ผู้เขียน หัวข้อ: "เครื่องใหญ่"กินน้ำมันเสมอไป "เครื่องเล็ก"เค้นมากๆก็ซดน้ำมัน ... จริงหรือไม่??  (อ่าน 27963 ครั้ง)

ออฟไลน์ YenChar

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,179
อยากทราบความเห็น และขอแบ่งปันประสบการณ์จากทุกท่านครับ
โดยแบ่งเป็นเหตุการณ์การเปรียบเทียบระหว่าง 3 หัวข้อนี้


1. เมื่อนานมาแล้ว เคยเห็นในหนังสือรถเล่มนึงเขียนไว้
มีคนถาม เปรียบเทียบอัลติสป้ายแเดง 1.6 กับฮอนด้าซีวิคไดเมนชั่น 2.0 ปี 2004
แล้วในหนังสือเค้าตอบไว้ว่า ซีวิค 2.0 ขับในเมืองกินน้ำมันดุกว่าอัลติส 1.6 มาก
เพราะส่วนต่างถึง 400CC ทำให้ซดดุกว่าเมื่อจอดนิ่งๆ
แต่ขับนอกเมืองประหยัดกว่า เพราะ 1.6 ต้องเค้นกำลังมากกว่า

2. อีกเคสนึงคือ กระบะเครื่อง 3 พัน VS เก๋งขนาดกลางเครื่อง 1.6
ว่ากันว่า กระบะ ขับทางไกลประหยัดกว่า เพราะไม่ต้องเค้นมาก รอบ 2 พันนิดๆก็วิ่งฉิวแล้ว

3. และเคสสุดท้าย ระหว่างกระบะด้วยกัน รุ่นเดียวกัน
คันนึงเครื่อง 2.5 อีกคัน 3.0 ว่ากันว่า 3.0 ประหยัดกว่า??


จริงหรือไม่ที่
- เครื่องใหญ่ กินน้ำมันอย่างดุเดือด โดยเฉพาะชานเมืองและในเมือง??
- เครื่องเล็ก วิ่งทางไกล ถ้ากดมาก เค้นมาก ก็กินน้ำมัน??


ขอความเห็นหน่อยครับ ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ the kit

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,314
โดยส่วนมากเป็นตามที่ จขกท.ว่ามา

อย่างกระบะ รุ่นยอดนิยมที่เอามาเปรียบเทียบบ่อยๆ 2.2 นี่กินกว่า 2.5 ทั้งในเมืองและนอกเมือง และในทุกการขับขี่
"Only live once, but if you do it right, Once is enough"

ออฟไลน์ !note!

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 137
ผมว่ามันขึ้นกับเทคโนโลยีของเครื่องยนต์และระบบเกียร์ด้วยนะครับ

keanetona

  • บุคคลทั่วไป
รถคันแรกของผม E28 เครื่อง6สูบ2ลิตร

6กม./ลิตร

รถคันปัจจุบัน แอกคอร์ด G8 4สูบ 2.4ลิตร เครื่องใหญ่กว่า

8กม./ลิตร

สรุปคร่าวๆ

เครื่องใหญ่กินกว่าเครื่องเล็กเสมอ เมื่อ รถติดสนิทใจ

เครื่องเล็กกว่ากินกว่าเครื่องใหญ่เสมอ เมื่อ แป้นคันเร่งถูกเหยียบจนมิด

ออฟไลน์ Zx-III

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 723
เครื่องมีส่วนครับ เส้นทางการขับขี่ก็สำคัญ ขับในเมือง รถติดสาธร peak time กินหมดทุกคัน ติดgasก็เหอะนะ ถ้าขับทางไกลต่างจังหวัด มันก็ประหยัดนะครับ อยู่ที่ตีนส่วนหนึ่งด้วย อย่าไปเร่งลากรอบบ่อยๆนะครับ

ออฟไลน์ beercs

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 313
เอาเฉพาะรถตลาดทั่ว ๆ ไป
ส่วนใหญ่ยังไงเครื่องเล็กก็ประหยัดกว่า
ดูจากรีวิวของคุณ  จิมมี่  มาหลายคัน  วิ่ง 110 เปิดแอร์นั่ง 2  คน
แต่ก็มีบ้างที่เครื่อง 2.0 เปลืองกว่า 2.4  แต่ก็นิดหน่อย
  

ออฟไลน์ Devil13

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,999
นึกถึงกระบะสมัยนี้เลย ตัวใหญ่ขึ้นแต่ใช้เครื่องเล็กลง (2.2)
และยังคงกินน้ำมันเท่าเครื่องใหญ่ (2.5)  ;D
คิดเล่นๆ ตามนี้แล้วก็ไปคบกับ 2.5 ดีกว่า :D

NgoH

  • บุคคลทั่วไป
ขึ้นอยู่กับน้ำหนักในการบรรทุกด้วยครับ

ออฟไลน์ FyGI

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,308
ขึ้นอยู่กับเท้าผู้ขับด้วยครับ


เท้าเบาขับรถเครื่องเล็กประหยัดกว่าเครื่องใหญ่

เท้าหนักขับเครื่องใหญ่หรือเล็กกินน้ำมันเหมือนกัน

แต่เครื่องใหญ่จะอึดอัดน้อยกว่า


แต่สังเกตจากบททดสอบรถ

เครื่อง 1.5-1.8 โดยรวมความประหยัดฉีกกันไม่มากเท่าไหร่ในทางไกล

ในเมือง 1.8 อาจจะกินมากกว่า 1.5 ไม่มากเหมือนกัน


ออฟไลน์ jimsrsa

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 406
    • อีเมล์
ขึ้นอยู่กับหลายอย่าง เทคโนโลยี เกียร์ น้ำหนัก กล่องควบคุม ฯลฯ
เครื่องต่างขนาด ดูรอบเครื่องด้วยครับ ถ้าความเร็วเท่ากัน รอบเครื่องเท่ากัน ยังไงเครื่องเล็กก็ประหยัดกว่า

ออฟไลน์ redsun

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,101
ผมคิดว่ามันขึ้นกับเทคโนโลยีที่ใส่เข้าไปในเครื่องแต่ละเครื่อง
ความเหมาะสมของอัตราทดเกียร์และความลู่ลมของตัวถัง
รถคันใดที่มีความเหมาะสมลงตัว ณ ความเร็วที่ทดสอบนั้นๆมากกว่ากันครับ

ออฟไลน์ Pan Paitoonpong

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,457
  • Long live M/T
ให้คิดดังนี้
1. ผู้ขับเสกม้าใช้เยอะเท่าไหร่
2. ในการเร่ง สิ่งกระทำที่มาต้านทานการเร่งของรถคันนั้นเยอะเท่าไหร่
3. ในการพยายามใช้ความเร็วคงที่ สิ่งกระทำที่มาต้านการคงความเร็วเยอะเท่าไหร่
4. การสูญพลังงาน (เช่นใช้น้ำมันเปลืองเมื่อเทียบกับม้าที่ได้ หรือเกียร์มีการสูญกำลังเยอะ)

4 สิ่งนี้ครับที่จะบอกว่ารถคันนั้นจะบอกว่าใครกินไม่กิน โดยที่ไม่จำเป็นจะต้องมองว่า
เครื่องใหญ่กินน้อยกว่าเวลาวิ่งทางไกลหรือเครื่องเล็กกินกว่าเวลาวิ่งในเมือง
นอกเมืองหรือในเมือง เป็นแค่สถานที่ที่อาจส่งผลต่อการเร่งและคงที่ของความเร็ว
แต่นำมาคิดตรงตัวยากเพราะยังไม่ได้นำ 4 ข้อที่ผมบอกมาประยุกต์ทั้งหมด
ตอนผมใช้ Legacy ผมขับนอกเมืองได้ 10 กิโลลิตร ขับในเมืองได้ 6 กิโลลิตร
ผมให้สามีน้องผมขับในเมือง มันทำได้ 9 กิโลลิตร.เปิดแอร์ด้วยนะ
รถคันเดียวกันแท้ๆ

- Legacy BC5 Turbo น้ำหนัก 1,370 โล เกียร์ธรรมดา เบากว่า Accord 2.4 G8
เกียร์ธรรมดาด้วย ทำไมกิน 6 กิโลลิตร ซึ่งกินกว่า Accord ในเมือง
(เสียเปรียบเรื่องการเค้นพลังต่อน้ำมัน 1ส่วนที่ฉีด เสียเปรียบเรื่องแรงต้านการขับเคลื่อน)

- ทำไม เครื่อง K24 เกียร์ออโต้ 5 สปีดเหมือนกัน เทคโนโลยีใกล้กันแต่ Accord 2.4
กินน้อยกว่า CR-V 2.4 มากเวลาวิ่งนอกเมือง
(เสียเปรียบเรื่องแรงต้านการขับเคลื่อนจากอากาศ ขนาดล้อและยาง)

- ทำไมท้ายสุดรถที่เราทดสอบจึงมักพบว่าส่วนใหญ่รถเครื่องเล็กจะประหยัดกว่าเมื่อวิ่งทางไกล 110kmh
(เครื่องเล็กมักเป็นรถขับหน้า สูญเสียกำลังลงพื้นน้อย เครื่องยนต์เล็ก สูบน้อยมีแรงต้านการทำงานต่ำกว่า
ล้อและยางมักไม่โต แรงต้านการหมุนน้อยกว่า และ..การวิ่งที่ 110 ไม่ได้ใช้แรงม้าเยอะ เครื่องเล็กๆก็ทำได้)

- ทำไม Camry 2.0 วิ่งทางไกลกินกว่า 2.4 แต่ทำไม Teana 2.0 วิ่งทางไกลประหยัดกว่า Teana 2.5?
(ลองคิดคำตอบดูครับ)
- Nissan Tiida บ้านๆ/NX Coupe/AE111/190E1.8

ออฟไลน์ Ruksadindan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,051

- ทำไม Camry 2.0 วิ่งทางไกลกินกว่า 2.4 แต่ทำไม Teana 2.0 วิ่งทางไกลประหยัดกว่า Teana 2.5?
(ลองคิดคำตอบดูครับ)
อันนี้กลับมาที่อัตราทดเกียร์และการสูญกำลังในระบบส่งใช่ไหมครับ

ออฟไลน์ chean

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 293
    • อีเมล์

- ทำไม Camry 2.0 วิ่งทางไกลกินกว่า 2.4 แต่ทำไม Teana 2.0 วิ่งทางไกลประหยัดกว่า Teana 2.5?
(ลองคิดคำตอบดูครับ)
อันนี้กลับมาที่อัตราทดเกียร์และการสูญกำลังในระบบส่งใช่ไหมครับ

เข้าใจแบบนี้น่าจะถูกแล้วครับ

ผมขอเดาแบบไม่เคยขับเลยนะ ถ้า auto 4 speed ของ camry 2.0
ช่วงความเร็วปลาย รอบคงไม่ต่ำแบบ 5 speed แน่ๆ แล้วมันจะประหยัดได้ยังไง ???
ตัวรถคงออกแบบมาใช้งานในเมืองเป็นหลักมั้ง

ส่วนเกียร์ของ teana นั้นเป็นระบบ cvt สุดล้ำ สุดไฮเทค เปลี่ยนอัตราทดตามน้ำหนักเท้าได้
มากกว่า 700 รูปแบบ (ถ้าจำไม่ผิด) ยังไงมันก็แปรผันตามความเร็ว เพื่อให้เกิดรอบประหยัดสูงสุด
ถ้ามันจะประหยัด ก็คงไม่แปลก นี่ขนาดตัวเครื่อง nissan กินน้ำมันมากกว่าคนอื่นเค้านะเนี่ย
ถ้ากินเท่าคนอื่นแล้วได้เกียร์เทพด้วย มันคงประหยัดสุดๆ

แต่ถ้าใครขับ cvt teana แบบตะบี้ตะบันอัด ผมว่ากินดุกว่า auto ธรรมดาแน่ๆ เพราะลองรถเพื่อน
รอบมันจะขึ้นไปสูงๆเลย แล้วค้างสักพัก จากนั้นรอบค่อยๆไต่ระดับลงมาเรื่อยๆ แบบช้าๆ
มันคงกินดุน่าดู ในทางกลับกัน ทางขับแบบเรื่อยๆค่อยๆออกตัว ถ้าสังเกตุดูที่รอบเครื่อง
รอบจะค่อนข้างต่ำตลอดเวลา ส่งผลให้ประหยัดแน่นอน (เฉพาะคนเท้าเบา)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 15, 2012, 14:28:30 โดย chean »

ออฟไลน์ mini_freak

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 337
  • ไอ้บ้ารถ mini / AWD หัวรุนแรง / Save the MT
    • อีเมล์
ผมเจอประจำนะ กรณีให้คนอื่นขับแล้วใช้น้ำมันต่างกัน
ฮอนด้าซีวิค 1.7 คันประจำผม ขับไปทำธุระในเมืองหนึ่งวัน ตีออกมาได้ 9 - 10 กิโลเมตรต่อลิตร
แต่พี่ชายผมใช้ปุ๊บ น้ำมันลดฮวบง่ายขึ้น (เข้าใจว่าสภาวะรถติดมากกว่า) ได้ออกมาแค่ 6 กิโลเมตรต่อลิตร
เสพติด AWD แถมโดน BC5 ของใครบางคนแถวนี้ยั่วกิเลส.... ยั่วซะต้องสอยมาสักคัน
Twitter @z2bbgr

ออฟไลน์ biancocelesti

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 114
เครื่องใหญ่ หรือ เครื่องเล็ก รถติด หรือ วิ่งทางไกล อันไหนประหยัดกว่า

ผมว่ามันเป็นคำถามครอบจักรวาลมากเลยครับ

มันมีปัจจัยมากมายเลยครับที่ทำให้ รถยนต์ คันหนึ่ง กินน้ำมัน มากกว่าอีกคัน เช่น

1. ความจุของเครื่องยนต์
2. เทคโนโลยีการผลิตเครื่องยนต์
3. เกียร์
4. น้ำหนักบรรทุก
5. สภาพการจราจร
6. นิสัยการขับขี่

และอื่นๆ

ไม่ต้องเครื่องใหญ่ เครื่องเล็ก หรอกครับ รถยนต์คันเดียวกัน คนขับรถ นิสัยการขับไม่เหมือนกัน คนหนึ่งชมว่า โอ้โห รถคันนี้ประหยัดจัง อีกคนกลับกร่นด่า รถอะไร ซดน้ำมันเป็นอูฐ

ถ้าให้คนขับแท๊กซี่เมืองไทย ไปขับ Eco Car ผมว่ายังไงก็ไม่ประหยัดครับ ออกตัวกระชาก จี้ตูดคันหน้า เห็นสี่แยกไฟแดงเร่งเข้าใส่ ขับเครื่องเล็ก หรือ ใหญ่ มันก็ไม่ประหยัดหรอกครับ

ออฟไลน์ WhoIsI

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 112
1. ถ้ารถติดปล่อยเครื่องเดินเบา เครื่องที่ใหญ่กว่าน่าจะกินน้ำมันมากกว่า

2. ขึ้นกับการขับ ถ้าเหยียบเครื่อง 1.6 จะเร่งจะแซงให้ได้เท่าเครื่อง 3.0 เครื่อง 1.6 ก็กินมากกว่า แต่ถ้าขับเรื่อยๆเครื่องเล็กกินน้อยกว่า(ขึ้นกับรอบเครื่องยนต์และความเร็วด้วย)

3. เหมือนข้อ 2.

ออฟไลน์ J!MMY

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 15,628
    • www.headlightmag.com
    • อีเมล์
งั้น ผมต้องถามกลับแล้วละว่า

ทำไม BMW 530d ทำอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง ในการทดลองของเรา ได้ 14.5 กิโลเมตร/ลิตร
ขณะที่ Ford Ranger มีความจุน้อยกว่า แต่ วัดเฉพาะรุ่นขับ 2 ไม่ยกสูบงได้ 12.8 แต่ยกสูง
ได้ 12.5 และ 12.6 กิโลเมตร/ลิตร ตามระบบส่งกำลัง? (คือจะเปรียบคู่นี้ก็ไม่ค่อยถูกนักหรอก)

เอาใหม่ ทำไม BMW 530d ถึงทำตัวเลข 14.5 กิโลเมตร/ลิตร เท่า Toyota Vios และ Yaris ?
ทั้งที่ความจุกระบอกสูบเยอะกว่ามาก รถก็หนักกว่า เครื่องก็ใหญ่กว่า?

ทำไม Honda Jazz ทำได้ 15.1 แต่ Honda Civic 1.8 ใหม่ FB ทำได้ 16.00 กิโลเมตร/ลิตร?

ทำไม Toyota Camry 2.4 รุ่น ACV40 ตัวที่แล้ว กิน 14.6 กิโลเมตร/ลิตร แต่รุ่น 2.0 กินหนัก 11.5 กิโลเมตร/ลิตร?

ทำไม Honda Accord 2.4 G8 ได้ 14.4 กิโลเมตร/ลิตร แต่ รุ่น 2.0 ได้ 13 หน่อยๆ?


สำหรับคำถามเจ้าของกระทู้ ผมตอบได้เลยว่า "จริงตามหลักการ แต่ใสนดลกความจริง ไม่เป็นเช่นหลักการเสมอไป! อย่าคิดเช่นนั้น "

ออฟไลน์ the kit

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,314
ถ้าจะเอาลงรายละเอียดมันต้องดู

ปัจจัยต่างๆ ที่สามารถเอามาคิดได้ ดังนี้

ชนิดของเชื้อเพลิง
ระบบเครื่องยนต์
แรงอัดในกระบอกสูบ
การรีดเค้นแรงม้า  แรงบิด
มีระบบอัดอากาศหรือไม่
ระบบส่งกำลัง, ชนิดเกียร์, ระบบการทำงานของชุดคลัทช์, จำนวนเกียร์, เฟืองท้าย
น้ำหนักตัวรถ
aerodynamic
ความสามารถของระบบประมวลผลต่างๆ ภายใน-นอกรถ
ระบบเครื่องปรับอากาศ

นอกนั้นก็เป็นปัจจัยภายนอก คือ
ผู้ขับขี่
สภาพแวดล้อมต่างๆ
สัมภาระ น้ำหนักที่บรรทุก น้ำหนักผู้โดยสาร


แต่สุดท้าย เลือกรุ่นที่คุณมีความสามารถที่จะดูแลไหว และที่ครอบครัวคุณชอบอันนี้น่าจะดีที่สุด
Nobody perfect!!
"Only live once, but if you do it right, Once is enough"

ออฟไลน์ MAXIMUS CRUZE

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 219

ออฟไลน์ tae_polestar

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 340
    • อีเมล์
จริงหรือไม่ที่
- เครื่องใหญ่ กินน้ำมันอย่างดุเดือด โดยเฉพาะชานเมืองและในเมือง??
- เครื่องเล็ก วิ่งทางไกล ถ้ากดมาก เค้นมาก ก็กินน้ำมัน??


ขอความเห็นหน่อยครับ ขอบคุณครับ
[/quote]

ขออนุญาตินะครับ ประสบการณ์ส่วนตัว ไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไปครับ

Volvo V70 2.3t (M/Y2000)  E200 W211 (2008)Kompressor  Accord V6 (2006) 3.0
ต่างจังหวัดวิ่งใช้ความเร็วเท่ากัน (วัดจาก GPS) Gasohol 95 เจ้าวอลโว่ V70 กับ E200 Kom เค้นหนักๆ โหด 160-180 ก็ยังประหยัดกว่า V6
ทั้งๆที่ แอคคอร์ด วิ่ง 140-160 ;)
The love of automobile will be never cease

ออฟไลน์ neung23

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,662
เครื่องใหญ่ๆ ถ้ากดจมมิดแป้น ไม่ว่าจะเกียร์แบบไหน เครื่องสดแค่ไหน เทคโนโลยีมากแค่ไหน กินกว่าแน่นอน (กดจมมิดตลอด)

เครื่องเล็ก กดจมมิดตลอด กินน้อยกว่าแน่ๆ

กลับกัน ถ้าทั้ง2คันออกจากไฟแดงทั้งคู่ กดไปเรื่อยๆเปลี่ยนเกียร์ที่ 3000-3500 รอบ ทั้งคู่ เครื่องใหญ่ได้เปรียบคับ ไต่ความเร็วขึ้นไปได้เร็วกว่า ใช้ภาระกำลังชองเครื่องน้อยกว่าง่ายๆคือ ไม่ต้องเค้นคันเร่งกันมากมายนัก แต่เครื่องเล็กต้องกดกันลึกหน่อย

พอลายลำแล้วถ้าเกียร์ฉลาดเท่ากัน จำนวนเกียร์เท่ากัน เครื่องใหญ่ Cruising บางคันกินน้อยกว่า

แต่ผมเคยเทียบใน Series 5 , 523i In-Line6 2,396cc | 540i V8 4,400cc ยังไง  V8 ก็กินดุกว่าแบบไม่ต้องถาม ลอยลำที่ 160-180 523i กินอยู่ 9.5-10LM/L 540i V8 กินอยู่ 8-8.5 KM/L

แต่ถ้า cc ห่างกันนิดหน่อยแบบ civic 1.8-2.0 , accord 2.0-2.4 อันนี้เครื่องใหญ่กว่าประหยัดกว่าแน่ๆล่ะคับ ผลทดสอบในเว็บเห็นกันอยู่แล้ว
2013 W204 C250 AMG Plus
2011 Prius
2010 X5 xDrive 4.8i
2003 E39 523i Sport