ตอบตามประสบการณ์นะครับ เคยขับถนนแบบที่ จขกท. บอกอยู่สามปี
ประการแรก มองไกลๆ ประเมินสถาณการณ์ครับ เวลามีรถแซงสวนเลนมา ผมถอนคันเร่งก่อนเลย เท้าไปรอที่เบรก มือจับพวงมาลัยให้ถนัด เตรียมหักหลบ คิดซะว่า เค้าจะแซงไม่พ้นไว้ก่อน ถ้าเค้ากลับเข้าเลนได้ ค่อยเหยียบต่อครับ
ส่วนเวลารถจะชน อันนี้ก็ประสบการณ์ครับ หลับใน แล้วตื่นมาก่อนชนท้ายรถพ่วง จริงๆ ตอนนั้นคิดอะไรไม่ออกแล้วครับ แต่เหมือนร่างกายมันเป็นไปเอง
เกร็งหลังติดพนัก เกร็งคอติดที่รองศีรษะ มือสองข้างจับพวงมาลัยที่ 3 และ 9 นาฬิกา เหยียบเบรกมิด
พอใกล้ๆจะชน ตัดสินใจหักขวานิดเดียว ปะทะดังปัง ด้านหน้าซ้าย แล้วรถไหลลงร่องกลางถนน (ขับเลนขวาอยู่ แต่หลับใน ไม่ตายก็บุญแล้วผม) จากนั้นก็ เกร็งคอเกร็งแขนเหยียบเบรกตลอด จนรถกลับขึ้นมาไหล่ทางอีกที (ไม่รู้กลับขึ้นมาได้ไง ไม่ได้หักพวงมาลัยเลย)
เลยคิดว่า พระเจ้า เทวดา ช่วยไว้ครับ จากอุบัติเหตุคราวนั้น รถผม ด้านหน้าซ้ายยับ ต้องดึงโครง แต่ตัวผมเองไม่เป็นอะไรเลย แอร์แบกไม่ทำงาน คิดว่าเป็นเพราะชนด้านมุมของกันชนซ้าย นับแต่นั้นไม่ฝืนง่วงแล้วขับเลยครับ จอดนอนปั้มตลอด