คุณคิดยังไงกับการ Startรถ แล้วออกตัวทันที // การเปลี่ยนเกียร(ออโต้)โดยไม่เบรค?

[YenChar]

อยากทราบความเห็นครับ

รถจะพังมั้ย

เพราะตั้งแต่ไหนแต่ไรมา ตั้งแต่เริ่มมีรถ เริ่มขับรถ
คุณพ่อจะสอนเสมอๆ ให้สตาร์ตรถทิ้งไว้ เพื่อให้มันได้อุ่นเครื่องก่อนเสมอๆ
อย่างน้อยๆ ท่านบอกว่า 10 วิ ก็ยังดี
รวมถึงเรื่องการเปลี่ยนเกียรออโต้ โดยที่จะต้องเหยียบเบรคไว้ก่อนเสมอๆ

ทีนี้ ผมสงสัยเหลือเกิน กับรุ่นพี่ผมที่ทำงาน
เค้าซื้อวีออส รุ่นเดียวกับผมเป๊ะๆ เพียงแต่ของเค้าน่ะป้ายแดง ของผมน่ะ 4 ปีกว่าๆแล้ว
เค้าสตาร์ตรถปุ๊บ เข้าเกียรออกตัวทันที
รวมถึงการถอยจอด ถอยเข้า ถอยออก รถยังไม่ทันจะหยุดดีเลย ก็เข้าเกียรถอยหลังแล้ว
บางที ตั้งลำใหม่ เข้าๆออกๆ D - N - R - N -D - N - R ตลอดเลยโดยที่ไม่เบรค หรือไม่รอให้รถหยุดเลย

อยากทราบความเห็นจากทุกท่านว่า "รถจะพังมั้ยครับ" โดยเฉพาะในส่วนเครื่องยนต์และเกียร์
เห็นเค้าทำแล้วสงสารรถ เพราะเราถูกสอนมาแนวนี้ตลอดว่าให้อุ่นเครื่อง ให้รถจอดสนิทก่อนค่อยเปลี่ยนเกียร

ยังมีอีกหลายๆเรื่อง เช่น เวลาจอดติดไฟแดง 10 วิ เข้า N แล้วก็ D
พอเจอไฟแดงหน้า ก็ N แล้ว D ทำอย่างนี้เรื่อยๆมาตลอด ขนาดรถติดนิดหน่อย เค้ายังเข้าเกียร N เลย
จะเตือนก็ไม่กล้า เพราะเค้าเข้าใจว่าเค้าทำถูก กับรถป้ายแดงของเค้า

การใช้รถแบบนี้ จะพังมั้ยครับ แล้ว ผมควรจะเริ่มบอกเค้าดีมั้ย
หรือปล่อยแบบนี้ต่อไป เพื่อทดสอบความทนทานของรถ... หุๆ

[Satanic za']

อายุการใช้งานมันก็คงสั้นลงกว่าการใช้งานแบบถนอมแหละครับ แต่ถ้าถามว่าสั้นกว่ากี่ % มันก็คงตอบยากเหมือนกัน

ส่วนบอกดีมั๊ยน่ะหรอ ผมว่าไม่ต้องบอกหรอกครับ บางคนเค้าจะคิดว่าเราไปสอน แล้วเดี๋ยวเค้าจะไม่พอใจเอา

แต่ถ้าอยากเตือนทางอ้อมๆ ผมว่า เอาลิ้งค์ที่เกี่ยวกับการใช้งานอย่างถูกต้องที่ จขกท อยากจะเตือน ส่งให้เค้าอ่านดีกว่าครับ ส่วนเค้าจะอ่านหรือไม่ เชื่อหรือไม่ก็อีกเรื่องนึง (ผมจำได้ว่าเรื่องเกียร์ ของเวป HLM ก็มีนะครับ)

[NINENOI]

อาการก็คงเหมือนตื่นสายแล้วกระวีกระวาดแต่งตัวไปทำงานแล้วรู้สึกเหมือนจะเหนื่อยมากๆล่ะมั้งครับ ปกติตื่นนอนใหม่ๆยังต้องบิดขี้เกียจก่อนเลยให้ร่างกายเข้าที่เข้าทางซักหน่อย

[LimitedEdition]

มันก็ไม่ดีต่อเครื่องยนต์และเกียร์ในระยะยาวน่ะครับ
สตาร์ทขึ้นมาใหม่ใหม่ น้ำมันเครื่องยังสูบมาเลี้ยงไม่ทั่วเลย
ชิ้นส่วนต่างต่างก็ยังไม่เข้าที่ เพราะอุณหภูมิต่ำกว่าระดับทำงาน
้ถ้าฝืนให้มันวิ่งออกไปเลย มันก็สึกหรอมากกว่าปกติ
แต่ก็ไม่ใช่ว่ารถมันจะพังในไม่กี่หมื่นกิโลเมตรหรอกครับ
ว่ากันหลักแสนกิโลโน่นแหละ ถึงจะออกอาการ

่ส่วนเรื่องเกียร์ การโยกสลับไปมาขณะรถยังไม่หยุด ไม่ดีต่อเกียร์แน่ครับ
ถ้าจะให้ดีอย่าใจร้อนมาก เอาให้รถมันหยุดซะหน่อยอึดใจเดียวเอง
แต่เรื่องเปลี่ยนเป็นเกียร์ว่างขณะจอดติดไฟแดง หรือจอดเวลาสั้นสั้น
ตามทฤษฎี ผมว่าพี่จิมมี่กับพี่แพนเคยเอามาลงไว้ให้แล้วว่าที่ถูกคืออะไร

แต่ส่วนตัวผมเอง ผมก็ปลดเป็น N ทุกครั้งครับ เมื่อยขา ไม่อยากจะต้องมาแช่เบรก
เอาสมาธิไปทำอย่างอื่นดีกว่า รถผมแต่ละคันก็แล่นเป็นแสนกิโลเมตร เกียร์ก็ไม่เห็นพังนะครับ
แต่ก็อย่างที่บอก ของแบบนี้มันว่ากันที่ระยะยาว และไม่ใช่ปัจจัยเดียว ถ้าทำแบบนี้แต่รักษาเกียร์
เปลี่ยนน้ำมันตามอายุ เช็ครถตามระยะตลอดเวลา ขับแล้วไม่เค้นไม่คิกดาวน์แบบโหดทารุณ
มันก็อาจจะทนกว่าคนที่อุ่นเครื่องตอนเช้า แช่เกียร์ D ตอนรถติด แต่ขับโหดแบบทารุณกรรมก็ได้ครับ

[nuch n14]

อัลติสของพี่ชาย ติดเครื่องแล้วขับเลยตลอด ผมขับต้องอุ่นให้รอบลงปรกติก่อน
พี่บอกเสียเวลาขับมาไม่เคยอุ่นเครื่องเลย ตอนนี้จะ 2 แสนโลแล้ว
ไม่เคยมีปัญหาเรื่องเครื่องยนต์เลย ถ่ายน้ำมันเครื่องก็เลยกำหนด
โตโยต้าเครื่องยนต์ทนจริงๆ

[edward]

อยู่ที่ปัจจัยเรื่องอื่นๆด้วยแหละ ตามที่คุณเนยว่า

ถ้าทำตามหลักตามทฤษฎีที่ถูกต้องได้มันก็ดี แต่ถ้าทำไม่ได้มันก็คงมีผลไม่มากก็น้อยในระยะยาว

[YIM]

ก็คงไม่ดีต่อรถแหละครับ

แต่ของแบบนี้บางทีมันก็เป็นพฤติกรรมด้วยนั่นละ อยู่ดีๆ จะให้เปลี่ยนก็คงยาก

เพื่อนผมเวลาถอยหลัง เล่นเปลี่ยนจาก R เป็น D ตั้งแต่รถยังไม่หยุดด้วยซ้ำ แต่ก็นะ ไม่ใช่รถผมนี่หว่า ก็ทำใจละกันครับ

ของแบบนี้ห้ามกันยาก

[GreenG]

ผมไม่เคยทำแบบนี้เลยครับ  ทั้ง 2 อย่าง กลัวพังเร็ว

 

[panerai]

 พี่ผมก็เป็นครับ เวลาจะถอยหลังหรือเข้าซองเค้าไม่รอจนหยุดเดินหน้าแล้วค่อยใส่เกียร์ R รถคันนั้นยิ่งเกียร์ถอยหลังจับช้านิดๆอยู่ด้วยทำบ่อยๆกลัวมันไปกระชากเกียร์พังหมด ผมบอกจนผมขี้เกียจบอกล่ะ  รอเวลาให้ยกเกียร์ลูกใหม่ 2-3แสนเองล่ะกัน 555+

[Tonge]

เพื่อนผมก็มีพฤติกรรมแบบนี้ครับ ขยับรถในที่แคบ จะเลื่อนเกียร์โดยที่รถยังไม่หยุดสนิด
เขาใช้แคมรี่ วิ่งมา2.3แสนกิโลเมตรแล้ว ก็ยังไม่พังซะทีเดียว แต่เริ่มออกอาการว่าจะเสีย แต่มันก็ถึงวาระเกียร์แล้วด้วยนั่นเอง
ส่วนตัวผมรถ CR-V G1 ทั้งอุ่นเครื่อง จนรอบเครื่องลงมาปกติ จะเข้าเกียร์เมื่อรถหยุดสนิดเท่านั้น ก็วิ่งมาได้ 2.8แสนกิโลเมตรแล้ว ยังปกติ
ดูๆแล้ว คงทำให้อายุเครื่องและเกียร์ ไม่สั้นกว่ากันจนเห็นชัด อาจจะประมาณ 10% ได้ล่ะมั้ง

[parwitch]

แล้วกรณีเปลี่ยนจาก D เป็น 2 หรือ L เพื่อเร่งเครื่องแซงล่ะครับ???

[Surrealism]

เคยคุยกับพี่คนหนึ่งที่ขับรถแบบนี้ เขาบอกว่าเขารู้ว่ามันจะสึกหรอ
แต่เขายอมที่จะซ่อมไวขึ้น สมมุติ 6เดือน ต่ออายุการใช้งานยาวๆหลายปี สมมุติว่า 10ปี
แลกกับความสะดวกในการใช้งาน ทุกวันๆเป็น10ปีครับ
ประมาณว่า เวลาปัจจุบันเขามีค่ามากกว่า
คงเพราะเขาไม่คิดเรื่องขายต่อด้วยมั้งครับ

คงเป็นเพราะความรู้สึกที่จะถนอมของแต่ละคนไม่เท่ากัน เหมือนบางคนใช้มือถือชอบใส่เคส บางคนไม่ชอบ

[Pluem_411]

แม่ผมทำประจำเลย Start เข้าเกียร์ D
ภายใน 1.5 วิ เสร็จ

[youngbear]

  ..........ถ้าเป็นรถยุค 30-40 ปีก่อน  ควร warming up ครับ แต่ ณ. ปี 2011 แล้ว  alloy เครื่องยนต์ตลอดไปจนถึงฟิล์มปกป้องชิ้นส่วนภายในเครื่องและเกียร์ฯ  ได้พัฒนาไปนอกโลกกันแล้ว  การเตรียมตัวก่อนออกรถแบบเดิมไม่จำเป็นอีกต่อไปแล้วครับ  เพียงแต่อย่าหวือหวาจนผิดปกติวิสัยเป็นใช้ได้ครับ
                                                                                 yogibear

[pk71]

มีคนรู้จักคนนึง ทุกครั้งก่อนขับจะรอ 10 นาทีจริงๆ บางทีรำคาญไปเลย แต่เค้าถนอมรถมากๆ  ส่วนตัวผมไม่รอ อยากออกก็ไปเลย แต่เวลาเปลี่ยนเกียร์จะระวังหน่อยครับ ไม่เร่งขนาดนั้น

ว่าแต่ พวกรถใหม่เพิ่งถอยเนี่ย ช่วงแรกยังต้องขับเบาๆ กันอยู่มั้ยครับ หรือก็เร่งได้เต็มที่เหมือนรถปกติเลย  ดูไปดูมา เรื่องนี้ก็คล้ายๆ พวกมือถือสมัยก่อนกับสมัยนี้เลยเนอะ ที่สมัยก่อนเวลาซื้อใหม่ต้องชาร์จ 2-3 ครั้งแรกให้เต็มเกิน 10 ชม และใช้ให้หมดเกลี้ยง แต่สมัยนี้ไม่มีแล้วเพราะเป็นลิเธียมไออน แต่ก็ยังได้ยินความเชื่อเดิมๆ อยู่ดี 

[vuthtichai]

มันอยู่ที่คุณเป็นคนรักรถและเอาใจใส่รถแค่ไหนครับ

ส่วนผม ต้องอุ่นเครื่องตลอด เพราะ รถคนรู้จักขับ แบบสตาร์ทปุ๊บ เปิดแอร์แล้วขับออกไปเลยตลอด ผมเคยไปขับ รถออกมาพอๆกัน รู้สึกผมออกก่อนเค้าเกือบปีด้วย ปรากฏว่า เครื่องสั่นครับ พอถามเค้าทำไมเครื่องสั่น เค้าบอกไม่เห็นรู้สึก

นี่หละครับ ความต่างของบุคคล คุณสนใจรถคุณเองแค่ไหน ถ้าคุณไม่ใส่ใจ มันก็สะดวกและรวดเร็วดี แต่ถ้าคุณใส่ใจ พอรถสั่นๆ คุณจะรำคาญมาก

[Ruksadindan]

คำถามแบบนี้มีมาค่อนข้างหลายครั้ง แต่ระบบค้นหาอาจจะยังไม่เอื้ออำนวย ทั้งมันยังโดนทับถมไปลึกแล้ว
จำมาได้ว่า ที่อยู่บ้านก็เป็นตัวแปรได้ครับ อย่างถ้าใกล้ถนนใหญ่ ออกไปแล้วต้องเร่งเลยก็อุ่นๆมันหน่อยดีกว่า
ส่วนถ้าบ้านอยู่ในซอย ติดเครื่อง เปิดประตู เอารถออก ปิดประตู แล้วค่อยๆขับออกไปปากซอย อย่างนี้ไม่มีปัญหา

ส่วนการเปลี่ยนเกียร์จากเดินหน้าไปถอยหลัง สนับสนุนอย่างยิ่งให้หยุดสนิทก่อนครับ ไม่งั้นมันกระตุก รู้สึกเสียวๆ

[NONT4477]

ตอนเช้าผมจะรอให้รอบเครื่องลงมาสักนิด (รอประมาณ10วิ นั่นแหละครับ) ถ้าสตาร์ทครั้งแรกตอนเช้า รอบอยู่ที่1500 แล้วใส่ D หรือ R เลย มันก็เหมือนกับการกระแทกออกตัวแรงๆนั่นแหละ เกียร์กลับบ้านเก่าก่อนแหงเลย

[Northbridge]

ไอ้เรื่องเหยียบเบรคหรือไม่เหยียบนี่ผมคิดว่าคงไม่เป็นไร เพราะเกียออโต้ยังไงมี torque converter อยู่แล้ว ในทอร์คคอนเวิร์ตเตอร์ มันถูกขับด้วยน้ำมัน ไม่ใช่ผ้าคลัช เหมือนรถยนต์เกียร์ธรรมดาทั่วไป ดังนั้น ผมก็อนุมานเอาในสมองว่า มันคงไม่ได้มีการกระแทกกระทั้นรุนแรงขนาดนั้น ต่างกันเกียร์ธรรมดา ที่ถ้าเราปล่อยแป้นคลัชพรวดพราดแล้วซัดไปแรงๆ เกียร์อาจกระจุยได้

แต่จริงๆแล้วเหยียบเบรคก่อนเปลี่ยนเกียร์ก็ถือเป็นสิ่งที่ควรทำครับ อย่างน้อยก็เพื่อความปลอดภัย รถยุโรปแทบทุกรุ่น มันจะไม่ให้เราเปลี่ยนจาก N ไป D ถ้าเราไมไ่ด้เหยียบเบรค หรือใส่ parking brake อยู่น่ะครับ ส่วนตัวผมขับรถญี่ปุ่นเป็นประจำ แต่ก็เหยียบเบรคทุกครั้งเวลาเปลี่ยนจาก N ไป D

ส่วนเรื่องเปลี่ยน N ไป D หรือ D ไป N บ่อยๆตอนรถติด อันนี้น่าจะมีคนอธิบายผลเสียไว้เยอะแล้ว reply บนๆของผม ก็ตามนั้นครับ

[6162002]

มันก็ไม่ใช่จะพังไวไปกว่าเดิมเท่าไรหรอกครับ เป็นแค่ปัจจัยรองเท่านั้น ถ้าเทียบกับการดูแล เปลี่ยนถ่ายของเหลว ไม่เค้น ไม่ชากในการขับปกติบ่อยๆ

เพราะสิ่งที่ทำๆกัน มันทำที่ความเร็วต่ำ ไม่ได้เสียหายอะไรมากมาย

ถ้าจะถอยต้องเบรคให้รถจอดสนิทอันนี้เรื่องธรรมดาครับ แต่บางทีผมก็ไม่ได้หยุดจนสนิท ก็เข้าเกียร์ถอยเลย ก็มีเสียงดังครืดคราดบ้าง แต่ใช้มาตั้งแต่อนุบาล จนจบป.ตรี ไม่มีปัญหาอะไรครับ

แต่ถ้าถอยหลังแล้วเข้าเกียร์เดินหน้า อันนี้ไม่จำเป็นต้องหยุดให้สนิทครับ เข้าได้เลย มันเหมือนเวลาเราติดอยู่บนสะพานนั่นแหละครับ

[mudd34]

งั้นผมขอถามต่อน่ะครับว่า กรณีของ Prius เนี่ย จะวอร์ม เครื่องยังไง คือพอสตาร์ตเครื่อง  เครื่องมันไม่ติดนี่สิ เครื่องมันจะติดตอนออกตัวไปซักพักซึ่งมันไม่มีเวลาได้
วอร์มเลย

[vellcap]

ปกติผมจะสตาร์ทรถรอประมาณ 2 นาทีผมถึงจะออกรถนะครับ นอกจากที่รีบจริงๆ แต่ขนาดรีบยังรอประมาณ 15 วินาทีเลยครับ
ส่วนเปลี่ยนเกียร์ตอนรถยังไม่หยุด ป๊าผมคนหนึ่งล่ะครับ ผมล่ะยิ่งอยากให้มันพังคาเท้าป๊าเร็วๆซักคันเหลือเกิน แล้วให้ช่างบอกเลยว่าเกิดจากสาเหตุนี้
แต่มันก็ไม่พังซักกะที แต่เกียร์ก็ไม่สมบูรณ์นะครับ กระตุก เปลี่ยนเกียร์ไม่ราบลื่น แต่ถึงตอนนั้นก็ขายแล้วล่ะ สงสารคนที่เอาไปใช้ต่อเหลือเกินครับ

[MC Stradale]

จริงๆแล้วค่ายรถต่างๆก้ออกมาบอกนะครับว่ารถสมัยนี้ไม่จำเป็นต้องจอดรถทิ้งไว้เพื่อให้เครื่องอุ่น โดยบอกว่าเมื่อสตาร์ทเครื่องแล้วก้ใช้งานได้เลย เพราะในระหว่างที่รถวิ่งนั้นมันจะอุ่นเครื่องไปในตัวเอง ขนาดในเมืองหนาวอ่าครับ เค้ายังบอกว่ารถสมัยใหม่ถึงแม้จะอยู่ในเมืองหนาวก้ไม่ต้องรอการอุ่นเครื่องก่อนออกเดินทางหรือเริ่มสตาร์ทเครื่องใหม่ๆ

ส่วนเรื่องเกียร์ครับ การเข้าเกียร์ D -> N หรือ R -> N ถึงแม้รถจะยังหยุดไม่สนิท ไม่เป็นไรครับ แต่ถ้า D -> N -> R โดยที่รถยังหยุดไม่สนิทเป็นการทำให้เกียร์สึกหรอเร็วนะครับ ควรเบรกให้รถหยุดสนิทก่อนแล้วค่อยเข้าเกียร์เดินหน้าเป็นถอยหลัง หรือถอยหลังเป็นเดินหน้า

[HYDE--]

ผมสตาร์ทเครื่องเสร็จ
ก็เดินเข้า้บ้านไปหยิบของ จัดของ
พอกะลังจะออกตัวก็นึกขึ้นได้อีกว่าลืมของ -*- ก็เลยได้วอร์มเครื่อง เฉลี่ยราว 2-5 นาที
ที่สำคัญ ออกรถมาแล้ว อย่าพึ่งซัด ค่อยๆวิ่งไปก่อน

[Lookkaew]

มันเป็นความเสียหายที่ซ่อนอยู่ครับ มองไม่เห็นหรอกครับในระยะสั้นน่ะ
ง่ายๆ เลย เหมือนคนเพิ่งตื่นนอน ลุกพรวดพราดมาบ้วนปากแปรงฟันแล้วตักข้าวเข้าปากทันที....จะรู้สึกยังไงล่ะครับ

เครื่องเย็นๆ สตาร์ทใหม่ น้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ยังไม่เดิน แล้วไปเปลี่ยนเกียร์ขยับรถโดยไม่มีการหล่อลื่นในส่วนของโลหะ การสึกหรอเกิดขึ้นมากมายในระบบครับ
แคทฯ ยังไม่ร้อน อุณหภูมิยังไม่ถึง เผาไหม้ไม่สมบูรณ์ สังเกตง่ายๆ แล้วกันครับ กลิ่นไอเสียตอนสตาร์ทใหม่ๆ มันต่างกับไอเสียตอนเครื่องร้อนแล้วหรือไม่ นั่นคือคำตอบครับ

ส่วนเรื่องปลดเกียร์เป็น N หรือไม่ เอาเป็นว่าใช้ตามความปลอดภัยและเหมาะสมแล้วกันครับ เหยียบเบรกแช่ไว้นานๆ ตอนกลางคืน มันก็ทำให้รถคันหลังรำคาญตาด้วย อย่าลืมข้อนี้

ลอง test เค้าก่อนก็ได้ ดูว่าเค้าพอมีสมองรับคำแนะนำเรามั้ย ถ้าสมองไม่รับ เพราะหัวทึบหรืออะไรก็แล้วแต่ ปล่อยเค้าไปครับ แค่ว่าอย่าไปใช้ของมือสองต่อจากเขาแล้วกันครับ คนพวกนี้ใช้ของไม่เป็น

[nuch n14]

ผมว่าเราควรออกความคิดเห็น ที่ไม่กระทบบุคคลอื่น ดีกว่าไหมครับ
ต่างคนต่างใช้รถไม่เหมือนกัน รถของเขาจะใช้อย่างไรเรื่องของเขา
ไม่เกี่ยวกับเขาจะสมองทึบหรือไม่ คิดถึงคนอ่านบ้าง
พี่ผมขับรถแบบนี้ออกตัวเลยไม่สนใจ เพราะพังก็ซ่อมเอา
และก็เป็นคนรักรถด้วย แต่รักคัน เบนซ์ มากว่า
คันอัลติสใช้มาเกือบ 200000 โลคุ้มค่ามากแล้วเลยไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่
แต่ก็ใช้ยางดีๆ น้ำมันเครื่องดีๆ
 ผมอยากให้ตอบกระทู้กันอย่างมีสติ อย่าเอามาตรฐานตัวเองเป็นที่ตั้ง
คนเก่ง คนมีความรู้ มากกว่าเรามีอีกมาก มาย นัก
อยู่คนเดียวให้ระวังความคิด อยู่กับมิตรให้ระวังวาจา

[Lookkaew]

^
ต้องตำหนิและแนะนำผมแน่ๆ เลย 
ขอบคุณที่แนะนำครับ reply ผมอาจจะแรงไปบ้าง จนอาจจะไปโดนญาติใครเข้า ต้องขออภัยด้วยครับ แต่คงไม่แก้ไขข้อความใดๆ เพราะวัตถุประสงค์ เพียงต้องการให้เจ้าของกระทู้เข้าใจ และทำใจ
จะได้ไม่หนักอกหนักใจในสิ่งที่เขาทำ แล้วเราต้องเห็นอยู่ตลอด เหมือนที่ผมเคยเป็น ผมเองก็ไม่ได้ใช้รถถนอมอะไร เท้าก็หนัก เกียร์ก็ชิฟท์เองบ่อยๆ เพราะมันไม่ได้อย่างใจ
สิ่งสำคัญคือขอให้ "รู้" แล้วกันครับ จะทำไม่ทำเป็นอีกเรื่องนึง

ยังไงก็ อยากให้เพื่อนๆ ในห้องนี้ มองถึงวัตถุประสงค์ และสาระสำคัญในแต่ละความคิดเห็นดีกว่าครับ ว่าเราจะเก็บเนื้อหาสาระสำคัญอะไรได้บ้าง ส่วนสำนวนของแต่ละคนนั้น แรงบ้างเบาบ้าง ถ้าไม่ชอบใจก็อ่านผ่านตาไปแล้วกันครับเพื่อนๆ

ปล.รู้สึกดีนะครับ ที่เจ้าของกระทู้มองว่าสิ่งเหล่านั้นมีนัยยะ ทราบว่าอะไรควรไม่ควร ส่วนคำตอบสั้นๆ ที่ตามมาข้างต้นนั้น ทุก reply คงตอบเหมือนกัน คือไม่พังหรอกครับ แต่มันคงเป็นสาเหตุให้"พังไว" ขึ้นเท่านั้น