ผู้เขียน หัวข้อ: อยากได้ toyota mr-s มือสอง สัก ล้านถ้วนๆ ต้องมีเงินเดือน รวมกับแฟนสักเท่าไรเหรอครับ  (อ่าน 17855 ครั้ง)

ออฟไลน์ newzbaba

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 105
อยากได้ toyota mr-s มือสอง สัก ล้านถ้วนๆ ต้องมีเงินเดือน รวมกับแฟนสักเท่าไรเหรอครับ

ปัจจุบันใช้ new city หมดภาระไปแล้ว เพราะ ซื้อสด

ตอนนี้เงินเดือน สองคน รวมกับแฟน ประมาณ 38000 บาท ต่อเดือน ค่าใช้ จ่าย ค่าบ้าน ค่ากิน หักแล้วเหลือตกเดือนละ 15000 หน่อยๆ

สนใจอยากได้ mr-s มาขับดู ไม่ทราบว่าจะพอไหวไหมครับ

ยังไม่มีภาระ หนี้สินใดๆตอนนี้ เงินเดือน เหลือราวๆ 15k อย่างที่บอก


ขอความเห็นหน่อยครับ ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ vashali

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 37
    • อีเมล์
ต้องถามคุณมีเงินเก็บเท่าไหร่และจะดาวเท่าไหร่ และจะผ่อนกี่ปี
ผมว่าอย่าซื้อเลยครับเอาเงินไปลงทุนอย่างอื่น เมื่อได้เงินที่ไม่ใช่เงินหมุน
ประมาณ 2/3 ของราคารถแล้วค่อยซื้อครับ
เพราะซื้อมาอีก 5 ปี รถที่ซื้อก็ไม่ได้ราคาเท่าเดิม และจะพลอยเป็นหนี้เสียปวดหัวอีก

ออฟไลน์ Lecter the Ripper

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 201
ผมว่า อย่าซื้อเลยครับ

อย่าเอาสตางค์ที่ได้จากหยาดเหงื่อแรงกายเรา  ไปจ่ายให้คนอื่นก่อนเลยครับ

 (จ่ายให้เต้นรถ ค่านํ้ามันจ่ายให้ปตท ค่าซ่อมจ่ายให้อู่ ค่าประกันจ่ายให้บริษัท ค่ายางจ่ายให้ ก.เจริญการยาง ค่าแบต ค่าภาษีจ่ายให้รัฐ)

เอาสตางค์ที่ได้จ่ายให้ตัวเองก่อนครับ ซื้อหนังสือการลงทุนมาอ่าน เข้าสัมนา เพิ่มความรู้ทางการเงิน แล้วเอาเงินที่เก็บได้ไปลงทุน

สร้างทรัพย์สินที่หาสตางค์ให้เรา สร้างความรู้ทางการเงินที่ทำเงินให้เรา ถึงตอนนั้นคุณจะรู้คำตอบเองครับว่าเมื่อไรควรจะซื้อรถได้ โดยไม่ต้องมาตั้งกระทู้แบบนี้

เมื่อคุณเป็นอิสระทางการเงิน (หมายถึงคุณจะทำงานหรือไม่ทำก็มีสตางค์ใช้) ถึงตอนนั้นคุณจะซื้ออะไรก็ได้ครับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 16, 2012, 00:38:06 โดย Lecter the Ripper »

ออฟไลน์ Zx-III

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 723
รถมันหลายปีเเล้วนะครับเกือบ10ปีเเล้ว ยังไงต้องมีซ่อมแน่ๆ ทั้งเบาทั้งใหญ่ อะไหล่มันเป็นรถนอก ผมตอนแรกกะเล่นcelica gen7 integra ยังกลัวอะไหล่เลย เพราะรถมันเก่า อะไหล่น่าจะหายากมากเเล้วแถมรถนอกอีก ซือมาต้องมีเงินเพื่อซ่อมกับรออะไหล่เลยครับ ส่วนผ่อนนี้ก็อยู่ตามกำลังทรัพย์นะครับ

ออฟไลน์ TorTy

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,992
แนะนำว่าลองไปหาโอกาสขับดูแล้วจะเปลี่ยนใจ MR-2 ออกมาก่อนแต่ดีกว่ากันเยอะ mr-s รถไม่ได้ดีเลยบอกตรงๆครับ
เครื่องก็ธรรมดาภายในบิ่งแล้วใหญ่เลยจะเล่นหาตัวอื่นดีกว่าครับ

ออฟไลน์ drugprofile

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 218

ตอนนี้เงินเดือน สองคน รวมกับแฟน ประมาณ 38000 บาท ต่อเดือน ค่าใช้ จ่าย ค่าบ้าน ค่ากิน หักแล้วเหลือตกเดือนละ 15000 หน่อยๆ

ยังไม่มีภาระ หนี้สินใดๆตอนนี้ เงินเดือน เหลือราวๆ 15k อย่างที่บอก



ไม่อยากให้ซื้อเลย...

ใช้คันเดิมเถอะครับ... การไม่มีหนี้ คือลาภ อันประเสริฐ

เก็บเงิน เพื่อลูกวันข้างหน้าดีกว่าครับ เจ้า city คู่ทุกคู่ยาก กับเจ้าตัวน้อย สัก 2 คน เป็นครอบครัวที่กำลังพอดีเลยล่ะครับ  ;)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 16, 2012, 01:51:48 โดย drugprofile »

nuuhamster

  • บุคคลทั่วไป
ไม่แนะนำให้ซื้อครับ

แต่ที่บอกว่า mr-s เป็นรถไม่ดี ผมไม่เห็นด้วยครับ

ออฟไลน์ beebird

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,058
    • อีเมล์
เก็บเถอะครับ เดือนละ 15,000 เอาไปลงทุนสร้างอนาคตดีกว่าครับ อย่าสร้างหนี้เลย ... เพราะรถก็มีใช้อยู่แล้วคันนึง

ออฟไลน์ panjap

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,259
ต้องอย่าเงินเดือนแฟนมารวมครับ เขาคงไม่ได้มาขับกะคุณ เอาว่าของคุณล้วนๆ เลยว่าเหลือเท่าไร แล้วค่อยมาคิด
เท่าที่ผมดู ต่อให้คุณกับแฟนรวมกัน เหลือ แค่ 1.5 หมื่นต่อเดือน นี่ผมว่ามันน้อยมากนะครับ ในการซื้อรถระดับล้านนิดๆแบบ mr-s ซึ่งคนที่ขับส่วนใหญ่ เป็นรถคันที่สองเสียมากกว่า
ลองคิดง่ายๆ ผ่อนเดือนละหมื่น กว่าจะหมดไม่ปาเข้าไป 5-6 ปี เหรอครับ ผมว่าทำอะไรต้องอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริงและดูว่าเรามีศักยภาพพอไหม ดีกว่านะครับ

ออฟไลน์ apinui

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,896
    • อีเมล์
เรื่อง เงินอันนี้เจ้าของกระทู้น่าจะจัดการเองได้

แต่เรื่องรถ ผมอยากแนะนำว่า เอา MR-S สู้ เล่น MR-2 ดีกว่าครับ ......

จริงๆ ...

ออฟไลน์ udis

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,674
เหลือ 15,000 บาทต่อเดือน ซื้อไม่ได้ครับ ยังไม่พอครับ
ค่าดาวน์อีก ผ่อน 5 ปีต่อเดือนก็เกิน 15,000 บาทไปแล้วครับ
มีเงินเหลือ 20,000-25,000 บาทขึ้นไป ผมว่ากำลังตึงครับ เผื่อค่าบำรุงรักษา ค่าน้ำมัน ค่ายาง ค่าประกันด้วยครับ

ออฟไลน์ Lucky_suby

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 374
    • อีเมล์
ถ้าทั้งครอบครัวมีเงินเหลือแค่ 15,000 แล้วคิดว่าจะซื้อผ่อน ต้องถามว่าดาวน์เท่าไหร่ แล้วจะผ่อนเท่าไหร่

ถ้าซื้อสด ต้องถามว่า มีเงินเก็บเท่าไหร่ แล้วเอาเงินกี่เปอร์เซนต์มาใช้

ทั้งหลายทั้งปวง ผมว่าใจเย็นๆดีกว่าครับ พอเพียงเพราะรถก็มีแล้ว ถ้าจะซื้อรถสปอร์ต มันเป็นของฟุ่มเฟือย ไว้ให้เงินต่อเดือนเหลือเยอะกว่านี้ดีกว่า เดี๋ยวนี้อะไรๆก็แพง อย่าประมาทครับ มีเงินติดมือ อุ่นใจ  :D

คหสต นะครับ

ออฟไลน์ adis

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,416
    • อีเมล์
ขอให้ความเห็นในฐานะที่ผมเป็นพี่นะครับ
บอกตรง ๆ ว่า ยังไม่ควรจะซื้อรถคันที่สองมาใช้เลย
เพราะผมว่ายังไม่จำเป็นหรอกครับ เข้าใจครับว่าอยากได้ เหมือนผมในอดีตเหมือนกัน
ตอนนั้นไม่มีใครห้ามผมครับ ทุกคนตามใจผม สุดท้ายพอได้มาแล้วมันก็ตืนเต้นดีใจได้ไม่ถึงปี
แต่กลับต้องมาเครียดเพราะภาระเพิ่มเข้ามาโดยไม่จำเป็น พอจะขายก็ลำบาก ทำใจกับราคาที่ลดไปฮวบฮาบ
ขาดทุนบรรลัย เพราะมือสอง ( ไม่ได้หมายถึง MR-S นะครับ)  เสียค่าซ่อมไปเยอะแล้ว

ถ้าจะมีรถคันที่สองจริง ๆ ก็ต้องตอบโจท์ความจำเป็นของเราและภรรยาเราได้ลงตัวเท่านั้นครับ รวมทั้งต้องพิจารณาความสามารถในการบริหารรายได้รายจ่ายของเราด้วย  หากจำเป็นจริง ๆ แต่รายได้ไม่อำนวย ต้องอยู่ในภาวะตึงมาก ๆ บอกได้เลยว่าเครียดและทำให้ชีวิตคู่ไม่ราบรื่นได้ครับ
( อันนี้อย่าคิดว่าผมแช่งนะครับ ผมพูดจากประสบการณ์ที่เคยเจอมาก่อน )

หรือไม่งั้นถ้าเบื่อ city แล้วต้องการหารถใหม่ ก็มาคุยกับภรรยาดูว่าจะขาย city แล้วหารถใหม่มั้ย  ก็เป็นอีกทางเลือกนึงนะครับ

ตัวผมเองตอนนี้ผมเองก็มีรถใช้สองคันนะ  คันนึงเป็น citycar honda ครับ ใช้มาสิบปีแล้ว เอาไว้ใช้ในเมือง ขับไปทำงาน
แต่อีกคันผมใช้ SUV ครับ เพราะผมกับภรรยาต้องเดินทางเข้าป่า เข้าสวน ปีนึงก็หลายครั้ง เส้นทางเข้า รถเก๋งเข้าไม่ไหวครับ ท้องครูดกับหิน
และผมต้องเดินทางไกลปีละครั้งสองครั้ง ไปเยี่ยมญาติ ๆ ที่อยู่เหนือด้วย  (ผมกับภรรยาอยู่ใต้ครับ)
แต่กว่าที่เราจะตัดสินใจซื้อรถ suv  คันที่สองมาใช้นี้ ขอบอกว่า คุยกันนานมาก ผมมีหน้าที่เลือกรถที่ตอบโจทย์ได้อยู่เกือบสองปี
เพราะสิ่งสำคัญที่สุดคือ รายได้ของเราสองคน
พร้อมที่จะเพิ่มภาระ และยังสามาถใช้ชีวิตแบบไม่ตึง อยู่แบบสบาย ๆ ได้หรือเปล่า เราต้องประหยัดค่าใช้จ่ายอะไรลงมาบ้าง
คุณเชื่อมั้ย ช่วงแรก ๆ ในปีแรกที่ภาระเพิ่มขึ้นมา ผมบอกอย่างไม่อายเลยนะ แม้กระทั่งอาหารการกินยังต้องวางแผนเลยครับ มื้อเช้า มื้อเที่ยง
ไม่มีปัญหา เพราะที่บริษัทมีสวัสดิการ ฟรี สบายตัวไปสองมื้อ แต่มื้อเย็น ผมกับภรรยาไปทำกับข้าวที่บ้านญาติ ซึ่งไม่ใช้ญาติแท้ ๆ อะไรหรอกครับ
แต่นับถือกัน ก็กินฟรีอีก 555

ผมเองก็ต้องยอมเหนื่อยขึ้นมาอีกนิด รับ job เป็นวิทยากรบรรยายหลาย ๆ แห่งเป็นอาชีพเสริมจากงานประจำ พอเข้าปีที่สองทุกอย่างลงตัวก็สบายขึ้นครับ
ลองดูนะครับ พิจารณาดูอีกที อย่าใจร้อนครับ

ออฟไลน์ mrtonyocz

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 35
อย่าสนองกิเลสเลยครับ เงินท่านไม่ได้เหลือขนาดนั้น วันนหนึ่งเจ็บไข้ไป เอาที่ไหนรักษา เก็บออมตรงนี้บ้างไหม

ออฟไลน์ WTF

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 616
พูดตรงๆ เงินแทบไม่พอใช้เลยนะนั่นอ่ะ จะขับรถสปอร์ตเลยหรือครับ ผมมีเงินเก็บ7หลัก เงินเดือน6หลัก ยังไม่กล้าคิดเลยครับ เพราะรถพวกนี้มันเหมือนของเล่น คือถ้าไม่เหลือจริงๆอย่าไปเล่นเลย และรถไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิตนะครับ อย่าทุ่มสุดตัวเพื่อมันเลย เอาเงินไปกินข้าวดีๆ เที่ยวดีๆ และเก็บไว้สร้างอนาคต ดีกว่าเยอะครับ :-\

ออฟไลน์ อืม...นะ

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 648
  • Spirit of the "R"
ผมว่ามันค่อนข้างตึงไปหน่อยครับกับรถราคาล้านต้นๆ เทียบกับเงินที่เหลือต่อเดือน
อย่างต่ำๆน่าจะเหลือซัก 25,000-30,000 ถึงจะสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างไม่เครียด
'18 Honda Jazz gk5 s mt
'11 Volkswagen Scirocco R
'04 Honda Integra dc5 Type R
'96 Honda Prelude bb1

ออฟไลน์ MystogaN

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,476
เมื่อ 4 ปีที่แล้วผมเคยอยากได้ ตอนนี้ผมเปลี่ยนทัศนะคติใหม่ เลยเลิกอยากได้ไปนานแล้วครับ ...

ออฟไลน์ book350

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 290
    • อีเมล์
เอาให้มีเงินเก็บเกินราคารถไปหลายๆเท่าก่อนค่อยซื้อเถอะครับ เพราะไม่ใช่รถทำมาหากิน แค่เอามาขับเล่น
Way to Itasha!
Honda Accord CM6 (Inspire) V6 3.0L 240HP - K&N - MUGEN - LENSO
VW GTI mk6 2.0L 330HP - APR K04 - VWR - Neuspeed - Defi - Forge - Sendai

ออฟไลน์ MC Stradale

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,520
ผมว่าต้องมี 30000 บาทอัพหละครับ แต่ก้ต้องไม่ลืมไว้ใช้ส่วนตัวด้วยนะครับ

ออฟไลน์ TorTy

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,992
ไม่แนะนำให้ซื้อครับ

แต่ที่บอกว่า mr-s เป็นรถไม่ดี ผมไม่เห็นด้วยครับ
ต้องขอโทษด้วยครับพูดแรงไปนิดเอาเป็นว่าสำหรับผมมันไม่คุ้มราคาละกันครับความเห็นส่วนคัวครับ