ราคาน้ำมันปรับลดลง ท่ามกลางความกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่อาจกระทบความต้องการใช้พลังงาน หลังดัชนีชี้วัดกิจกรรมภาคการผลิตจีนเดือน มิ.ย. (เบื้องต้น) ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน ขณะที่เฟดปรับลดคาดการณ์แนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ / ศูนย์วิจัยกสิกรไทย
บมจ.ไทยออยล์คาดการณ์แนวโน้มราคาน้ำมันดิบดูไบว่าจะผันผวน โดยเคลื่อนไหวในกรอบ 100-110 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล จากความกังวลต่อวิกฤตหนี้สาธารณะในยูโรโซนและปัจจัยด้านศรษฐกิจของที่ ไม่แน่นอน โดยหากกรีซยังคงอยู่ในยูโรโซนและมีแนวทางแก้ปัญหาที่ เป็นรูปธรรมแล้วคาดการณ์ว่าราคา
น้ำมันจะกลับมาอยู่ในระดับที่ สูงกว่า 100 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทั้งนี้ ปัจจัยที่ จะทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้น คือ ด้านปัจจัยอุปสงค์ความต้องการในตลาดโลกที่ เพิ่มขึ้นในช่วงฤดูหนาวช่วงครึ่งหลังของปี ในด้านปัจจัยอุปทาน มาตรการคว่ำบาตรการนำเข้าน้ำมันดิบจากอิหร่านที่ มีผลบังคับใช้วันที่ 1 ก.ค. 55 และปัญหาความไม่สงบในประเทศผู้ผลิตน้ำมัน ได้แก่ ซีเรีย ซูดาน และอิรัก ที่จะส่งผลให้อุปทานน้ำมันในตลาดโลกลดลง
สศค. วิเคราะห์ว่า จากการที่ เศรษฐกิจในประเทศขนาดใหญ่ ที่ ชะลอตัวทั้งยุโรปและจีน ทำให้กำลังซื้อ และกำลังการผลิตของสองประเทศผู้นำเข้าน้ำมันนี้
ลดลง อันจะส่งผลให้อุปสงค์ต่อราคาน้ำมันในตลาดโลกลดลง ประกอบกับแนวโน้มการนำเข้าน้ำมันของสหรัฐฯ ที่ ลดลงนั้น ทำให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกมีแนวโน้มลดลง อย่างไรก็ตาม ผลทางฤดูกาลที่การนำเข้าน้ำมันจะเพิ่มขึ้น ในช่วงฤดูกาลหนาวนั้น ทำให้คาดการณ์ได้ว่า ราคาน้ำมันในช่วงฤดูหนาวหรือปลายปีนั้นจะปรับตัวเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม สถานการณ์เศรษฐกิลโลกที่ ไม่แน่นอนนี้จะทำให้ราคาน้ำมันในช่วงครึ่งหลังของปี นั้นยังคงผันผวนตามสภาพเศรษฐกิจ