เอาจริงๆ ใช้มัลติมิเตอร์วัด ก็ยังไม่ได้ผลครับ มัลติมิเตอร์ใช้แค่ให้รู้ว่ามีไฟอยู่กี่ V เท่านั้นครับ ไม่สามารถบอกได้ว่า แบตฯเสื่อมหรือไม่ครับ
เครื่องมือที่จะใช้ทดสอบว่าเสื่อมหรือไม่นั้นต้องเป็นเครื่องมือเฉพาะครับ จะสามารถวัดแบตฯแต่ละรุ่นแต่ละขนาดได้ครับ ว่าสภาพยังพอที่จะสตาร์ทเครื่องยนต์ไหวหรือไม่
หรือ ถ้าจะวัดแบบพอได้ ก็ไปซื้อเครื่องตรวจ ถพ. (ความถ่วงจำเพาะ)ที่ศึกษาภัณฑ์ มาวัดครับ แต่ก็จะได้แค่รู้ว่าแต่ละเซลส์มีค่าเป็นกรดอยู่เท่าไหร่
และไม่สามารถใช้กับแบตฯพวก dry cell ได้ครับ
แบตฯเรื่องเสื่อมลองสังเกตุอาการง่ายๆ นะครับ ถ้ามีอาการตามนี้ แล้วไม่อยากลุ้นก็เปลี่ยนแบตฯซะนะครับ
- วิ่งระยะทางยาวๆ จอดรถ ดับเครื่อง ไม่เกิน 10 นาที แล้วสตาร์ท จะไม่มีแรงสตาร์ท --- อันนี้รอให้แบตฯเย็น แล้วค่อยสตาร์ทอีกครั้งโดยปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าของรถให้หมดทุกชิ้น จะสามารถสตาร์ทแล้วไปต่อได้
- แบตฯ มีแรงสตาร์ทบ้าง ไม่ค่อยมีแรงบ้าง ฮึ้ด -เงียบ , ฮึ้ด - ชึ่ง อันนี้ ก็ใกล้จะลาโลก
ช่วงนี้อากาศร้อน เช็คแบตฯ กันด้วยนะครับ เพราะเป็นช่วงที่เราใช้ไฟฟ้ากับระบบปรับอากาศมากที่สุด แบตฯจะจ่ายไฟมากเกินปกติ
ถ้าเป็นแบตฯแบบเติมน้ำกลั่น (รวมแบบmaintainance free ด้วยนะครับ) ต้องหมั่นเปิดจุกเติมน้ำกลั่นเสมอครับ
อุปกรณ์วัดโวลท์ -- ผมมองเป็นอุปกรณ์ ที่ทำให้เรารู้ว่า ระบบไฟฟ้า เรายังใช้งานได้อยู่ตามปกติหรือไม่ก็เท่านั้นเองครับ ต้องผู้เชี่ยวชาญและใช้มันประจำถึงจะได้ใช้ประโยชน์จากมันจริงๆ ครับ