Review Hyundai Sonata Sport MY 2011 : อยากจะบอกว่า เกาหลีไม่ได้มีดีแค่หมูย่างนะ!

[BlackSpeed]

รีวิวนี้เป็นรีวิวแรกนะครับ กับรถที่ไม่ค่อยเจอกันเท่าไหร่ หรือแทบไม่เจอเลยบนท้องถนน (ฮาทั้งน้ำตา) ฝากติดตามและติชมตามสบายเลยครับ


เริ่มจากคิดจะร่ำลากับ Altis 1.8E ปี 2002 คันเดิมที่ใช้มา 9 ปี ก็เริ่มคิดที่จะซื้อรถที่ใหญ่ขึ้นเนื่องจากการที่ออกต่างจังหวัดบ่อยขึ้น เลยเริ่มมองไปที่ D-Segment ในงบประมาณ 1.5 ล้าน

ซึ่งเจ้าตลาดในขณะนั้นก็จะมี Toyota Camry, Honda Accord, Nissan Teana รวมทั้งเมียงมองไปยังเจ้า Space Wagon อีกตัว เนื่องจากค่อนข้างเอนกประสงค์กว่า แต่จากการที่ลองนั่งแล้ว มันยังอยากที่จะเป็นซีดานอยู่ดี ก็เลยกลับมาที่ตัวเลือกเดิม (อีกอย่างก็คือมันเกินงบไปมากอยู่ ฮา)



ดังนั้นช่วงก่อนมอเตอร์โชว์ 2011 ในตัวเลือกทั้งหมด ข้อมูลก่อนตัดสินใจ คือ Camry จะเปลี่ยนโฉมปี 2012 ส่วน Accord กับ Teana ก็จะตามมาในปี 2013

ในเบื้องต้นก็ได้เรียงตามลำดับ เพื่อไปลองดูของจริงตามโชว์รูมและในมอเตอร์โชว์ 2011 ได้แก่ Camry 2.4G, Camry 2.0G Extremo, Teana 2.0 Sport, Accord 2.0 EL

ทั้งที่ความจริงในใจมันรู้สึกว่ารุ่นเหล่านี้มันช่างดาดดื่นซะเหลือเกิน เพราะทำตลาดกันมานานแล้ว รวมทั้งก็รู้อยู่แก่ใจว่า “เดี๋ยวก็จะตกรุ่นแล้วนะ!” ทำไมไม่มีอะไรใหม่ๆ มั่งหว่า?

แต่แล้ววันต่อมา ระหว่างที่เข้าเว็บ HLM อยู่นั้น ก็ได้เจอ “Exclusive First Impression : Hyundai SONATA Sport : Camry Accord Teana ระวังไว้ เขามาแล้ว!!” ซึ่งปล่อยของโดย พี่ J!MMY ที่น่ารักของเรานั่นเอง ดังนั้น หลังจากอ่านแล้ว ก็เลยไปหาข้อมูลเพิ่มจากเว็บต่างๆทั้งในและนอก รวมทั้งได้ข้อมูลรุ่นนี้จากเพื่อนที่อยู่ออสเตรเลีย ตัวเองก็อยากได้อะไรใหม่ๆ และไม่ได้ยึดแบรนด์อยู่แล้ว รวมทั้งอย่างน้อยบริษัทแม่ของฮุนไดก็เข้ามาเอง

ด้วยรูปโฉมภายนอก ภายใน ความสด และหลังคาแก้ว ดังนั้น Hyundai Sonata Sport 2.0S ในราคา 1.55 ล้าน ก็เลยกลายมาเป็นม้ามืดอันดับ 1 เฉยเลย (อยากจะฮา แต่ ฮาไม่ออก เพราะในที่สุดก็เกินงบอยู่ดี)



หลายคนอาจจะสงสัยว่าแค่นี้เองเหรอที่ทำให้เลือกรถคันนี้มาใช้? รถเกาหลีนะ? ไม่เข็ดเหรอ เมื่อก่อนกับพี่ยนน่ะ? อะไหล่รอเป็นเดือนนะ? บลา บลา บลา....

หลังจากใช้มา 1 ปี กับ 2 หมื่นกว่ากิโลเมตร รีวิวนี้ จะไม่ได้ตอบคำถามเหล่านี้หรอก แต่จะบอกคุณเพียงว่า รถเกาหลีนำเข้าทั้งคันนี้เป็นยังไงบ้างเท่านั้นเอง หุหุ

และที่ไม่เลือกสีขาว เพราะชอบสีดำซึ่งมันดูหรูปนสปอร์ตมากกว่า แม้จะไม่ได้โชว์หลังคาแก้วอย่างชัดเจนก็เถอะ.......

[BlackSpeed]

รายละเอียดรถรุ่นนี้คงหาอ่านได้ในเว็บหรือโบรชัวร์อยู่แล้ว ดังนั้นรีวิวนี้ก็จะพาไปดูแต่ละส่วนของรถคันนี้กันซึ่งจะไม่มีข้อมูลด้านเทคนิคเช่นอัตราบริโภคหรือความเร็วสูงสุดนะครับ

เอาไว้รอดู Full Review จากพี่ J!MMY กันดีกว่า (ซึ่งผมก็ยังรออยู่เหมือนกัน)

เรามาดูไปเรื่อยๆเลยนะครับ อ้อ..เกือบลืม เนื่องจากภาพประกอบจะไม่ได้ถ่ายในครั้งเดียวกันทั้งหมด ก็อาจจะมีบางมุมหรือบรรยากาศที่แตกต่างกันบ้างนะครับ

[BlackSpeed]

เริ่มจากกระจังหน้าโครเมี่ยมแนวนอนอันใหญ่โต แปะทับด้วยโลโก้ H เอียงตัวใหญ่ (ไม่รู้จะใหญ่กันไปไหน)

พร้อมไฟหน้าโปรเจคเตอร์เปิด-ปิดอัตโนมัติ (G=ไฟ HID ปรับระดับอัตโนมัติ) และไฟตัดหมอก










เปิดฝากระโปรงหน้ามาก็จะเจอห้องเครื่องเป็นระเบียบ แน่นดี

เครื่องยนต์ Theta II 2.0 L 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว D-CVVT 165 แรงม้า

ระบบเชื้อเพลิง เบนซิน 91 ขึ้นไป ใช้ Gasohol E10 ได้อย่างเดียว

มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ 6 Speed แบบ Step Gate พร้อมโหมด +/-

[BlackSpeed]

มาต่อกันที่กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว LED สี่ดวง และดวงที่ห้าส่องไปด้านหลังเพื่อเพิ่มความปลอดภัย ปรับและพับด้วยไฟฟ้า โดยพับแบบกระดกขึ้น ซึ่งแม้เราจะไม่ได้เปิดระบบไฟฟ้าหรือติดเครื่องยนต์ ก็ยังสามารถพับกระจกได้





ต่อที่ด้านท้าย ฝากระโปรงมาพร้อมโลโก้ Sport ใต้คำว่า Sonata เพื่อบ่งบอกเอกลักษณ์

ไฟท้าย LED ทรงสปอร์ต หัวใจละลายเมื่อได้เห็นยามค่ำคืน พร้อมทับทิมสะท้อนแสงด้านล่างชายกันชน (G=มีเซ็นเซอร์ช่วยจอด ซึ่งสามารถแสดงที่หน้าจอแสดงผลที่หน้าปัทม์ได้ อันนี้อยากได้มวากก..)







มือจับและรูกุญแจซ่อนอยู่ใต้แถบโครเมี่ยม ฝากระโปรงท้ายสามารถเปิดได้ด้วยรีโมท หรือเพียงพกกุญแจไว้ สามารถกดปุ่มเพื่อเปิดได้โดยไม่ต้องไขกุญแจ

เมื่อเปิดออกมาก็จะพบกับห้องเก็บสัมภาระขนาดใหญ่ขนาด 455 ลิตร ที่ใต้ฝากระโปรงจะมีมือดึงเพื่อไม่ให้มือเลอะเวลารถเขลอะๆ



สังเกตุที่ด้านบนจะเห็นก้านดึงเพื่อพับเบาะหลังได้จากด้านนอกทั้ง 2 ข้าง สะดวกดีทีเดียว รวมทั้งมีสลิงดึงเปิดฝาน้ำมันด้วย





เปิดฝาครอบมาก็จะมาเจอเครื่องมือและยางอะไหล่ Kumho ใช้วิ่งได้ไม่เกิน 80 kph นะจ๊ะ

[BlackSpeed]

สำหรับล้อรุ่นนี้จะเป็นล้ออัลลอยด์ 17” (G = 18”) รัดด้วยยาง Hankook Optimo 215/55/R17 เป็นยางที่นุ่ม เงียบดีนะ แต่รู้สึกว่าในความเร็วสูงจะร่อนไปหน่อย รอให้ถึงระยะเปลี่ยนก็คงจะไปใช้ที่หนึบกว่านี้

สำหรับช่วงล่างคันนี้ ตามข้อมูลด้านหน้าเป็นแมคเฟอร์สันสตรัท ด้านหลังเป็นมัลติลิงค์ ระบบดิสก์เบรกพร้อมครีบระบายความร้อนทั้ง 4 ล้อ พร้อม ABS และระบบกระจายแรงเบรก

มีโช้คอัพแบบ A.S.D. ซึ่งจะปรับระดับตามการขับขี่ (G=เพิ่มระบบควบคุมการทรงตัวและระบบช่วยขึ้นทางลาดชัน)

ไม่มีบังโคลนล้อมาให้ มีเฉพาะรุ่น G ซึ่งซื้อที่ศูนย์มาติดเองได้ ข้างละ 199 บาท



กุญแจรุ่นนี้เป็นแบบ Smart Entry พกไว้แล้วก็กดปุ่มดำๆที่ประตูก็จะล็อคและปลดล็อคให้อย่างง่ายดาย

ซึ่งที่ตัวรีโมทจะมีปุ่มล็อค-ปลดล็อค-เปิดกระโปรงหลัง (โดยกดค้าง 2-3 วินาที) มาให้ และมีตัวกุญแจซ่อนอยู่ด้านใน

กรณีแบตเตอรี่อ่อน สามารถเสียบ charge ไฟได้ที่คอนโซลกลางใต้ที่ท้าวแขน



ประตูเปิดได้กว้าง เข้า-ออกสะดวกทั้งหน้าและหลัง แต่รู้สึกน้ำหนักของการเปิดประตูแต่ละจังหวะจะหนักไปหน่อย เวลาเปิดออกไปไม่สุดจะดีดกลับค่อนข้างแรง

และเมื่อเปิดประตูเข้ามาก็จะเจอกับภายในโทนสีเบจตัดกับสีดำ (G = สีดำล้วน) พร้อมไฟส่องพื้นสีแดงสไตล์สปอร์ต

[BlackSpeed]

เข้ามาด้านใน จะได้บรรยากาศแบบสปอร์ต แต่รู้สึกว่าจะแอบติดหรูด้วยพลาสติกสีดำเงาที่ครอบเกียร์ ช่องแอร์ แล้วก็วิ่งยาวไปที่แผงประตู แต่อยากได้สีไฟคอนโซลเป็นสีแดงแบบออดี้จัง

ส่วนอุปกรณ์ความปลอดภัยจะมีเพียงถุงลมนิรภัยคู่หน้าเท่านั้นนะครับ ใจจริงคิดว่าน่าจะมีมากกว่านี้นะ แต่ก็ไม่อยากใช้หรอก ฮา



มาดูที่พวงมาลัแบบสปอร์ตหุ้มหนังสีดำ มีโลโก้ฮุนไดตรงกลางพร้อมถุงลม เป็นแบบมัลติฟังก์ชั่นพร้อม Paddle Shift (G=เพิ่ม Cruise Control)



ฝั่งขวาเป็นปุ่ม Trip เพื่อเลือกการแสดงข้อมูลของการขับขี่ เช่น ระยะทางที่วิ่ง, เวลาที่ใช้ไป, อัตราสิ้นเปลือง, ระยะทางที่วิ่งได้จากน้ำมันที่เหลือในถัง, ECO Mode ซึ่งจะแสดงตรงกลางหน้าปัทม์ ปุ่ม Reset จะเป็นการ Set 0 ข้อมูลแต่ละทริป เช่น เวลาที่ใช้, ระยะทาง หรืออัตราสิ้นเปลือง ส่วนปุ่ม Mute เป็นการปิดเสียงวิทยุ และก้านด้านหลังจะเป็นก้านปิด-เปิดไฟหน้า, ไฟเลี้ยว, และไฟตัดหมอก



ฝั่งซ้ายเป็นปุ่มควบคุมเครื่องเสียง ได้แก่ ปุ่มปรับเสียง ปุ่มเลื่อน Track หรือสถานี และปุ่มเปลี่ยนโหมด ซึ่งจะมี FM1, FM2, AM, CD, AUX

[BlackSpeed]

มาดูที่แผงหน้าปัทม์กันต่อ จะเป็นแบบ 2 วง ครอบด้วยกระบอกมีติดหรูด้วยขอบโครเมี่ยม (หน้าตาคล้ายๆ Wall E เลย ฮา)

ด้านซ้ายเป็นวัดรอบ และมีวัดอุณหภูมิเครื่องครอบจอแสดงสถานะการเปิด-ปิดประตูอยู่ตรงกลาง

ส่วนด้านขวาเป็นเข็มไมล์และมีจอแสดงปริมาณเชื้อเพลิงครอบอยู่บนจอบอกตำแหน่งเกียร์อยู่ตรงกลาง

มีจอแสดงข้อมูลและไฟบอกสถานะกลางระหว่างวงกลมทั้ง 2 จะเห็นว่าในวงกลมทั้งสองจะมีเส้นรอบซึ่งก็เป็นสีน้ำเงินอีกแล้วอ่ะ

สิ่งที่จะบอกอีกอย่าง คือ เวลาเปิดสวิตซ์ รถสปอร์ตเข็มเค้าจะกวาด แต่คันนี้เข็มจะนิ่ง แต่ที่จอดิจิตอลแสดงอุณหภูมิกับจอแสดงปริมาณเชื้อเพลิงจะกวาดแทน (อยากได้เข็มกวาดมากกว่า D-Max ยังกวาดเลย “-_-)



ต่อมาก็คือปุ่ม Push Start (นั่น มีขอบโครเมี่ยมอีกแล้ว) เพียงแค่พกกุญแจ เหยียบเบรคแล้วก็กด อ้อ เกียร์ต้องอยู่ที่ P หรือ N เท่านั้นนะ

[BlackSpeed]

มาดูที่คอนโซลกลางกันมั่ง ไล่จากข้างบนก็จะเจอพระเครื่อง เอ๊ย! อันนี้ไม่เกี่ยว เกาหลีไม่มี!

เอาใหม่ๆ เริ่มที่นาฬิกาและจอแสดงอุณหภูมิภายนอก ต่อมาก็เป็นช่องใส่ CD, MP3 แบบ 1 แผ่น มาพร้อมลำโพง 6 ตัว (G=6 แผ่น หน้าตาเครื่องเสียงไม่เหมือนกันนะ แถมมีลำโพง 7 จุดรวมซับวูฟเฟอร์และแอมปลิฟลายเออร์ภายนอกอีกด้วย) ซึ่งเสียงดีใช้ได้เลยทีเดียว ซึ่งต้องลองมาฟังกันดู

ต่อลงมาก็เป็นชุดคอนโทรลแอร์ ซึ่งเป็นระบบแมนวล ไม่แยกซ้าย-ขวา พร้อมปุ่มควบคุมการผายลม เอ๊ย! ปล่อยลมรูปคนนั่ง แอบคล้ายวอลโว่มะ (G=แอร์ควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ)



ถัดลงมาเป็นเก๊ะเก็บของขนาดจุมากทีเดียว กดปุ่มสีดำยาวๆ ด้านหน้าก็จะเปิดลงมาแบบไม่ค่อยนิ่มนวลเท่าไหร่ อันนี้ไม่ค่อยชอบ มันดู Hardcore เกินไป



ลงมาเรื่อยๆจะถึงจุดสำคัญของเครื่องเสียงที่ชอบมาก คือช่องเสียบ AUX ซึ่งเสียบทั้ง USB ทั่วไป และที่สำคัญคือ มีสายต่อ iPOD, iPhone มาให้ด้วย ทำให้สามารถคอนโทรลจากเครื่องเล่นหรือที่พวงมาลัยได้เลย เคยเอา M10 ต่อสาย USB ก็ยังคอนโทรลได้เหมือนกัน สะดวกดี อ้อ และมาพร้อมที่เสียบไฟให้ 2 ช่องด้วยนะ

[NONT4477]

ตามอ่านมาตั้งแต่ต้นเลย ยังไม่จบใช่ไหมครับ
รถสวยมากรุ่นนี้ เมืองไทยเป็นของหายากไปเลย
ที่เกาหลีนั้นนิยมกันสุดๆ
แต่ตัว Top ราคาตั้ง1.8ล้าน น่าจะเป็นเครื่อง2.4-2.5ซะหน่อย
 รีวิวได้ดีเลยครับขนาดครั้งแรกนะเนี่ย

[sundown55]

ตั้งแต่เปิดตัวมาเพิ่งจะเห็น sonata รุ่นนี้สีขาว บนถนน แค่1 คันเอง ไม่โหล ดีครับ   ขอบคุณครับสำหรับรีวิวงามๆ

[chaiz]

ชอบมากเลยครับรุ่นนี้ รีวิวละเอียดดีครับ จะรออ่านต่อไป

ขับตาม sonata sport ตอนกลางคืนทีไร โดนไฟท้ายสะกดทุกที สวยมาก

[nudragon]

เวลาผมเห็นรถคันนี้จะสะกิดให้แฟนดูตลอดเลยรถอะไร สวยเซ็กซี่ มากๆๆ
เรื่องศูนย์บริการก็ดีใช้ได้เลยเดี่ยวนี้  

[BlackSpeed]

ขอบคุณกำลังใจนะครับ ตอนนี้ต้องประชุมก่อน เดี๋ยวเย็นๆ มาต่อนะครับ เหลืออีกเยอะ 

[osment]

รีวิวดีมากเลยครับ ภาพสวยมากๆ ไม่ทราบว่าใช้กล้องอะไรเหรอครับ 

[KAKASHII]

ไม่โดนใจ console ภายในจริง   

เกาหลีออกแบบภายในไม่ค่อยสวยแหะ ดูมันไม่ลงตัวเท่าไร

[time traveler]

อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลย






รถท่านมันส์สสสสสสมาก  อิอิ หมายถึงเงาแวววาวสวยมากครับ ล้างเคลือบเองหรือไม่ครับ   ดูดีและถ่ายรูปสวยมากครับ   

[BlackSpeed]

ต่อๆ ฮึดอีกเฮือกนึง....


ไล่ออกมาก็จะเป็นบริเวณคันเกียร์แบบ Step Gate สวยงามทีเดียว ด้านข้างก็จะมีช่องใส่กุญแจรีโมทแล้วก็ช่องวางแก้ว 2 ช่อง และช่องยาวๆไว้ใส่ลูกอม



มาดูที่ท้าวแขน ในที่นี้จะไม่ใช่สีดำนะครับ จะเป็นสีม่วงเข้ม ซึ่งถูกใจชาวสีม่วงเชียวหล่ะ ซึ่งจะเปิดได้ 2 สเตป ค่อนข้างจุทีเดียว

[BlackSpeed]

ต่อมาก็จะมาดูที่เก๊ะเก็บของฝั่งผู้โดยสาร ถือว่าพอประมาณ ไม่จุมากเท่าไหร่ แบบนี้คุณผู้หญิงไม่ค่อยปลื้ม อย่างน้อยก็มีไฟส่องภายในพร้อมด้วยกุญแจล็อคด้านนอกด้วย



ถัดลงมาด้านข้างใกล้ที่วางเท้า ชดเชยด้วยช่องใส่ของแคบๆ ประมาณใส่พ็อคเก็ตบุ้คได้



แหงนดูข้างบนจะเจอกับแผงบังแดดพร้อมกระจกและไฟแต่งหน้ามีให้ทั้ง 2 ฝั่ง



ส่วนตรงกลางก็จะเป็นกระจกมองหลัง ตัดแสงอัตโนมือ (G=อัตโนมัติ) พร้อมไฟอ่านแผนที่, กล่องใส่แว่นตา แล้วก็ปุ่มเปิด-ปิดหลังคา ซึ่งเดี๋ยวเราค่อยมาดูกัน

[BlackSpeed]

มาดูเบาะนั่งฝั่งคนขับมั่ง เป็นเบาะผ้าโอบข้างด้วยหนังสีเบจ ปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง (G=เบาะหนังล้วนสีดำ ปรับไฟฟ้ามีระบบจดจำได้ 2 ตำแหน่ง) พนักพิงโอบกระชับแผ่นหลังกำลังดี ส่วนเบาะนั่งผมว่าสั้นไปนิดนึงจริงๆ





ฝั่งผู้โดยสารด้านหน้าจะเป็นแบบปรับมือนะจ๊ะสาวๆ (G=ปรับไฟฟ้า)



แผงประตูฝั่งคนขับจะเป็นปุ่มมาตรฐานไม่มีคำบรรยาย แต่ขอบอกว่าเลื่อนกระจกออโต้แค่บานเดียวนะ แต่ก็ยังดีที่มีระบบ Jam Protection มาให้

ส่วนต่ำมาอีกนิดก็จะเจอแผงลำโพง ซึ่งจัดวางได้เข้ารูปดีแท้ พร้อมกับข้างๆจะมีปุ่มเปิดฝาถังน้ำมันและก้านดึงเปิดฝาท้าย อ้อ ลืมบอก ถังน้ำมันมีความจุ 70 ลิตรครับ

[BlackSpeed]

ล็อตสุดท้าย มาดูหลังคาแก้ว พาโนรามิค กลาสรูฟ กันบ้าง เวลาเปิดก็จะมี 3 แบบ แบบแรกคือเปิดม่านหลังคาภายในอย่างเดียว ทีนี้ก็นอนดูดาว มองสายฝนตกใส่หลังคาดัง เปาะ แปะๆ กันได้เลย



แบบต่อมาคือ แบบที่ 2 จะคล้ายแบบแรก แตกต่างเพียงแค่กระดกปลายบานหน้าขึ้นเล็กน้อย เผยอออกเล็กๆพอน่ารักอ่ะ (อ่านตามและทำเสียงแหลๆ นิดนึง)

[BlackSpeed]

และแบบที่ 3 คือแบบเปิดกระจก แบบนี้กระจกชุดหน้าจะยกตัวขึ้นมาซ้อนบนกระจกชุดหลัง แบบนี้จะทำให้ฝนที่ตกเมื่อตะกี้ ลงมาใส่รถเต็มๆ อันจะทำให้เราเปียกและเป็นหวัดนะจ๊ะ

[BlackSpeed]

จบแล้วครับสำหรับ Hyundai Sonata Sport 2.0S MY’11 คันนี้ ซึ่งสรุปคร่าวๆ

  ข้อดี คือ
รูปทรงและหลังคาแก้ว ช่วงล่างหนึบ ทำให้มีความมั่นคงขณะใช้ความเร็วสูงและเวลาโค้ง (คิดว่าถ้าเปลี่ยนยางจะดีกว่านี้อีก)
การเก็บเสียงในห้องโดยสารดีมากทีเดียว แถมห้องโดยสารกว้างและมีช่วงวางเท้ามากแบบสบายๆเลย
เครื่องเสียงไพเราะ เสียงดีใช้ได้ แม้พี่แหลมจะหลบๆไปบ้าง พอปรับเรียกมาก็แจ่มเลย แถมยังมีสายต่อเพื่อเล่น iPOD, iPhone ได้เลย
ส่วนข้อดีซึ่งอันนี้เป็นความรู้สึกส่วนตัวคือ เวลาเข้าโค้งแรงๆ รู้สึกว่ามันส์มาก

  ข้อติ คือ
ข้อแรกเลยคือ ราคาแพงเนื่องจากนำเข้าทั้งคัน (ไม่รู้อ้างได้มั๊ย?)
ต่อมาเครื่องกับเกียร์อัตโนมัติไม่ค่อยเหมาะกับรูปทรงสปอร์ตของรถเท่าไหร่ แม้จะม้าเยอะและมี 6 เกียร์ก็ตาม โดยจะเป็นลักษณะ ออกตัวเรื่อยๆ ช่วงกลางซัก 80 – 140 ขับมันส์พอฟัดได้ แต่พอปลายๆ จะขึ้นช้า ดังนั้น ใครจะแซงเราในช่วงนี้ก็ปล่อยเค้าไปเถอะ
แต่ถ้าขับด้วยโหมดสปอร์ตจะดีขึ้นมาก แต่จะกินน้ำมันมากขึ้น
เบาะนั่งสั้นไปนิดนึงนะตะเอง แต่โอบกระชับดี

สรุป เกาหลีไม่ได้มีดีแค่หมูย่างจริงๆ ถ้าขับเรื่อยๆ 120 สบายๆ นุ่มๆ หล่อๆ แต่ถ้าจะขับมันส์ๆ มุดๆ ต้องโหมดสปอร์ตเท่านั้น และถ้าไม่อิงค่าย ไม่สนราคาขายต่อ (ซึ่งไม่รู้จะเป็นยังไง) ก็น่าสนใจทีเดียว ต้องหาลองเอง แต่ถ้ายังออกจากปัจจัยข้างต้นไม่ได้ คงต้องมอง 3 เจ้าตลาดกันต่อไป

แถมอัตราสิ้นเปลืองนิดหน่อย อัตราสิ้นเปลืองที่จับเอง นอกเมือง 110 เปิดแอร์ ประมาณ 14 กม/ลิตร ถ้าเกิน 120 ประมาณ 12 - 13 กม/ลิตร ในเมือง 10 กม/ลิตร อันนี้ส่วนตัวโดยไม่ได้มีหลักการอะไรมากนะครับ

เร็วๆนี้ถ้ามีโอกาสได้จับคัมรี่ใหม่ตัวจริง จะเอามาเปรียบมวยกันดูครับ...............สวัสดี

[Ko Love Lexus]

ขอบคุณมากครับ รถสวยดี แต่ไม่ชอบลายเบาะและที่วางแขนข้างหลังเพราะมันลงไปกองที่เบาะเลย(ความคิดผมนะ)

[Eddy5659]

รถสวยมากครับ แถวบ้านผม (ซอยสารพัดช่าง ชลบุรี) มีสองคัน ดำ ขาว
ไปซื้อของที่ตลาดไก่เขียงหมูแล้วเจอเมื่อใหร่ รถผมจึดสนิทเลยทีเดียว

[GreenG]

ขอบคุณครับ 

[WinniE]

ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ รถสวยเงามากเลยครับ
น่าเสียดายที่คนไม่ค่อยซื้อเพราะ...
- มันเป็น Hyundai,รถเกาหลี ซึ่งคนส่วนใหญ่ที่จะซื้อรถระดับนี้ยังคงจำภาพลักษณ์สมัยพระนคร...อยู่ว่าเป็นรถราคาถูก คุณภาพไม่ดี ทิ้งลูกค้า บลาๆ ทั้งๆที่ไม่เคยสัมผัส Hyundai ยุคใหม่เลย
- เครื่องเล็กไปหน่อยเมื่อเทียบกับราคา เพราะเท่าที่ดูจากคลิปของพี่จิมมี่แล้ว ถึงแรงม้ากับสปีดเกียร์เยอะกว่าคู่แข่ง แต่อัตราเร่งกลับด้อยกว่าซะงั้น ผมว่าน่าจะเอาเครื่อง 2.4 มาดีกว่า(แต่ถ้า Hyundai ใจป้ำก็ขอเป็น 2.0 Turbo นะคร้าบ )
- อุปกรณืที่ให้มา ถึงแม้จะมีสิ่งที่คู่แข่งไม่มีเอย่างเช่น Panoramic Glassroof หรือรูปทรงที่ทำเอาคู่แข่งจืดไปเลย แต่กลับไม่มีในสิ่งที่คู่แข่งมีเช่นแอร์ออโต้แบบแยกฝั่ง ม่านนิรภัย ถุงลมด้านข้าง(รุ่น 2.0 G) เบาะหนัง แอร์ออโต้(รุ่น 2.0 S)
- ราคาแพงกว่ายี่ห้ออื่น ถึงแม้จะบอกว่ามันนำเข้าก็เถอะ แต่จะมีซักกี่คนที่ยอมจ่ายแพงกว่าเพื่อรถนำเข้าที่อ๊อฟชั่นและเครื่องด้อยกว่ายี่ห้ออื่นในระดับเดียวกัน
- ศูนย์บริการที่ยังน้อยอยู่ แต่ในอนาคตคงจะครอบคลุมมากขึ้น

ปล. ส่วนตัวแล้วผมชอบเพื่อนร่วม Platform (Kia K5) มากกว่า โดยเฉพาะมาตรวัดครับ

[FyGI]

กิมจิ มาติดๆ กัน 2 คันเลยทีเดียว


รถ จขกท เงามาก

[Tan Int]

นี่ละครับ ซีดานขนาดกลางที่ผมชอบมาก(เกือบ)ที่สุด ถ้าไม่ติดที่ Camry Hybrid ดูเฉียบคมละนะ
ผมเคยเจอ Sonata Sport แค่ 3 คันเอง แต่สีขาวทั้งนั้นเลย....

ยังไงก็ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ 

[wic3350]

รถสวยมากครับ ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ

[BlackSpeed]

ขอบคุณมากครับ รถสวยดี แต่ไม่ชอบลายเบาะและที่วางแขนข้างหลังเพราะมันลงไปกองที่เบาะเลย(ความคิดผมนะ)

คิดเหมือนกันเลย 

ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ รถสวยเงามากเลยครับ
น่าเสียดายที่คนไม่ค่อยซื้อเพราะ...
- มันเป็น Hyundai,รถเกาหลี ซึ่งคนส่วนใหญ่ที่จะซื้อรถระดับนี้ยังคงจำภาพลักษณ์สมัยพระนคร...อยู่ว่าเป็นรถราคาถูก คุณภาพไม่ดี ทิ้งลูกค้า บลาๆ ทั้งๆที่ไม่เคยสัมผัส Hyundai ยุคใหม่เลย
- เครื่องเล็กไปหน่อยเมื่อเทียบกับราคา เพราะเท่าที่ดูจากคลิปของพี่จิมมี่แล้ว ถึงแรงม้ากับสปีดเกียร์เยอะกว่าคู่แข่ง แต่อัตราเร่งกลับด้อยกว่าซะงั้น ผมว่าน่าจะเอาเครื่อง 2.4 มาดีกว่า(แต่ถ้า Hyundai ใจป้ำก็ขอเป็น 2.0 Turbo นะคร้าบ )
- อุปกรณืที่ให้มา ถึงแม้จะมีสิ่งที่คู่แข่งไม่มีเอย่างเช่น Panoramic Glassroof หรือรูปทรงที่ทำเอาคู่แข่งจืดไปเลย แต่กลับไม่มีในสิ่งที่คู่แข่งมีเช่นแอร์ออโต้แบบแยกฝั่ง ม่านนิรภัย ถุงลมด้านข้าง(รุ่น 2.0 G) เบาะหนัง แอร์ออโต้(รุ่น 2.0 S)
- ราคาแพงกว่ายี่ห้ออื่น ถึงแม้จะบอกว่ามันนำเข้าก็เถอะ แต่จะมีซักกี่คนที่ยอมจ่ายแพงกว่าเพื่อรถนำเข้าที่อ๊อฟชั่นและเครื่องด้อยกว่ายี่ห้ออื่นในระดับเดียวกัน
- ศูนย์บริการที่ยังน้อยอยู่ แต่ในอนาคตคงจะครอบคลุมมากขึ้น

ปล. ส่วนตัวแล้วผมชอบเพื่อนร่วม Platform (Kia K5) มากกว่า โดยเฉพาะมาตรวัดครับ

นั่นล่ะครับเป็นเหตุผลที่หลายคนไม่ซื้อ แต่เรื่องศูนย์บริการผมว่าใช้ได้เลยทีเดียว ทั้งการนัดหมายและการบริการ