ผู้เขียน หัวข้อ: ขอคำแนะนำการใช้เกียร์ 3,2,L ในเกียร์อัตโนมัติครับ  (อ่าน 4991 ครั้ง)

ออฟไลน์ Nuttie

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 989
ผมสงสัยเรื่องการช่วยเบรคด้วยกำลังเครื่อง กับการใช้เกียร์ 3,2,L ครับ

คืออยากทราบว่าเกียร์ 3 , 2 , L

- แต่ละเกียร์ควรใช้ในสถานะการณ์ไหน

- ถ้าหากจะเปลี่ยนเกียร์จาก D > 3 ควรเปลี่ยนเกียร์ตอนไหนครับ ขับอยู่ที่เกียร์ D ความเร็ว 120 ถ้าจะเปลี่ยนจาก D>3 เปลี่ยนตอนนั้นเลยได้ไหม

- ถ้าหากจะเปลี่ยนจาก D > 2 หรือ 3 > 2 ควรเปลี่ยนเกียร์ตอนไหนครับ รถหยุดหรือรถวิ่งอยู่

จริงๆมีข้อสงสัยเกี่ยวกับเกียร์ 3 , 2 , L เนี่ยเยอะมาก เห็นว่าเกียร์พวกนี้ช่วยในการแร่งแซง หรือ ช่วยเบรค[ด้วยกำลังเครื่อง]ได้ จึงอยากจะได้ข้อมูลเอาไว้

เพราะต้องขับรถทางไกลทุกอาทิตย์ เผื่อจะลองศึกษาและลองใช้บ้างนะครับ


ออฟไลน์ MaiSki

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 679
ในกรณีที่เป็นเกียร์4สปีด 3 2 มันก็คือเปลี่ยนเกียร์สูงสุดได้3กับ2เลยครับ ถ้าเราเข้า3 ตั้งแต่ออกตัวเกียร์เราก็จะเปลี่ยนได้สูงสุดถึงเกียร์3เท่านั้น

แต่ถ้าอยู่ที่เกียร์4ขณะขับD ตบมา3 เกียร์จะเปลี่ยนลงมาให้จากสี่เหลือ3 เหมือนคิกด์ดาว แต่ถ้าเราไม่เหยียบคันเร่งก็จะกลายเป็นengine breakไป

ใช้เหมือนรถเกียร์ธรรมดานั่นแหละ

ออฟไลน์ GUDJA-MAN

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,648
ขับในสถานการณ์ปกติ เข้า D อย่างเดียวครับ

ช่วงเร่งแซง โดยปกติทั่วไปก็จะใช้วิธี kick down กัน โดยไม่จำเป็นต้องโยกเกียร์ช่วย
แต่ในรถบางรุ่นที่เกียร์มันตอบสนองช้าเกินไป กระทืบมิดแล้ว ต้องรอประมาณ 2 วินาที กว่าเกียร์จะเปลี่ยน
เราจึงต้องเล่นด้วยวิธีการเชนจ์เกียร์ เลื่อนลงมา 3
เพื่อที่จะให้เกียร์นั้น เปลี่ยนจังหวะลงในทันที

ถ้าเป็นรถเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด ส่วนมากเกียร์ 3 จะสามารถใช้ได้ในความเร็วที่ค่อนข้างสูงอยู่แล้ว
เรียกได้ว่า ใกล้ๆ จะถึง top speed ของรถเลยละครับ
ซึ่งในรถบางรุ่น ก็จะมีระบบป้องกันความเสียหายของเกียร์ คือ เมื่อใช้ความเร็วเกิน เกียร์ก็จะไม่ยอมลดตำแหน่งให้
ในคู่มือรถเอง ก็มักจะมีบอกถึงความเร็วที่ควรใช้ในแต่ละเกียร์

การจะผลัก D ไป 2 นั้น ไม่จำเป็นต้องรถหยุด วิ่งๆ อยู่ก็สามารถทำได้
ซึ่งจะทำได้ขนาดไหน ก็ขึ้นอยู่กับความเร็วของรถในขณะนั้นด้วยเช่นกัน ว่ามันสัมพันธ์กันหรือเปล่า

แต่ถ้าจะอาศัยเป็นเอนจิ้นเบรกในช่วงใช้ความเร็วสูง
เลื่อนมาแค่ตำแหน่ง 3 ก็น่าจะเพียงพอแล้ว ทีเหลือกดเบรกให้ลึกเป็นพอครับ
ส่วนถ้าลงเขาหรือทางชัน ตำแหน่ง 2 และ 1 ก็จะมารับหน้าที่นี้ไป

ออฟไลน์ YenChar

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,177
ถ้าขับ 120 แล้วตบเกียรมาเป็นเกียร 3 รอบจะดีดสูงขึ้นไป
พอคุณกดคันเร่ง รถจะไม่ต้องเสียเวลาคิ๊กดาว มันจะพุ่งออกไปเลย

แค่เสี้ยววินาทีเท่านั้นครับ
เวลาเล่นบทโหด บทมุด ผมจะคาเกียร 3 ไว้เลย
พอเร่งๆเบรคๆ ยกๆ ถ้าใส่เกียร D รถมันจะเปลี่ยนเป็นเกียร 4 ให้ตลอด เสียจังหวะครับ
แต่ถ้าคาเกียร 3 ไว้ รอบสูงๆ เวลาถอนคันเร่ง จะได้เอ็นจิ้นเบรค เวลาเร่งรถก็พุ่งออกไปเลย
เวลาเล่นบทมุด หนีรถเครื่องใหญ่ๆสบายครับ รอบที่เกียร 3 อยู่ที่ 3-4 พันรอบ แรงบิดมารออยู่แล้ว

อย่าลืมดูความเร็วสูงสุดที่เกียรนั้นๆด้วยครับ
ส่วนมาก โตโยต้า เกียร 3 จะสุดที่ราวๆ 150-160 เกียร 4 จะเป็นความเร็วสูงสุด
ถ้าคาเกียร 3 ไว้ แล้วลากไปถึงความเร็ว 160 รอบมันจะตัด หน้าทิ่ม เสียจังหวะ และสึกหรอด้วยครับ

ออฟไลน์ Action

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,667
เป็นดั่งเช่นทุกท่านบอกครับ ผมมีโอกาสได้ใช้ช่วงน้ำท่วม ไปช่วยญาติน่ะครับ

ต้องพยายามเอารถญาติออกจากบ้าน(ดีบ้านสูง) เจอน้ำประมาณ 20 เซนในซอย ลาก L ยาวสุดทาง กลัวน้ำเข้าท่อ ;D

ส่วนเรื่องจังหวะขึ้นเขาหรือแซง รถเก่าบางคันกำลังเครื่องไม่พอ กระทืบแล้วมันคลิกดาวไม่ทันใจ ก็เล่นเกียร์เอาครับ

แต่จังหวะเร่งแซง การกระตุกหรือตบเกียร์ลง 3 หรือ 2 นี่ พยายามเลี่ยงในช่วงความเร็วสูง(130+) นะครับ

ถ้าขึ้นเขา กรณีเกียร์ 3 แรงไม่พอ ก็ลง 2 แต่ถ้าจังหวะแซงตบลงแค่ 3 ก็เอาอยู่แล้วล่ะครับ ขอแค่เลือกใช้ให้เป็นและถูกเวลาก็พอ

อย่าพยายามทำบ่อย ระวังเกียร์มันจะอำลาโลกก่อนกำหนด ;D
ถึงรถผมจะไม่แรง แต่ก็ยังแซงทุกคันไม่เว้น...
Honda Civic 3dr. '96
Chrysler Neo '98
BMW 320i '01
Honda Civic FD 2.0 '06 > Sold
Mazda BT-50 Pro '12

ออฟไลน์ 5thAvenue

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,433
  • Hi!!!!
    • อีเมล์
ปกติ 3 จะเป็นช่วงที่อัตราทดเกียร์ เท่ากับ 1:1 จึงเป็นเกียร์ที่ใช้เรียกอัตราเร่งได้ดีครับ

สูงกว่านั้นมักจะเป็นโอเวอร์ไดรฟ์ ไม่ว่าจะ 4 หรือ 5 สปีดก็ตาม

เพราะบางทีขับเกียร์ห้าสปีด คิกดาวน์เบาๆ อาจลงมาแค่สี่

ออฟไลน์ นครอัญมณี

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,181
    • นครอัญมณี
    • อีเมล์
ตำแหน่งเกียร์อยู่ที่ 3 หมายถึง จะเร่งเครื่องเท่าใด เกียร์จะไม่เปลี่ยนเป็นเกียร์ที่สูงกว่าเกียร์ 3 โดยจะเปลี่ยนให้แค่ 1-2-3 เท่านั้น
ตำแหน่งเกียร์อยู่ที่ 2 หมายถึง จะเร่งเครื่องเท่าใด เกียร์จะไม่เปลี่ยนเป็นเกียร์ที่สูงกว่าเกียร์ 2 โดยจะเปลี่ยนให้แค่ 1-2 เท่านั้น
ตำแหน่งเกียร์อยู่ที่ L หมายถึง จะเร่งเครื่องเท่าใด เกียร์จะไม่เปลี่ยนเป็นเกียร์ที่สูงกว่าเกียร์ 1 ลากเครื่องยนต์กันให้มันส์ไปเลย


สรุป
ไม่มีความจำเป็นเลย ในการใช้งานตามปรกติ ใช้แค่ R-N-D ก็พอ
เพราะ เกียร์ยุคปัจจุบัน รวมถึงย้อนหลังไปนับ สิบปี เกียร์มีความฉลาดพอสมควร
สามารถเปลี่ยนให้อัตโนมัติ ว่าขึ้นเนิน หรือ ลงเนิน จะทำการลากเกียร์ให้เอง

เกียร์ในปัจจุบัน ในรถที่ทันสมัย จะไม่มี 3,2,L ให้เห็นอีกแล้ว
จะมีแค่ R-N-D แล้วก็ +/- เท่านั้น
รักรถมาก
รักครอบครัวมากกว่า
รักชาติ-ศาสน์-กษัตริย์มากที่สุด