ผู้เขียน หัวข้อ: สอบถามความประหยัด เบนซิล 1500 ซีซี กับ ดีเซล 2500 ซีซี ครับ  (อ่าน 16922 ครั้ง)

ออฟไลน์ kritsana7

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 39
ปัญหาคือ จองรถเก๋งเครื่องยนต์ 1500 ซีซี ออโต้ ไว้ไม่ได้ซะที กุมภาพันธ์นี้ก็จะครบปีแล้ว ครับ

เลยอยากจะเปลี่ยนมาเป็น ปิกอัพ ดีแมคซ์ 2500 ซีซี ออโต้ เลยอยากทราบว่า

อัตราการประหยัดน้ำมัน ครับว่าเป็นอย่างไรแบบไหนประหยัดกว่ากันทั้ง 2 รุ่นเกียร์ ออโต้ครับ

(ซิตี้ VS ดีแมคซ์) ครับผม ^^

ออฟไลน์ Jew

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 91
เคสเดียวกับผมเลยครับ จอง City ไว้เเต่จะไปคบกับ Dmax กำลังหาขอมูลเหมือนกัน รอท่านผู้รู้มาตอบครับ

.......ผมขอถามต่อด้วยนะครับ ว่า Dmax ตัวใหม่ เป็นเครื่องตัวเก่าเอามาติดโบว์ป่าวครับ

เพื่อนๆที่จองเเละรับรถเเล้วช่วยมารีวิวเป็นเเนวทาง จะขอบคุณมากๆๆๆเลยครับ

ออฟไลน์ pongisra

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,459
ขอตอบเท่าที่รุ้ละกันนะครับ
 
Mazda 2 1.5 A/T เติม E20 ในเมืองรถติดจะอยู่ประมาณ 9-10 โลลิตร +- ครับ นอกเมือนประมาณ 11-13 โลลิตรแล้วแต่ความเร็ว (แต่ทราบมาว่า city ประหยัดกว่านี้)
Fortuner 3.0 A/T ในเมืองรถติดอยู่ประมาณ 7 โลลิตร +- ครับ นอกเมืองประมาณ 10-11 โลลิตรแล้วแต่ความเร็ว (D-Max 2.5 ก็น่าจะประหยัดกว่านี้เช้นกัน)

สรุปแล้วสองตัวนี้น่าจะพอๆกันนะครับ ราคา E20/Diesel ตอนนี้ก็ไม่หนีกันมาก แต่ในอนาคตไม่รู้จะเป็นยังไง ส่วนตัวผมคิดว่าเลือกตามการใช้งานดีกว่าครับ เอาให้เหมือะกับชีวิตประจำวันของเราเอง

ออฟไลน์ IncarRus

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,519
    • อีเมล์
เคยใช้ Mazda BT-50 MT กับ City Auto

ผมว่า,,, ถ้าเป็น Auto ทั้งคู่ เก๋งเบนซิล น่าจะประหยัดกว่านะครับ
รู้สึกว่า กระบะเกียร์ออโต้ เกียร์มันไม่ค่อยฉลาดเท่าไหร่
แต่ถ้ากระบะเป็นเกียร์ธรรมดา ก็น่าจะอีกเรื่องนึง

ปล. ไม่เคยวัดจริงจังนะครับ 555+ :D

ออฟไลน์ joeyote

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 966
 City ที่ผมใช้อยู่ ขับในเมืองตลอด สาทร ราชพฤกษ์ วันละ  50 กม
กินอยู่ 12-13 กม/ล  นอกเมือง วิ่ง 110 15-17 กม/ล  วิ่งแบบโหด แพดเดิ้ลชิฟเล่น   10  กม/ล
ผมว่าอู่ในระดับที่ โอเคนะ ดีกว่า มินิวันของผมอีกคันอยู่นิดหน่อย สำหรับใช้งานในเมือง นอกเมือง มินิวันดีกว่า นิดหน่อย(แต่ขับดีกว่ามากกก)

ตอนนี้ที่บ้านผม จอง  New D-Max 4Dr HR AT   2.5 vgs ผมว่า ถ้าวิ่งในเมือง ยังไง รถเก๋ง 1.5  ยังไงๆ ก็ประหยัดกว่าแน่ๆครับ เพราะ รถเบา
ออกตัวง่าย คล่องตัวกว่าเยอะ

แต่ถ้าเดินทางไกลๆเนี่ย ผมว่าไม่ต่างกันมากนะ เพราะเวลาวิ่งทางไกล มันต้องมีการเรียกกำลัง เพื่อแซงบ้าง ขึ้นเขาบ้าง ผมว่ารถกระบะ ดีเซล
น่าจะสบายกว่าด้วยซ้ำไปนะ


ต้องถามตัวเองครับ ว่า อยู่ในเมืองเป็นหลัก รึนอกเมืองเป็นหลัก
PAST: 2009 HONDA CITY SV
          2007 MINI ONE
          2007 PEUGEOT 207
          2013 HONDA ACCORD 2.0EL G9
          2016 MAZDA 2 Skyactiv XD High Plus L
NOW:  2012 ISUZU D-MAX Hilander 4DR Z/P
          2017 Subaru XV 2.0i-P

ออฟไลน์ tpc

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 52
อ้างถึง
แบบไหนประหยัดกว่ากัน
เสียเงินค่าน้ำมันพอๆกันครับ

ออฟไลน์ YenChar

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,179
เบนซิน 1.5 ประหยัดกว่า ดีเซล 2.5

โดยเฉพาะขับในเมือง 2.5 กินกว่าเบนซิน 1.5 ยิ่งชัดเจนครับ
ยิ่ง ถ้าเกียรออโต้ด้วยกัน กระบะกินน้ำมันกว่าชัดเจนครับ

ขับนอกเมือง รอบนิ่งๆ วิ่งยาวๆ อัตราบริโภคน้ำมันพอๆกันครับ

แต่ถ้าหารเป็นบาท/กิโลแล้ว กระบะกับเก๋ง พอๆกัน เพราะดีเซลถูกกว่า

ออฟไลน์ kritsana7

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 39
ขอบคุณทุกความคิดเห็นครับ

พอดีไปลองขับ อีซูซุ 4 ประตู ออโต้มา ชอบตรงแอร์ออโต้

แถมเพิ่มเงิน 200000 บาท ได้ทั้ง ESC และ TCS ความปลอดภัยเหนือกว่า ใหญ่กว่า

เลยลังเลครับ การใช้งานก็ขับในเมืองเป็นหลัก เดินทางเป็นบางครั้ง แต่นานๆๆๆทีเลยครับ

รถยกสูงกลัวลำบากคนชราที่บ้าน (คิดไม่ตก) T_T

ออฟไลน์ boyddii

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 575
  • Bunny
ตอบตามที่ใช้นะครับ -- ใช้วีออส 2004 1.5 AT กับ วีโก้ สมาร์ทแคป 3.0 MT 4x4

ขับทางไกล เชียงใหม่-กรุงเทพ-พัทยา
- วีออสด้วยความเร็วประมาณ 110-130 จะได้ประมาณ 15-17 km/l ไม่เกินนี้ครับ
- วีโก้ด้วยความเร็วเท่าๆกัน ได้ประมาณ 12-14 km/l
คิดเป็นค่าน้ำมันออกมาแล้วจ่ายพอๆกัน คือไปกลับ เชียงใหม่-พัทยา เติมประมาณ 4,000 บาท

ขับในเมืองวัดอัตราสิ้นเปลืองคร่าวๆ วีออสจะอยู่ที่ราวๆ 11-12 km/l และวีโก้ได้ประมาณ 9-10 km/l
แต่ละเดือนจะใช้รถสลับกันครับ การขับขี่เหมือนๆกันคือไปรอบๆเมืองเชียงใหม่ ส่งของ-ซื้อของ เติมน้ำมันเดือนละ 3-4 พันบาทเท่าๆกันครับ

สรุปคือ เก๋ง 1.5 ก็พอๆกับกระบะ 3.0 ,,,รถเบนซินเครื่องเล็กอาจจะดูประหยัดน้ำมันกว่าดีเซลเครื่องใหญ่ แต่ราคาน้ำมันก็ต่างกัน พอคำนวณออกมาแล้วก็จ่ายพอๆกันครับ

ปล.ไม่ตรงประเด็นกับเจ้าของกระทู้เพราะเป็นกระบะ 2.5 AT แต่ของผมเป็น 3.0 MT นะครับ ^__^

Chariot

  • บุคคลทั่วไป
ถ้ามีคนชราที่บ้านด้วย ซื้อรถเก๋งเถอะครับ ช่วงล่างนุ่มกว่า ผมว่าควรให้ความสำคัญเรื่องความนุ่มนวลมากกว่าความประหยัดครับ

ไหนๆก็จะเพิ่มเงิน 2 แสนแล้ว ไม่ลองดูซีวิค FD ล่ะครับ ทั้งกว้าง และปลอดภัย เท่ากับดีแมกซ์ แถมช่วงล่างยังนุ่มกว่า

ออฟไลน์ kritsana7

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 39
ขอบคุณครับ คุณ boyddii ข้อมูลเพียบจิงๆ

ครับคุณ Chariot มี 2 ประการเดียวครับ FD ไม่ได้ภาษีครับ เลยตัดไปอยากสบายใจทั้งๆที่ชอบมาก

ขอบคุณทุกความคิดเห็นครับ สงสัยต้องรอจนกว่าครบ 1 ปี 2 เดือน ถึงจะได้ใช้รถ

คิดแล้วเศร้า

ออฟไลน์ mongolias

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,369
ผมให้ข้อมูลได้แต่ City นะครับ เติมเบนซิน 91 เป็นหลัก
เท่าที่ใช้มา 18xx ก.ม. วิ่งแถวๆ ศรีราชา-แหลมฉบัง กินแถวๆ 10-12 ก.ม./ลิตร
วิ่งศรีราชา - นิคมอมตะชลบุรี กินแถวๆ 13-14 ก.ม.ลิตร
ไม่แน่ใจว่าหลังจากพ้น 10000 ก.ม.ไปแล้วจะดีขึ้นกว่านี้หรือเปล่า
ตอนนี้กำลังลองใช้โซฮอล 91 อยู่ รู้สึกว่ารถอืดแฮะ 5555

เทียบกับเจ้า Jazz idsi ผมแล้ว รู้สึกว่า City มันจะกินมากกว่าแฮะ

ออฟไลน์ Nyquist

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,031
ถ้ามีคนชราที่บ้านด้วย ซื้อรถเก๋งเถอะครับ ช่วงล่างนุ่มกว่า ผมว่าควรให้ความสำคัญเรื่องความนุ่มนวลมากกว่าความประหยัดครับ

ไหนๆก็จะเพิ่มเงิน 2 แสนแล้ว ไม่ลองดูซีวิค FD ล่ะครับ ทั้งกว้าง และปลอดภัย เท่ากับดีแมกซ์ แถมช่วงล่างยังนุ่มกว่า

ผมขอแย้งนิดนึงนะครับ

เก๋ง 1.5 แข็งกว่ากระบะนะครับ ลองนั่งดูแล้วจะรู้ครับ
ขนาด FD กับ D-Max ที่บ้านผม D-Max ยังนุ่มกว่าเลยครับ
ปล.รถใหม่ทั้งคู่

ออฟไลน์ porasit33

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,189
- ทำไมกระบะถึงกินกว่า น่าจะเพราะเทอร์โบ เพราะถ้าใช้รอบในช่วงที่แรงบิดสูงสุดมา
เสียงเทอร์โบดังเข้ามา น้ำมันก็จะกินเบาๆ 55+ (ที่ดีแมคมันกินน้อยกว่าวีโก้ เพราะรอบดีแมคมาช้ากว่าเลยกินน้อยกว่า นิดเดียว55+)
-  ความโปร่งโล่ง กระบะ 4ประตูยกสูง เวลาขับจะเห็นทางสะดวก มองโน่นนี่สบายตา ซ้ายก็ชัดขวาก็ชัด แต่เวลาเข้าจอดจะมองยาก
เพราะหน้าก็บังหลังก็แทบไม่เห็น วงเลี้ยงก็กว้าง ถ้าชำนาญก็โอเค ข้อนี้ให้รถเก๋งไป
- ความนุ่ม ความสบาย กระบะ4 ประตูยกสูงได้เปรียบตรงที่เสียงยางที่ความเร็ว ไม่เกิน 120 จะแทบไม่ได้ยิน จะมีก็เสียงลมยิ่งถนนดีๆจะเงียบมาก ตกหลุมก็ไม่ต้องห่วง
แต่ถ้าเป็นรถเก๋ง ตกหลุมจะดัง ปั้ง น่ากลัว เหอะๆ ขับในเมืองก็โอเคร
(นั่งซิตี้แล้วมานั่งดีแมคมันคนละอารมณ์ครับ 55+ เลือกเอา)

ออฟไลน์ birm@productive

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 395
ว่ากันด้วยเรื่องประหยัดอย่างเดียว ผมว่าใกล้เคียงกันครับ

สมมติว่า city หนึ่งคัน กินน้ำมันซัก 10 - 15 กิโลเมตร ต่อลิตร
ตีกันที่ราคาน้ำมันวันนี้
เบนซิน ลิตรละ 31 บาท (95E20 - 91E10 ใกล้ๆกัน)
ว่ากันที่ต่อค่าใช้จ่ายต่อกิโลเมตรก็ 2 - 3 บาท ต่อกิโลเมตร

กระบะอีกคันนึง กินซัก (โดยการใช้งานประจำวัน ไม่ได้ขับแข่งประหยัดน้ำมันตัวจริง)
ผมให้ ในเมือง นอกเมือง 10 - 13 กิโลเมตร
ดีเซลลิตรละ 28 บาท ค่าใช้จ่ายน้ำมัน 2.15 - 2.8 บาทต่อกิโลเมตร

มันก็ใกล้ๆกันนั่นแลครับ

ดูการใช้งานเป็นหลักครับ ค่าบำรุงรักษาคงใกล้เคียงกันเช่นกัน
แต่รถเบนซินมันได้เปรียบตรงที่สามารถนำไปใช้พลังงาน LPG,NGV นี่แหละครับ
ประวัติ
รถ 11 คัน
ยาง 14 รุ่น

ออฟไลน์ ehnong

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 4
    • อีเมล์
ใช้เองอยู่ทั้ง 2 อย่างเลยครับ
JAZZ ก่อน minor change  ขับในเมืองได้ 10-12 กม./ลิตร ทางไกล ขับ 100-120 กม./ชม. ได้ 15-17 กม./ลิตร (ใช้มาแล้ว 140,000 กม.)
TRITON 2,500 cc. 140 ps. 4WD cab MT.   ขับในเมืองได้ 9-10 กม./ลิตร ทางไกล ขับ 100-120 กม./ชม. ได้ 13-14 กม./ลิตร (ใช้มาแล้ว 80,000 กม.)

ออฟไลน์ MC Stradale

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,520
ผมว่ามันพอๆกันนะครับ จำนวนกิโลต่อลิตรที่วิ่งได้พอๆกันครับ แต่อย่าลืมนะครับว่าค่าน้ำมันดีเซลถูกกว่าเบลซิล ถึงเครื่อง 1.5 อาจจะวิ่งได้เยอะกว่า แต่ก้ไม่ได้แปลว่าประหยัดกว่านะครับ ลองดูการใช้งานด้วยครับ เดี๋ยวซื้อมาแล้วผิดหวัง

ออฟไลน์ Tern vtec

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 281
ขับในเมืองเบนซิล1.5เกียออโต้ประหยัดกว่าดีเซล2.5เกียออโต้แน่นอนคับต่างกันซัก3-5กิโลลิตรรถกระบะเกียออโต้ซดน้ำมันใช้เล่นน่ะคับกระบะเกียธรรมดาประหยัดกว่าออโต้เยอะเลย ผมว่าถ้าเน้นขับในเมือง
อย่าเอาเลยคับกระบะขับมันใหญเทอะทะไปหมดมันต่างจากรถเก๋งอย่างชัดเจนเลยแต่ขับทางไกลก็โอเครเลยครับ อีกอย่างกระบะเกียออโต้นี้เวลาขายไม่มีราคาเลยคับ ที่จิงcivicจบเลยน่ะคับคันก็ใหญ่เท่ากัน
แต่นั่งสบายกว่า นิ่มกว่า กระบะจริงๆแล้วไม่นิ่มน่ะคับแต่มันย้วยๆๆยวบๆๆยาบๆๆเหมือนจะนิ่มแต่พอเจอทางคอนกรีตรถนี่เต้นจนตับแร่บเลย และ new dmax ยืนยันนอนยันเลย ว่าเครื่องบล็อคเดิมล้านเปอเซน
ทั้ง2500 และ3000 เครื่อง2500เปลี่ยนแค่เทอโบเปนเทอโบvgsเท่านั้นมันก็เหมือนvn turboในโตโยนั่นแหละ แล้วก็เปลี่ยนหัวฉีดจาก 6รูเปน8รู แค่นั้นเองเครื่องบล็อคเดิมทุกประการ

ออฟไลน์ 6162002

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,089

ผมขอแย้งนิดนึงนะครับ

เก๋ง 1.5 แข็งกว่ากระบะนะครับ ลองนั่งดูแล้วจะรู้ครับ
ขนาด FD กับ D-Max ที่บ้านผม D-Max ยังนุ่มกว่าเลยครับ
ปล.รถใหม่ทั้งคู่
ลมยางยอะไปรึเปล่าครับ ผมเคยนั่งวีออสกับดีแมกซ์ ผมว่าดีแมกซ์ มันแค่เหมือนจะนุ่มนะครับ แต่ท้ายมันก็ยังโดดอยู่ดี คือหน้านุ่ม หลังแข็ง แต่ไม่ได้นุ่มแบบเดียวกับที่วีออสเป็น  เรียกไงดีหว่า บอกไม่ถูกอ่ะครับ แหะๆ *-*

ออฟไลน์ kritsana7

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 39
ขอบคุณครับที่ช่วยแสดงความคิดเห็น

ผมเน้นใช้ในเมืองเป็นหลักเลยครับ

สงสัยต้องรถ ครอบ 1 ปี 2 เดือนถึงจะได้ขับครับ

ออฟไลน์ HYDE--

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,643
    • อีเมล์
ถ้าขับในเมือง ยังไงๆ กระบะ 2.5 ก็กินกว่าชัวร์ครับ รถหนักกว่า cc เยอะกว่า
ถ้าขับนอกเมือง ก็คงพอๆกัน แต่น้ำมันดีเซลมันถูกหน่อย