ผู้เขียน หัวข้อ: น้ำเข้ารถพรมเปียกถ้าแค่ตากแดดให้แห้งมันเป็นตัวเลือกที่ดีมั้ยครับ  (อ่าน 13866 ครั้ง)

ออฟไลน์ Fly to dream

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,640
วันนี้เอาเฟียสต้ากลับจากทางใต้มาเจอน้ำท่วมที่ อำเภอสวี ทุ่งตะโก หลังสวน น้ำสูงและเชี่ยวมากตอนนั้นรถผมกับรถที่ขับตามกันมาเป็นคณะสุดท้ายทีลุยน้ำก่อนที่ตำรวจจะปิดถนน ผลคือลุยได้ครับน้ำสูงเอาอยู่ แต่มาจอดเช็ครถที่ปั๊มดันเจอน้ำเข้าพรมซีกซ้ายของรถพรมเปียกพอประมาณแต่ด้านขวาแห้งสนิท (เพราะน้ำมันไหลเชี่ยวจากทางซ้ายของรถสูงเกือบครึ่งประตู)

ตอนนี้มาถึง กทม แล้วเอาผ้าชามัวร์มาซับน้ำออกจนมันเหลือแค่เปียกไม่มีน้ำแล้วถ้าจอดรถตากแดดจะช่วยได้มากมั้ยครับ (ไม่ค่อยมีเวลาไปร้านถอดซักพรม)

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 03, 2012, 16:43:33 โดย Fly to dream »
ขยะของโลกออนไลน์​ในปัจจุบั​นคือเชื่อคนโง่ที่มีคำพูดสวยหรู​ หาข้อมูล​ไม่จริงมาโกหกคำโตๆ​ อีกอย่างคือพูดความจริงไม่หมด กับพวก​ Avatar ที่ทำเป็น​เก่ง​แต่เก่งน้อยในโลกความจริง​ซึ่งจะหาได้ง่าย

ออฟไลน์ birm@productive

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 395
มันก็ได้นะครับ กับจอดรถไว้กลางแจ้ง เปิดประตูทิ้งไว้ แล้วทิ้งไว้ให้แห้ง แต่ต้องทิ้งนานพอดูนะครับ
ประวัติ
รถ 11 คัน
ยาง 14 รุ่น

ออฟไลน์ TTL

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,277
ผมเคยลุยมาครับA33 ที่ชัยนาทเป็นขบวนรถล็อตท้ายๆเลย ลุยพอๆกับจขกท.เลยครับ
นำ้้้ ้ซึ่มเข้า พรมแค่ด้านซ้ายครับ ก็เอามาตากแดดแล้วก็นำ หนังสือพิมพ์มาซับ(วางแปะทิ้งไว้เลย แล้วก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆครับถ้าเห็นว่าแฉะเกินไป)
ผมตากทั้งหมด 3-4 แดด(เล่นซะแบ็ตรถหมดเลยเพราะเปิดประตูทิ้งไว้)
แต่ผมปรากฏแห้งสนิทครับไม่มีมีนำ้เหลือเลยครับ  แต่ถ้าอาหารหนักกว่าของผมยังไงก็คงต้องให้ที่ร้านถอดซักพรม ดูจะเวริค์และจบกว่าครับ
เพราะถ้านำ้้ ้ มันหลงเหลือ หรือไม่หมดจริงๆมันจะส่งกินเหม็นอับชื้นแล้วก็ไม่น่าจะเป็นผลดีกับตัวรถนะครับ

ออฟไลน์ MoO Cnoe

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,487
    • อีเมล์
เปิดประตูทิ้งไว้ทุกบาน จอดตากแดด
ดึงพรมขึ้นมา มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ซื้อกระบอกดูดความชื้นมาวาง
ซัก 2-3 วันก็หายเหม็นอับ และแห้งสนิท
หลังจากนั้นเข้าคาร์แคร์ ล้างสี ดูดฝุ่น
เท่านี้ก็เรียบร้อยแล้วครับ

ปล.หลังจากล้างสี ดูดฝุ่นเรียบร้อยแล้ว
ทิ้งกระบอกดูดความชื้นไว้ จนกว่าจะหมดอายุใช้งานครับ
หน้าตาเป็นแบบนี้ครับ หาซื้อได้ตาม Lotus Bigc ราคาประมาณ 48 บาทครับ
http://shoppingonline.bigc.co.th/media/catalog/product/cache/10/image/500x/9df78eab33525d08d6e5fb8d27136e95/4/7/4710731050163.jpg

ของผม Altis ไปลุยน้ำมา ประมาณของคุณ Fly to dream
รถวิ่งเรื่อยๆไม่มีการหยุดจอด ก็มีเครื่องสั่นบ้าง
แต่น้ำเข้าเฉพาะส่วนรองเท้าเบาะหลัง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 03, 2012, 17:05:43 โดย MoO Cnoe »

ออฟไลน์ Fly to dream

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,640
เดี๋ยวคงต้องไปรื้อพรมแล้ว แต่ไม่กล้างัดกลัวไม่เหมือนเดิม  :P :P :P
ขยะของโลกออนไลน์​ในปัจจุบั​นคือเชื่อคนโง่ที่มีคำพูดสวยหรู​ หาข้อมูล​ไม่จริงมาโกหกคำโตๆ​ อีกอย่างคือพูดความจริงไม่หมด กับพวก​ Avatar ที่ทำเป็น​เก่ง​แต่เก่งน้อยในโลกความจริง​ซึ่งจะหาได้ง่าย

ออฟไลน์ GUDJA-MAN

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,649
ตากแดด มันช่วยแค่แห้ง แต่กลิ่นมันอยู่แน่ๆ
แนะนำให้เอาพรมไปซักดีกว่าครับ

ออฟไลน์ karn5811

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 595
    • อีเมล์
มึภาพตอนลุยน้ำอีกมั้ยครับ หรือคลิปก็ได้ผมอยากเห็นๆๆๆๆๆๆ ตอนลุยน้ำๆๆๆๆ

ออฟไลน์ MC Stradale

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,520
รถผมก้โดนครับ ที่บ้านผมเอาตากแดดทิ้งเอาไว้(ไว้ที่ร่มก้ได้นะครับ) เปิดกระจกหน่อย แห้งเหมือนกัน และเท่าที่ลองพิสูจน์กลิ่มมาก้ไม่มีกลิ่นอับนะครับ

ออฟไลน์ mckyparty

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 748
    • อีเมล์
เป็นแค่คำแนะนำนะครับ จากประสบการณ์รถหลายๆคันที่เคยรื้อพรมมาเพราะท่อน้ำทิ้งแอร์หลุดครับ ไม่แน่ใจว่าจะเหมือนรถ จขกท รึเปล่า

คือพรมรถมักจะมีแผ่นนึงที่ด้านบนเป็นพรม ด้านล่างเป็นพลาสติก คือน้ำ ไม่สามารถซึมลงไปได้ ถ้าเกิดการหกจากด้านบน
แต่ถ้ามีการซึมมาจากด้านใต้ มันก้อจะมีบางส่วนที่แฉะออกมาด้านบนได้ ตามขอบ หรืออะไรก้อตามแต่ มันจะมีส่วนที่เปียกด้านใต้ครับ ที่น่ากลัว อาการแฉะใน คือถ้าไม่เลิกพรมออก ถลกจนแน่ใจ ว่าแห้งสนิท อย่าพึ่งนิ่งนอนใจครับ

ค่อยๆ เลาะกาบประตูต่างๆ พิสูจน์จนชั้นใต้สุด น่าจะไม่ยากเกินไปครับ 

ออฟไลน์ Tonaka

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,706
ผมก็เจอปัญหาเหมือนกันครับ ตอนน้ำท่วมที่รังสิต

ผมแก้ปัญหาโดยเอากระดาษหนังสือพิมพ์ขยำ แล้วคลี่ออก ปูรองที่พื้นรถสัก 3-4 ชั้นครับ  แล้วก็พยายามจอดรถตากแดดครับ ที่สำคัญเวลาจอดรถทุกครั้งไม่ว่าจะกลางวันหรือกลางคืนก็ตาม ต้องแง้มกระจกให้ไอน้ำลอยออกไปด้วยครับ  ไม่งั้นอับแน่ๆ

ลองทำดูครับ สักสองวันจะเริ่มเห็นผลแล้วครับ

阿蘇山

ออฟไลน์ HYDE--

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,643
    • อีเมล์
ช่วยให้แห้งครับ ก็คือ ตากแดดแก้ขัดไปก่อน
แต่ยังไง ผมคิดว่า ถึงน้ำจะแห้ง แต่กลิ่นไม่หายแน่ๆครับ
โดยเฉพาะเชื้อโรค ที่มากับน้ำ อีกอย่างถ้าพรมเปียกๆ พอมันแห้ง มันก็จะต้องเกิดเชื้อราแน่ๆ
น่ากลัวมากนะครับ ถ้าปล่อยไว้ ใช้ไปนานๆ จะทำให้ส่งผลเสียต่อร่างกายอย่างมาก

เอาไว้ถ้ามีเวลาก็ควรนำรถไปซักพรมดีกว่าครับ ถือโอกาสทำความสะอาดรถขนานใหญ่ไปเลยก็ได้

ออฟไลน์ 7777777

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 599
    • อีเมล์
ประกันชั้นหนึ่ง เอาเข้าศูนย์เลยครับ

เค้าสามารถถอดพรมไปซักล้างให้ได้ครับ โดยเราไม่ต้องเสียซักบาท

ตากแห้งไม่ช่วยครับ เพราะข้างในมันมีน้ำขังครับ เจอมากับตัวแล้ว PJS ท่วมหน้ารัชดา

ออฟไลน์ karn5811

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 595
    • อีเมล์
ผมก็เจอปัญหาเหมือนกันครับ ตอนน้ำท่วมที่รังสิต

ผมแก้ปัญหาโดยเอากระดาษหนังสือพิมพ์ขยำ แล้วคลี่ออก ปูรองที่พื้นรถสัก 3-4 ชั้นครับ  แล้วก็พยายามจอดรถตากแดดครับ ที่สำคัญเวลาจอดรถทุกครั้งไม่ว่าจะกลางวันหรือกลางคืนก็ตาม ต้องแง้มกระจกให้ไอน้ำลอยออกไปด้วยครับ  ไม่งั้นอับแน่ๆ

ลองทำดูครับ สักสองวันจะเริ่มเห็นผลแล้วครับ






โห รถรุ่นไรอะครับ ดีจังลุยสูงมากเลยยย

ออฟไลน์ mckyparty

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 748
    • อีเมล์
ลำดับชั้นของพรม จากบนไปล่าง
-พรมรองเท้า ชั้นบนสุด ตามแต่ละคนจะสรรหามา
-พรมชั้นกลาง อาจจะมีแผ่นพลาสติกด้านใต้หรือไม่แล้วแต่
-พรมผ้าห่มกันเสียง
-แผ่นซับเสียง

ถ้ารถคุณเป็นรถไฮโซ อาจจะมีขนาดนี้ หรือมากกว่านี้อีก ถ้าไม่ควักออกมา จนถึงชั้นเหล็ก จะกำจัดความชื้นได้อย่างไร