ผู้เขียน หัวข้อ: คิดยังไง กับการถ่ายน้ำมันเครื่องปีล่ะครั้งครับ?? // การบูรณะช่วงล่างรถเก่า "ยกชุด หรือซ่อม  (อ่าน 6974 ครั้ง)

ออฟไลน์ YenChar

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,179
ขอตั้ง 2 หัวข้อในหนึ่งกระทู้ เพื่อไม่ให้รบกวนพื้นที่เวปบอร์ดนะครับ
........................

1.

อยากทราบว่า ทุกท่านมีความเห็นยังไงกับการถ่ายน้ำมันเครื่องปีล่ะครั้งครับ

กับรถในโจทย์ 3 ข้อนี้ รถคันไหนจะมีอัตราการเสื่อมของคุณภาพน้ำมันเครื่องมากกว่ากัน??

A. รถใช้งานในเมือง วิ่งปีล่ะ 5-8 พันกิโล วิ่งทุกวัน แต่เป็นระยะทางสั้นๆ แค่ 15 กิโล ทุกวัน (แต่รถติด)
B. รถใช้งานน้อยมาก จอดมากกว่าวิ่ง ปีนึงวิ่งแค่ 5 พันกิโล ใช้งานแค่เสาร์อาทิตย์เท่านั้น
C. รถวิ่งชานเมือง วิ่งปีละ 1 หมื่นกิโล ตกวันล่ะ 30 กิโล เกือบทุกวัน รถติดบ้าง ไม่ติดบ้าง
D. รถวิ่งทางไกล วิ่งปีล่ะ 2 หมื่นกิโล รถไม่ติดเลย วิ่งเรื่อยๆ ไม่อัดรอบสูงๆ

ทุกท่านคิดว่า ถ้ารถ A-D เปลี่ยนน้ำมันเครื่องปีล่ะแค่ 1 ครั้ง (แต่เป็นน้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้เกรดดีๆ)
รถคันไหน จะมีสุขภาพเครื่องยนต์ดีกว่ากันครับ??
รถ A เจอรถติดทุกวัน แต่วิ่งรอบต่ำตลอด ไม่เคยขับเกิน 3 พันรอบเลยเพราะคลานในเมืองตลอด
รถ B เสื่อมสุดหรือเปล่า? เพราะอาทิตย์นึง สตาร์ตแค่ 1-2 ครั้งเอง แต่รถคันนี้ ก็วิ่งน้อยนะ
รถ C สุขภาพดีมั้ย? เพราะวิ่งเรื่อยๆ น่าจะมีน้ำมันเครื่องหล่อเลี้ยงตลอด
รถ D วิ่งไกล แต่วิ่งชิลๆ แต่ 2 หมื่นกิโล ถ่ายน้ำมันเครื่องทีนึง มันนานไปหรือเปล่า??

ขอความเห็นครับ
รถของคุณ เป็นรถคันไหน? แล้วถ่ายน้ำมันเครื่องปีล่ะครั้ง เหมาะสม หรือลากนานเกิ๊นนน

.............................................................

2.

เรื่องของช่วงล่างรถเก่า

อยากทราบว่า ถ้ารถอายุมากขึ้น เริ่มมีเสียงรบกวนให้รำคาญใจ แต่หาสาเหตุไม่ได้
รู้สึกว่า ขับบนถนนเดิมๆ โค้งเดิมๆ แต่รถไม่เกาะเหมือนเดิม
คุณจะแก้ปัญหานี้ด้วยการบูรณะช่วงล่างใหม่มั้ยครับ

ถ้ารถอายุ 10 ปี แล้วคุณมีปัญหาอะไรบางอย่าง ทำให้ไม่สามารถเปลี่ยนรถได้(และกะจะใช้เค้าไปอีกหลายปี)
แต่คุณมีเงิน 1 แสน เป็นงบเพื่อบูรณะรถคันนี้
ระหว่าง
"หาสาเหตุ แล้วซ่อมมันเป็นจุดๆ" : เสียตรงไหน ซ่อมตรงนั้น (แต่เด๋วส่วนอื่นก็เสียอีก ก็ต้องหาอีก จุกจิกมั้ย??)
กับ
"ยกแผง ทำช่วงล่างใหม่ไปเลย" : ไม่ต้องหาสาเหตุ ไหนๆก็เก่าแล้ว งบเป็นแสน ยกชุดช่วงล่างใหม่เลยดีกว่าาา
คุณจะเลือกทางไหนครับ??


อยากทราบความเห็น และทางออกสำหรับปัญหาครับ
ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ KAKASHII

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,638
  • งามปะละ
ปีละ 1 ครั้งผมว่านานไปนะ สำหรับผม 6 เดือนก็พอละครับ น้ำมันเครื่องดีๆ 4 ลิตรก็แค่ 2 พันเองครับ

ออฟไลน์ DummyNose

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 111
ถ้าเป็นรถที่หาช่วงล่างยกแพจากญี่ปุ่นได้ ซื้อยกแพช่วงล่างมาจากญี่ปุ่นดีกว่าครับ
งบเหลือๆเลยด้วย
รถผม Accord ปี 96 ลง H22a 190 แรงม้า พร้อมเกียร์ ยกแพหน้า (ได้เบรคใหญ่ขึ้นด้วย)
และยกแพช่วงล่างหลัง+โช้ค ในงบประมาณทั้งหมด 6 หมื่นกว่าบาท
แค่นี้ก็เยี่ยมแล้วครับ ใช้ได้อีกนานหลายปีแน่นอน

แต่ถ้าเป็นรถที่หาอะไหล่มือสองยากและราคาแพง ก็เลือกซ่อมเป็นจุดๆไปจะดีกว่า

ออฟไลน์ mick

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,547
ตอบข้อ 2 จากที่เคยทำมา ถ้าเป็นไปได้ ทำยกชุดดีกว่า ซ่อมทีละจุด จุกจิก เพราะตอนหลังก็เสียเกือบทุกจุด
เบื่อมากๆ คิดผิด น่าจะขายไปแทน ตอนที่ยังไม่เสียเงินซ่อม ตอนนี้ขายไม่ลง ซ่อมไปเป็นแสน benz w210
เตือนว่ารถเก่า อย่าคิดว่าจะซ่อมแล้วหายดีแล้ว พร้อมเสียได้ตลอด

ออฟไลน์ GUDJA-MAN

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,649
ช่วงล่างไม่จำเป็นต้องยกใหม่หมดครับ
ประเด็นที่ว่า หาสาเหตุไม่เจอ
น่าจะเกิดจากช่างไม่มีฝีมือ ไม่ก็..ไม่กล้ารื้อ ออกมามากกว่า

ผมเคยเอารถเข้าศูนย์ ตอนนั้นมีเสียงดังกุกๆ
เอารถไปทิ้งไว้ที่ศูนย์บริการ เพื่อหาสาเหตุ
ปล่อยเวลาผ่านไป 4 วันเต็มๆ แก้ปัญหาไม่ได้
จนผู้จัดการศูนย์ ต้องโทรมาบอกว่าหาสาเหตุไม่เจอจริงๆ
เท่านั้นยังไม่พอ เอาบล๊อคลม ถอดล้อไม่ระวัง ทำล้อแม๊กเป็นรอยอีกต่างหาก
หัวหน้าช่างเดาว่า ตัวถังรถผมบิด ต้องไปอู่สีขึ้น JIG แก้เอา !!

อืมม..เอากะเขาซิ

สรุปเคสนี้ ผมไม่บ้าจี้เข้าอู่สี แต่ไปร้านซ่อมช่วงล่างที่เป็นเพิงข้างทาง
รื้อออกมาหมด ไล่เช็คทุกจุด ใช้เวลาไปครึ่งวัน ผลก็คือ ลูกหมากปีกนกขาด
เปลี่ยนเสร็จหายเลยทันที

GreenG

  • บุคคลทั่วไป
ผมเคยเป็น A กับ C ครับ ขอตอบว่า

เป็น A ผมเปลี่ยนทุก 9 เดือน ใส่น้ำมันเครื่องธรรมดาตลอด(คันเก่า)

เป็น C ผมเปลี่ยนทุก 6 เดือน กึ่งสังเคราะห์ คันปัจจุบัน ครับ อีกหน่อยคงไปอู่นอกและใช้ กึ่งสังเคราะห์ เปลี่ยนตามระยะ แบบเดิม(แบบ A ครับ)ครับ

ช่วงล่าง ผมจะดูก่อน ว่าโช๊ค ดีหรือไม่ ถ้าดีก็เปลี่ยนเฉพาะจุด ถ้าไปแล้วก็ยกแผงเลย
แต่จะยกที่จำเป็นนะครับ

ออฟไลน์ 6162002

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,089
ข้อแรก ก็ลองคำนวณดูว่า เวลาที่ใช้รถแต่ละวัน คูณรอบเครื่องไป สรุปดูว่าแต่ละแบบ ปีนึงเครื่องหมุนกี่รอบ น่าจะพอได้แนวทางคร่าวๆบ้างครับ

ส่วนข้อสองผมว่าร้านเก่งๆตอบได้นะครับว่า มันควรจะแก้แค่จุดเดียว หรือต้องเปลี่ยนทั้งชุด (เพราะถ้าเปลี่ยนจุดเดียว เดี๋ยวอันอื่นก็เสีย) อะไรแบบนั้น เหมือนเวลาโช้ครั่ว เปลี่ยนไปเลยจะดีกว่า  ถ้าไดสตาร์ทเสีย บางที เปลี่ยนอุปกรณ์บางตัวราคาหลักร้อย ก็ใช้ต่อได้อีกนาน อะไรเงี้ยครับ (พอดีผมก็ไม่ค่อยรู้เรื่องด้านนี้เลยลงลึกให้ไม่ได้น่ะครับ)

ผมว่าหาร้านเก่งๆ แล้วไปปรึกษาดูดีกว่าครับ  การเปลี่ยนทั้งหมด ไม่ใช่คำตอบเสมอไปแน่นอนครับ

ออฟไลน์ lotto

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 97
    • อีเมล์
1.1 ผมว่า c น่าจะเสื่อมสุดครับ เจอรถติดร้อนๆ ผสมกับวิ่ง
1.2 ผมว่า b ครับ ยังไงฟิล์มจากน้ำมันดีๆ น่าจะเคลือบเอาอยู่ถึงจะไม่มีน้ำมันเครื่องมาเลี้ยง
ของผม เปลี่ยนสังเคราะห์แท้ทุกๆ 3-4 เดือนหรือเวลาที่วาล์วเริ่มดังน่าเกลียด รูปแบบการใช้งานน่าจะเป็น c แต่มีใช้รอบสูง

2. ถ้าเชียงกงยังมีสภาพสวยๆ ให้เลือกผมเปลี่ยนยกแพเลยครับ แต่ถ้าไม่มีคงเบิกห้างเปลี่ยนเป็นชิ้นๆ ไป

ผมโดนมันขอตังทุกเดือน แต่ก็ไม่ถึงกับต้องกินมาม่าครับ  ;D

ออฟไลน์ Cool Runner

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 590
น้ำมันเครื่องผมถ่ายตามระยะทางที่คู่มือกำหนดอย่างเดียวไม่สนว่าเวลานานแค่ไหน และใช้แค่กึ่งสังเคราะห์ก็เกินพอแล้ว
แต่รถกระบะที่ใช้อยู่ผมเปลี่ยนที่ 10,000 โลมาสองแสนโลแล้ว ทั้งๆที่คู่มือให้เปลี่ยนที่ 5,000 โล
ช่วงล่างเช็คและเปลี่ยนเป็นจุดๆไปไม่ได้ทำทีเดียวทั้งหมด แต่ถ้าตอนถอดมาเจอชิ้นไหนเสื่อมสภาพก็จะเปลี่ยนไปพร้อมกัน
ผมว่าไม่จุกจิกอะไรเพราะที่ผ่านมาสองแสนกว่าโลเปลี่ยนแค่โช้คไปสองชุดเท่านั้นและผมทำเองด้วย
ปล.ไม่นับยางที่เปลี่ยนไปสี่ชุดแล้ว

ออฟไลน์ HYDE--

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,643
    • อีเมล์
รถ C เปลี่ยนปีละครั้ง ก็โอเคครับ
แต่รถ D สำหรับสภาพอากาศเมืองไทย ควรเปลี่ยนปีละ 2 ครั้ง หรือ ทุกหมื่นโลจะดีกว่า
ถึงแม้จะเป็นน้ำมันเครื่องที่รองรับถึง 2 หมื่นกิโลก็ตามที

เรื่องช่วงล่าง ถ้างบถึง ก็ยกแพเลยครับ คืนฟิลลิ่งรถใหม่ได้จริงๆ จากประสบการคนใกล้ตัวผมกับรถอายุ 12 ปี

ออฟไลน์ beebird

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,058
    • อีเมล์
รถผมเป็นแบบ C. รถวิ่งชานเมือง วิ่งปีละ 1 หมื่นกิโล ตกวันล่ะ 30 กิโล เกือบทุกวัน รถติดบ้าง ไม่ติดบ้าง
===> เปลี่ยน นมค.ทุกๆ 6 เดือน ใช้ Fully Syntatic ตลอด

จากโจทย์ เลือกข้อ D. ครับ รถวิ่งดีกว่าจอดแน่นอนครับ ช่วงล่าง ระบบเบรค ดีกว่าหมดครับ บูชยาง ยางแท่นเครื่อง จะมีการยืดหยุ่นตลอดเวลา .... รถวิ่งน้อย จอดเยอะ ใช่ว่าจะดีเสมอไปนะครับ เพราะเจอมากับตัว ตอนนีวิ่งไป 30,000 หม. แต่เปลี่ยนอะไหล่ต่างๆใกล้เคียง รถวิ่งมา 150,000 กม. แระเพลียจริงๆ .....


ช่วงล่าง .... ถ้ามีงบโตๆมาก็จัดไปยกให้หมด แต่ถ้าให้แนะนำหาร้านดีๆทำเป็นจุดๆไปดีกว่าครับ

ออฟไลน์ decptt

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,572
A. รถใช้งานในเมือง วิ่งปีล่ะ 5-8 พันกิโล วิ่งทุกวัน แต่เป็นระยะทางสั้นๆ แค่ 15 กิโล ทุกวัน (แต่รถติด)
A เป็นรถที่ใช้งานหนักสุดในบรรดา A-C-D ดังนั้นควรเปลี่ยนที่ 6เดือน น้ำมันกึ่งสังเคราะห์ขึ้นไป(สังเคราะห์แพงไป เอาส่วนต่างเปลี่ยน 2 เที่ยวดีกว่า)

B. รถใช้งานน้อยมาก จอดมากกว่าวิ่ง ปีนึงวิ่งแค่ 5 พันกิโล ใช้งานแค่เสาร์อาทิตย์เท่านั้น
คันนี้ไม่ได้บอกวิ่งยาววิ่งสั้น ไม่กล้าประมาณว่าหนักหรือไม่หนัก แต่ควรเปลี่ยนทุก 6เดือน แบบA แต่ตัวน้ำมัน ใช้เกรดธรรมดาก็พอ 20w-50 API SM เพราะใช้น้อยมาก จะได้ประหยัดค่าใช้จ่าย

C. รถวิ่งชานเมือง วิ่งปีละ 1 หมื่นกิโล ตกวันล่ะ 30 กิโล เกือบทุกวัน รถติดบ้าง ไม่ติดบ้าง
คันนี้ใช้งานปานกลางถึงหนัก เปลีียน 10,000โล หรือ 6 เดือนครั้ง ตามสะดวก ถ้าอยู่รถติดเยอะก็เปลี่ยนไวหน่อยตามเวลา ถ้าไม่ค่อยติดก็เปลี่ยนตามระยะทาง

D. รถวิ่งทางไกล วิ่งปีล่ะ 2 หมื่นกิโล รถไม่ติดเลย วิ่งเรื่อยๆ ไม่อัดรอบสูงๆ
คันนี้ชิวสุด ถ้าสังเคราะห์แท้ กรองแท้ ซัดได้เลยครับ 20,000โล หรือ ปีนึงเปลี่ยนครั้งนึง

.............................................................

เรื่องของช่วงล่างรถเก่า

ถ้ารถอายุ 10 ปี แล้วคุณมีปัญหาอะไรบางอย่าง ทำให้ไม่สามารถเปลี่ยนรถได้(และกะจะใช้เค้าไปอีกหลายปี)
แต่คุณมีเงิน 1 แสน เป็นงบเพื่อบูรณะรถคันนี้
ระหว่าง
"หาสาเหตุ แล้วซ่อมมันเป็นจุดๆ" : เสียตรงไหน ซ่อมตรงนั้น (แต่เด๋วส่วนอื่นก็เสียอีก ก็ต้องหาอีก จุกจิกมั้ย??)
กับ
"ยกแผง ทำช่วงล่างใหม่ไปเลย" : ไม่ต้องหาสาเหตุ ไหนๆก็เก่าแล้ว งบเป็นแสน ยกชุดช่วงล่างใหม่เลยดีกว่าาา
คุณจะเลือกทางไหนครับ??

ผมเลือกเปลี่ยนยกแผงครับ ผมเปลี่ยนช่วงล่างฝั่งหน้า TT Tiger D4D 4WD ให้เพื่อน เฉพาะค่าอะไหล่ช่วงล่างด้านหน้าทั้งหมด รวมช้อคอัพกึ่งแก๊สด้วย ราคาเฉพาะอะไหล่ ประมาณ 15,000 บาทครับไม่รวมค่าแรงครับ (อะไหล่ 80% เป็นยี่ห้อTRW) ดังนั้นถ้างบเป็นแสน เหลือเฟือครับ จะไม่มีปัญหาจุกจิกมากวนใจอีก ใช้ได้อีกเกิน 7 ปีแน่นอน
ปล. ช่วงล่างที่เปลี่ยนมีดังนั้น ลูกหมากปีกนกบนล่าง คันชักสั้น-ยาว คันส่งอันกลาง กล้องยาพวงมาลัย ช้อคอัพกึ่งแก๊ส(Monroe Reflex) ช้อคกันสะบัด23" ลูกหมากกันโคลง สกรูกันโคลง ขาไก่พวงมาลัย

ออฟไลน์ myalexxp

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 829
ABCD ปีละครั้งสบายมากครับ รถผมอยู่ในข่ายนั้นพอดี

เรื่องช่วงล่าง เสียตรงไหน แก้ตรงนั้นครับ


ออฟไลน์ MYJ!M

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 64
ตอบข้อ 2 จากที่เคยทำมา ถ้าเป็นไปได้ ทำยกชุดดีกว่า ซ่อมทีละจุด จุกจิก เพราะตอนหลังก็เสียเกือบทุกจุด
เบื่อมากๆ คิดผิด น่าจะขายไปแทน ตอนที่ยังไม่เสียเงินซ่อม ตอนนี้ขายไม่ลง ซ่อมไปเป็นแสน benz w210
เตือนว่ารถเก่า อย่าคิดว่าจะซ่อมแล้วหายดีแล้ว พร้อมเสียได้ตลอด
เปลี่ยนหมด มันจะมีอะไรให้เสียอีกหล่ะ