ผู้เขียน หัวข้อ: ถ้าเอาเครื่องยนต์รถยุโรปอย่างเบนซ์ มาใส่โครงของรถญี่ปุ่นรุ่นใหญ่ๆ จะเป็นอย่างไร  (อ่าน 8402 ครั้ง)

ออฟไลน์ Satanic za'

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,073
คือผมสงสัยว่า รถของยุโรปอย่างเบนซ์ หรือ BMW (พอดีเห็นในเฟซบุคของ HLM เกี่ยวกับเบนซ์คูเป้ ที่เทสได้ 15 โลลิตรกว่าๆ) ถ้าเราเอามาใส่โครงรถอย่าง แคมรี่ หรือ D segment ของญี่ปุ่น จะเป็นอย่างไรครับ
ที่ผมสงสัยก็เพราะว่า เห็นรถมันแรงมาก และตัวรถก็ดูแล้วน่าจะหนักกว่ารถ D segment แต่ทำไมอัตรากินน้ำมันมันได้ใกล้เคียงหรือดีกว่า รถ D segment ด้วยซ้ำ (ไม่ได้บอกว่า D segment ไม่ดีนะครับ แค่สงสัยว่าถ้าเอาเทคโนโลยีเครื่องยนต์ของยุโรปมาใส่จะเป็นอย่างไรเฉยๆ)

โดยที่

1.ใช้เครื่องยุโรป แต่ใช้โครงรถญี่ปุ่น เกียร์ของญี่ปุ่น
2.ใช้เครื่องยุโรปและเกียร์ของรถนั้นๆเลย แต่เอามาใส่โครงรถญี่ปุ่น

อัตรากินน้ำมัน ถ้าเทียบกับD segment จากญี่ปุ่นเดิมๆจะประหยัดกว่าเดิมไหมครับ หรือเหมือนๆกัน

ปล ไม่ได้จะบอกว่ารถสัญชาติไหนดีกว่านะครับ ขอกรุณางดดราม่า ถ้ามีการขัดแย้งผมขอลบกระทู้นะครับ
ปล2 การแปลงนี่ พูดถึงกรณีที่ยกใส่เลยนะครับ (ไม่ต้องคำนึงว่าทำได้หรือไม่ได้ สมมติว่ามันได้เฉยๆก็พออะครับ เพราะไม่ได้จะทำจริงๆ แค่อยากรู้เฉยๆ๗
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 20, 2012, 16:38:24 โดย Satanic za' »

ออฟไลน์ Ruksadindan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,051
D-Segment คันโตกว่า หนักกว่า ต้านลมกว่านะครับ
ถ้าเอาเครื่องเอาเกียร์มาวาง คงต้องดูส่วนประกอบทั้งหลายเป็นสำคัญอีกแหละครับ เครื่องเล็ก แรงบิดมาก หรือทดรอบต่ำหรือเปล่า เป็นงั้นก็ประหยัดไป

และอย่าลืมดูเรื่องเครื่องสำหรับขับหน้า ขับหลัง ด้วยนะครับ ต้องแปลงอะไรหรือเปล่า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 20, 2012, 17:06:44 โดย Ruksadindan »

ออฟไลน์ HYDE--

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,643
    • อีเมล์
ในความเป็นจริง คงจะแปลงยากมากๆ ส่วนตัวคิดว่าไม่น่าเป็นไปได้ และคงไม่มีใครทำ โดยเฉพาะ ข้อ 1

แต่ถ้าสมมุดว่า ข้อ 2 เกิดเป็นไปได้ ก็ขึ้นกะหลายๆปัจจัย เช่น ถึงแม้รถญี่ปุ่นจะมีแนวโน้มที่จะมีน้ำหนักเบากว่ารถยุโรปใน segment เดียวกัน
แต่ก็ต้องมาดูเรื่อง การต้านลมอีก พูดยากครับ

ออฟไลน์ Cool Runner

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 590
ที่เคยเห็นมีแต่รถยุโรปเอาเครื่องญี่ปุ่นไปวาง

ออฟไลน์ il Rewki' N. li

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 226
  • Passioned in a Magic which called "CARS" ,,* i Luv
    • อีเมล์
ในอนาคตอันใกล้นี้ไม่แน่เราๆท่านๆอาจจะได้เห็นครับ
ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้  เพราะหลายๆค่ายยุโรป เริ่มมีการดีลร่วมมือกับญี่ปุ่นให้เห็น
มันต้องมีการใช้เครื่องยนต์ และเกียร์ ข้ามแพลทฟอร์มมายังรถญี่ปุ่นแน่นอน
แต่... ใครจะเปิดเผยให้ทราบ นั้นอีกเรื่องนึง

การยกเครื่องข้ามสายพันธุ์นั้นมีมานานอยู่แล้วครับ

แนวโน้ม... ผมคิดว่า D-Segment ของญี่ปุ่น โดยรวมโครงสร้างเบากว่ารถยุโรปอยู่แล้ว
แต่โครงสร้างต้องปรับแต่งให้รับน้ำหนักเครื่อง ปรับสมดุล ปรับแต่งช่วงล่างกันบ้าง
อัตราการกินน้ำมันน่าจะประหยัดขึ้นได้อีก.. หรือไม่ก็.. รถวิ่งดีขึ้น แรงขึ้น ประหยัดขึ้น


ใน ปัจจุบันไม่มีครัวเรือนที่ไหน เอาเครื่องยุโรปมาวางรถ D-seg ญี่ปุ่น ก็คงเป็นเพราะราคาค่าตัวที่เครื่องราคาค่อนข้างสูง
อิมเมจของรถญี่ปุ่นก็จะ soft กว่ายุโรป  ... มีตังค์ก็เล่นรถยุโรปไปเลยดีกว่า
เทียบๆกับการเอาเครื่องญี่ปุ่นมาวางยุโรป อันนี้เห็นอยู่ทุกวัน เช่น 1J 2J ลง BMW, MB ครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 20, 2012, 18:17:29 โดย il Rewki' N. li »
หลงใหลใน "รถยนต์" ... เวทย์มนต์ที่ตราตรึง...

conan_murder

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ MystogaN

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,476
รถยุโรปมันขับหลังคับ ญี่ปุ่นขับหน้า ถ้ายกใส่เลกสัส ผมว่ายกได้เพราะเลกสัสก้อขับหลัง

แต่เดวก่อน เบ้นเอคลาสใหม่ขับหน้าคับ ลองดูละกันว่ายกได้ไหม

ออฟไลน์ suttiruk

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 149
ก่อนอื่นก็ดูระบบขับเคลื่อนรถเราก่อน ขับหน้า หรือ ขับหลัง จากนั้นก็ขนาดและลักษณะของห้องเครื่องว่ามีความเข้ากันได้มั้ยถ้า ok ก็ไปยกของคันที่เราสนใจมาทั้งยวงเลยถ้าช่างเก่งๆไม่มีปัญหาแปลงได้แต่หาช่าง wiring สายไฟจะยากหน่อยนี่คือแบบ 2...ต้องลองครับ ;)

แบบ 1 อาจยากเพราะอาจประกอบไม่ได้ครับรูน๊อต หน้าตา ชิ้นส่วนอื่นๆมันไม่เข้ากันและอีกอย่างกล่องเกียร์กับกล่องเครื่องมันคนละรุ่นมึนแย่หาช่างลำบากสุดๆแต่ถ้าโชคดีใส่ได้รถก็จะวิ่งไม่เป็นเลยครับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 20, 2012, 19:44:28 โดย suttiruk »

ออฟไลน์ YenChar

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,179
พูดถึงหลักธุรกิจและความเหมาะสม คงยาก
เพราะหากเอาเครื่องดีๆมาวาง ทุนก็สูงขึ้น ราคาขายปลีกก็ต้องเพิ่มสูงตาม
เครื่อง มันก็ต้องมาพร้อมเกียร ลองคิดว่าถ้ารถ C Segment ญี่ปุ่นมี 6-7 เกียร คงมันส์น่าดู
แต่ค่าตัวมันก็ต้องถีบตัวขึ้นสูงอย่างมาก
รับได้มั้ย ถ้า C Segment วางเครื่องระดับนี้ แต่ราคาดีดเป็น 1.4 ล้าน แลกกับเทคโนโลยี

พูดถึงรถแต่ง วางเครื่องเองข้างนอก
ถ้าสมมุติว่าแปลง เอาอัลติสไปวาง 1.8 โบ ของ 250CGI
แปลงเป็นขับหลังซะ วางเพลาขับหลังใหม่ ทะลวงไส้ ระเบิดห้องเครื่อง ขึ้นรูปตัวถัง
(เหมือนกับพวกที่แปลงแลนเซอร์เป็นอีโว)
พูดแล้ว คงมันส์พิลึก

ผมรู้แค่ว่า เอา 1JZ-GTE เกียรออโต้ วางใน E46 แล้วติดแก๊ส
วิ่งมันส์ กดไม่ต้องยั้ง โลล่ะไม่เกิน 2 บาท สนุกกว่ากันเยอะ!!

ออฟไลน์ LimitedEdition

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,410
ถ้าพูดถึงเรื่องรถแต่ง ผมว่ายังไม่ถึงยุคมากกว่า

เพราะของเซียงกงส่วนใหญ่ก็นำเข้ามาจากญี่ปุ่น ซึ่งปริมาณรถยุโรปมันก็มีสัดส่วนน้อยกว่าอยู่แล้วครับ
แล้วถึงแม้จะมีหัวตัดเบนซ์ วอลโว่ และรถยุโรปอื่นเข้ามาเยอะแยะก็ตาม แต่เครื่องในรถรุ่นเหล่านั้น
ก็ยังไม่ใช่เทคโนโลยีใหม่แบบปัจจุบัน อย่างเบนซ์นี่ผมคิดว่าตัว W203 เพิ่งเริ่มไหลเข้ามาเองมั้ง
แถมส่วนใหญ่ยังเป็นขับเคลื่อนล้อหลังอีก จะเอามาลงก็คงยาก และเครื่องเองก็ยังไม่น่าสนใจ

เรื่องการวาง ผมคิดว่าคงจะวุ่นวายพอสมควร เพราะเครื่องยุโรปรุ่นใหม่ใหม่มักจะมีระบบนู่นนี่เต็มไปหมด
จุกจิกและมีรายละเอียดปลีกย่อยเยอะกว่าเครื่องญี่ปุ่นเยอะ วางไปแล้วจะทำแรงก็สั่งของยากอีก
นั่นทำให้ ผมคิดว่า ยังไงแล้วเครื่องญี่ปุ่นก็ยังน่าสนใจอยู่วันยังค่ำครับ

ออฟไลน์ mick

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,547
ผมว่ารถคงไม่เหลืออะไรดีอะครับ รถยุโรปโครงสร้างดี เครื่องจุกจิก เสียง่าย
รถยี่ปุ่นบอบบาง แต่เครื่องถูก
เอามารวมกันแบบนี้ ตัวถัง การเกาะถนนก็ไม่ดี เครื่องก็แพง จุกจิกอีก
ปกติเขาถึงทำสลับกับที่ จขกท ว่านะครับ

ออฟไลน์ boykung

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,174
  • ตอนเด็กๆ โคตรอยากเป็นจีบันเลย
แล้วอย่างซันยองที่วางเครื่องเบนซ์ละครับ
Hyundai Grand Starex 2012
Kia Rio 2013
Volvo XC60 D4 Hybrid with Engine Oil 2013
Mercedes Benz S300Hybrid AMG 2014
BMW 420D Coupe M Sport 2016

ออฟไลน์ Ruksadindan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,051
เครื่อง มันก็ต้องมาพร้อมเกียร ลองคิดว่าถ้ารถ C Segment ญี่ปุ่นมี 6-7 เกียร คงมันส์น่าดู
7Wonder Speed ไงครับ 7CVT Jazz G1 กับแลนเซอร์ 6CVT
แต่ก็นะ..6-7 เกียร์เก๊กันทั้งนั้น

แล้วอย่างซันยองที่วางเครื่องเบนซ์ละครับ
เกาหลีอยู่นอกคำถามมั้งครับ อันนั้น Actyon ไม่ก็ Kyron ก็หน้า S Class เลยนะ

ออฟไลน์ นครอัญมณี

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,181
    • นครอัญมณี
    • อีเมล์
วิ่งกระฉูดครับ แต่ซ่อมแพงระเบิด

เครื่องยุโรป เยอรมัน มีเทคโนโลยีสูง มีแรงบิดที่รอบต่ำๆ ได้ดีมาก เหยียบนิดเดียว พุ่งจู๊ด เลย
ด้วยเหตุนี้ ทำให้เครื่องจึงมีราคาแพง รวมถึงอะไหล่ด้วย

จึงเห็นบ่อยๆ ว่ามีการใช้ตัวถังยุโรป แล้ววางเครื่องญี่ปุ่น เนื่องจากปัจจัยเดียว คือ
เครื่องญี่ปุ่นราคาถูก ถึงแม้จะไม่แรงเท่าเครื่องยุโรปยี่ห้อเดิมก็ตาม (ก็เน้นถูกประหยัดไปแล้วนี่)


สมัยแรกๆที่ รถญี่ปุ่น พยายามโฆษณา ว่าเครื่องเขามีระบบ วาวล์ผันแปร เช่น VTi หรือ Vtec เป็นต้น
Benz , BMW ไม่เคยพูดถึงเลย เพราะว่าเขามีมาก่อนนานแล้ว และทุกวันนี้ ก็ไม่เคยพูดถึงเช่นเดียวกัน

ระบบความร้อนที่หม้อน้ำก็เช่นเดียวกัน
รถยุโรป วัดเป็นองศา ตัววัดก็อยู่ในเครื่องยนต์ ไม่ได้วัดที่หม้อน้ำเหมือนรถญี่ปุ่น

เวลาความร้อนขึ้น รถยุโรป จะคุยกันที่ ขึ้นกี่องศา
แต่รถญี่ปุ่น แค่สตาร์ทเครื่องแป๊บเดียว ปาเข้าไป เกือบครึ่งของเกย์วัดซะแล้ว
ในรถญี่ปุ่น น้ำในหม้อน้ำแห้ง เผลอนิดเผลอหน่อย ไม่ได้ดูหน้าปัด เกย์วัดความร้อน เข็มกระโดด ยันเกย์ซะแล้ว
รุ่นหลังๆ พวก Eco Car นี่เซ็งเลย เป็นแค่ไฟบอก ไม่มีเข็มวัดระดับความร้อน เลยซักนิด เสียวน่าดู

เอาเท่านี้ก่อนครับ
รักรถมาก
รักครอบครัวมากกว่า
รักชาติ-ศาสน์-กษัตริย์มากที่สุด

ออฟไลน์ Satanic za'

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,073
ประเด็นของผมก็คือ (อันนี้เอาตรงๆเลยนะครับ สงสัยจะอ้อมไปหน่อย อิอิ)

เครื่องกับเกียร์ ของรถจากยุโรป มีประสิทธิภาพมากแค่ไหน เมื่อเทียบกับ เครื่อง+เกียร์จากญี่ปุ่น น่ะครับ (พูดถึงกรณีที่แบกน้ำหนักเท่าๆกัน และไม่พูดถึงเรื่องของราคานะครับ)

กับอีกกรณีนึง ถ้าเอาเกียร์มาสลับกัน มันจะทำให้อัตรากินน้ำมันเป็นอย่างไรบ้างน่ะครับ


ออฟไลน์ redsun

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,101
ผมว่าแพลตฟอร์ม โครงสร้าง บอดี้ ระบบช่วงล่าง อื่นๆ ของยุโรปยังคงเหนือกว่าญี่ปุ่น
เครื่องและเกียร์ยุโรปก็น่าจะวางกับรถยุโรปมากกว่าครับ