ผู้เขียน หัวข้อ: รบกวนถามความคิดเห็น พี่ J!mmy พี่เเพน พี่เนย เเละพี่ๆในบอร์ด เกี่ยวกับ Focus TDCI ครับ  (อ่าน 8076 ครั้ง)

ออฟไลน์ Yojinboh!!

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 150

คือ ตอนนี้ผมอยู่ต่างประเทศ เเละมีกำหนดกลับประมาณกลางเดือน กุมภาพันธ์ ปีหน้า เเล้วผมสนใจ Focus TDCI ที่ตอนนี้ลดราคาลงมาหน่ะครับ

ว่า ถ้าผมกลับไปถึงเมืองไทยในช่วงเวลานั้น ตัวนี้ก็ใกล้จะตกรุ่นเเล้ว จะยังน่าซื้ออยู่มั้ยครับ หรือว่ารอ model ใหม่ไปเลยดีกว่า

ซึ่งตอนนี้กำลังชั่งใจอยู่ครับ ว่าจะเอายังไงดี รอตัวใหม่ หรือซื้อตัวเก่า หรือไม่ก็รอ L12F ดีกว่าครับ

ขอบคุณทุกความเห็นนะครับ ;D

ออฟไลน์ Oslan

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 659
ถ้ารับได้/ไม่ซีเรียสกับรถตกรุ่น ราคานี้ก็ถือว่าน่าสนใจมากเลยครับ

แต่ต้องทำความเข้าใจด้วยว่า ที่เขาลดราคามาขนาดนี้ เพราะจะโละเพื่อรอรับรุ่นใหม่
พูดง่ายๆ ก็ึึืคือ ตัวใหม่มา ในเครื่อง+ออพชั่น ในตัวบนสุดแบบนี้ มันจะไม่ใช่ราคานี้แน่นอน

ถ้ารับเรื่องตกรุ่นได้ ราคานี้คุ้มกับรถระดับนี้แน่นอนครับ ถ้ารับไม่ได้ก็รอตัวใหม่ไป

แต่ก็ทำใจด้วยว่าตัวใหม่ ถ้าเป็นตัวท็อป (พวกเครื่อง 2000) เหมือนกัน ราคาจะโดด ขั้นต่ำอย่างน้อยก็ต้อง 1,050,000+ แน่นอนครับ

ออฟไลน์ LimitedEdition

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,410
อยู่เมืองนอกเหมือนกัน และเพิ่งไปขับ Focus 2012 มาเมื่อวาน
แต่เป็นตัวเบนซิน 2.0 กับเกียร์ 6 สปีด Dual-Clutch

ผมว่าถ้าชอบลูกเล่นเยอะ ออพชันแยะ เก็บเสียงดี ภายในหรูหรา
รอตัวใหม่อาจจะถูกใจมากกว่าครับ แต่ประเด็นคือแล้วตัวใหม่จะยังมี TDCi รึเปล่า?
เพราะ 2.0 ที่ขับนั้น แรงกว่ามาสด้า 3 2.0 เกียร์ 5 สปีดนิดเดียว
แถมเครื่องยนต์ดูไม่ค่อยกระฉับกระเฉงเท่าด้วย ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน
อีกอย่าง รถมันเงียบมากจนแทบจะไม่ได้ยินเสียงเครื่องเข้ามาเลย
ต้องดูการตวัดของรอบเครื่องเอา แต่ก็ยังบอกได้ว่าช้าอยู่ดีครับ

ถ้าชอบความดิบและโหด รถที่สร้างขึ้นมาเพื่อขับเอาสนุก
ผมว่าตัวเก่าให้ฟีลลิ่งดีกว่า มันดิบกว่า มันสื่อสารกับเราได้ชัดเจนมากกว่า มันธรรมชาติกว่า
ตำแหน่งการนั่งตัวเก่าก็ยังดีกว่า สำหรับคนชอบขับรถ เสียงเครื่องดังเข้ามากำลังดี (สำหรับผม) เสียงลมดังไปนิด
และที่สำคัญเกียร์เป็นแบบคันโยก +/- อยู่ เพราะฉะนั้นเวลาเรานึกสนุก มันจะได้ฟีลลิ่งที่ดีกว่า

ตัวใหม่นี่ถ้าขับทางยาวยาวไกลไกลสบายกว่าแน่นอน อย่างน้อยก็ไม่หูระบม หรือปวดท้อง
เพราะมันนุ่มกว่าตัวเดิม คุมอาการตัวถังดีกว่าเดิมมาก ดีกว่ามาสด้าซะอีก และเงียบสบายหูแม้วิ่งที่ 6 พันรอบ
แต่มันทำให้เหมือนเรากับรถอยู่กันคนละโลก เหมือนเรานั่งอยู่ในหุ่นยนต์ที่มีจอเต็มไปหมดแต่ตัดขาดจากโลกภายนอก
พอไปเจอคันเกียร์ของรถ GM-Ford รุ่นใหม่ใหม่ ที่เปลี่ยนจากการโยก +/- มาเป็นปุ่มกดข้างเกียร์แทน
มันยิ่งทำให้ฟีลลิ่งการ "ชิฟท์เกียร์เอง" หมดสิ้นไปอย่างราบคาบ คือจะทำปุ่มทำไมไม่ทำบนพวงมาลัย (วะ)
เจออย่างนี้มาหลายรุ่นแล้ว และกว่าเกียร์จะตอบสนองเปลี่ยนตำแหน่งให้ ต้องรอประมาณ 0.5 วินาทีหลังกดปุ่ม
พอไปเจอกับการเก็บเสียงที่เงียบเป็นเป่าสากแล้ว บางทีเราไม่ได้มองหน้าปัด เรายังไม่รู้เลยว่ามันเปลี่ยนเกียร์แล้ว
รถมันโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่จนมันเสียความสนุกบางอย่างที่เราคาดหวังจาก Focus ไป

10 นาทีแรกของผมบน Focus 2.0 เบนซินตัวเก่า ผมสนุกไปกับการลากรอบ เปลี่ยนเลน เบรก เลี้ยว ฯลฯ
1 ชั่วโมงแรกของผมบน Focus 2012 หมดไปกับการกดปุ่มสารพัดบนพวงมาลัย คอนโซล หลังคา
และตื่นตาตื่นใจไปกับจอบนหน้าปัด และจอตรงคอนโซลกลาง จนทำให้ต้องเตือนสติตัวเองอย่างหนัก
"เฮ้ย..หยุดเล่น แล้วปิดทุกระบบเพื่อจับอาการของตัวรถจริงจริงซะที" พูดง่ายง่ายคือมันไม่เร้าให้เราอัด
จนความสนใจทั้งหมดมันหายไปอยู่กับออพชันที่ยัดมาจนบานตะเกียงในรถแทน
แต่ก็ไม่แน่ ถ้าได้ลอง TDCi มันอาจจะเปลี่ยนประสบการณ์ทุกอย่างเลยก็ได้

สรุปสั้นสั้น ถ้าชอบดิบ ไม่สนตกรุ่น จัดไปเลยครับ
แต่ถ้าเป็นคนชอบขับรถนุ่ม ออพชันเยอะ สนใจเรื่องตกรุ่นเร็ว รอดูก็ดี
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 09, 2011, 21:37:33 โดย Nuay@Protege »

ออฟไลน์ 2k

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,752
ตัวใหม่ต้องตัวใหม่เท่านั้นครับ!!! รุ่นปัจจุบันเทคโนโลยีมันยังไม่สุดนะผมว่า แต่ตัวรุ่นใหม่มีตั้ง 162 แรงม้าน้องๆ BMW 320D รุ่นเครื่องตัวแรกสุดแล้ว  ;D
หมาเฝ้าบ้านแจกฟรีจ้า www.dogfindhome.com


ออฟไลน์ Yojinboh!!

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 150
อยู่เมืองนอกเหมือนกัน และเพิ่งไปขับ Focus 2012 มาเมื่อวาน
แต่เป็นตัวเบนซิน 2.0 กับเกียร์ 6 สปีด Dual-Clutch

ผมว่าถ้าชอบลูกเล่นเยอะ ออพชันแยะ เก็บเสียงดี ภายในหรูหรา
รอตัวใหม่อาจจะถูกใจมากกว่าครับ แต่ประเด็นคือแล้วตัวใหม่จะยังมี TDCi รึเปล่า?
เพราะ 2.0 ที่ขับนั้น แรงกว่ามาสด้า 3 2.0 เกียร์ 5 สปีดนิดเดียว
แถมเครื่องยนต์ดูไม่ค่อยกระฉับกระเฉงเท่าด้วย ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน
อีกอย่าง รถมันเงียบมากจนแทบจะไม่ได้ยินเสียงเครื่องเข้ามาเลย
ต้องดูการตวัดของรอบเครื่องเอา แต่ก็ยังบอกได้ว่าช้าอยู่ดีครับ

ถ้าชอบความดิบและโหด รถที่สร้างขึ้นมาเพื่อขับเอาสนุก
ผมว่าตัวเก่าให้ฟีลลิ่งดีกว่า มันดิบกว่า มันสื่อสารกับเราได้ชัดเจนมากกว่า มันธรรมชาติกว่า
ตำแหน่งการนั่งตัวเก่าก็ยังดีกว่า สำหรับคนชอบขับรถ เสียงเครื่องดังเข้ามากำลังดี (สำหรับผม) เสียงลมดังไปนิด
และที่สำคัญเกียร์เป็นแบบคันโยก +/- อยู่ เพราะฉะนั้นเวลาเรานึกสนุก มันจะได้ฟีลลิ่งที่ดีกว่า

ตัวใหม่นี่ถ้าขับทางยาวยาวไกลไกลสบายกว่าแน่นอน อย่างน้อยก็ไม่หูระบม หรือปวดท้อง
เพราะมันนุ่มกว่าตัวเดิม คุมอาการตัวถังดีกว่าเดิมมาก ดีกว่ามาสด้าซะอีก และเงียบสบายหูแม้วิ่งที่ 6 พันรอบ
แต่มันทำให้เหมือนเรากับรถอยู่กันคนละโลก เหมือนเรานั่งอยู่ในหุ่นยนต์ที่มีจอเต็มไปหมดแต่ตัดขาดจากโลกภายนอก
พอไปเจอคันเกียร์ของรถ GM-Ford รุ่นใหม่ใหม่ ที่เปลี่ยนจากการโยก +/- มาเป็นปุ่มกดข้างเกียร์แทน
มันยิ่งทำให้ฟีลลิ่งการ "ชิฟท์เกียร์เอง" หมดสิ้นไปอย่างราบคาบ คือจะทำปุ่มทำไมไม่ทำบนพวงมาลัย (วะ)
เจออย่างนี้มาหลายรุ่นแล้ว และกว่าเกียร์จะตอบสนองเปลี่ยนตำแหน่งให้ ต้องรอประมาณ 0.5 วินาทีหลังกดปุ่ม
พอไปเจอกับการเก็บเสียงที่เงียบเป็นเป่าสากแล้ว บางทีเราไม่ได้มองหน้าปัด เรายังไม่รู้เลยว่ามันเปลี่ยนเกียร์แล้ว
รถมันโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่จนมันเสียความสนุกบางอย่างที่เราคาดหวังจาก Focus ไป

10 นาทีแรกของผมบน Focus 2.0 เบนซินตัวเก่า ผมสนุกไปกับการลากรอบ เปลี่ยนเลน เบรก เลี้ยว ฯลฯ
1 ชั่วโมงแรกของผมบน Focus 2012 หมดไปกับการกดปุ่มสารพัดบนพวงมาลัย คอนโซล หลังคา
และตื่นตาตื่นใจไปกับจอบนหน้าปัด และจอตรงคอนโซลกลาง จนทำให้ต้องเตือนสติตัวเองอย่างหนัก
"เฮ้ย..หยุดเล่น แล้วปิดทุกระบบเพื่อจับอาการของตัวรถจริงจริงซะที" พูดง่ายง่ายคือมันไม่เร้าให้เราอัด
จนความสนใจทั้งหมดมันหายไปอยู่กับออพชันที่ยัดมาจนบานตะเกียงในรถแทน
แต่ก็ไม่แน่ ถ้าได้ลอง TDCi มันอาจจะเปลี่ยนประสบการณ์ทุกอย่างเลยก็ได้

สรุปสั้นสั้น ถ้าชอบดิบ ไม่สนตกรุ่น จัดไปเลยครับ
แต่ถ้าเป็นคนชอบขับรถนุ่ม ออพชันเยอะ สนใจเรื่องตกรุ่นเร็ว รอดูก็ดี

ขอบคุณพี่เนยมากครับ ตอบซะกระจ่าง 55555 เเต่ว่าถ้าพี่เนยมีโอกาสได้ลอง ตัว TDCI เเละได้ผลยังไงบอกผมด้วยนะครับ PM ก็ได้ครับพี่

 เเต่ว่าตัว model 2012 ถ้ามาประกอบที่บ้านเราเเล้ว จะไม่มีตัว TDCI หรอครับ ไม่มีนี่เเย่เเน่ครับ สงสัยต้องรอพี่ Jimmy มาตอบ

ออฟไลน์ NOTTO

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 280
อยู่เมืองนอกเหมือนกัน และเพิ่งไปขับ Focus 2012 มาเมื่อวาน
แต่เป็นตัวเบนซิน 2.0 กับเกียร์ 6 สปีด Dual-Clutch

ผมว่าถ้าชอบลูกเล่นเยอะ ออพชันแยะ เก็บเสียงดี ภายในหรูหรา
รอตัวใหม่อาจจะถูกใจมากกว่าครับ แต่ประเด็นคือแล้วตัวใหม่จะยังมี TDCi รึเปล่า?
เพราะ 2.0 ที่ขับนั้น แรงกว่ามาสด้า 3 2.0 เกียร์ 5 สปีดนิดเดียว
แถมเครื่องยนต์ดูไม่ค่อยกระฉับกระเฉงเท่าด้วย ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน
อีกอย่าง รถมันเงียบมากจนแทบจะไม่ได้ยินเสียงเครื่องเข้ามาเลย
ต้องดูการตวัดของรอบเครื่องเอา แต่ก็ยังบอกได้ว่าช้าอยู่ดีครับ

ถ้าชอบความดิบและโหด รถที่สร้างขึ้นมาเพื่อขับเอาสนุก
ผมว่าตัวเก่าให้ฟีลลิ่งดีกว่า มันดิบกว่า มันสื่อสารกับเราได้ชัดเจนมากกว่า มันธรรมชาติกว่า
ตำแหน่งการนั่งตัวเก่าก็ยังดีกว่า สำหรับคนชอบขับรถ เสียงเครื่องดังเข้ามากำลังดี (สำหรับผม) เสียงลมดังไปนิด
และที่สำคัญเกียร์เป็นแบบคันโยก +/- อยู่ เพราะฉะนั้นเวลาเรานึกสนุก มันจะได้ฟีลลิ่งที่ดีกว่า

ตัวใหม่นี่ถ้าขับทางยาวยาวไกลไกลสบายกว่าแน่นอน อย่างน้อยก็ไม่หูระบม หรือปวดท้อง
เพราะมันนุ่มกว่าตัวเดิม คุมอาการตัวถังดีกว่าเดิมมาก ดีกว่ามาสด้าซะอีก และเงียบสบายหูแม้วิ่งที่ 6 พันรอบ
แต่มันทำให้เหมือนเรากับรถอยู่กันคนละโลก เหมือนเรานั่งอยู่ในหุ่นยนต์ที่มีจอเต็มไปหมดแต่ตัดขาดจากโลกภายนอก
พอไปเจอคันเกียร์ของรถ GM-Ford รุ่นใหม่ใหม่ ที่เปลี่ยนจากการโยก +/- มาเป็นปุ่มกดข้างเกียร์แทน
มันยิ่งทำให้ฟีลลิ่งการ "ชิฟท์เกียร์เอง" หมดสิ้นไปอย่างราบคาบ คือจะทำปุ่มทำไมไม่ทำบนพวงมาลัย (วะ)
เจออย่างนี้มาหลายรุ่นแล้ว และกว่าเกียร์จะตอบสนองเปลี่ยนตำแหน่งให้ ต้องรอประมาณ 0.5 วินาทีหลังกดปุ่ม
พอไปเจอกับการเก็บเสียงที่เงียบเป็นเป่าสากแล้ว บางทีเราไม่ได้มองหน้าปัด เรายังไม่รู้เลยว่ามันเปลี่ยนเกียร์แล้ว
รถมันโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่จนมันเสียความสนุกบางอย่างที่เราคาดหวังจาก Focus ไป

10 นาทีแรกของผมบน Focus 2.0 เบนซินตัวเก่า ผมสนุกไปกับการลากรอบ เปลี่ยนเลน เบรก เลี้ยว ฯลฯ
1 ชั่วโมงแรกของผมบน Focus 2012 หมดไปกับการกดปุ่มสารพัดบนพวงมาลัย คอนโซล หลังคา
และตื่นตาตื่นใจไปกับจอบนหน้าปัด และจอตรงคอนโซลกลาง จนทำให้ต้องเตือนสติตัวเองอย่างหนัก
"เฮ้ย..หยุดเล่น แล้วปิดทุกระบบเพื่อจับอาการของตัวรถจริงจริงซะที" พูดง่ายง่ายคือมันไม่เร้าให้เราอัด
จนความสนใจทั้งหมดมันหายไปอยู่กับออพชันที่ยัดมาจนบานตะเกียงในรถแทน
แต่ก็ไม่แน่ ถ้าได้ลอง TDCi มันอาจจะเปลี่ยนประสบการณ์ทุกอย่างเลยก็ได้

สรุปสั้นสั้น ถ้าชอบดิบ ไม่สนตกรุ่น จัดไปเลยครับ
แต่ถ้าเป็นคนชอบขับรถนุ่ม ออพชันเยอะ สนใจเรื่องตกรุ่นเร็ว รอดูก็ดี
สอบถามหน่อยครับว่าการทำงานของเกียร์ Dual Clutch 6 Speed เป็นอย่างไรบ้างครับ ออกแนวไปทาง Fiesta (ไม่ราบรื่นเท่าที่ควร) หรือไปทาง Focus TDCI (ไม่เคยลอง แต่เค้าบอกมาว่าเทพจริงๆ) ยังไงๆก็หลงรักฟอร์ดไปแล้ว ถอนตัวลำบาก อิอิ

ออฟไลน์ LimitedEdition

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,410
ผมไม่เคยสัมผัสทั้งเกียร์ใน Fiesta กับ TDCi นะครับ

แต่เอาที่ได้จากการขับ Focus 2012 เมื่อวันก่อน
เวลาคลานออกตัว ปล่อยเกียร์ D ไหล มันมีอาการสะอึกนิดนิดตลอดเวลา เหมือนกับถอนคลัทช์ไม่หมดมาคาคาอยู่
ดูดูแล้วอาการเหมือนลูกหมาที่ค่อยค่อยย่องไปอย่างช้าช้า แต่ตัวสั่นงันงกเพราะตื่นตกใจกับสิ่งแวดล้อมรอบข้าง
แต่ถ้ากดคันเร่งวิ่งออกไปแล้ว เกียร์ก็เปลี่ยนนุ่มนวลดีครับ

แต่ผมว่าการโปรแกรมเกียร์มันก็ยังมีความไม่ลงตัวอยู่ดี คือถ้าขับแบบเรื่อยเรื่อย กดคันเร่งไป 20-30% ก็โอเค
ไต่ความเร็วเปลี่ยนเกียร์นุ่มนวลตามปกติ และสมูทมากเลยเมื่อเทียบกับเกียร์อัตโนมัติที่ไม่ใช่ Dual Clutch
แต่เมื่อไหร่เราได้ยกคันเร่ง และจะเติมซ้ำ เกียร์จะออกอาการ "เหวอแดก" (ขออภัยไม่สุภาพ) นิดหน่อย
คือ มันเหมือนต้องการทำให้ 1.ได้กำลังที่ต้องการ 2.นุ่มนวลในการเปลี่ยนเกียร์ 3.ราบลื่นไร้อาการกระตุก พร้อมพร้อมกัน
เลยกลายเป็น รอบตวัด รถไม่พุ่ง แต่ไม่กระตุก อาการเหมือนปล่อยเกียร์ว่างจากตำแหน่งเกียร์เก่า เชนจ์ดาวน์
แล้วไปเลี้ยงคลัทช์ที่เกียร์ใหม่แบบเอาลิ้นดุนดุน (เลีย) ไว้ รอบเลยฟรีได้นิดหน่อย แต่กำลังยังไม่ส่งลงพื้นเต็มเต็ม
ตอนแรกก็สนุกดี แกล้งมัน ให้มันเหวอบ่อยบ่อย แกล้งไปแกล้งมา (แม่ม)โกรธ คราวนี้ช่วงจากเกียร์ 1->2 มันถีบ "ปั้ก" เลย
เป็นทุกครั้งหลังจากนั้นมา คือพอเร่งไปได้หน่อยแล้วมีเหตุให้ต้องเบรกหรือยกคันเร่ง มันจะเข้าเกียร์ 2 แล้วกระตุกปั้กเลย

ส่วนเรื่องการใช้งานทั่วไป ผมว่าเกียร์มันหลายใจไปหน่อย นี่ขนาดมีแค่ 6 สปีดยังขยันปรับขึ้นลงซะขนาดนี้
ถ้าไปได้เกียร์ Lexus IS-F มี 8 สปีด ชีวิตมันทั้งวันคงอยู่กับการปรับตำแหน่งเกียร์ขึ้นลง
แล้วลักษณะการเปลี่ยนเกียร์ ตรงนี้ลองดูแล้วคิดถึงเฟียสต้าอยู่นิดนึง ตรงที่ทุกคนบอกว่ามันชอบลากเกียร์
อีนี่ก็ชอบลากเกียร์ กดคันเร่ง 30-40% มันล่อไปเปลี่ยนเกียร์ที่ 3500-4500 ตลอด แต่ถ้าไม่กดไปขนาดนั้นก็คลานเลย
แต่ช่วงยกคันเร่งหมดมันไม่หน่วงแบบตื้อลงมานะ สงสัยว่ามันจะมีการยกคลัทช์ช่วยนิดหน่อย ไม่ให้มันเหมือน Fiesta

สรุปว่า...ผมขอเกียร์ 5 สปีดแบบรถทั่วไปแทนได้มั้ย เป็นธรรมชาติกว่า ขับแล้วรู้ว่าอยู่เกียร์ไหนยังไง
ไม่ใช่เหมือนกับมันมีจิตใจและสมองของตัวเอง ทำตามความต้องการของตัวเองเป็นหลักแบบนี้

อ่านจบแล้วก็ลดทอนความเว่อร์ของผมไปสัก 10-15% นะครับ เขียนไปเขียนมาแล้วชักเกิดอารมณ์หงุุดหงิด
เลยขอจิกกัดมันเยอะหน่อย ถ้าท่านท่านไปขับเองหรือรอจนกว่ามันจะไปเมืองไทยปีหน้า อาจจะไม่ Jerking อย่างนี้ก็ได้


ออฟไลน์ adobe

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 454
    • อีเมล์
เกียร์ PS ของ focus TDCi ตัวนี้ ขับราบลื่นดีครับ
เคยมีกระตุกบ้างในจังหวะที่ผ่อนคันเร่ง แล้วเหยียบทันที แต่นานนนนๆๆ ทีถึงจะเจออาการนี้
ถ้าขับปกติทั่วไป แทบไม่รู้สึกกับจังหวะการเปลี่ยนเกียร์ครับ

ที่สำคัญ Focus TDCi  ขับสนุก และประหยัดน้ำมันครับ
วิ่งยาวๆ เหยียบ 120-140 Km/hr มีให้เห็น 15 km/L
ถ้าขับ 90 Km/hr ตลอด. มีให้เห็นที่ 20km/L
รถนิ่ง ควบคุมง่าย ขับเร็วๆ แบบถนนว่างๆ คนข้างๆ ยังนั่งเฉยครับ
แต่ไม่เหมาะเป็นรถครอบครัว เพราะขขับสนุกเกิ้น มีหวังโดนด่าแน่ๆ

ถ้ารอ New Focus 2012 ตามความคิดผม
ตัว TDCi เค้าคงยังไม่ทำตลาดในไทยช่วงแรกๆ ต้องรอช่วง Minor change ถึงได้ลุ้นนะครับ

ดังนั้น focus TDCi ตัว 999,000 บ. ถือว่าโคตรคุ้มเลย
ส่วนเรื่องขายต่อราคาตก ผมว่าราคารถใหม่มันตกมาแล้ว คุณได้เปรียบมากกว่าผมที่ซื้อตอนแรกๆ
เรื่องศูนย์บริการ ต้องเลือกๆ กันหน่อย, เรื่องอะไหล่บ่นกันช้าจริง ต้องทำใจ ได้แค่บ่น
ของแต่งพอมีบ้างนิดหน่อย เข้าไปในคลับก็จะรู้ครับ




ออฟไลน์ MoLee

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,191
อยู่เมืองนอกเหมือนกัน และเพิ่งไปขับ Focus 2012 มาเมื่อวาน
แต่เป็นตัวเบนซิน 2.0 กับเกียร์ 6 สปีด Dual-Clutch

ผมว่าถ้าชอบลูกเล่นเยอะ ออพชันแยะ เก็บเสียงดี ภายในหรูหรา
รอตัวใหม่อาจจะถูกใจมากกว่าครับ แต่ประเด็นคือแล้วตัวใหม่จะยังมี TDCi รึเปล่า?
เพราะ 2.0 ที่ขับนั้น แรงกว่ามาสด้า 3 2.0 เกียร์ 5 สปีดนิดเดียว
แถมเครื่องยนต์ดูไม่ค่อยกระฉับกระเฉงเท่าด้วย ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน
อีกอย่าง รถมันเงียบมากจนแทบจะไม่ได้ยินเสียงเครื่องเข้ามาเลย
ต้องดูการตวัดของรอบเครื่องเอา แต่ก็ยังบอกได้ว่าช้าอยู่ดีครับ

ถ้าชอบความดิบและโหด รถที่สร้างขึ้นมาเพื่อขับเอาสนุก
ผมว่าตัวเก่าให้ฟีลลิ่งดีกว่า มันดิบกว่า มันสื่อสารกับเราได้ชัดเจนมากกว่า มันธรรมชาติกว่า
ตำแหน่งการนั่งตัวเก่าก็ยังดีกว่า สำหรับคนชอบขับรถ เสียงเครื่องดังเข้ามากำลังดี (สำหรับผม) เสียงลมดังไปนิด
และที่สำคัญเกียร์เป็นแบบคันโยก +/- อยู่ เพราะฉะนั้นเวลาเรานึกสนุก มันจะได้ฟีลลิ่งที่ดีกว่า

ตัวใหม่นี่ถ้าขับทางยาวยาวไกลไกลสบายกว่าแน่นอน อย่างน้อยก็ไม่หูระบม หรือปวดท้อง
เพราะมันนุ่มกว่าตัวเดิม คุมอาการตัวถังดีกว่าเดิมมาก ดีกว่ามาสด้าซะอีก และเงียบสบายหูแม้วิ่งที่ 6 พันรอบ
แต่มันทำให้เหมือนเรากับรถอยู่กันคนละโลก เหมือนเรานั่งอยู่ในหุ่นยนต์ที่มีจอเต็มไปหมดแต่ตัดขาดจากโลกภายนอก
พอไปเจอคันเกียร์ของรถ GM-Ford รุ่นใหม่ใหม่ ที่เปลี่ยนจากการโยก +/- มาเป็นปุ่มกดข้างเกียร์แทน
มันยิ่งทำให้ฟีลลิ่งการ "ชิฟท์เกียร์เอง" หมดสิ้นไปอย่างราบคาบ คือจะทำปุ่มทำไมไม่ทำบนพวงมาลัย (วะ)
เจออย่างนี้มาหลายรุ่นแล้ว และกว่าเกียร์จะตอบสนองเปลี่ยนตำแหน่งให้ ต้องรอประมาณ 0.5 วินาทีหลังกดปุ่ม
พอไปเจอกับการเก็บเสียงที่เงียบเป็นเป่าสากแล้ว บางทีเราไม่ได้มองหน้าปัด เรายังไม่รู้เลยว่ามันเปลี่ยนเกียร์แล้ว
รถมันโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่จนมันเสียความสนุกบางอย่างที่เราคาดหวังจาก Focus ไป

10 นาทีแรกของผมบน Focus 2.0 เบนซินตัวเก่า ผมสนุกไปกับการลากรอบ เปลี่ยนเลน เบรก เลี้ยว ฯลฯ
1 ชั่วโมงแรกของผมบน Focus 2012 หมดไปกับการกดปุ่มสารพัดบนพวงมาลัย คอนโซล หลังคา
และตื่นตาตื่นใจไปกับจอบนหน้าปัด และจอตรงคอนโซลกลาง จนทำให้ต้องเตือนสติตัวเองอย่างหนัก
"เฮ้ย..หยุดเล่น แล้วปิดทุกระบบเพื่อจับอาการของตัวรถจริงจริงซะที" พูดง่ายง่ายคือมันไม่เร้าให้เราอัด
จนความสนใจทั้งหมดมันหายไปอยู่กับออพชันที่ยัดมาจนบานตะเกียงในรถแทน
แต่ก็ไม่แน่ ถ้าได้ลอง TDCi มันอาจจะเปลี่ยนประสบการณ์ทุกอย่างเลยก็ได้

สรุปสั้นสั้น ถ้าชอบดิบ ไม่สนตกรุ่น จัดไปเลยครับ
แต่ถ้าเป็นคนชอบขับรถนุ่ม ออพชันเยอะ สนใจเรื่องตกรุ่นเร็ว รอดูก็ดี

ขอบคุณพี่เนยมากครับ ตอบซะกระจ่าง 55555 เเต่ว่าถ้าพี่เนยมีโอกาสได้ลอง ตัว TDCI เเละได้ผลยังไงบอกผมด้วยนะครับ PM ก็ได้ครับพี่

 เเต่ว่าตัว model 2012 ถ้ามาประกอบที่บ้านเราเเล้ว จะไม่มีตัว TDCI หรอครับ ไม่มีนี่เเย่เเน่ครับ สงสัยต้องรอพี่ Jimmy มาตอบ
น่าจะมีนะครับ ตอนนั้นผมยังเห็นรูปมันอยู่ในโรงงานและมีคนประกอบยื้นจ้องดูตั้งหลายคน โดนหลังแปะป้ายTDCiด้วย (แอบเซฟรูปเก็บไว้อยู่แต่ไม่กล้าโพส) :-X

ออฟไลน์ PREM

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,206

แต่ผมว่าการโปรแกรมเกียร์มันก็ยังมีความไม่ลงตัวอยู่ดี คือถ้าขับแบบเรื่อยเรื่อย กดคันเร่งไป 20-30% ก็โอเค
ไต่ความเร็วเปลี่ยนเกียร์นุ่มนวลตามปกติ และสมูทมากเลยเมื่อเทียบกับเกียร์อัตโนมัติที่ไม่ใช่ Dual Clutch
แต่เมื่อไหร่เราได้ยกคันเร่ง และจะเติมซ้ำ เกียร์จะออกอาการ "เหวอแดก" (ขออภัยไม่สุภาพ) นิดหน่อย
คือ มันเหมือนต้องการทำให้ 1.ได้กำลังที่ต้องการ 2.นุ่มนวลในการเปลี่ยนเกียร์ 3.ราบลื่นไร้อาการกระตุก พร้อมพร้อมกัน
เลยกลายเป็น รอบตวัด รถไม่พุ่ง แต่ไม่กระตุก อาการเหมือนปล่อยเกียร์ว่างจากตำแหน่งเกียร์เก่า เชนจ์ดาวน์
แล้วไปเลี้ยงคลัทช์ที่เกียร์ใหม่แบบเอาลิ้นดุนดุน (เลีย) ไว้ รอบเลยฟรีได้นิดหน่อย แต่กำลังยังไม่ส่งลงพื้นเต็มเต็ม
ตอนแรกก็สนุกดี แกล้งมัน ให้มันเหวอบ่อยบ่อย แกล้งไปแกล้งมา (แม่ม)โกรธ คราวนี้ช่วงจากเกียร์ 1->2 มันถีบ "ปั้ก" เลย
เป็นทุกครั้งหลังจากนั้นมา คือพอเร่งไปได้หน่อยแล้วมีเหตุให้ต้องเบรกหรือยกคันเร่ง มันจะเข้าเกียร์ 2 แล้วกระตุกปั้กเลย


จำได้ว่าตอนผมลองขับ Fiesta เกียร์ก็เหวอๆ ประมาณนี้แหละครับ ตอนคิกดาวน์ รอบกวาดไปก่อน แต่รถไม่พุ่ง ประมาณ 1 วิหลังจากนั้นถึงจะเริ่มไป
ทำให้กะระยะเวลาแซงยากเหมือนกัน แต่สังเกตว่าถ้าไม่กดคันเร่งหนักๆ ใ้ห้มันลดเกียร์ลงแค่เกียร์เดียว (เช่นจาก 6 ไป 5) จะไม่มีเหวอแบบนี้นะ :-\
2014 Mazda CX-5 2.5 S
2016 Volvo XC60 D4 
2019 Honda Jazz RS+
2020 Volvo V60 T8 Inscription
2022 Mazda CX-30 SP

ออฟไลน์ SitdownstrikE

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 713
Confirm ว่าเกียร์ตัว TDCi ปัจจุบัน ไหลลื่นมากครับ คนละเรื่องกับเฟียสต้าเลย ไม่เข้าใจเหมือนกัน

แล้วตัว TDCi 999,000 นี้ มีระบบความปลอดภัยมากกว่า Focus 2.0 Sport+ เบนซิน 849,000 ด้วยครับ (จากโบรชัวร์)

ความเห็นส่วนตัว ผมว่าเป็นอะไรที่คุ้มที่สุดแล้ว ในราคาไม่เกินล้าน (ถ้ารับดีไซน์ภายในได้)

ออฟไลน์ NOTTO

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 280
ผมไม่เคยสัมผัสทั้งเกียร์ใน Fiesta กับ TDCi นะครับ

แต่เอาที่ได้จากการขับ Focus 2012 เมื่อวันก่อน
เวลาคลานออกตัว ปล่อยเกียร์ D ไหล มันมีอาการสะอึกนิดนิดตลอดเวลา เหมือนกับถอนคลัทช์ไม่หมดมาคาคาอยู่
ดูดูแล้วอาการเหมือนลูกหมาที่ค่อยค่อยย่องไปอย่างช้าช้า แต่ตัวสั่นงันงกเพราะตื่นตกใจกับสิ่งแวดล้อมรอบข้าง
แต่ถ้ากดคันเร่งวิ่งออกไปแล้ว เกียร์ก็เปลี่ยนนุ่มนวลดีครับ

แต่ผมว่าการโปรแกรมเกียร์มันก็ยังมีความไม่ลงตัวอยู่ดี คือถ้าขับแบบเรื่อยเรื่อย กดคันเร่งไป 20-30% ก็โอเค
ไต่ความเร็วเปลี่ยนเกียร์นุ่มนวลตามปกติ และสมูทมากเลยเมื่อเทียบกับเกียร์อัตโนมัติที่ไม่ใช่ Dual Clutch
แต่เมื่อไหร่เราได้ยกคันเร่ง และจะเติมซ้ำ เกียร์จะออกอาการ "เหวอแดก" (ขออภัยไม่สุภาพ) นิดหน่อย
คือ มันเหมือนต้องการทำให้ 1.ได้กำลังที่ต้องการ 2.นุ่มนวลในการเปลี่ยนเกียร์ 3.ราบลื่นไร้อาการกระตุก พร้อมพร้อมกัน
เลยกลายเป็น รอบตวัด รถไม่พุ่ง แต่ไม่กระตุก อาการเหมือนปล่อยเกียร์ว่างจากตำแหน่งเกียร์เก่า เชนจ์ดาวน์
แล้วไปเลี้ยงคลัทช์ที่เกียร์ใหม่แบบเอาลิ้นดุนดุน (เลีย) ไว้ รอบเลยฟรีได้นิดหน่อย แต่กำลังยังไม่ส่งลงพื้นเต็มเต็ม
ตอนแรกก็สนุกดี แกล้งมัน ให้มันเหวอบ่อยบ่อย แกล้งไปแกล้งมา (แม่ม)โกรธ คราวนี้ช่วงจากเกียร์ 1->2 มันถีบ "ปั้ก" เลย
เป็นทุกครั้งหลังจากนั้นมา คือพอเร่งไปได้หน่อยแล้วมีเหตุให้ต้องเบรกหรือยกคันเร่ง มันจะเข้าเกียร์ 2 แล้วกระตุกปั้กเลย

ส่วนเรื่องการใช้งานทั่วไป ผมว่าเกียร์มันหลายใจไปหน่อย นี่ขนาดมีแค่ 6 สปีดยังขยันปรับขึ้นลงซะขนาดนี้
ถ้าไปได้เกียร์ Lexus IS-F มี 8 สปีด ชีวิตมันทั้งวันคงอยู่กับการปรับตำแหน่งเกียร์ขึ้นลง
แล้วลักษณะการเปลี่ยนเกียร์ ตรงนี้ลองดูแล้วคิดถึงเฟียสต้าอยู่นิดนึง ตรงที่ทุกคนบอกว่ามันชอบลากเกียร์
อีนี่ก็ชอบลากเกียร์ กดคันเร่ง 30-40% มันล่อไปเปลี่ยนเกียร์ที่ 3500-4500 ตลอด แต่ถ้าไม่กดไปขนาดนั้นก็คลานเลย
แต่ช่วงยกคันเร่งหมดมันไม่หน่วงแบบตื้อลงมานะ สงสัยว่ามันจะมีการยกคลัทช์ช่วยนิดหน่อย ไม่ให้มันเหมือน Fiesta

สรุปว่า...ผมขอเกียร์ 5 สปีดแบบรถทั่วไปแทนได้มั้ย เป็นธรรมชาติกว่า ขับแล้วรู้ว่าอยู่เกียร์ไหนยังไง
ไม่ใช่เหมือนกับมันมีจิตใจและสมองของตัวเอง ทำตามความต้องการของตัวเองเป็นหลักแบบนี้

อ่านจบแล้วก็ลดทอนความเว่อร์ของผมไปสัก 10-15% นะครับ เขียนไปเขียนมาแล้วชักเกิดอารมณ์หงุุดหงิด
เลยขอจิกกัดมันเยอะหน่อย ถ้าท่านท่านไปขับเองหรือรอจนกว่ามันจะไปเมืองไทยปีหน้า อาจจะไม่ Jerking อย่างนี้ก็ได้



ขอบคุณมากครับ จะได้ทนใช้เจ้าต้าและเก็บตังต่อไปครับ

ออฟไลน์ chobitstae

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 38
กำลังคิดอยากเปลี่ยน จาก altis cng เป็น Focus tdci พอดีเลยครับ  ngv รอนานมากๆๆ

ออฟไลน์ LimitedEdition

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,410
อ่านความเห็นด้านบนแล้วนึกขึ้นได้ครับ

เมืองไทยนี่ก็ประหลาดดีแท้แฮะ
Compressed Natural Gas (CNG) หรือ ก๊าซธรรมชาติอัด ดันเอาไปตั้งชื่อรุ่นรถ
Natural Gas Vehicle (NGV) หรือ รถยนต์ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติอัด ดันเอาไปตั้งชื่อปั๊ม
กลับกันซะอย่างนั้นแหละ

ออฟไลน์ heropopeye

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 116
อ่านความเห็นด้านบนแล้วนึกขึ้นได้ครับ

เมืองไทยนี่ก็ประหลาดดีแท้แฮะ
Compressed Natural Gas (CNG) หรือ ก๊าซธรรมชาติอัด ดันเอาไปตั้งชื่อรุ่นรถ
Natural Gas Vehicle (NGV) หรือ รถยนต์ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติอัด ดันเอาไปตั้งชื่อปั๊ม
กลับกันซะอย่างนั้นแหละ

 ;D เด็ดจริงๆ

ออนไลน์ off_033

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,265
    • อีเมล์
focus 2012  powershift ใช้ครัชแบบแห้งหรือเปียกครับ

ฟังดูอาการมันเหมือนกับ fiesta เลย

ออฟไลน์ adobe

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 454
    • อีเมล์
focus 2012  powershift ใช้ครัชแบบแห้งหรือเปียกครับ

ฟังดูอาการมันเหมือนกับ fiesta เลย

2012 Ford Focus,
featuring a 2.0-liter direct-injection gasoline engine and Powershift dry-clutch six-speed automatic transmission

ออฟไลน์ Yojinboh!!

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 150
ขอบคุณทุกๆความเห็นนะครับ ผมตัดสินใจได้เเล้ว ถ้ากลับไปจะไป ถอยเเน่ครับรุ่นนี้

 ไม่สนเรื่องตกรุ่นเท่าไหร่เพราะ ผมว่าผมชอบตัวนี้ รุ่น 5 ประตูมากกว่ารุ่นใหม่นะ

เเต่ว่ากว่าผมจะกลับไป จะยังมีรถให้ผม ทดลองขับหรือ ซื้อรึเปล่าหว่า 5555