++++REVIEW CHEVY COLORADO 2.8 4X4 LTZ Z71 6AT SUV ในคราบรถกระบะ++++

[k_newlife]

สวัสดีเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ชาว HLM ทุกท่านครับ

วันนี้ผมจะพามาดูว่า

Chevy  Colorado กระบะจากประสบการณ์ 100 ปี ของ GM มีดีแค่ไหนมาดูกัน

[k_newlife]

เนื่องจากที่บ้าน ต้องการรถกระบะ สี่ประตู ขับสี่ เกียร์ออโต้  รุ่นท็อป เพื่อไว้ใช้สำหรับการเข้าสวนยาง และ วิ่งขึ้นลง  กรุงเทพ-เขาค้อ แทบทุกสัปดาห์  ตัวเลือกกระบะ รุ่นใหม่ทั้งหมด ก็มี
-isuzu 
-ford
-chevy
-mazda
ตอนแรกไม่ได้คิดไรมาก เลยเล่น แบรนด์ตลาดไว้ก่อน ก็ไปจอง v-cross ไว้ แต่เซลล์เลื่อนส่งรถ แถมยังคิดไม่ซื่อ ก็เลยถอนจองซะเลยจะดีกว่า

[k_newlife]

หลังจากนั้นจึงได้ลอง ไปเดินดูรถในงานมอร์เตอร์โชว์  ดูตั้งแต่ ford mazda chevy


     Ford wildtrack 3.2  รูปทรงสวย ดุดัน แต่ดูขาดความหรูหราไปนิดเนื่องด้วย กระจังหน้า กระจกข้าง มือจับ เป็นสีดำ
เมทัลลิก หมดเลย  ภายใน ลองนั่งแล้วรู้สึกว่าอึดอัดไปนะ คือจริงๆรถตัวโตขนาดนั้นแต่ทำไมภายในนั่งแล้วดูอึดอัดพิกล 
จุดตัดสินใจ คือหลังจากที่ได้ไปลองขับ คือช่วงล่าง ไม่รู้ว่าจะกระเทือนไปไหน  ต่อให้ความเร็วสูงจะเกาะแค่ไหน
แต่ช่วงคลานๆแล้ว กระเทือนขนาดนี้ ก็ไม่ไหวนะ  เลยตัด ford ออกไป   


     Mazda 3.2 4x4  รถดีทุกอย่าง ช่วงล่างดี  พวงมาลัยคม   เครื่องแรง  แต่รับไม่ได้เรื่องรูปทรงจริงๆ
พยายามจะมองให้มันสวยแต่ก็ไม่ไหวจริงๆ
   
     
     Chevy  2.8 Ltz 4x4 รูปทรงภายนอกสวยงาม ดูหรูหรา  มองครึ่งคันหน้าให้ความรู้สึกเหมือน suv มากกว่า กระบะ
เห็นแล้วใช่เลย  ภายในนั่งแล้วรู้สึกโปรงโล่งกว่า ford พอสมควร  ลองขับคร่าวๆที่งานเสร็จ จองทันที

[k_newlife]

ขนาดและรูปลักษณ์ภายนอก

Colorado รุ่นนี้  
มีความ ยาวxกว้างxสูง
อยู่ที่  5347 x 1882 x 1790  mm

ซึ่งหากมองดูจากสายตาแล้วจะเห็นได้ชัดว่า มีความใหญ่โตกว่ากระบะยุคก่อนๆอย่างเห็นได้ชัด  
โดยเฉพาะความกว้าง ไม่รู้จะกว้างไปไหน

[k_newlife]

กระจังหน้าของรุ่นนี้ใช้แนวทางการออกแบบยุคใหม่ของ chevy 
สังเกตุได้จาก cruze  captiva  หรือแม้กระทั่ง sonic ที่กำลังจะเปิดตัวในปลายปีนี้ด้วย 

ไฟหน้าของ colorado ถ้าเป็นรุ่น Top LTZ จะได้โคมแบบ โปรเจคเตอร์
แต่ถ้าเป็นรุ่นกลาง LT จะได้โคมจานฉายแบบมัลติรีเฟล็กเตอร์   

อ้อแล้วไฟตัดหมอก ก็ยังเป็นโคมแบบโปรเจคเตอร์ด้วย ซึ่งน่าจะลดการแยงตาเพื่อนร่วมทางไปได้พอสมควร

[k_newlife]

รูปไฟตัดหมอกแบบ projector ครับ

เดี่ยวมาโพสต์ต่อนะครับขอตัวไปกินข้าวก่อน ^^

[teaykung31]

รถเก๋งคันละ 1.7 M ยังไม่ได้ projector 2 ตัวเลยนี้ได้ทั้งตัดหมอก กับไฟธรรมดา  จะเท่ไปไหน

[k_newlife]

กระจกมองข้างเป็นแบบโครเมี่ยม พร้อมไฟเลี้ยวแบบ LED 
มือจับประตู ก็ขลิบโครเมี่ยมมาให้ด้วย   
และที่ชอบเป็นพิเศษคือ มีกาบข้างสีดำตรงชายล่างมาให้ด้วย   
ขอบกระบะหลังด้านบน มีสติกเกอร์บอกรุ่น คือ Z71 4x4

หลายคนอาจจะงงว่า Z71 คืออะไร 
เท่าที่ผมรู้ก็คือรถกระบะของ chevy ทุกรุ่น
ถ้าเป็นรุ่นยกสูงหรือขับสี่ ไม่ว่าจะที่เมืองไทย หรือ อเมริกา จะเรียกว่า Z71 ครับ

[k_newlife]

รุ่น LTZ 4X4 จะได้ราวแร็ค เพิ่มมาด้วย

[k_newlife]

และจะได้ล้อ อัลลอย ลายสวย ขนาด 17นิ้ว พร้อมยางขนาด 255 65 r17

[k_newlife]

ภายใน และอุปกรณ์ อำนวยความสะดวก
คอนโซลหน้า ดีไซน์ได้ทันสมัย และดูล้ำยุคดี  
ระบบปรับอากาศเป็นแบบอัติโนมัติ มีHeater มาให้ด้วย
เครื่องเสียง เป็นวิทยุ cd mp3 เล่นได้ 1 แผ่น
สามารถต่อเชื่อม usb และ bluetooth จากโทรศัพท์ได้  

ซึ่งจากที่ได้ลองฟังเสียง ก็ต้องถือว่าใช้ได้เลยทีเดียว ฟังได้ชิวๆ
ไม่ต้องไปเสียเงินเปลี่ยนให้เปลือง เหนือวิทยุขึ้นไปก็จะมี ช่องเก็บของพร้อมฝาปิดมาให้

พวงมาลัยจะเป็นแบบ มัลติฟังก์ชั่น ด้านซ้ายจะเป็นสวิทควบคุมเครื่องเสียงและรับโทรศัพท์
ทางด้ายขวาจะเป็น  ปุ่มควบคุมระบบ ครุยส์คอนโทรล

[k_newlife]

เรือนไมล์ได้รับแนวทางการออกแบบจาก chevrolet camaro
ถามว่าดูสวยงามมั้ย สวยครับ ดูย้อนยุคแบบทันสมัย 

แต่มีข้อเสียคือการจัดเรียงตัวเลข
ซึ่งจะโค้งไปตามเรือนไมล์ทำให้อ่านค่าความเร็วได้ยากและดูลายตา
ถ้าจะเหลือบตามองนิดๆแบบรถอื่นๆนั้นก็จะมองได้ลำบากอยู่พอสมควร

ยังดีที่หน้าจอแสดงผลกลางสามารถแสดงผลบอกความเร็วเป็นตัวเลขแบบดิจิตอล 
ซึ่งจอแสดงผลกลางนี้สามารถแสดงข้อมูลได้หลายอย่างมาก ซึ่งเดี่ยวจะค่อยๆบอกไปในหัวข้อถัดไป

[k_newlife]

ทีนี้เรามาดูกันว่า จอแสดงผลนั้นสามารถแสดงค่าอะไรให้เราดูได้บ้าง

โดยจอจะสามารถเลือกดูเมนูได้สอง เมนูหลักคือ
 vehicle menu กับ trip fuel menu

เรามาเริ่มกันที่ trip fuel menu กันก่อน ว่าแสดงอะไรได้บ้างตามภาพเลยครับ

[k_newlife]

ต่อครับ

[k_newlife]

ต่อครับ

[k_newlife]

ต่อไปเรามาดู ในส่วนของ vehicle menu กันครับ

[k_newlife]

สองเมนูสุดท้าย

[k_newlife]

เบาะนั่งคู่หน้านั้น  ดีไซน์รูปทรงได้สวยงาม 
แทบจะถอดแบบมาจากตัวรถต้นแบบเลยก็ว่าได้ 
ซึ่งทางเชฟเองก็เคลมว่าออกแบบเบาะนั่งโดยยึดจากสรีระของคนไทยเป็นหลัก

ซึ่งจากที่ผมได้นั่งดูก็สบายตัวพอสมควรโดยเฉพาะเบาะรองหลัง
รองรับแผ่นหลังได้เต็มแผ่นหลังดีมากๆ หมอนรองหัวก็ดีไซน์ได้ดี
ดีไซน์ได้เป็นหมอนรองหัวจริงๆ ไม่ใช่เป็นหมอนดันหัว
พิงแล้วไม่ปวดต้นคอ

ส่วนเบาะรองนั่งรู้สึกว่าส่วนรองนั่งสั้นไปนิดเดียว นิดเดียวจริงๆ 
อ้อ เบาะด้านคนขับนั้น สามรถปรับได้ด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง
ซึ่งโดยรวมๆถือดีกว่ากระบะยุคก่อนๆเยอะมากๆ   

[k_newlife]

ด้านเบาะนั่งด้านหลังนั้น  ก็ออกแบบได้น่านั่งกว่ารถกระบะยุคก่อนๆ ขึ้นเยอะ
พนักพิงไม่ตั้งชันเหมือนกระบะยุคก่อนๆแล้ว  นั่งพิงได้สบายมาก
โดยเฉพาะส่วนรองสโพก รองรับได้ดีมากๆ แต่ถ้าจะให้สบายขึ้นอีกนิด
ขอส่วนพิงหลังช่วงบนหนานุ่มกว่านี้อีกสักนิดก็จะดีมากๆครับ 

อ้อ รุ่นนี้สามารถดึงตรงกลางมาเป็นที่เท้าแขนได้อีกด้วย
เพิ่มความสบายได้อีกเยอะพอสมควร  ส่วนเบาะรองนั่งด้านหลังนั้น
คล้ายๆกับด้านหน้าก็คือส่วนรองนั่งสั้นไปนิด นิดเดียวจริงๆ  (ตัวผมสูง 175 ) 
แต่ก็อย่างว่าถ้าเพิ่มส่วนรองนั่งเข้าไปก็จะไปเสียพื้นที่ตรงที่วางขา ไปอีก
เพราะฉนั้นก็ต้อง บาลานซ์กันไปในแต่ละเรื่อง ซึ่งโดยรวมๆ ก็ถือว่าออกแบบได้ขนาดนี้ก็ดีมากๆแล้ว 
ส่วนพื้นที่เหนือศรีษะด้านหลังนั้นสบายหายห่วงครับ ผมสูง 175 ยังเหลือที่อีกเกือบๆ 1 ฝ่ามือ

[k_newlife]

ช่วงล่างของ colorado รุ่นนี้ได้มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงหลายๆอย่าง
เพื่อการขับขี่ที่ดีขึ้นโดยช่วงล่างด้านหน้านั้น
ได้เปลี่ยนจาก ทอร์ชั่นบาร์ โช้คอัพ มาเป็นสตรัท คอยล์สปริง 
ส่งผลให้ความรู้สึกในการควบคุมบังคับรถนั้น นุ่มแน่นหนึบขึ้นกว่าสมัยก่อนที่เป็น
ทอร์ชั่นบาร์อยู่พอสมควร ซึ่งตอนที่เป็นทอร์ชั่นบาร์นั้น
ทั้งเชฟและ ดีแม็ก ก็โดนว่าในเรื่องช่วงล่างว่านุ่มแบบย้วยๆ
ซึ่งถ้าเป็นรุ่นปัจจุบันนั้นอาการ โยนๆย้วยๆในรุ่นเดิมนั้นหายสนิทแล้วครับ 


ส่วนช่วงล่างด้านหลังนั้น ได้ปรับเปลี่ยนจาก
เอาแหนบไว้ใต้เพลา มาเป็นแหนบเหนือเพลาแล้ว
ส่งผลให้ได้ความสูงเพิ่มขึ้นมาอีกพอสมควร 
โช้คอัพจากรุ่นเดิมที่เอามายันไว้ทางด้านหลังหมดก็ได้เปลี่ยนกลับมาเป็นไขว้แทยงกันแล้ว
ซึ่งจุดนี้จะแตกต่าง กับ ดีแม็ก รุ่นใหม่หมด ซึ่งยังติดตั้งโช้คอัพในรูปแบบเดิมคือยันไปทางด้านหลังทางเดียวกันหมด

[k_newlife]

ความรู้สึกที่ได้สัมผัสช่วงล่างของ colorado ตัวนี้นั้น
 เป็นช่วงล่างที่ให้ฟีล ว่าเหมือนเรากำลังขับรถหนักๆ แน่นๆคันนึงอยู่
คือไม่ใช่ฟีลคล่องเหมือนขับรถเก๋ง แบบที่ bt50 เป็น เพราะเจ้าตัวนี้ไม่ใช่ 
และช่วงล่างก็ไม่ได้ตึงตังขนาดที่ ranger t6 เป็น
คือเป็นช่วงล่างที่นุ่มๆ แน่นๆ หนักๆ เหมือนขับ suv คันโตๆ คันนึง
ขับในเมืองไม่ค่อยคล่องเท่าไร เพราะพวงมาลัยไม่ค่อยคม เท่า bt50-ranger
แต่ถ้าวิ่งทางใกลยาวๆ สบายๆหายห่วง พวงมาลัยหนักแน่น ช่วงล่างนั่งสบายไม่กระด้าง 
เรื่องฟีลช่วงล่างนั้นถือว่าความนุ่มนวลค่อนข้างใกล้เคียงกับ bt50 และนุ่มกว่า ranger ชัดเจน 

ซึ่งจากที่ผมขับมาทางใกลยาวๆนั้น ช่วงความเร็วที่ขับสบายๆ
ไม่เครียดของ colorado ตัวนี้นั้นคือ ช่วงความเร็วที่ไม่เกิน 150
เกินจากนี้จะเริ่มรู้สึกแล้วว่าตัวรถจะเริ่มลอยนิดๆแล้วแต่ก็ไม่ถึงกับ หวิว แต่อย่างได
เพียงแต่ต้องใช้สมาธิในการขับขี่มากขึ้นสักเล็กน้อยเท่านั้น

ซึ่งตรงจุดนี้ ranger น่าจะทำได้ดีกว่า เพราะเซ็ตช่วงล่างมาแข็งหนึบซะขนาดนั้น 
ซึงก็ต้องแรกกัน เราอยากได้รถขับเดินทางสบายๆ ก็ต้องยอมแรกเรื่องความนิ่งในยามความเร็วสูง
ซึ่งจุดนี้ผมรับได้เพราะ ผมคงไม่วิ่ง 160 ทุกวันหรอก อย่างเก่งเต็มที่ 150 ก็เร็วแล้ว
รถกระบะ ไม่ใช่รถเก๋งต่อให้เซ็ทช่วงล่างมาเทพแค่ไหนยังไงก็หนี กฎธรรมชาติไม่พ้น

[k_newlife]

ระบบเบรคและระบบควบคุมการทรงตัว และระบบความปลอดภัย ของรุ่นนี้ถือว่าจัดเต็มเป็นอย่างยิ่ง

โดยระบบเบรคนั้น จะเป็นแบบหน้า ดิสก์ หลัง ดรัม พร้อมระบบ

-ABS แบบ 4 channel ป้องกันล้อล็อค พร้อม EBD กระจายและควบคุมแรงเบรก ทั้งสี่ล้อ
-PBA ระบบช่วยเบรคกระทันหัน
-HBA ระบบช่วยเพิ่มแรงเบรคฉุกเฉิน
-CBC ระบบช่วยรักษาสมดุลเบรคในขณะเข้าโค้ง


ตัวช่วยในการทรงตัวก็จะมี

-ESP ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว
-TCS ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและป้องกันการลื่นไถล

ส่วนระบบป้องกันหลังเกิดเหตุก็จะมี
-AIRBAG คู่หน้า พร้อมเข็มขัดนิรภัยแบบสามจุดทั้ง 5ที่นั่ง

[k_newlife]

เครื่องยนต์ รุ่นนี้จะเป็นเครื่องยนต์ duramax 2.8

รหัสเครื่องยนต์คือ XLD28
ความจุกระบอกสูบ  2776 CC
 ความกว้างกระบอกสูบ x ระยะชัก  94 x 100 mm 
อัตราส่วนกำลังอัดอยู่ที่  16.0 : 1 
ให้กำลังสูงสุด 180HP (132KW) @ 3800 RPM 
แรงบิดสูงสุด 470 NM @2000RPM 

ถือเป็นครั้งแรกของ Colorado ที่ใช้เครื่องยนต์ของตัวเอง
โดยไม่พึ่งพาเครื่องยนต์ของ isuzu  ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องดีกับผู้ซื้อ
เพราะทำให้สามารถเปรียบเทียบให้เห็นถึงความแตกต่างได้ชัดเจนขึ้น ลูกค้าตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

[k_newlife]

ความรู้สึกในการขับของเครื่องยนต์ตัวนี้ จะบอกว่ายังไงดีล่ะ
เอาเป็นถ้าเป็นรุ่นล่างๆที่ไม่มี แทร็คชั่นคอนโทรล มาให้นั้น
เวลาออกตัวก็ค่อยๆเดินคันเร่งแล้วกัน อย่าเผลอไปกดเต็มเท้าเข้าเชียว
อาจจะแถเอาท้ายออกก็เป็นได้  เพราะผมลองกดคันเร่งเต็มออกตัวไปครั้งนึง
ขนาดเปิดแทร็คชั่นไว้ ยังมีเอียดเบาๆให้รู้สึกกันถึงสองเกียร์
ดังนั้นไม่อยากจะคิดถ้ารุ่นล่างๆที่ไม่มีแทร็คชั่น  ขับขี่กันตอนฝนตกจะเป็นยังไง 

พล่ามเรื่องอื่นซะยาว มาดูตัวเลขในช่วงต่างๆที่ผมลองจับเองเล่นๆ ดีกว่า 
อัตราเร่งออกตัว 0-100  ลองจับเวลาไป 5 ครั้งเร็วที่สุดคือ 10.9 ช้าที่สุด 11.6 วินาที   
ช่วง 80-120 เร็วที่สุด 8.3 ช้าที่สุด 8.7 วินาที  ความเร็วสูงสุดที่ทำได้คือ 185 ล็อกความเร็วไว้

เห็นตัวเลขแล้วรู้สึกไงกันบ้างครับ  รถกระบะหนัก 1.9 ตัน
ซึ่งถ้ารวมน้ำหนักตอนที่ผมลองวิ่งด้วยแล้ว   อาจมีถึง 2 ตันหน่อยๆด้วยซ้ำ 
ทำตัวเลขได้ดีขนาดนี้  กับเครื่อง 2.8 L สำหรับผม ถือว่าแรงมากกกกครับ 
บางทียังคิดเลยว่าแรงเกินไปสำหรับรถกระบะหรือเปล่า     

[k_newlife]

ส่วนระบบส่งกำลังจะเป็นแบบอัติโนมัติ 6 จังหวะ
โดยสามารถเลือกเปลี่ยนเกียร์เองด้วยตัวเองได้ 
ฟิลลิ่งของเกียร์ลูกนี้ให้อัตราทดที่ค่อนข้างต่อเนื่องดี
และที่สำคัญเปลี่ยนเกียร์ได้นุ่มนวลมาก 

โดยที่ความเร็ว 100km/h ที่เกียร์ 6 จะใช้รอบเครื่องแค่ 1600RPM เท่านั้น

ปุ่มปรับระบบขับเคลื่อนจะเป็นแบบ ลูกบิดหมุน

[teaykung31]

ติดตามชมครับ กระบะทำเครื่องแข่งกันแรว ที เก๋งละ มีเท่าไหร่ก็เท่านั้น เฮ้อๆๆๆๆๆๆๆๆ

[k_newlife]

อัตราสิ้นเปลือง  
เส้นทางที่ผมใช้ขับวัดอัตราสิ้นเปลืองนั้น
คือ เขาค้อถึงราชบุรี และราชบุรีถึงเขาค้อ  
รวมระยะทางแล้วก็ 1000km กว่าๆ
โดยเริ่มวัดจากอยุธยาหลังจากอัดน้ำมันจนเต็มถัง
วิ่งไปจนถึงราชบุรี ความเร็วเฉลี่ย 130-150 km/h  
วนทำธุระในเมืองเล็กน้อย  
ขับกลับมาจนถึงสายเอเซียช่วงอยุธยา เข้าปั๊มเติมอีกรอบ
ใช้ระยะทางวิ่งทั้งหมดจนเติมน้ำมัน คือ 314.4 km  
เติมน้ำมันไปทั้งหมด 29.459L เป็นเงิน 925.6  
คำนวณออกมาเป็นอัตราสิ้นเปลือง ได้ 10.67 km/l  
คิดเป็นเป็นเงินแล้วก็ตก กิโลละ 2.94 บาท
ถามผมว่ากินมั้ย สมเหตุสมผลครับ
ออกจะประหยัดกว่าที่คิด ด้วยซ้ำ วิ่งเร็วขนาดนั้น ยังทำอัตราสิ้นเปลืองได้เท่านี้ ผมว่าดีเกินคาดแล้วครับ

[k_newlife]

สรุปครับ
หากคุณต้องการกระบะที่ให้ความรู้สึกในการขับขี่ใกล้เคียงรถเก๋งที่สุด
BT50 คือคำตอบครับ จากที่ผมได้ลองขับมา พวงมาลัยคมไว สั่งเลี้ยวเป็นเลี้ยว 
ช่วงล่าง นุ่มและหนึบครับ ฟีลลิ่งช่วงล่างดีกว่าโคโลราโด้นิดหน่อย
คือกระเดียดไปทางรถเก๋ง แต่เจ้าโด้พยายามจะทำตัวเป็น SUV ตัวหนักๆครับ

แต่ถ้าคุณเป็นพวกตีนหนักโดยธรรมชาติ
ผมว่า RANGER WILDTRACK  3.2 น่าจะตอบสนองความต้องการของคุณได้ครับ
ซึ่งจากที่ผมได้ลองขับตัว 2.2 ยกสูงนั้น ช่วงล่างเซ็ตมาได้แบบว่า หนึบ
หนึบจนผมว่ามันหนึบจนกระด้างเกินไปหรือเปล่า
จากที่ตอนแรก ผมจะซื้อเจ้า wildtrack 3.2
แต่พอได้ลองขับแล้วรู้สึกได้เลยว่าแข็งเกินไปที่จะใช้ขับแบบสบายๆครับ
เลยตัดออกไปจากตัวเลือกเลยเพราะรับไม่ได้กับช่วงล่างที่กระด้างเกินความจำเป็น
แต่ถ้าเป็นคนที่ชอบซิ่งชอบมุดผมว่าช่วงล่างของ ranger
น่าจะสนองความต้องการของคุณได้พอสมควร
แต่สำหรับผมแล้วผมอยากได้รถขับสบายๆ Ranger เลยไม่ใช่สำหรับผมครับ 

สุดท้ายนี้ หากคุณต้องการรถกระบะ ที่ให้ความรู้สึกในการขับขี่เหมือนขับ SUV คันโต     
Chevy Colorado คือคำตอบครับ  ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งภายใน
อุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ครบครันเป็นอย่างยิ่ง 
ฟิลลิ่งของช่วงล่าง ที่นุ่มแน่นหนัก ให้ความรู้สึกเหมือนขับรถที่หนัก
เครื่องแรง ดึงดี ขับขี่ทางใกลสบายๆ  Colorado เลยครับ

ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านครับ   มีอะไรเพิ่มเติมก็สอบถามกันได้ในกระทู้เลยครับ ^^

[Headman]

รถสวยมากครับพี่ ผมยังแอบชอบรุ่นนี้อยู่เลยครับ ผมชอบตัวเตี้ยเครื่อง 2.5 สีแดงครับ โดนมากครับ
 

[Shyn Von Einzbern]

ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ สุดยอดเลยทั้งรีวิวทั้งรถ
รถสวยมากครับ เข้มมาเลย  

เื่พื่อนสนใจรุ่นนี้พอดี ผมจะไห้มันมาดูรีวิวนี้ครับ