ผู้เขียน หัวข้อ: เคลมสีและรอยชน ประกันชั้น1 เมืองไทยประกันภัยให้ผมจ่ายเอง 26000 บาท  (อ่าน 49121 ครั้ง)

ออฟไลน์ Panuss

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 13
สวัสดีครับเพื่อนๆผู้รักรถทั้งหลาย ผมมีเรื่องจะเล่าให้ฟัง หากเห็นว่าผิดกติกาลบได้เลยนะครับ เพราะรับกับประกันเจ้านี้ไม่ได้จริงๆ
เรื่องคือมีอยู่ว่า ผมได้ไปเคลมรอยชนที่ศุนย์รถยนต์แห่งหนึ่งพร้อมทั้งได้ขอเคลมรอยสีเนื่องจากโดนสะเก็ดหินไปเลยโดยที่ศูนย์ตีราคามาให้พร้อมทั้งทำเรื่องไปถึงประกัน (เมืองไทยประกันภัย)
หลังจากนั้นหนึ่งอาทิตย์ ศูนย์ได้โทรมาบอกว่าผมซ่อมได้เฉพาะรอยชน ส่วนรอยสีไม่สามารถซ่อมได้เพราะมีรอยมาก่อนทำประกันแล้ว ถ้าอยากซ่อมต้องจ่ายเอง 26000 ซึ่งผมยอมรับว่าบางรอยมันมีอยู่แล้ว แต่บางรอยก็เป็นรอยใหม่ (มีรอยเก่าน่าจะประมาณสามรอย แต่รอยใหม่ประมาณ 6-7 รอย) ผมจำได้ดีเพราะผมล้างรถเอง คราวนี้ผมเลยโทรไปถามประกันเพื่อถามรายละเอียด ปรากฎว่าพนักงานฝ่ายสินไหมบอกว่ามันเป็นจุดเดิมที่มีซึ่งโบรกเกอร์มาถ่ายรูปไว้  แต่พอผมขอรายละเอียดเพื่อเปรียบเทียบเค้ากลับไม่ยอมให้ผม อ้างว่าไม่มีอำนาจ ผมเลยโทรไปใหม่ที่สำนักงานของเมืองไทยประกันภัยเพื่อจะร้องเรียนเรื่องนี้โดยไม่ติดต่อกับพนักงานสินไหมคนนี้ ปรากฏว่าเกิดการโอนสายไปมาสุดท้ายย้อนกลับมาที่พนักงานคนเดิม และที่ผมยอมไม่ได้คือผมได้ยินเสียงเค้าหัวเราะตอนที่เพื่อนเค้าบอกเคสของผม หัวเราะเหมือนกับว่าผมน่ารำคาญ แล้วเค้าก็มารับพร้อมกับยืนยันคำเดิมว่าเคลมไม่ได้ ผมก็ถามไปอีกครั้งว่าทำไมถึงไม่ยอมให้ปมดู เค้าก็บอกว่าเค้าไม่มีอำนาจ สรุปเรื่องที่ผมไม่เข้าใจและไม่พอใจคือ

1. เค้าเอารูปถ่ายจากโบรกเกอร์มายืนยันว่าให้ผมเคลมรอยหินไม่ได้ แต่พอผมขอดูรูปบอกไม่มีอำนาจ ต้องไปขอดูกับโบรกกเกอร์เอง ผมมองว่าไม่โปร่งใส และถ่วงเวลา
2. พนักงานสินไหมรายนี้ไม่ได้ให้คำแนะนำอะไรเลย บอกแต่ว่าให้ไปติดต่อโบรกเกอร์ ผมไม่เข้าใจ โบรกเกอร์มันก็แค่หาลูกค้า จะมาช่วยอะไรได้
3. การที่เค้าหัวเราะผมโดยที่คิดว่าผมไม่ได้ยิน ผมรับไม่ได้จริงๆ ผมจ่ายเงินค่าประกันนะครับ ไม่ได้ขอฟรี

โดยส่วนตัวผมผิดหวังกับประกันเจ้านี้มากและคิดว่าการตอบคำถาม ให้บอกว่าไม่มีอำนาจให้ดูรูป แต่มีอำนาจตัดสินจากรูปว่าเป็นจุดเดิม และไม่ให้เคลม ทั้งการให้ไปติดต่อที่โบรกเกอร์นั้น เพื่อเป็นการดึงเวลา จะได้ยอมเคลมแค่รอยชน (ใครมันจะอยากทนใช้รถมีรอยชนอยู่นานๆล่ะครับ)

ปีหน้าผมคงต่อกับประกันภัยเจ้าอื่น เจ้านี้ราคาถูกกว่าเจ้าตลาดไม่กี่พัน แต่ทำผมเจ็บแสบจริงๆ


ออฟไลน์ eaowpj

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 610
1.ไปค.ป.ภ โทร 1186 เพื่อขอแนวทางแก้ไขและนัดคุยกับเมืองไทยประกันภัย
2.ขอรูปจากโบรเกอร์และถามว่าเขาช่วยอะไรได้หรือไม่
3.ถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐานอาจไปที่อู่เพื่อให้มีพยานรู้เห็น (เผื่อมีรอยเพิ่มและใช้ในการเปรียบเทียบ)
4.ถ้า 1,2 ช่วยไม่ได้ก็ต้องใช้อนุญาโตตุลาการและศาลเป็นที่พึ่งครับ อย่าลืมขอรูปถ่ายจากโบกเกอร์เอาไว้ และเก็บรูปก่อนซ่อม เอาไปซ่อมสีให้เรียบร้อย ถ่ายรูปตอนซ่อมเสร็จ เก็บใบเสร็จค่าใช้จ่าย แล้วหาทนายความครับ  :)

ออฟไลน์ SuperDOM

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 157
    • อีเมล์
เค้ามาศึกษาข้อมูลครับ

แต่หากหน้ามืด หมดทางออก  หาทำเล หากิ่งไม้ มาวางในระดับที่ต้องการทำสี แล้วขูดเอง แล้วแจ้งเคลมเลยจะดีไหม

ออฟไลน์ beebird

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,058
    • อีเมล์
เราพลาดตรงที่ไปยอมรับรอยที่มีอยู่ก่อนแล้วไงครับ ตรงนี้แหละสำคัญ เวลาเราเคลมรวมๆ บ.ประกันเจ้าใหม่จะไม่ยอมรับผิดชอบให้เลย เพราะมักจะอ้างว่ามันเป็นรอยอยู่แล้ว คุณลองดูในกรมธรรม์ให้ดีแน่แล้วหรือยังครับ ว่าเค้าสลักหลังไว้ว่าอย่างไร เช่น มีรอยอยู่ก่อนแล้วกี่ชิ้น รถทั้งคัน ไม่นับกระจังหน้า น่าจะมีอยู่ 14 ชิ้นได้มั้ง
ครับ ( กันชนหน้า - สเกิตหน้า - แก้มซ้าย - แก้มขวา - ฝากระโปรง - หลังคา - ประตู 4 บาน - body - กันชนหลัง - สเกิตหลัง - สปอย์เลอร์ ) ถ้าโดนรีมาร์คไว้หลายๆชิ้น นั่นคือ จุดที่ประกันฝั่งโน้นจะโบ้ยไม่รับเคลมให้เราน่ะครับ

ออฟไลน์ udis

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,674
เค้ามาศึกษาข้อมูลครับ

แต่หากหน้ามืด หมดทางออก  หาทำเล หากิ่งไม้ มาวางในระดับที่ต้องการทำสี แล้วขูดเอง แล้วแจ้งเคลมเลยจะดีไหม

น่าจะทำในแนวทางที่ถูกต้องดีกว่าครับ

ออฟไลน์ Lertvarit

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,212
รู้สึกว่ารอยหินกระเทาะ ประกันเกือบทุกบริษัท "ไม่ให้" นะครับ

เค้าบอกว่า มันเป็นการบำรุงสี เหมือนเป็นรอยขนแมวแล้วจะทำสีใหม่ ประมาณนั้น

เพราะผมก็เคยเครมบ่อยครับรอยหินกระเทาะนี่ แต่มันก็จะมีวิธีเล็กๆน้อยๆที่จะทำให้เครมได้

แต่ก็เป็นวิธีที่ไม่ค่อยแฟร์กับ บ.ประกันเช่นกันครับ แหะๆ
FD 1.8 + ACV40 Hybrid + E90 LCI 320d sport 
And My new stuff  E60 LCI 520D sport

ออฟไลน์ Panuss

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 13
ผมคงแจ้งไปที่ http://www.oic.or.th แล้วคงไม่ทำอะไรต่อแล้วละครับ มันให้เคลมแค่ไหนก็แค่นั้น ผู้บริโภคอย่างเราอย่างเก่งก็ได้แค่เล่าให้คนอื่นฟัง
ส่วนปีหน้าคงต้องพึ่งประกันที่ไม่เขี้ยวลากดินและเอาเปรียบอย่างนี้ ยอมเสียแพงหน่อย แต่สบายใจกว่ากันเยอะ

ออฟไลน์ MC Stradale

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,520
อย่างรถบ้านผมก้ตอนที่จะเปลี่ยนประกันเค้าก้บอกว่าให้เราไปเคลมส่วนที่ร้าวตรงกระจกด้านหน้าก่อนอ่าครับ เพราะเค้าจะไม่รับผิดชอบตรงจุดที่เกิดขึ้นเมื่อยังอยู่ในประกันของบริษัทอื่น อันนี้ก้เป็นเรื่องที่พอเข้าใจได้ครับ ส่วนเรื่องที่เค้าไม่ให้เราดูรูป อาจจะไม่ใช่เพราะเค้าไม่มีอำนาจ แต่อาจจะเป็นเพราะเค้าไม่มีรูปก้ได้มั้งครับ อาจจะอยู่ที่อื่นอะไรประมานนั้น

ออฟไลน์ eaowpj

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 610
ผมคงแจ้งไปที่ http://www.oic.or.th แล้วคงไม่ทำอะไรต่อแล้วละครับ มันให้เคลมแค่ไหนก็แค่นั้น ผู้บริโภคอย่างเราอย่างเก่งก็ได้แค่เล่าให้คนอื่นฟัง
ส่วนปีหน้าคงต้องพึ่งประกันที่ไม่เขี้ยวลากดินและเอาเปรียบอย่างนี้ ยอมเสียแพงหน่อย แต่สบายใจกว่ากันเยอะ
ผมว่าควรไปด้วยตัวเองนะครับที่ ค.ป.ภ และคิดว่าเป็นเรื่องคดีคุ้มครองผู้บริโภคด้วย ส.ค.บ จะโทรไปก่อนก็ได้
เท่าที่ทราบจากคนที่ใช้กลไกเหล่านี้ อาจจะไม่จบในครั้งเดียว อาจต้องเดินทางไปหลายครั้ง เพราะกลไกเหล่านี้มีหน้าที่เป็นคนกลางไม่ใช่ศาล  เตรียมหลักฐานประกอบ(เช่นกรมธรรม์ รูปถ่ายต่าง ๆ) และชี้แจงให้เข้าใจเหมือนคุณพิมพ์ในเว็ปนี้ ควรเตรียมข้อเสนอว่าประสงค์ให้บริษัทรับประกันภัยทำอะไรให้ ถ้าไม่จบจะดำเนินการอะไรต่อไป  :)

ออฟไลน์ natty ib-cm

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 669
 ;D ติดต่อ คปภ.จังหวัดก่อนครับ หากไกล่เกลี่ยไม่ได้ แนะนำ -ฟ้องศาล- เป็นคดีผู้บริโภค (ผบ)ดำเนินกระบวนการในศาลจังหวัด หรือศาลแพ่งในเขต ไม่ต้องมีทนาย ไม่เสียค่าธรรมเนียมศาล เจ้าหน้าที่ศาลจะร่างฟ้องให้ครับ รวดเร็วแน่นอน ไม่ต้องผ่าน สคบ.ครับ ศาลจะนัดไกล่เกลี่ยก่อน หากไกล่เกลี่ยไม่ได้ก็นัดสืบพยาน การพิจารณาเป็นแบบไต่สวน ศาลท่านสามารถเข้ามาซักถาม และเรียกพยานหลักฐานตามที่ท่านเห็นควรได้ครับ ขอให้โชคดีครับ

ออฟไลน์ Anonymous

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 3
ในฐานะที่ผมเป็นนายหน้าประกันวินาศภัย ขอตอบคำถามในบ้างข้อที่คุณอาจไม่เข้าใจหน่อยนะครับ

1. เค้าเอารูปถ่ายจากโบรกเกอร์มายืนยันว่าให้ผมเคลมรอยหินไม่ได้ แต่พอผมขอดูรูปบอกไม่มีอำนาจ ต้องไปขอดูกับโบรกกเกอร์เอง ผมมองว่าไม่โปร่งใส และถ่วงเวลา
ตอบ สาเหตุที่เขาให้คุณมาติดต่อที่โบรกเกอร์ เพราะบริษัทประกัน ไม่ต้องการล้วงลูกโบรกเกอร์ครับ อีกอย่าง เขาพลักภาระให้โบรกเกอร์เป็นผู้ดูแลลูกค้าที่ตนส่งงานครับ โบรกเกอร์ยังมีหน้าที่รักษาสิทธิ และคอยช่วยเหลือลูกค้าเรื่องการเครมสินไหมด้วย โบรกเกอร์คือตัวแทนของลูกค้า ในการช่วยเรียกร้องสิทธิ์ต่างๆ และสามารถต่อรองได้ครับ หน้าที่จริงๆของโบรกเกอร์คือ เป็นตัวแทนของลูกค้าเพื่อจัดหาและเป็นที่ปรึกษาส่วนตัวเรื่องประกันครับ

2. พนักงานสินไหมรายนี้ไม่ได้ให้คำแนะนำอะไรเลย บอกแต่ว่าให้ไปติดต่อโบรกเกอร์ ผมไม่เข้าใจ โบรกเกอร์มันก็แค่หาลูกค้า จะมาช่วยอะไรได้
ตอบ เป็นคำตอบเดียวกับข้อ 1 ครับ โบรกเกอร์จะให้คำแนะนำและช่วยเหลือได้ดีกว่าครับ เขามีหน้าที่รักษาสิทธิของเราอยู่แล้วครับ และจะตามงานให้เราด้วย

3. การที่เค้าหัวเราะผมโดยที่คิดว่าผมไม่ได้ยิน ผมรับไม่ได้จริงๆ ผมจ่ายเงินค่าประกันนะครับ ไม่ได้ขอฟรี
อันนี้เป็นเรื่องของมารยาทส่วนบุคคล ไม่ขอวิจารณ์ แต่ก็ไม่ควรทำอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะธุรกิจใดก็ตาม

ส่วนเรื่องการเครม มีหลักการในการพิจารณาไม่ยุ่งยากครับ ในที่นี้ขอยกมาแค่ส่วนหนึ่งนะครับ
1. บริษัทประกัน รับผิดชอบในกรณีรถเสียหายจากการเกิดอุบัติเหตุครับ ไม่รับผิดชอบความเสียหายที่เกิดจากการใช้งานและค่าสึกเหรอ การเครมแบ่งเป็น 2 ประเภท เครมสด (รถชนกับรถ) และเครมแห้ง(เครมไม่มีคู่กรณี) กรณีของคุณคือเครมไม่มีคู่กรณี
2. บริษัทประกันทุกบริษัทไม่รับผิดชอบความเสียหายที่เกิดก่อนการรับประกัน แต่สามารถรับประกันได้ โดยทำการรีมาคแผลและบันทึกถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐานก่อนการรับประกัน
ถามว่า ถ้าเกิดมีการชนซ้ำรอยที่เรารีมาคล่ะ รับผิดชอบไหม?
ตอบ รับผิดชอบครับ แต่ในอัตราส่วน 50:50 แต่ก็พิจารณาตามจริงด้วยครับ เช่น รอยก่อนหน้านี้นิดเดียวเอง แต่พอชนมันเป็นแผลใหญ่มาก ฝ่ายลูกค้าก็ร่วมจ่ายเท่าที่ก่อนเกิดการชนครับ ที่เหลือประกันออกให้ครับ ถ้าใช้บริการโบรกเกอร์ที่มีคนช่วยเหลือเก่งๆหน่อย ไม่ต้องจ่ายเลยด้วยซ้ำ

ส่วนที่เหลือก็ต้องพิจารณาไปตามประเภทของประกันครับ ว่าซื้อประเภท 1 2 หรือ 3 ตามลำดับ