ยางแตกบนทางด่วน เปลี่ยนยางกลางฝน ... เหนื่อย

pong_ru

             เมื่อวานฝนตกหนักขับ BMW 323 IS (E36) ช่วงข้ามคลองแสนแสบมุ่งหน้าไปมอเตอร์เวย์ รู้สึกพวงมาลัยสั่นเล็กน้อย (นึกในใจคงต้องไปถ่วงยางใหม่) พอลดความเร็วลงได้ยินเสียงคล้ายแม็กบดกับถนน ค่อย ๆ ชิดซ้ายจอดแถว ๆ ปั๊มเชลล์ (มองไปซ้ายมือจากทางด่วน) เปิดประตูมองไปที่ยางหลังขวา แก้มยางฉีกขาดทั้งนอกและใน อยากคลานลงจากทางด่วนให้ได้ ไม่รู้แม็กจะทนไหวมั๊ย

             ตกลงใจจอดโทรหาช่าง อู่ประจำแถวพระรามเก้า ช่างขอใ้ห้รอฝนซา ขณะเดียวกันโทรเรียกเพื่อนมารับ ดับเครื่องตรวจสอบยางอะไหล่ท้ายรถ เครื่องมือ อยู่ครบ ได้ใช้ทับทิมสีแดงกางออกเป็นรูปสามเหลี่ยมเป็นครั้งแรก เอาไปวางเตือนรถคันอื่น ทดลองเอาประแจกระทืบน๊อตทั้ง 5 ตัว มันยอมออกโดยดีเลยตัดสินใจเปลี่ยนยาง (ทีแรกกะว่าจะรอช่าง) (จอดเป็นเป้าอยู่นาน ๆ ก็น่ากลัวเช่นกัน เบอร์ทางด่วนก็ยังไม่มี) จัดการใส่เบรคมือให้แน่น ขึ้นแม่แรง เปลี่ยนมันกลางสายฝน ขันล้อ เก็บทุกอย่างขึ้นรถให้หมด ก่อนจากไป ลงไปเดินรอบรถอีกที ประแจยังค้างอยู่ที่ล้อ (เกือบไปแล้ว) รองเท้าผ้าใบยันไว้ที่ล้อหน้า (ถ้ามันจะไหลคงช่วยอะไรไม่ได้)

             ลงทางด่วนเลี้ยวเข้าที่ทำงาน เพื่อนไปถึงที่เกิดเหตุพอดี (ขอบคุณมาก ๆ) หาเสื้อผ้าเปลี่ยนเสร็จไปดูรถ ยางอะไหล่แบนเช่นกัน (บดมาจากทางด่วน น่าจะมีลมเล็กน้อย แต่ก็วิ่งช้ามาก ๆ) หาปั๊มลมไฟฟ้ามาเติมลมทั้งสี่ล้อ .................

            รุ่งขึ้นเอายางมาถ่ายรูปเป็นหลักฐานเสียหน่อย นี่ถ้าเป็นคันขาว V60 จะทำไงดี (ไม่มียางอะไหล่) ไปร้านยางเจ้าประจำพบว่าแม็กยังไม่คด สันนิฐานว่าลมรั่วขอบแม็ก เมื่อสองอาทิตย์ก่อนลมรั่วจนต้องไปซ่อมที่ร้านปะยางมาครั้งหนึ่ง (ทำความสะอาด ทากาวที่ขอบ อยู่มาได้ สองอาทิตย์)
             คราวนี้ร้านแม็กเสนอให้เอาซิลิโคนเสริมที่ขอบ รอให้แห้งหนึ่งวัน (แม็กเคยซ่อมและเจียร์ขอบลบรอยมา) บวกค่ายางใหม่อีก 6 พัน   ยางผมเป็น BS RE 050 225/45 ขอบ 17    อายุงานปีเศษ ๆ  (ผลิต 2010 ปลายปี)



             ที่ร้านขายแม็กไต้หวันลาย BMW หลายสำนักแต่ง ขอบ 17 ตกวงละ 5 พัน
             แม็กเก่า เป็น BBS แท้ แต่อายุมาก    ผมกะว่าวันจันทร์ไปเอาของเก่ามาใช้ดูก่อน


             เล่าสู่กันฟังนะครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 18, 2012, 19:40:24 โดย pong_ru »



adis

Re: ยางแตกบนทางด่วน เปลี่ยนยางกลางฝน ... เหนื่อย
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: พฤษภาคม 18, 2012, 14:40:15 »
เคยมีประสบการณ์ยางแตกแล้วต้องเปลี่ยนยางในสภาพไม่ค่อยปกติเหมือนกันครับ ลำบากมาก
ตอนนั้นผมใช้ cronos ครับ เดินทางไปต่างจังหวัดกับลูกน้องสองคน
ขากลับเป็นเวลากลางคืน ฝนก็ตก เปลี่ยวก็เปลี่ยว
ตามช่างก็ไม่ได้เพราะคงนอนฝันหวานกันหมดแล้ว
ก็ต้องเปลี่ยนเอง โชคดีครับ เครื่องมือมีครบทุกอย่าง ยางอะหลั่ยก็อยู่ในสภาพใช้การได้ดี ลมอ่อนไปนิด

  ปัญหาคือมืดครับ มองอะไรไม่ค่อยเห็น ไฟฉายไม่มี รถก็วิ่งผ่านมาน้อยมาก
  ก็เลยทำไปมืด ๆ สลัว ๆ ผลคือ แม่แรงใส่ผิดที่ เอาขึ้นได้ไม่นาน รถก็ตกลงมากระแทกแม่แรง บุบไปพอสมควรครับ
  กว่าจะเปลี่ยนได้สำเร็จ เกือบเป็นลม  แต่เสียดายรถมากครับ บุบเลย

  บทเรียนนี้ก็เลยต้องติดไฟฉายไว้ในรถเสมอครับ และยางอะหลั่ยก็ต้องคอยเช็คลมเดือนละครั้ง





nouiii_1

Re: ยางแตกบนทางด่วน เปลี่ยนยางกลางฝน ... เหนื่อย
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: พฤษภาคม 18, 2012, 15:27:08 »
ของผมรถเก่าแล้ว ultima เกือบ 20 ปี ทุกวันนี้ มีเครื่องมือติดหลังรถ 1 กล่อง เสมอเรียกว่า รื้อได้ ยันห้องเครื่องกันเลยหละ เตรียมพร้อมทุกสถานการณ์



reyeshenry

Re: ยางแตกบนทางด่วน เปลี่ยนยางกลางฝน ... เหนื่อย
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: พฤษภาคม 18, 2012, 17:33:06 »
ยางกี่ปีแล้วครับ เจ้าของกระทู้ แล้ว ความหนาของดอกยาง เหลือเยอะไหมอะครับ



FyGI

Re: ยางแตกบนทางด่วน เปลี่ยนยางกลางฝน ... เหนื่อย
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: พฤษภาคม 18, 2012, 18:27:03 »
ทั้งรถทั้งรุ่น และสี เหมือนพี่เพื่อนผมเด๊ะเลย

320IS E36 สีเหมือนกันอีก

จะบอกว่าแม็กลายเดียวกันด้วย แต่ขนาดต่างกันครับ






pong_ru

Re: ยางแตกบนทางด่วน เปลี่ยนยางกลางฝน ... เหนื่อย
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: พฤษภาคม 18, 2012, 19:42:39 »
ยางกี่ปีแล้วครับ เจ้าของกระทู้ แล้ว ความหนาของดอกยาง เหลือเยอะไหมอะครับ

2010 ปลายปี ใช้ไปประมาณหมื่น กม. ครับ



Sammy_

Re: ยางแตกบนทางด่วน เปลี่ยนยางกลางฝน ... เหนื่อย
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: พฤษภาคม 18, 2012, 20:56:47 »
สุดยอดเลยครับ ทำกลางฝนเลย แถมทางด่วนโคตรอันตรายอะ :o

ผมก็เคยมีประสพการเหมือนกันดีที่รอดตาย วันนั่นขับ Dmax Cab4 06 ไปกับแม่และลุงๆป้าๆ นั้งเบาะหลัง 4 คนนั้งหน้า และ คนขับ รวมเป็น 6 (อัดกันไป รวมอายุคนในรถน่าจะสัก 300 ปีได้ ฮาๆ) ช่วงผมเขาโคง แต่โคงไม่มาก ที่ 70 กม เสียงดัง ปึ๊ก!!! แม่ถามเสียงอะไร ลูก ผมก็ตอบสงใสเหยียบขวดน้ำหนะแม่  เพราะผมขับอยู่ที่ความเร็ว 80-110 รถก็ไม่ได้ออกอาการอะไร ก็ขับไปเรื่อยๆ ที่ 80-110 แล้วแต่โอกาศ ขับมา 10 โลเอ เสียงอะไรหวะ  ตึกๆๆๆ เป็นจังหวะ

 แม่ผมพูดขึ้นไม่จอดรถลงไปดูหน่อยเหรอ ผมก็ หืม ไม่มีไรหรอกมั้ง รถก็ยังขับได้นิ (ผมนิมึนจริงๆ) ขับไปอีกประมาณ 2 กม เสียงเริ่มดังมากขึ้น ตึ๊กๆๆๆ!!! แม่ผมบอกว่าจอดเถอะลูก ลงไปดูหน่อยเผื่อมีอะไร ...  ลงมาถึงโอ้วพระเจ้า ยางฉัน เหมือนจะหลุดออกมาจาก แม็ค (ล้อหลังซ้าย) พระเจ้า ดีนะที่ไม่เป็นอะไร ไม่เกิดอุบัติเหตุ ลงมาก็เปลี่ยนยางตามปรกติ เหอๆเกือบไปแล้ว ด้วยความมึนของผมนั่นเอง



6162002

Re: ยางแตกบนทางด่วน เปลี่ยนยางกลางฝน ... เหนื่อย
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: พฤษภาคม 18, 2012, 22:27:21 »
ผมสงสัยมากเลยครับ เพราะโดยส่วนตัว ถ้ายางไม่แบนชนิดว่าติดล้อจริงๆ ก็อาจจะไม่รู้ตัวขับไปทั้งอย่างนั้น

ทีนี้ รถที่มีแต่ชุดปะยางเนี่ย ถ้ายางมันแบนไปแล้ว จะทำยังไงอ่ะครับ *-*



2k

Re: ยางแตกบนทางด่วน เปลี่ยนยางกลางฝน ... เหนื่อย
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: พฤษภาคม 18, 2012, 22:38:54 »
ซื้อไฟกระพริบแว๊บๆมาติดรถไว้ครับ ผมซ์้อมาจากค้งไฟฉายลองถมอันละเก้าสิบบาทกระบอกเหลือง ราคาถูกแต่คุ้มมากเพราะว่าเป็นทั้งไฟฉาย ไฟแดงกระพริบเห็นได้จากระยะไกล ด้ามก็มีหัวเหล็กแหลมๆเอาไว้สำหรับทุบกระจกให้แตกได้ด้วย  :)
หมาเฝ้าบ้านแจกฟรีจ้า www.dogfindhome.com




BlackSpeed

Re: ยางแตกบนทางด่วน เปลี่ยนยางกลางฝน ... เหนื่อย
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: พฤษภาคม 19, 2012, 08:00:05 »
ควรมีเบอร์ทางด่วนไว้ครับ ตามในหนังสือแผนที่ก็มี หรือไม่ก็โทรถาม 1133 หรือเปิดเน็ตจากมือถือหาดูก็ได้ เพราะเปลี่ยนยางเองบนทางด่วน แถมฝนตกด้วย มันอันตรายมากครับ
ประสบการณ์ (Experience) คือ การเรียนรู้จากความผิดพลาดของตนเอง
ความรู้ (Knowledge) คือ การเรียนรู้จากความผิดพลาดของคนอื่น
แต่ถ้าได้ความรู้ผิดๆ ประสบการณ์แบบผิดๆ กรุณาอยู่เฉยๆดีกว่า
My Review "HYUNDAI SONATA SPORT" http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php/topic,21395.0.html



pong_ru

Re: ยางแตกบนทางด่วน เปลี่ยนยางกลางฝน ... เหนื่อย
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: พฤษภาคม 19, 2012, 12:37:07 »
ควรเตรียมรถให้พร้อมก่อนขึ้นทางด่วน (กรณียางแตก)

          1. เบอร์โทรศัพท์ของทางด่วน (เอาโทรศัพท์ไปด้วยเสมอ)
          2. ตรวจเช็คลมยาง และยางอะไหล่ (ควรตรวจทุกสัปดาห์)
          3. ครวจสอบอุปกรณ์การเปลี่ยนยาง  และป้ายเตือน (ถ้ามีไฟกระพริบด้วยยิ่งดี)
          4. เลือกจอดในที่ที่คิดว่าปลอดภัยที่สุด (เท่าที่ทำได้)
          5. อุปกรณ์ที่กันรถไหล และ แป็ปต่ออุปกรณ์ขันล้อจะช่วยได้มาก

                  ขอบคุณทุกท่าน  (ปวดเมื่อยพอ ๆ กับเดิน 18 หลุมเลย)