ผู้เขียน หัวข้อ: เรื่องกำลังเครื่องยนต์กับระบบไฟฟ้าครับ  (อ่าน 5458 ครั้ง)

ออฟไลน์ -Anonymous-

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,428
  • Catch me if you can !!!
ถ้าติดไฟทำไฟเยอะๆ เช่น ไฟledหน้าหลัง ไฟเลี้ยวข้างรถ ไฟที่กระจกข้าง ไฟส่องพรมในรถ และอื่นๆ จะมีผลกับกำลังเครื่องยนต์ให้มีน้อยลงจากปกติมั้ยครับ

ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ MystogaN

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,476
Re: เรื่องกำลังเครื่องยนต์กับระบบไฟฟ้าครับ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: เมษายน 26, 2012, 12:20:57 »
ไม่น่าจะเกี่ยวนะครับ :P

ออฟไลน์ Action

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,667
Re: เรื่องกำลังเครื่องยนต์กับระบบไฟฟ้าครับ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: เมษายน 26, 2012, 12:33:59 »
กำลังเครื่องคงไม่เกี่ยว แต่ถ้ากำลังแบตตารี่นี่สิ อาจมีไปก่อนวัยอันควร พวกรถขายหลอดไฟ รถขายลำโพง บางรายทำมีพวงแบต บางรายไม่พวงแบต มันก็มีอำลาอาลัยกันไปก่อนวัยอันควรเยอะแยะ  ;D
ถึงรถผมจะไม่แรง แต่ก็ยังแซงทุกคันไม่เว้น...
Honda Civic 3dr. '96
Chrysler Neo '98
BMW 320i '01
Honda Civic FD 2.0 '06 > Sold
Mazda BT-50 Pro '12

ออฟไลน์ udis

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,674
Re: เรื่องกำลังเครื่องยนต์กับระบบไฟฟ้าครับ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: เมษายน 26, 2012, 12:58:49 »
เท่าที่สังเกตนะครับ ระบบไฟ อุปกรณ์ไฟฟ้า ไฟหน้า ไฟท้าย จะเสียเร็วครับ
เข้าใจว่าระบบเยอะ ยิ่งมีขยะในระบบไฟฟ้ารบกวนเยอะครับ
รถผมเดิมๆ 7 ปีมีไฟบอกสถานะเกียร์เสียอันเดียว นอกนั้นไม่ได้เปลี่ยนเลย
เทียบกับรถที่ติดอะไรมาเยอะ เปลี่ยนเยอะมากครับ แต่ก็ไม่แน่ใจว่าเป็นที่รุ่นรถไหมครับ

ออฟไลน์ Schnitzel

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 176
Re: เรื่องกำลังเครื่องยนต์กับระบบไฟฟ้าครับ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: เมษายน 26, 2012, 14:10:46 »
เกี่ยวเต็มๆ เนื้อๆ เน้นๆ เลยครับเพราะอะไรเรามาดูกัน
ในขณะที่เครื่องยนต์ติดเครื่องจะวิ่งหรือจอดอยู่เฉยๆก็ตามระบบไฟฟ้าในรถทั้งหมดจะได้จากแหล่งพลังงานซึ่งก็คือ
ไดชาร์จ (ภาษาชาวบ้าน) ภาษาวิชาการเรียกว่า Alternator หรือ Generator และตัว Alternator หลักการทำงานสำหรับ
สร้างกระแสไฟฟ้าก็คือ การหมุนขดลวด(rotor) ตัดสนามแม่เหล็ก(stator) แล้วเอาอะไรมาหมุน ก็กำลังเครื่องยนต์ไงครับ
โดยส่งกำลังผ่านสายพานที่มาปั่นพูลเลย์ไดชาร์จ(Alternator) นั่นเอง นั่นคือ Alternator ต้องกินกำลังเครื่องยนต์โดยตรงเพื่อ
มาผลิตไฟฟ้าๆ ที่ได้ก็จะเป็นไฟฟ้ากระแสสลับ ต้องเอามาผ่านวงจร เรคติไฟเออร์ด้วยไดโอดอีกทีให้เป็นไฟฟ้ากระแสตรง ขนาด
๑๒ โวลท์ จึงจะสามารถใช้ในรถได้อีกทีเรียกว่าเป็นการจ่าย  load ทางไฟฟ้านั่นเอง แล้วมันจะกินกำลังเครื่องตอนไหน
  อย่าลืมว่าหลักการๆกำเนิดไฟฟ้าในที่นี้คือ การหมุนขดลวดตัดสนามแม่เหล็ก ในขณะที่เครื่องยนต์กำลังปั่นไฟใช้ในรถนั่นเอง
จะมีแรงเคลื่อนไฟฟ้าเกิดขึ้นมาพร้อมกันอีกทางหนึ่งจากการที่ หมุนขดลวดตัดสนามแม่เหล็กในขณะจ่าย load
ซึ่งเราเรียกมันว่า back EMF (Electro Motive Force) แต่ว่า back EMF ที่เกิดขึ้นนี้จะมีทิศทางการหมุนของสนามแม่เหล็กสวนทาง
กับการหมุนของการผลิตไฟ พูดง่ายๆก็คือเกิดแรงต้านขึ้นของการหมุนเพลาไดชาร์จ และแรงนี้จะมากขึ้นเมื่อใช้ load มากขึ้นนั่นเอง
คือทำให้เครื่องยนต์ใช้แรงมากขึ้นในการหมุนเครื่องกำเนิดไฟฟ้า เครื่องก็กินน้ำมันมากขึ้นเพื่อเอาแรงไปหมุนให้ชนะ back EMF
 กำลังของเครื่องก็ตกลงแทนที่จะเอาไปขับเพลาให้รถวิ่ง ยิ่งโหลดมากขึ้นเท่าไหร่ (ใช้ไฟในรถมากขึ้น) สนามแม่เหล็กที่วิ่งสวนทางก็มากขึ้นทุกที
เปรียบเสมือนคนแบกของขึ้นเขาย่อมต้องออกแรงหนักมากเพื่อเอาชนะแรงโน้มถ่วง แต่ถ้าบนหลังเราเพิ่มก้อนอิฐให้มากขึ้นทีละก้อนๆ
คนแบกก็ต้องออกแรงมากขึ้นทุกทีๆ

เคยเห็นตามไซท์งานที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ในการเชื่อมไม๊แล้วเขาใช้เครื่องปั่นไฟมาเชื่อมไฟฟ้า เวลาที่ลวดเชื่อทำงานเครื่องปั่นไฟจะหมุนแท่ดๆๆ หรือแทบดับเครื่องนั่นล่ะแบบเดียวกัน

ออฟไลน์ -Anonymous-

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,428
  • Catch me if you can !!!
Re: เรื่องกำลังเครื่องยนต์กับระบบไฟฟ้าครับ
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: เมษายน 26, 2012, 14:32:43 »
เกี่ยวเต็มๆ เนื้อๆ เน้นๆ เลยครับเพราะอะไรเรามาดูกัน
ในขณะที่เครื่องยนต์ติดเครื่องจะวิ่งหรือจอดอยู่เฉยๆก็ตามระบบไฟฟ้าในรถทั้งหมดจะได้จากแหล่งพลังงานซึ่งก็คือ
ไดชาร์จ (ภาษาชาวบ้าน) ภาษาวิชาการเรียกว่า Alternator หรือ Generator และตัว Alternator หลักการทำงานสำหรับ
สร้างกระแสไฟฟ้าก็คือ การหมุนขดลวด(rotor) ตัดสนามแม่เหล็ก(stator) แล้วเอาอะไรมาหมุน ก็กำลังเครื่องยนต์ไงครับ
โดยส่งกำลังผ่านสายพานที่มาปั่นพูลเลย์ไดชาร์จ(Alternator) นั่นเอง นั่นคือ Alternator ต้องกินกำลังเครื่องยนต์โดยตรงเพื่อ
มาผลิตไฟฟ้าๆ ที่ได้ก็จะเป็นไฟฟ้ากระแสสลับ ต้องเอามาผ่านวงจร เรคติไฟเออร์ด้วยไดโอดอีกทีให้เป็นไฟฟ้ากระแสตรง ขนาด
๑๒ โวลท์ จึงจะสามารถใช้ในรถได้อีกทีเรียกว่าเป็นการจ่าย  load ทางไฟฟ้านั่นเอง แล้วมันจะกินกำลังเครื่องตอนไหน
  อย่าลืมว่าหลักการๆกำเนิดไฟฟ้าในที่นี้คือ การหมุนขดลวดตัดสนามแม่เหล็ก ในขณะที่เครื่องยนต์กำลังปั่นไฟใช้ในรถนั่นเอง
จะมีแรงเคลื่อนไฟฟ้าเกิดขึ้นมาพร้อมกันอีกทางหนึ่งจากการที่ หมุนขดลวดตัดสนามแม่เหล็กในขณะจ่าย load
ซึ่งเราเรียกมันว่า back EMF (Electro Motive Force) แต่ว่า back EMF ที่เกิดขึ้นนี้จะมีทิศทางการหมุนของสนามแม่เหล็กสวนทาง
กับการหมุนของการผลิตไฟ พูดง่ายๆก็คือเกิดแรงต้านขึ้นของการหมุนเพลาไดชาร์จ และแรงนี้จะมากขึ้นเมื่อใช้ load มากขึ้นนั่นเอง
คือทำให้เครื่องยนต์ใช้แรงมากขึ้นในการหมุนเครื่องกำเนิดไฟฟ้า เครื่องก็กินน้ำมันมากขึ้นเพื่อเอาแรงไปหมุนให้ชนะ back EMF
 กำลังของเครื่องก็ตกลงแทนที่จะเอาไปขับเพลาให้รถวิ่ง ยิ่งโหลดมากขึ้นเท่าไหร่ (ใช้ไฟในรถมากขึ้น) สนามแม่เหล็กที่วิ่งสวนทางก็มากขึ้นทุกที
เปรียบเสมือนคนแบกของขึ้นเขาย่อมต้องออกแรงหนักมากเพื่อเอาชนะแรงโน้มถ่วง แต่ถ้าบนหลังเราเพิ่มก้อนอิฐให้มากขึ้นทีละก้อนๆ
คนแบกก็ต้องออกแรงมากขึ้นทุกทีๆ

เคยเห็นตามไซท์งานที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ในการเชื่อมไม๊แล้วเขาใช้เครื่องปั่นไฟมาเชื่อมไฟฟ้า เวลาที่ลวดเชื่อทำงานเครื่องปั่นไฟจะหมุนแท่ดๆๆ หรือแทบดับเครื่องนั่นล่ะแบบเดียวกัน

โอ้ ชัด ชัดเลยคับ แต่ถ้าเพิ่มการใช้ไฟไม่มากก็ไม่เกี่ยวกับกำลังเครื่องยนต์ใช่มั้ยครับ เช่นเพิ่มled 2-3หลอดไรงี้

ออฟไลน์ NuttanonBJ

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 184
Re: เรื่องกำลังเครื่องยนต์กับระบบไฟฟ้าครับ
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: เมษายน 26, 2012, 14:46:56 »
คุณ Schnitter ทำให้ผมรู้สึกเหมือนนั่งเรียนวิชา เครื่องจักรกลไฟฟ้า เลยนะเนี่ย

ออฟไลน์ Schnitzel

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 176
Re: เรื่องกำลังเครื่องยนต์กับระบบไฟฟ้าครับ
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: เมษายน 26, 2012, 15:14:44 »
ใช่ครับ การเพิ่มหลอดไฟ LED นิดๆหน่อยๆ นับเป็น load ขี้ปะติ๋วมาก

ต้องเป็นอะไรที่กินไฟเยอะๆ เช่น เครื่องเสียงเยอะๆ เพาเวอร์แอมป์บ้าพลังยังกะงานวัดทั้งที่เอาไว้ฟังในรถ

ออฟไลน์ Bier

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 152
    • อีเมล์
Re: เรื่องกำลังเครื่องยนต์กับระบบไฟฟ้าครับ
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: เมษายน 26, 2012, 15:54:54 »
ตามที่คุณ Schnitter บอกถูกต้องเลยครับ ทำให้เปลืองน้ำมันด้วย ยิ่งโหลดเยอะ ยิ่งกินกำลังเครื่อง
ถ้าใช้สายไฟขนาดเล็กไม่พอดีกับกระแสที่ต้องการเพิ่มขึ้น จะทำให้สายไฟร้อนจัดและไหม้เสียหายได้ด้วยครับ  ;D

ออฟไลน์ -Anonymous-

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,428
  • Catch me if you can !!!
Re: เรื่องกำลังเครื่องยนต์กับระบบไฟฟ้าครับ
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: เมษายน 26, 2012, 20:41:33 »
ขอบคุณมากเลยคับทุกคน

ออฟไลน์ R.Chaichomphu

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 49
Re: เรื่องกำลังเครื่องยนต์กับระบบไฟฟ้าครับ
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: เมษายน 28, 2012, 06:52:47 »
ผมว่า ก็น่าจะเหมือน กับ เปิดแอร์ ขับ รถ กับไม่เปิดแอร์ แหละครับ ถ้าเปิดแอร์จะเปลืองน้ำมัน เพราะคอมแอร์ ทำงาน โดยการใช้ เครื่องยนต์มาหมุน เคยเห็น ที่ว่าเค้าทดสอบ การประหยัดน้ำมันก็จะบังคับ ให้เปิดแอร์ตลอดครับ