ชีวิตผมไม่ค่อยมีอะไรเด่นเท่าไหร่ อาศัยเรื่อย ๆ ครับ ทุกวันนี้อยู่ไปงั้น ๆ แหละ เพราะไม่สามารถออกไปโลดแล่นเหมือนชาวบ้านเขา ที่บ้านค่อยข้างจะตีกรอบพอสมควร ทั้งกิจการที่มี + การปลูกฝังค่านิยมแบบคนจีน ต้องทำการค้า เป็นนายตัวเอง ต้องเป็นเฒ่าแก่ สารพัด แต่ท้ายสุดผมก็แหกคอกไปเอาดีด้านคอมพิวเตอร์ซะงั้น เมื่อก่อนเตี่ยด่าทุกวัน แต่ตอนนี้แกยินดีที่เราประสบความสำเร็จตามที่เราเลือกเดินแล้วในส่วนหนึ่ง
- พ.ศ. 2545 จบ ป.ตรี หมาด ๆ หัวใจยังเป็นชาวร๊อค ถูกปลูกฝังให้หางานดี ๆ เงินเดือนเยอะ ๆ แต่สุดท้ายก็วิจัยฝุ่นตามระเบียบ เพราะเลือกงาน
แต่ก็แอบไปทำงานเป็นลูกจ้างอยู่สักพัก ที่บ้านไม่ปลื้มเท่าไหร่ จึงสั่งให้ลาออกแล้วให้กลับไปช่วยงานที่บ้าน เป็นคนขับรถส่งส้ม ชีวิตช่วงนั้นเศร้ามากครับ จบวิทยาการคอมฯ ไปเป็นคนขับรถส่งส้ม ให้ตายเถอะ ตรงสายงานที่เรียนมามาก ๆ จะบ้าตาย T^T
- พ.ศ. 2546 ประสบอุบัติเหตุรถชน กระดูกสันหลังเคลื่อน ต้องพักรักษาตัวเลยหมดสิทธิ์ทำงานต่อครับ ได้แต่นั่งเฝ้าออฟฟิต แฟนก็ชิ่งได้งานทำก่อนผมอีก(ตอนนั้นยังไม่ได้แต่ง ยังกิ๊กกันอยู่) เศร้าแท้ ๆ
- พ.ศ. 2547 ตัดสินใจของบประมาณทางบ้านเข้าศึกษาต่อ ป.โท (มช.) ระหว่างเรียนก็ทำงานร้านกาแฟ เสาร์-อาทิตย์ก็รับพวกของมาขายตามตลาดนัด
หลังจากจบ ป.โท ก็ช่วยงานทางบ้านอยู่สักพัก(เหมือนกลับไปทำงานใช้หนี้ยังไงไม่รู้) ใช้มาตรฐานการเป็นชาวเกาะอยู่ได้ 1 ปี ก็เจอเนรเทศให้ออกไปหางานทำ
- พ.ศ. 2550 ได้เข้าสอบ กฟผ. ปรากฏว่าสอบติด (สอบในวุฒิ ป.โท อ่านะ คนสอบค่อนข้างน้อย ก็เลยได้แบบงง ๆ + ลุงก็ทำงานอยู่ กฟผ. แกใช้กำลังภายในช่วย) ตั้งแต่นั้นมาก็ทำมาเลื่อย ๆ ครับ ไม่ได้มีอะไรโดดเด่นเท่าไหร่ ทำงานตามภาระหน้าที่ของเราไปวัน ๆ
- พ.ศ. 2551 ตัดสินใจครั้งใหญ่ในชีวิต ไปขอสาวแต่งงาน (อันนี้ถือว่าเป็นงานที่สำคัญสุดของผมแระ อยู่กันมา 2-3 ปีได้ กว่าจะแต่งงานเป็นตัวเป็นตน แหะ ๆ)
- พ.ศ. 2555 ตัดสินใจจะเรียนต่อ ป.เอก แต่เงินยังไม่พร้อม(ยอมสละให้เมียเรียนก่อน) จึงไปสมัครเรียน ป.โท MBA อีกสักใบ เริ่มเรียนปีหน้าจ้า
แต่ที่เจ็บใจนิด ๆ คือ แฟนผมได้งานก่อนผม แต่ทำไมตอนนี้เงินเดือนเราเท่ากัน
แต่มันดีที่เธอเป็นข้าราชการ สิทธิ์ส่งผลต่อลูกโดยตรง ชอบก็ตรงนี้แหละ