแดงคันละ 128,000 บาท แต่สมัยก่อนได้เงินเดือนเดือนละ 1,200 บาท
จะเห็นว่า อำนาจการซื้อไม่ได้เพิ่มขึ้นหรอก เพียงแต่เงินที่เราถือในมือมันมีค่าน้อยลงเท่านั้นเอง

จริงจริงจะเทียบกับ Computer แบบนั้นก็คลาดเคลื่อนอยู่นิดหน่อยนะครับ
ถ้าบอกว่า Computer สมัย Pentium I ออกมาใหม่ใหม่ ขายกันเครื่องละเกือบแสนบาท
เวลาผ่านไป ราคาก็ลดลงอย่างรวดเร็ว และถ้าไปหาซื้อเครื่อง Pentium I สมัยนี้
คงซื้อมาได้ในราคาหลักพัน (ถ้าไม่ใช่ร้อย) บาทด้วยซ้ำไป

ถ้าจะเทียบกันแบบ Apple-to-Apple กับรถยนต์ ก็กรณีเดียวกันครับ
ถ้าบริษัทรถจะผลิตรถรุ่นเดิม ด้วย Technology เดิมเมื่อสมัย 15 ปีที่แล้ว
แน่นอนว่าราคาก็จะถูกลงกว่ารถใหม่ใหม่ที่ออกมาในปัจจุบันแน่นอน
เพราะได้เรื่อง Economy of scale คือผลิตจนคุ้มไปแล้ว ยิ่งผลิตมากยิ่งต้นทุนต่ำครับ



HYDE--

ไม่ไช่แค่รถหรอกครับที่ขึ้น ทุกอย่างตะหากที่ขึ้นครับ ทอง น้ำัมัน แล้วก็อีกนับไม่ถ้วน น้ำมันขึ้นทุกอย่างก็ขึ้นหมด

ต้นทุนสูงขึ้นเพราะ เทคโนโลยีสูงขึ้น ทรัพยากรที่น้อยลง ค่าแรงที่สูงขึ้น
ความพยายามที่จะทำให้รถ แรง และประหยัดขึ้น งบประมาน R&D ที่สูงขึ้น (ในบางยี่ห้อ)

ผู้บริโภคฉลาดซื้อมากขึ้น เมื่อก่อน รถอะไรก็ขับได้ ขอให้มี แอร์ วิทยุ เทป แมก พวงมาัลัยพาวเวอร์ กระจกไฟฟ้า ก็หรูมากแล้ว
แต่เดี๋ยวนี้ แผงประตูแข็ง พวกมาลัยไม่นุ่มมือ ก้านไฟเลี้ยงแข็ง เสียงปิดประตูไม่ีเพราะ คนก็เริ่มไม่อยากได้แล้วครับ



shando

อัตราเงินเฟ้อไงครับ เงิน 1 บาทวันนี้ มีค่าไม่ถึง 1 บาทในพรุ่งนี้
เราถึงได้ปรับฐานเงินเดือนขึ้นทุกปี เพราะค่าเงินมันอ่อนตัวลงนั่นเอง
ดังนั้น ค่าใช้จ่ายแต่ละปีก็สูงขึ้นทุกปี ใครผลิตของออกมาขายก็ต้องขึ้นราคา
ไม่งั้นก็ขาดทุนเพราะรายจ่ายเพิ่ม แต่รายได้ไม่เพิ่มครับ

ยกตัวอย่าง เบนซ์ S280 รุ่นหางปลาไฟตั้งสมัยก่อน
ขายป้ายแดงคันละ 128,000 บาท แต่สมัยก่อนได้เงินเดือนเดือนละ 1,200 บาท
จะเห็นว่า อำนาจการซื้อไม่ได้เพิ่มขึ้นหรอก เพียงแต่เงินที่เราถือในมือมันมีค่าน้อยลงเท่านั้นเอง

จริงจริงจะเทียบกับ Computer แบบนั้นก็คลาดเคลื่อนอยู่นิดหน่อยนะครับ
ถ้าบอกว่า Computer สมัย Pentium I ออกมาใหม่ใหม่ ขายกันเครื่องละเกือบแสนบาท
เวลาผ่านไป ราคาก็ลดลงอย่างรวดเร็ว และถ้าไปหาซื้อเครื่อง Pentium I สมัยนี้
คงซื้อมาได้ในราคาหลักพัน (ถ้าไม่ใช่ร้อย) บาทด้วยซ้ำไป

ถ้าจะเทียบกันแบบ Apple-to-Apple กับรถยนต์ ก็กรณีเดียวกันครับ
ถ้าบริษัทรถจะผลิตรถรุ่นเดิม ด้วย Technology เดิมเมื่อสมัย 15 ปีที่แล้ว
แน่นอนว่าราคาก็จะถูกลงกว่ารถใหม่ใหม่ที่ออกมาในปัจจุบันแน่นอน
เพราะได้เรื่อง Economy of scale คือผลิตจนคุ้มไปแล้ว ยิ่งผลิตมากยิ่งต้นทุนต่ำครับ


ถ้าอย่างนั้นmazda ช่วยผลิตNA8แล้วขายซัก400kให้ผมหน่อยเถอะ อยากได้มาก ;D



iiuuiisj

อยู่ที่ เทคโนโลยี ครับ

รถ เทคโนโลยี เเต่ล่ะอย่าง มีเเต่ทำให้เเพงขึ้น  มันไม่สามารถ พัฒนาได้   จุดประสงค์ หลัก คือ ปลอดภัย
เช่น body เหล็ก กับ ไฟเบอร์ เกรดดีๆ

ส่วน คอมพิวเตอร์  cpu ใช้ ทองคำ  จำนวนเท่าเดิม เเต่ สร้างให้เล็กขึ้น ก็ จบ  จุดประสงค์  คือ ประหยัด
เช่น ทำให้ ประหยัดไฟ  ถูกลง  อะไรที่ใหม่ ก็ ย่อมเเพง  เเรกๆ core 2  ก็เเพง ครับ หลังๆ ก็ ถูก

โทรศัพท์ ก็ อีก อััน เมื่อก่อน 3310 ออกใหม่ก็ หลายหมื่น  ถ่ายรูป ก็ไม่ได้ จอไม่มีสี  โทร เข้า - ออก ส่ง sms -เกม งู
  ตอนนี้ iphone 4s ก็ 2หมื่น+  ทำได้ทุกอย่าง สุดท้าย คำว่าโทรศัพท์ = โทรเข้า-ออก  ที่เพิ่ม มาก็เทคโนโลยี
 3310 ตอนนี้ ก็ ขยะ 500 มีคนเอาไหม 

ตัวแปรที่สำคัญคือเวลา  คอมใช้ เเค่ 5 ปี ก็ ต้องเปลี่ยน  ใช้ต่อก็ได้เเต่ จะไม่ทันคนอื่นเค้า
รถยนต์ ระยะเวลามัน น่่าจะได้ 10 ปี+ ราคา มันต่างกัน คอมเเค่ 5หมื่น  รถ อย่างน้อยก็ 5 เเสน  จำนวนเงินมัน ต่างกัน

เปรียนได้ ว่า ทำงาน ครึ่งปี ซื้อคอมใหม่ ทำงาน 5 ปี พึ่งจะ กล้า ซื้อรถ

รถต้องการ ความโดด เด่น ทุกๆ ค่ายย่อม หาจุดเด่นมาใส่ใน รถ ทำให้ราคาเเพงขึ้น เเต่ option ที่ได้มาก็คุ้ม

ถ้าจะว่ากันจริงๆ เเล้ว ผมว่า   รถยนต์ ถูกลง เเถมดีขึ้นด้วย   ลองเปรียบเทียบ  รถ รุ่นๆ เก่า ๆ ราคาตอนนั้น 5 เเสน  ตอนนี้ 5 เเสน ก็ ดีมากเเล้ว

เรื่องเงิน เฟ้อมันก็ อีกเรื่องครับ มันก็ค่าจำนวนตัวเลขที่เพิ่มขึ้น เเต่จริงๆ เเล้วราคามันเท่าเดิมล่ะครับ ถ้าเทียบ ความเหนื่อยในการหาเงิน
เมื่อก่อนหาเงินจะ ครบ เเสน ยังยาก ตอนนี้ หาเงิน 5 เเสน ก็พอๆ กับ หา1เเสน  เมื่อก่อน
ดูได้จาก เงินเดือน  ก่อนๆ เงินเดือน 8000 ก็ ดีมาก เเล้ว ตอนนี้ 2 หมื่น ยัง พลิกเเผ่นดินหาเลย 


ตัวอย่าง ง่ายๆ dmax เปรียบเทียบรุ่นเก่า-ใหม่ ราคาเเพงกว่าเดิม  ทุกๆ อย่างเหมือนเดิม  มี 4 ล้อ 1 พวงมาลัย 2 ประตู 4ประคู 2.5 3.0
ที่เพิ่ม มาก็ เทคโนโลยีครับ  บางอย่าง ถูก - เเพง ก็ ว่าตามกันไป อันไหนรับได้ ก็รับ  เช่น 2.5 กับ 2.5 VGS ต่าง กับเเค่ turbo ราคา ก็ เเพงขึ้น




LimitedEdition

อัตราเงินเฟ้อไงครับ เงิน 1 บาทวันนี้ มีค่าไม่ถึง 1 บาทในพรุ่งนี้
เราถึงได้ปรับฐานเงินเดือนขึ้นทุกปี เพราะค่าเงินมันอ่อนตัวลงนั่นเอง
ดังนั้น ค่าใช้จ่ายแต่ละปีก็สูงขึ้นทุกปี ใครผลิตของออกมาขายก็ต้องขึ้นราคา
ไม่งั้นก็ขาดทุนเพราะรายจ่ายเพิ่ม แต่รายได้ไม่เพิ่มครับ

ยกตัวอย่าง เบนซ์ S280 รุ่นหางปลาไฟตั้งสมัยก่อน
ขายป้ายแดงคันละ 128,000 บาท แต่สมัยก่อนได้เงินเดือนเดือนละ 1,200 บาท
จะเห็นว่า อำนาจการซื้อไม่ได้เพิ่มขึ้นหรอก เพียงแต่เงินที่เราถือในมือมันมีค่าน้อยลงเท่านั้นเอง

จริงจริงจะเทียบกับ Computer แบบนั้นก็คลาดเคลื่อนอยู่นิดหน่อยนะครับ
ถ้าบอกว่า Computer สมัย Pentium I ออกมาใหม่ใหม่ ขายกันเครื่องละเกือบแสนบาท
เวลาผ่านไป ราคาก็ลดลงอย่างรวดเร็ว และถ้าไปหาซื้อเครื่อง Pentium I สมัยนี้
คงซื้อมาได้ในราคาหลักพัน (ถ้าไม่ใช่ร้อย) บาทด้วยซ้ำไป

ถ้าจะเทียบกันแบบ Apple-to-Apple กับรถยนต์ ก็กรณีเดียวกันครับ
ถ้าบริษัทรถจะผลิตรถรุ่นเดิม ด้วย Technology เดิมเมื่อสมัย 15 ปีที่แล้ว
แน่นอนว่าราคาก็จะถูกลงกว่ารถใหม่ใหม่ที่ออกมาในปัจจุบันแน่นอน
เพราะได้เรื่อง Economy of scale คือผลิตจนคุ้มไปแล้ว ยิ่งผลิตมากยิ่งต้นทุนต่ำครับ


ถ้าอย่างนั้นmazda ช่วยผลิตNA8แล้วขายซัก400kให้ผมหน่อยเถอะ อยากได้มาก ;D

แหม ถ้าเค้าทำจริงผมก็คงเสียเงินเหมือนกันล่ะคร้าบบบ



inwzanakub

3310 มาใหม่ๆ เป็นหมื่นเลยนะ  ;D



HYDE--

ที่บ้านผมมี Motorola รุ่นไรมะรู จำชื่อรุ่นไม่ได้ รู้แต่ว่า เกิน 20 ปีแน่ๆ

เกินแสนอะครับ 555+ ทั้งขนาด มิติ น้ำหนัก เหมือนกระติกน้ำร้อนมากๆ



LimitedEdition

ที่บ้านผมมี Motorola รุ่นไรมะรู จำชื่อรุ่นไม่ได้ รู้แต่ว่า เกิน 20 ปีแน่ๆ

เกินแสนอะครับ 555+ ทั้งขนาด มิติ น้ำหนัก เหมือนกระติกน้ำร้อนมากๆ

Motorola Dynatac ครับ



buggy_view

นักเศรษฐศาสตร์เยอะ แฮะ ตอบกันละเอียดดีจัง
ผมก็ตอบอีกเสียงว่าเกิดจากเงินเฟ้อ



ichok

รถยนต์น่าจะเท่าเดิมนะผมว่าผันตามเงินเฟ้อ แต่สินค้าพวกอิเล็กทรอนิกสิ้นเปลืิงผมว่าถูกลงตามผู้ผลิตที่มีมากขึ้นกว่าเมื่อก่อน การแข่งขันมีสูงจนจํยี่ห้อกันไม่ได้แล้ว ถูกจนผลิตทิ้งขว้างรอคนซื้อแล้วเหลือยังไม่ขาดทุน ผู้บริโภคเลยสบายไป แต่รถยนต์กว่าจะได้จองแล้วอีก3เดือนเป็นอย่างน้อย ผลิตยังไงก็ไม่ทันคนซื้อ มันก็เลยไม่ได้ถูกลง



YIM

ที่บ้านผมมี Motorola รุ่นไรมะรู จำชื่อรุ่นไม่ได้ รู้แต่ว่า เกิน 20 ปีแน่ๆ

เกินแสนอะครับ 555+ ทั้งขนาด มิติ น้ำหนัก เหมือนกระติกน้ำร้อนมากๆ

โอ้ ยังมี Dynatac ที่บ้านเหรอเนี่ย

เก็บไว้ดีๆ นะครับ อนาคตเป็นของมีค่าแน่นอน (น่าจะขายได้หลายตังค์)

ทั้ง DynaTAC และ StarTAC เป็นของน่าสะสมครับ
JDM เท่านั้น จะครองโลก!



NINENOI

อ้าว แสดงว่าเงินเดือนที่ขึ้นทุกปีมันไม่ได้เพิ่มเลยสิเนี่ย
ถ้าเราซื้อของที่ไม่จำเป็น สุดท้ายเราต้องขายของที่จำเป็น



2k

อืม.......แล้วการที่บริษัทบอกว่าผลประกอบการไม่ดีงดขึ้นเงินเดือนหมายความว่าไงครับ ฮือๆๆๆๆๆ  :'(
หมาเฝ้าบ้านแจกฟรีจ้า www.dogfindhome.com




nuTTy

ขอบคุณทุกกความคิดเห็นครับ .. ได้หลายความคิดจากคนเก่งหลายๆท่านในเวปนี้ ดีครับ ชอบๆๆ

สำหรับความคิดผมบ้างนะครับ

ใน 1 ชิ้นงาน( 1 คันรถยนต์) มีพาร์ทชิ้นส่วนหลายพันหลายหมื่นชิ้น ในการประกอบขึ้นมาเป็น 1 หน่วยชิ้นงาน
ซึ่งต้นทุนของพาร์ทแต่ชิ้นละราคาสูงขึ้นเมื่อเทียบกันชิ้นต่อชิ้นกับพาร์ทนั้นๆในอดีต

อีกทั้งเทคโนโลยี่วิศวกรรมใหม่ๆ+ค่าความคิดในการดีไซน์ รวมทั้งการประกอบของมันไม่สามารถปั๊มขึ้นรูปได้ทีละหลายๆชิ้น
ต้องใช้หลายองค์ประกอบทั้งคน/เครื่องจักร/โรบอทในการผลิตชิ้นงาน 1ชิ้น ตรงนี้เรียกว่า process time ..
ซึ่ง process time เป็นตัวหลักในการคิดค่าแรงการประกอบ

ดังนั้นต้นทุนมันจึงสูงและผันแปรไปตามค่าเงิน ตามที่เคยได้ยินบางคนเปรียบเปรยว่ามีเงิน 1 แสนบาทเมื่อ 20 ปีก่อน ก็คือมีเงิน 1 ล้านบาทสมัยนี้ ...