ผู้เขียน หัวข้อ: รถสตาร์ทไม่ติด แบบนี้ น่าจะเป็นที่อะไรครับ  (อ่าน 6108 ครั้ง)

ออฟไลน์ RERFz

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 568
    • อีเมล์
รถสตาร์ทไม่ติด แบบนี้ น่าจะเป็นที่อะไรครับ

ดับเครื่องใหม่ๆ สัก  10 นาที พอจะสตาร์ทอีกรอบ จะสตาร์ทไม่ติด
แต่เมื่อเช้าจอดเติมแก็ส เติมน้ำมัน ไม่กี่นาที สตาร์ทติด แต่ก็บิดกุญแจแช่นานออยู่ (หรือว่าโชคดีหว่าตอนนั้น)

อาการ ถ้าไม่ติด เสียงจะยาว และเบาๆ ไฟหน้าปัดกระพริบๆ

อายุแบต เกือบ 2 ปีแล้วครับ
แบบนี้ น่าจะเป็นที่แบต หรือว่าไดสตาร์ท หรือว่าอุปกรณ์อื่นครับ

ขอบคุณมากครับ
ปล. ขอให้พรุ่งนี้เช้าสตาร์ทติดทีเถอะ จะกลับบ้านไปหาคุณแม่
เอารถไปเปลี่ยนอุปกรณ์ที่น่าจะเป็นปัญหาด้วย

NgoH

  • บุคคลทั่วไป
Re: รถสตาร์ทไม่ติด แบบนี้ น่าจะเป็นที่อะไรครับ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: สิงหาคม 10, 2012, 17:42:50 »
ไฟไม่พอใช้ แบตเก็บไฟไม่ได้ เปลี่ยนเหอะ ถ้าไม่เปลี่ยน เตรียมที่พ่วงชาร์ทไปด้วยหละ

ออฟไลน์ TnP_PKt

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,430
Re: รถสตาร์ทไม่ติด แบบนี้ น่าจะเป็นที่อะไรครับ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: สิงหาคม 10, 2012, 18:07:09 »
เดี๋ยวนะครับ ถ้าอาการเป็นที่แบตลองใช้วิธีเช็คคร่าวๆก็เอาโวลท์มิเตอร์วัดครับ

ค่าควรประมาณ 13-14 V ถ้า 12 V อาจถือว่าอ่อนแล้วให้วัดตอนยังไม่ได้ออกไปไหนลองดูครับ

ส่วนตัวที่เคยเจออาการแบตเก็บไฟไม่อยู่คือหากดับเครื่องแล้วประมาณ 10 นาทีสตาร์ทจะติดปกติ

แต่แบตจะหมดตอนจอดรถทิ้งไว้นานเพราะเก็บไฟไม่อยู่ครับ เอาง่ายๆส่วนใหญ่แบตหมดมักจะ

สตาร์ทไม่ติดหลังจากทิ้งรถไว้ข้ามคืนนั่นแหละครับ ก่อนหน้านั้นถ้าคนไม่สังเกตุก็แทบจะไม่มีอาการเตือน

แต่ถ้าสังเกตุดีๆก็จะมีเสียงสตาร์ทที่ผิดปกติ แล้วก็จะสตาร์ทยาวกว่าหน่อยแต่ไม่ทุกครั้ง(ไม่ชัวร์นะครับ)

ส่วนกรณีนี้หากเป็นรถเบนซิน ลองเช็คระบบจุดระเบิดดูรึยังคับ โดยเฉพาะคอยล์มักจะมีปัญหาตอนเครื่องร้อนแล้วคับ

แต่เสียงไดสตาร์ทที่ไฟไม่พอ นี่ก็ชวนสงสัยให้เป็นแบตได้เหมือนกันคับ อย่างที่บอกเบื้องต้นใช้โวล์ทมิเตอร์วัดดูครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 10, 2012, 18:08:47 โดย TnP_PKt »

ออฟไลน์ RERFz

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 568
    • อีเมล์
Re: รถสตาร์ทไม่ติด แบบนี้ น่าจะเป็นที่อะไรครับ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: สิงหาคม 10, 2012, 18:38:24 »
เดี๋ยวนะครับ ถ้าอาการเป็นที่แบตลองใช้วิธีเช็คคร่าวๆก็เอาโวลท์มิเตอร์วัดครับ

ค่าควรประมาณ 13-14 V ถ้า 12 V อาจถือว่าอ่อนแล้วให้วัดตอนยังไม่ได้ออกไปไหนลองดูครับ

ส่วนตัวที่เคยเจออาการแบตเก็บไฟไม่อยู่คือหากดับเครื่องแล้วประมาณ 10 นาทีสตาร์ทจะติดปกติ

แต่แบตจะหมดตอนจอดรถทิ้งไว้นานเพราะเก็บไฟไม่อยู่ครับ เอาง่ายๆส่วนใหญ่แบตหมดมักจะ

สตาร์ทไม่ติดหลังจากทิ้งรถไว้ข้ามคืนนั่นแหละครับ ก่อนหน้านั้นถ้าคนไม่สังเกตุก็แทบจะไม่มีอาการเตือน

แต่ถ้าสังเกตุดีๆก็จะมีเสียงสตาร์ทที่ผิดปกติ แล้วก็จะสตาร์ทยาวกว่าหน่อยแต่ไม่ทุกครั้ง(ไม่ชัวร์นะครับ)

ส่วนกรณีนี้หากเป็นรถเบนซิน ลองเช็คระบบจุดระเบิดดูรึยังคับ โดยเฉพาะคอยล์มักจะมีปัญหาตอนเครื่องร้อนแล้วคับ

แต่เสียงไดสตาร์ทที่ไฟไม่พอ นี่ก็ชวนสงสัยให้เป็นแบตได้เหมือนกันคับ อย่างที่บอกเบื้องต้นใช้โวล์ทมิเตอร์วัดดูครับ

ขอบคุณทั้งสองท่านครับ

พอดีผมเรียนด้านไฟฟ้าพอดีเลย มีมิเตอร์อยู่ห้องพอดี เด๋วพรุ่งนี้ก่อนสตาร์ทจะลองวัดดูก่อนครับ

ออฟไลน์ power2002

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 689
  • ประหยัดได้ด้วยเท้าตัวเอง!
Re: รถสตาร์ทไม่ติด แบบนี้ น่าจะเป็นที่อะไรครับ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: สิงหาคม 11, 2012, 21:20:15 »
แบต2ปี อยากให้เช็คแบตตามนี้นะครับ   1.เปิดฝาปิดช่องเติมน้ำกลั่น เอาไฟฉายส่องดูแผ่นธาตุ(ห้ามใช่ไฟแช็ค หรือสูบบุหรี่เด็ดขาด) ดูทั้ง6ช่อง ว่าแผ่นธาตุยังเป็นแผ่นบางๆเรียงกันไม่บิดเบี้ยว ถ้ายังเรียงกันดีอยู่ก็ดูน้ำกลั่นให้ได้ระดับ    2.เช็คความต่างศักดิ์ก่อนสตาร์ทรถในตอนเช้า(แบตเย็น) แล้วจดบันทึก แล้วค่อยสตาร์ทรถวัดแบตอีกครั้งแล้วจดบันทึก   3.วิ่งไปจนเครื่องร้อน   จอดรถยังไม่ต้องดับเครื่องวัดแบต ดูว่าความต่างศักดิ์เท่าๆกับตอนที่สตาร์ทในตอนเช้าหรือไม่ ถ้าสูงกว่าหรือต่ำกว่าที่วัดในตอนเช้าสันนิษฐานว่าแบตเริ่มเสื่อม    3.1ดับเครื่องแล้วรีบวัดแบคอีกครั้งเทียบกับที่วัดในตอนเช้าก่อนสตาร์ทรถ   ถ้ามากกว่า หรือน้อยกว่า สันริษฐานว่าแบตเริ่มเสื่อม  4. ปิดฝากระโปรง รอ5นาทีสตาร์ทอีกครั้ง หากมีอาการ สตาร์ทยาก สันนิษฐานว่าแบตเสื่อม  5.ทางลัด แวะเข้าร้านขายแบตใหญ่ แล้วถามเค้าว่าสามารถเช็คแรงดันแบต สำหรับสตาร์ทเครื่องได้หรือไม่ ถ้าเค้าบอกว่าได้ ให้ถามต่อว่าใช้อะไรวัด  ถ้าตอบว่า มัลติมิเตอร์หรือกระเปาะวัดความถ่วงจำเพาะ ให้ถอยออกมา  ...เครื่องวัดแรงดันสตาร์ทจะเป็นเครื่องขนาดประมาณใกล้เคียงกับมัลติมิเตอร์ แต่จะต่องใส่รุ่นของแบตและรุ่นรถ ลงไปด้วยครับ เครื่องจะสามารถบอกได้ว่า แบตลูกนั้นยังมีความสามารถในการจ่ายไฟให้ไดสตาร์ทพอหรือไม่           หมายเหตุ ความต่างศักดิ์ของแบตไม่ได้เป็นตัวบอกว่าแบตเสื่อมหรือไม่  แบตที่วัดได้ 12โวลท์ อาจมีกำลังแค่จ่ายไฟให้สิ่งอำนวยความสะดวกในรถ แต่อาจมีพลังไม่พอในการหมุนเครื่องยนต์ครับ     ทั้งหมดนี้เป็นประสบการณ์ตรง ที่ทำเอง เทสท์เอง เปลี่ยนเอง ทำแบตความต่างศักดิ์ต่ำให้กลับมามีความต่างศักดิ์ปกติเอง  ดังนั้นหากนำไปเผยแพร่มิอาจนำไปอ้างอิงตามหลักวิชาการได้  ผมจบมนุษย์ศาสตร์ มิได้จบเทคนิคช่างครับ          ขออภัยสำหรับตัวหนังสือที่เว้นวรรคอ่านยากนะครับ พิมพ์ในมือถือ เว้นวรรค+ขึ้นบรรทัดใหม่ยากครับ