ผู้เขียน หัวข้อ: รีวิวรถ คลิปทดสอบสอบรถ ที่เป็นกลางที่ส&  (อ่าน 16497 ครั้ง)

ออฟไลน์ J!MMY

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 15,628
    • www.headlightmag.com
    • อีเมล์
Re: รีวิวรถ คลิปทดสอบสอบรถ ที่เป็นกลางที่ส&
« ตอบกลับ #30 เมื่อ: ตุลาคม 15, 2012, 19:40:59 »
หมอครับ ขอรบกวนด้วยคร้าบ ขอบคุณล่วงหน้าครับ

ส่วนเรื่องฟอร์ดนั้น
เข้าใจละ

แต่บอกตรงๆว่า ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงให้โอกาศอยู่
เพราะที่ผ่านมามันแย่กว่าที่ผมสื่อสารออกไปเสียอีก

ตั้งแต่เรื่องดองเคส ไปจนถึงการสื่อสารกับลูกค้าด้วยภาษาห่วยแตก
นี่ยังไม่นับเคสหนักๆ อีกหลายเคสที่จบไปแล้ว แต่กว่าจะจบได้แทบกระอักเลือดข้ามปีเลยทีเดียว

ไว้เจอกันตัวต่อตัวค่อยเล่าครับ

ออฟไลน์ BaSkInElItEgUyS

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,607
  • BaSkInElItEgUy PeRsEuS PrInCe of ZuEs
    • อีเมล์
Re: รีวิวรถ คลิปทดสอบสอบรถ ที่เป็นกลางที่ส&
« ตอบกลับ #31 เมื่อ: ตุลาคม 15, 2012, 20:07:20 »
หมอครับ ขอรบกวนด้วยคร้าบ ขอบคุณล่วงหน้าครับ

ส่วนเรื่องฟอร์ดนั้น
เข้าใจละ

แต่บอกตรงๆว่า ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงให้โอกาศอยู่
เพราะที่ผ่านมามันแย่กว่าที่ผมสื่อสารออกไปเสียอีก

ตั้งแต่เรื่องดองเคส ไปจนถึงการสื่อสารกับลูกค้าด้วยภาษาห่วยแตก
นี่ยังไม่นับเคสหนักๆ อีกหลายเคสที่จบไปแล้ว แต่กว่าจะจบได้แทบกระอักเลือดข้ามปีเลยทีเดียว

ไว้เจอกันตัวต่อตัวค่อยเล่าครับ


พี่จิมมี่หาเวลาว่างมาเชียงใหม่สิครับ ผมจะนั่งฟังพี่อย่างตั้งอกตั้งใจเลยจริงๆ อิๆๆๆๆ
ปล.ส่วนเรื่องฟอร์ด ด้วยความที่ผมเพิ่งจะใช้แบรนด์นี้แค่สองคัน โฟกัส กะโฟกัสดีเซล
แล้วก็วนๆอยู่แค่ ฟอร์ด เอกสีลม กับฟอร์ดเชียงใหม่
เลยยังไม่เจออะไรที่มันน่าเหวี่ยงมั้งครับ
เพราะที่ผ่านมา ก็มีเหวี่ยงไปบ้าง เพราะรออะไหล่นาน
และยังไม่มืออาชีพพอในการบริการในหลายๆจุด

ออฟไลน์ LimitedEdition

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,410
Re: รีวิวรถ คลิปทดสอบสอบรถ ที่เป็นกลางที่ส&
« ตอบกลับ #32 เมื่อ: ตุลาคม 15, 2012, 22:16:47 »
พูดจากคนที่นั่งรับฟังเคสฟอร์ดมาก็ไม่น้อยกับตา J!MMY

ต้องบอกว่าคุณ BaSkInE|ItEgUys โชคดีมากมากครับ ที่เจอเพียงแค่นั้น และขอให้โชคดีตลอดไปครับ
ที่ผมเจอมา....หนักหนากว่าเยอะมากมากมากมากมากครับ

ออฟไลน์ YF-19

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 974
Re: รีวิวรถ คลิปทดสอบสอบรถ ที่เป็นกลางที่ส&
« ตอบกลับ #33 เมื่อ: ตุลาคม 15, 2012, 23:40:31 »
ขอรบกวนระบุมาเลยได้ไหมครับ

ว่ายี่ห้อไหน และรุ่นไหน ที่ผม เขียนแล้ว คุณรู้สึกกันว่า ไม่เป็นกลาง

อยากรู้ จะได้เอาไปปรับปรุงครับ

ขอเก็บรายละเอียดซักพักครับ เดี๋ยวจัดให้ ;D

ปล. ผมสามสิบถ้วนนะ อายุน่าจะน้อยกว่าคุณจิมมี่นิดนึง

สองสามชั่วโมง หลังจากที่นั่งอ่านทบทวนรีวิวเก่า จนเริ่มเวียนศีรษะ คลื่นไส้(สงสัยจะเริ่มแก่แล้ว เมื่อก่อนนั่งอ่านทั้งคืนได้) ผมก็ขอบอกเลยว่ายอมแพ้ ถ้าจะให้บอกทั้งหมด เท่าที่ผ่านมาตั้งกะ เวปอาหมู

แต่จะสรุปรวมๆ ให้ลองมองย้อนดูแล้วกันครับ

1. VOLVO เป็นรถที่คุณ จิมมี่ชื่นชอบเสมอครับ  และมักจะมีข้อตำหนิเรื่องการขับขี่น้อย (เข้าใจครับ รถดีจริงๆ ผมก็ชอบ) แต่หากสังเกตดู ในกลุ่มรถยุโรปครับ มันจะทำเวลาในการวิ่ง 0-100 ช้าแค่ไหน ก็ไม่เคยได้รับคำว่า อืด

เลย ยกตัวอย่าง S40 นะครับ

"ที่เขียนมานี้ ก็คงสรุปได้คร่าวๆ ว่า Volvo S40 2.0 ลิตร นั้น แม้อัตราเร่งจะดูเหมือน พุ่งทะยานไป
อย่างเนิบๆ แต่พอสัมผัสได้ว่า มีแรงบิดหมุนฉุดลากรถให้พุ่งไปข้างหน้าอยู่ แต่ตัวเลขที่ออกมา
ก็อืดกว่า เพื่อนพ้องร่วมแพล็ตฟอร์มเดียวกัน ที่ใช้เครื่องยนต์บล็อกเดียวกันเป๊ะ แต่ใช้เกียร์ คนละลูกกัน
แม้ว่า อัตราเร่งแซง 80-120 กิโลเมตร/ชั่วโมง จะออกมาอยู่ในเกณฑ์ยอมรับได้กว่าที่คาดคิดนิดนึง ก็ตาม

ส่วนหนึ่ง เพราะ วิศวกร พยายามทดเกียร์ ให้มีระยะห่างพอๆกัน พอดี ก็ดูความเร็วสูงสุดในแต่ละเกียร์
ดูสิครับ มันพอจะบอกอะไรได้บ้างนิดหน่อยละว่า เกียร์ 1 หนะ มากำลังดี แต่หมดเร็ว ตัดเปลี่ยนเกียร์
ขึ้นจังหวะ 2 เร็วไป หน่อย

แต่ เมื่อมาพิจารณาดูดีๆ อัตราทดในลักษณะนี้ ก็คล้ายกับอัตราทดเกียร์ในรถแข่ง
และดูเหมือนว่าวิศวกรของ Volvo จะพยายามเรียกพละกำลังจากเครื่องยนต์
(ซึ่งมีอยู่ไม่ถึงกับมากนัก เครื่องเองก็เร่งรอบไม่ได้จัดเท่าไหร่เลย) จากช่วง
ออกตัว และเร่งแซง ในช่วงความเร็ว ระดับ ไม่เกิน 80 กิโลเมตร/ชั่วโมงเป็นหลัก
สังเกตดีๆ เกียร์ 2 นั้น จะถูกเซ็ตมาให้ ทำงานในช่วง 40-80 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ซึ่งเป็นช่วงที่ผู้คนมักใช้เร่งแซง ในเมือง หรือเร่งพุ่งออกไป ขณะรถกำลังขับแบบคลานๆ
เหมือนกับเพื่อเป็นการหลอกว่า ฉัน มีแรงนะ ทั้งที่เอาเข้าจริง เรี่ยวแรง ก็มีแค่ในระดับหนึ่ง

กระนั้น แม้จะต้องพูดกันตรงๆว่า อัตราเร่งที่ออกมา ช้ากว่า เพื่อนพ้องร่วมแพล็ตฟอร์มตัวถัง
แต่ ด้วยคุณงามความดีหลายอย่างของรถ มันทำให้ท่านผู้เกิน Commander CHENG ของเรา
กลับ Happy ในรถคันนี้ มากกว่าที่ผมจะคาดคิด เรียกได้ว่า มองปัญหาเครื่องยนต์ ที่พยายามเค้น
ได้จนที่สุดแล้ว กลายเป็นเรื่องไม่สำคัญในรถคันนี้ไปเลย "

หรือ C30 ครับ "ส่วนหนึ่ง เพราะ วิศวกร พยายามทดเกียร์ ให้มีระยะห่างพอๆกัน พอดี ก็ดูความเร็วสูงสุดในแต่ละเกียร์
ดูสิครับ มันพอจะบอกอะไรได้บ้างนิดหน่อยละว่า เกียร์ 1 หนะ มากำลังดี แต่หมดเร็ว ตัดเปลี่ยนเกียร์
ขึ้นจังหวะ 2 เร็วไป หน่อย กระนั้น เมื่อมาพิจารณาดูดีๆ อัตราทดในลักษณะนี้ ก็คล้ายกับอัตราทดเกียร์
ในรถแข่ง และดูเหมือนว่าวิศวกรของ Volvo จะพยายามเรียกพละกำลังจากเครื่องยนต์ (ซึ่งมีอยู่ไม่มากนัก
เครื่องเองก็เร่งรอบไม่ได้จัดเท่าไหร่เลย) จากช่วงออกตัว และเร่งแซง ในช่วงต่ำกว่า 80 กิโลเมตร/ชั่วโมง
เป็นหลัก สังเกตดีๆ เกียร์ 2 นั้น จะถูกเซ็ตมาให้ ทำงานในช่วง 40-80 กิโลเมตร/ชั่วโมง ซึ่งเป็นช่วงที่ผู้คน
มักใช้เร่งแซง ในเมือง หรือเร่งพุ่งออกไป ขณะรถกำลังขับแบบคลานๆ เหมือนกับเพื่อเป็นการหลอกว่า
ฉัน มีแรงนะ ทั้งที่เอาเข้าจริง เรี่ยวแรง ก็มีแค่ในระดับหนึ่ง"

C30 อีกอันครับ "แน่นอนว่า รุ่น 2.0 ลิตร มีตัวเขสมรรถนะ ด้อยกว่ารุ่น 2.4 ลิตร อย่างชัดเจน แต่ก็ไม่ถึงกับด้อยกว่ากันมากมาย
จนเกินยอมรับได้ ขณะเดียวกัน ตัวเลขที่ออกมา ก็แสดงให้เราได้รู้แล้วว่า ถ้า C30 ได้เครื่องยนต์ที่แรงกว่านี้
ผมว่า คู่แข่งอย่าง Volkswagen Scirocco อาจถึงกับต้องเหลียวมองค้อนขวับ กันเลยทีเดียว "

สังเกตได้เลยครับ ว่าทุกครั้งที่มันอืด กว่าคู่แข่ง จะต้องมีคำอธิบาย ว่ามันอืด แต่ก็รับได้ ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วมันอืด  และถ้านับจากเวลาแล้ว มันก็อืดกว่าคู่แข่งอย่างชัดเจน

ดูรีวิว hyundai coupe ครับ 10.5 วินาที กลายเป็นแมวหง่าว หรือ focus 2.0 ที่อัตราเร่ง ถึงกับ หาวเรอ และ น่าเบื่อมาก ทั้งที่เวลา ก็ใกล้เคียงกันพอสมควร

สรุปว่า คุณจิมมี่ จะไม่สับ ว่า VOLVO อืดมากเด็ดขาด ไม่ว่ามันจะทำเวลาช้าเท่าเพื่อนฝูงก็ตาม

2. อัตรา สิ้นเปลือง  สังเกต รถส่วนน้อย จะต้องมีการ ทดสอบอัตราสิ้นเปลือง ซ้ำ

VOLVO S60 2.0T ใหม่ อีกแล้วครับ  ครั้งแรกได้ 11 หน่อยๆ ต้องขอซ้ำ จนได้ 12กลางๆ แล้วจบที่ตัวเลขใหม่  ทำไมล่ะครับ ปกติก็บอกเองไม่ใช่หรือว่าลูกค้ากลุ่มพรีเมี่ยม ไม่ค่อยสนใจเรื่องประหยัดน้ำมันเท่าไหร่ แต่กลับต้องทดสอบซ้ำแถมยังสรุปเป็นเลขใหม่อีกด้วย ไม่ได้นำมาหารเฉลี่ยอะไร แต่อย่างใด แถมอ่านดูยังไม่ค่อยจะเป็นข้อเสียเท่าไหร่อีกต่างหาก!!

ที FOCUS TDCI ยังต้องเอามา เทสซ้ำ เพราะตอนแรก ประหยัดเกิน? จนได้เลขหลัง 17กว่าๆ แล้วสรุปจบ? ทำไมไม่คิดดูล่ะครับ ว่าถ้าเอาอีกรอบ มันจะได้ 17 อีกหรือเปล่า ถ้าทำแล้วเหลือ 15 ล่ะ?

3. ความนุ่มแข็ง ของช่วงล่าง Skoda superb!!  "บุคลิกของช่วงล่างรถรุ่นนี้ ถูกเซ็ตมาในแนวกึ่งนุ่ม กึ่งสปอร์ต และแน่น ก็จริง แต่ในช่วงความเร็วต่ำ ขณะขับใช้งานตาม
ตรอกซอกซอย คุณอาจพบเจอความสะเทือน ตึงตังบ้างนิดหน่อย อันมีส่วนมาจาก ล้อ 18 นิ้ว ที่ติดมากับรถคันที่เรานำมา
ลองขับ อยู่บ้าง การผ่านลูกระนาดแต่ละเนิน ยังสัมผัสได้ถึงพื้นผิวถนนที่ส่งเข้ามาจากล้อ ผ่านขึ้นมาถึงพวงมาลัย การซับ
แรงสะเทือนในช่วงความเร็วต่ำๆ  ยังค่อนข้างแข็งกว่า รถยนต์ Saloon ระดับนี้ทั่วไปควรเป็น"

ทั้งที่ความจริง ช่วงล่างมัน " แข็งนรก!!! " วันนึง ผมเอา hyundai coupe เข้าศูนย์ พร้อมเพื่อน แล้วเทส sonata ใหม่ ในเวลาเดียวกัน แถม เจ้าตัวเพื่อน ยังใช้ sonata เก่า ตัว 2.4 อีกด้วย พบว่า ช่วงล่าง มันนุ่มสบาย ไม่กระด้างเท่า ตัวเก่า แถมยังเก็บ ถนน ข้อต่อปูนซีเมนต์ ได้นุ่มพอตัว แต่ติดตึงตังบ้าง ยังไม่หนักแน่นมากนัก 

จากนั้น ผมก็ นั่งแทกซี่ ต่อไปยัง MTM สุขุมวิท เพื่อไปทดสอบ SKODA superb ต่อเลย

เมื่อเพื่อนขับออกจาก ศูนย์ แตะพื้นถนน และ ฝาท่อแรก แรงกระแทกที่ส่งมามันชัดเจนเลยว่า "แข็งชิบ แข็งกว่า hyundai coupe มรึงอีก" นั่นคือคำพูดของเพื่อนผม

และเมื่อวิ่งออกมาซักพักก่อน จะเข้าสู่ถนน บางนาตราด ใต้บูรพาวิถี  ก็ได้ความเห็นตรงกันว่า ทำไมมันแข็งจังวะ หนักแน่นน่ะใช่อยู่ตามสไตล์รถยุโรป แต่แข็งขนาดนี้ แม่กรูคงบ่นอุบ (แน่นอนว่า เจ้าตัวขับ sonata อยู่เดิม)

แต่พอออกถนน บางนาตราดซึ่งเป็น ถนนราดยาง ก็โอเคครับ อาการก็ลดลง ตามปกติ จนเราสองคนสรุปว่า มันควรจะเป็นช่วงล่าง scirocco หรือ AUDI TT นะกรูจะไม่บ่นเลย   และที่ยิ่งกว่านั้นคือ เมื่อผมได้เป็นเจ้าของ scirocco แล้วในตอนนี้

มันกลับมาหลอกหลอนทันที ว่า พอกดโหมด sport "นี่แหละ ใช่เลย เหมือน superb"

แล้วในคลิปน้องกล้วย กับน้องตอย ถึงบอกว่า มันนิ่มกว่า sonata ใหม่?

เอาคร่าวๆ ประมาณนี้ ก็แล้วกันครับ ที่เยอะ มากจริงๆ จะอยู่ในคลิปมากกว่า  เพราะวิจารณ์กันสดๆ บางทีเห็นก็พูดเลย ไม่ได้คิดว่าเคยติแบบเดียวกันนี้ กับรถรุ่นอื่นที่เป็นเหมือนกันหรือไม่

เช่น sonata ใหม่อีกแล้ว   ในคลิปทดสอบรถ คุณจิมมี่บ่นแผงบังแดดแข็ง ไม่ดี  เพื่อนตัวดีของผม ก็ได้มานั่งรถผม scirocco แล้วก็พูดขึ้นมาว่า ของมรึงก็แข็งเหมือนกัน ทำไมไม่โดนด่าวะ  ประมาณนี้

ถามว่า ทำไมมีแต่รถ พวกนี้ ก็เพราะผม มองรถพวกนี้เป็นหลักอยู่แล้ว ส่วนรถอื่นๆ จะอ่านเพราะความชื่นชอบรถยนต์เฉยๆ จึงไม่ได้ นั่งเก็บรายละเอียดมากเท่าใดนัก แต่ก็มีแน่นอนครับ อีกอย่างถ้าจะให้พูด ตั้งแต่ รีวิวลงใน headlightmag การจิกกัดเจ็บๆ ก็ลงลงไปมาก ถ้าเทียบกับเวปเดิม  ซึ่งผมก็ไม่อยากกลับไปตามอ่านเหมือนกัน 

คือเข้าใจนะ ว่าไม่ได้ตั้งใจ ให้เกิด bias แต่ว่ามันเป็นปกติ ของคนล่ะครับ ต้องมีบ้างโดยไม่ได้ตั้งใจแหละ หรือบางครั้งทำไป เพราะไม่คิดอะไร ก็ยังคงมีบางคน หาว่า ทำไปเพราะอย่างนั้นอย่างนี้อยู่ดี

ถ้าจะถามว่า แล้วจะทำไงให้ bias น้อยลงกว่านี้ล่ะ ง่ายๆครับ "เขียนเสร็จ เอาให้คนที่ ชื่นชอบรถรุ่นนั้นมากเป็นพิเศษ และคนที่ไม่ชอบ อ่านดูครับ" ลองสังเกต feedback ดูครับ จะได้รู้ว่าเรา เอนไปข้างไหนครับ ;D ;D ;D
รีวิว "VW scirocco" กำลังจะมาครับ ขอเวลาอีกนิด

รีวิว "Hyundai coupe" ของผมเอง ติชมได้ตลอดครับ
http://www.headlightmag.com/webboard/index.php?topic=3731.0

ออฟไลน์ BaSkInElItEgUyS

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,607
  • BaSkInElItEgUy PeRsEuS PrInCe of ZuEs
    • อีเมล์
Re: รีวิวรถ คลิปทดสอบสอบรถ ที่เป็นกลางที่ส&
« ตอบกลับ #34 เมื่อ: ตุลาคม 16, 2012, 00:26:51 »
ส่วนความนิ่มนวล ความแข็งกระด้างของช่วงล่าง
มันเป็น Feel ล้วนๆเลยนะครับ
มาตรฐานแต่ละคนแตกต่างกันอย่างมาก

ซึ่งผมก็เคยแค่ขับ Skoda Superb ที่เมืองทอง แบบวนสั้นๆ
มันก็แข็งนะครับ แต่ไม่ได้แบบแข็งนรกมากนัก ผมว่ามันใกล้ๆกับ EX 2.0 มากเลย
แต่ก็นั่นแหละ มันเป็น Feel ของผมเอง ไม่ได้มีเครื่องไม้เครื่องมืออะไรมาวัดเหมือนกัน

ส่วนอัตราสิ้นเปลืองใน TDCi ผมขับแบบวิถีผม ในเพชรบูรณ์ ทำได้ดีกว่าที่พี่จิมมี่รีวิวไว้อีกครับ

แต่ผมก็เห็นแย้งในบางจุดกับรีวิวบ้าง อย่างที่ผมเม้นท์ไปก่อนหน้านี้

ว่าไปก็เพิ่งนึกออก อย่างในซิตี้ ที่พี่จิมมี่รีวิวรถตัวเองเลย
ตอนนี้ผมเอารถพี่ที่รุ้จักมาใช้ เพราโฟกัสเข้าศูนย์
ลองเอาที่ใช้อยู่ กับในรีวิวมาเทียบๆดู เห็นต่างพอสมควรครับ
 1.เกียร์ซิตี้ไม่ได้ Smooth เลยจริงๆ รึผมไม่ชินกับรอบเครื่องก็ไม่รู้ กระตุกมหาป่วงพอๆกับโฟกัสเบนซินเลย
 2.รถนิ่มแบบยวบยาบ ไม่ค่อยเกาะถนนเท่าไร เข้าโค้ง 100+ บนเขาขุนตาลแอบเสียวอยู่ครับ
 3.เก็บเสียงไม่ดีเลย เสียงยาง เสียงลม เสียงเครื่องเข้ามาเยอะ โดยเฉพาะเสียงเครื่องจะดังไปไหนเนี่ย
 4.ตำแหน่งนั่งขับ ผมว่าเฟียสต้ากับสวิฟทำได้ดีกว่าอีก เพราะจุดที่นั่ง กับตำแหน่งคันเร่ง มันทำให้ต้องตั้งขาขวาเอาไว้ พิงประตูฝั่งขวาก็ไม่ถึง
 5.พวงมาลัยเบาไปนิด แต่ก็ดีกว่า Altis หน่อยนึงครับ

5 ข้อนี้คือที่ผมเห็นต่างจากในรีวิวซิตี้พี่จิมมี่นะครับ  ;D ;D ;D ;D ;D

ออฟไลน์ J!MMY

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 15,628
    • www.headlightmag.com
    • อีเมล์
Re: รีวิวรถ คลิปทดสอบสอบรถ ที่เป็นกลางที่ส&
« ตอบกลับ #35 เมื่อ: ตุลาคม 16, 2012, 03:17:59 »
ส่วนความนิ่มนวล ความแข็งกระด้างของช่วงล่าง
มันเป็น Feel ล้วนๆเลยนะครับ
มาตรฐานแต่ละคนแตกต่างกันอย่างมาก

ซึ่งผมก็เคยแค่ขับ Skoda Superb ที่เมืองทอง แบบวนสั้นๆ
มันก็แข็งนะครับ แต่ไม่ได้แบบแข็งนรกมากนัก ผมว่ามันใกล้ๆกับ EX 2.0 มากเลย
แต่ก็นั่นแหละ มันเป็น Feel ของผมเอง ไม่ได้มีเครื่องไม้เครื่องมืออะไรมาวัดเหมือนกัน

ส่วนอัตราสิ้นเปลืองใน TDCi ผมขับแบบวิถีผม ในเพชรบูรณ์ ทำได้ดีกว่าที่พี่จิมมี่รีวิวไว้อีกครับ

แต่ผมก็เห็นแย้งในบางจุดกับรีวิวบ้าง อย่างที่ผมเม้นท์ไปก่อนหน้านี้

ว่าไปก็เพิ่งนึกออก อย่างในซิตี้ ที่พี่จิมมี่รีวิวรถตัวเองเลย
ตอนนี้ผมเอารถพี่ที่รุ้จักมาใช้ เพราโฟกัสเข้าศูนย์
ลองเอาที่ใช้อยู่ กับในรีวิวมาเทียบๆดู เห็นต่างพอสมควรครับ
 1.เกียร์ซิตี้ไม่ได้ Smooth เลยจริงๆ รึผมไม่ชินกับรอบเครื่องก็ไม่รู้ กระตุกมหาป่วงพอๆกับโฟกัสเบนซินเลย
 2.รถนิ่มแบบยวบยาบ ไม่ค่อยเกาะถนนเท่าไร เข้าโค้ง 100+ บนเขาขุนตาลแอบเสียวอยู่ครับ
 3.เก็บเสียงไม่ดีเลย เสียงยาง เสียงลม เสียงเครื่องเข้ามาเยอะ โดยเฉพาะเสียงเครื่องจะดังไปไหนเนี่ย
 4.ตำแหน่งนั่งขับ ผมว่าเฟียสต้ากับสวิฟทำได้ดีกว่าอีก เพราะจุดที่นั่ง กับตำแหน่งคันเร่ง มันทำให้ต้องตั้งขาขวาเอาไว้ พิงประตูฝั่งขวาก็ไม่ถึง
 5.พวงมาลัยเบาไปนิด แต่ก็ดีกว่า Altis หน่อยนึงครับ

5 ข้อนี้คือที่ผมเห็นต่างจากในรีวิวซิตี้พี่จิมมี่นะครับ  ;D ;D ;D ;D ;D

ของหมอ จะต้องตอบยาวหน่อย เอาของบาสก่อนดีกว่า

1. City รถที่พี่ขับ คือรถที่ เป็น Demo ของ Honda และเป็นรถที่ประกอบมาใหม่ๆ วิ่งไป ไม่เกิน 2,000 - 3,000 กิโลเมตร
และขับมาแล้ว 3 คัน ครับ รวมทั้ง รถ Demo ของ ศูนย์ สุขาภิบาล 2 ด้วย ยืนยันอย่างหนักแน่นครับว่า ในวันที่มันเป็นรถใหม่ป้ายแดง
"มันแทบไม่กระตุกเลยครับ"

แม้กระทั่งรถของพี่เองทุกวันนี้ มีอาการกระตุกนิดเดียว วิ่งไป 48,000 กม.
ซึ่งแก้ให้เบาบางได้ ด้วยการ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ ทุก 20,000 กิโลเมตร
แทนที่จะเป็น 40,000 เหมือนที่คู่มือเขาบอก

2. ณ วันที่มันเปิดตัว ช่วงล่าง ถือว่า ดีสมราคา ครับ แต่พอใช้ๆไป มันก็เริ่มนิ่ม ยวบหน่อยๆ
แต่ ก็ยังถือว่า ดีกว่า ช่วงล่างของ Honda รุ่นอื่นๆ ที่แข็งเป๊ก ตอนผานลูกระนาด เจ้านี่ยังพอหา
การซัพพอร์ตได้บ้าง เพราะนิสัยช่วงล่าง onda ปกติ คือ กระด้างในความเร็วต่ำ และนุ่มในความเร็วสูง

3. ข้อนี้ เห็นด้วยครับ เรื่องการเก็บเสียง หลัง 120 ไปแล้ว โอ้ ดังเอาเรื่อง

4. ตำแหน่งนั่งขับภาพรวมทำได้ดี แต่เห็นด้วยเรื่อง การวางคันเร่ง ขนาดบอกว่า วางไปทางขวา
เพิ่มขึ้นจากเดิมแล้ว แต่ผมว่า ยังไม่ดีพอ

5.พวงมาลัย ไฟฟ้าตัวนี้ ต้องระวังนิดนึง ลมยางแข็งขึ้น จะทำให้พวงมาลัยเบาขึ้นชัดเจน
ลมยางอ่อนลงไม่กี่ปอนด์ พวงมาลัยจะหนักขึ้นต่างันชัดเจน ระวัง การจับอาการจุดนี้ด้วยจ้ะ

----------------------------------------


ออฟไลน์ J!MMY

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 15,628
    • www.headlightmag.com
    • อีเมล์
Re: รีวิวรถ คลิปทดสอบสอบรถ ที่เป็นกลางที่ส&
« ตอบกลับ #36 เมื่อ: ตุลาคม 16, 2012, 03:44:10 »
1. เรื่อง Volvo นั้น สงสัยคุณหมอ จะเข้าใจผิดแล้วละ

ใช่ครับ ผมชอบ Volvo แต่แน่นอน เรื่องนี้ต้องทำความเข้าใจแล้วละ

เรื่องน่าประหลาดของรถที่เรานำมาทดลองกันส่วนใหญ่ นั้น
คือ รถบางคัน ทำตัวเลข แย่ชะมัด แต่ตอนขับจริง เร่งแซงจริง มันไม่ได้ก่อความรู้สึกว่าอืดเหมือนตัวเลขที่มันทำได้
กลับกัน รถบางคัน เร่งแต่ละที ทำไมมันเนือยอย่างนี้ ขี้เกียจทำงานก็บอกมาเถอะ แต่พอจับเวลา ดันเร็วที่สุดในตลาด
เช่น Nissan X-Trail 2.0 CVT คันนี้ งงมากๆ

เป็นเคสตัวอย่างของผมเลยว่าอย่าเชื่อในสิ่งที่สัมผัส และอย่าปักใจกับตัวเลขเพียงอย่างเดียว
ต้องเอา ทั้ง 2 อย่าง มาผสมผสานกัน แล้วกลั่นกรองออกมา ให้ดีๆ อย่างตรงไปตรงมา ที่สุด เท่าที่จะบรรยายได้

แต่อ่านดีๆครับ ในประโยคที่คุณหมอ ยกมา นั่นละ คือสิ่งที่ผมจะบอกกับทุกคนว่า
ถ้ามันได้เครื่องที่ดีกว่านี้ มันฟัดกับ Scirocco ได้ เพราะในเมืองนอก เขาก็เอารุ่นแรงสุดของทั้งคู่
มาฟัดกันออกสื่อแล้วก็มี

การพูดตรง บางครั้ง มันไม่จำเป็นต้องดุเดือดเลือดพล่านเสมอไป
มันมีหลายวิธี ครับ

แต่ถ้าถามว่า ทำไม พักหลัง ตั้งแต่มาทำ Headlightmag การจิกกัด มันน้อยลง

คำตอบก็คือ ตัวรถที่เรามาลองระยะหลังๆนั้น มันไม่มีอะไรให้ต้องจิกกัดกันมากมายถึงขนาดนั้น
อาจมีก็แค่ Brio ซึ่ง นั่นละ เป็นรถที่มีเรื่องให้จิกกัดมากที่สุด เท่าที่เราทำเว็บกันมา
แต่พอจิกกัดมากเกินขอบเขต ก็งานเข้าอีก หาว่าเราไม่เป็นมืออาชีพ
เลยต้อง อัดกันตรงไปตรงมา ด้วยภาพและหลักฐาน ใน Full Review ให้ดูกันจะจะ
Honda ในตอนนั้น ถึงจะยอมรับแต่โดยดี

ไม่ง่ายอย่างที่ทุกคนคิดครับ

-------------------------------------------

2. อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง

มี บางคัน เหมือนกัน ที่ผมไม่ได้เขียนลงในรีวิว ว่าผมต้องทำการทดลองซ้ำ

รถบางคัน เครื่องเดียวกัน ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า กับ 4 ล้อ
ขับ 4 ล้อ ทำได้ 13.5 กม./ลิตร ขับล้อหน้า ดันผ่าไปเป็น 15.08 กม./ลิตร
คุณหมอคิดว่า ควรทำการทดลองซ้ำอีกสักครั้งไหมครับ?
สุดท้าย มันคาใจ ผมต้องลองซ้ำ แล้วก็ได้ 13.7 กม./
ซึ่งแน่นอน มัน Make sense กว่า

แต่ก็น่าตลกอีกว่า รถคันเดียวกัน เครื่องเล็กกว่า ดันทำตัวเลขได้ 13.3
งานนี้ ไม่ต้องโทษใครครับ หัวจ่ายนั่นแหละ ตัดช้าไปจิ๊กเดียว! ตัดช้าไป 0.1-0.2 ลิตร!

อย่าว่าแต่ Focus หรือ Volvo เลยเถอะ City รถผมเอง ตอนทำรีวิวในเว็บเก่า
ก็ต้องทำ 3 ครั้ง

ที่ทำ 3 ครั้งได้ เพราะมีเวลาเหลือพอ อีกทั้ง เป็นรถตัวเอง จะลองวันไหน ก็ทำได้

แต่ถ้าเป็นรถที่ยืมมา 2 ครั้ง นั่นคือลีมิทที่เราทำได้ในแต่ละคืน ครับ

การทดลองในแต่ละครั้ง มันไม่ง่ายครับ
พักหลังมานี้เราเริ่มการทดลองตอน 3 ทุ่ม
เหตุที่ลองกลางคืน เพราะหนีปัญหาสภาพการจราจรล้วนๆ
ทางตอนกลางคืน โล่งกว่า ใช้ความเร็วต่อเนื่องได้ดีกว่า ไม่ต้องมานั่งกังวลว่ารถจะติดไหม
ไม่ต้องกังวลว่าจะเจอพวกจี้ตูดบ้าระห่ำ อีกไหม เพระาตอนกลางคืน รถจะโล่งพอให้หลบซ้าย
ให้พวกบ้าเขาแซงไปได้สบายๆ ไม่ต้องมากวนใจผม

ต่อไป ก็ขั้นตอนเติมน้ำมัน ถ้าต้องเขย่ารถกัน กว่าจะเสร็จ ปาเข้าไป 4 ทุ่ม บางคัน เขย่ากันชั่วโมงครึ่ง ก็มีมาแล้ว!
แต่ถ้าไม่เขย่า เอาแค่หัวจ่ายตัด ก็ได้เลย

ขับไปนี่ก็ ชั่วโมงนึง ตีไปเลย  กลับมาถึง มี 5 ทุ่ม ถึง 5 ทุ่มครึ่ง บางคันเขย่าเสร็จ เที่ยงคืน

ดังนั้น ถ้าต้องทดลองซ้ำ ต้องลองกันทันที จะไม่เปลี่ยนมาลองอีกครั้งในอีกคืน เพราะ ไม่อยากให้คอนดิชันการทดลองมันเปลี่ยน

ถ้าคันไหน ต้องลองซ้ำ คืนนั้น มี ตี 1 ถึง ตี 1 ครึ่งแน่ๆ

นั่นละครับ ทำให้ผม สามารถทดลองได้แค่ คืนละ 2 รอบแค่นั้น
ถ้าตัวเลขมันอยู่ในเกณฑ์ค่าเฉลี่ย ของรถในพิกัดเดียวกัน กับรถที่ทดลอง
เราถือว่า ตัวเลขในรอบ 2 ก็สามารถสรุปจบได้เช่นกันครับ

ก็ในเมื่อ เราทำการทดลองทุกอย่างเหมือนกันเป๊ะ
ความเพี้ยน มันก็จะมีอีกตัวแปรหนึ่งคือ หัวจ่ายน้ำมัน ซึ่งเราต้องใช้หัวเดิม
นี่ละ อีกตัวหนึ่งที่ทำให้ตัวเลขบางทีเพี้ยน
เพราะการตัดของหัวจ่ายนั้น มาจาก การที่มีไอน้ำมัน เข้าไปในรูเหนือช่องปล่อยน้ำมัน
ของหัวจ่ายเข้าไปจนทำให้ระบบมันตัดการทำงาน

อันนี้แล้วแต่บุญกรรมที่ทำมาล้วนๆครับ

ถ้าให้ลองซ้ำ เป็นรอบที่ 3 บอกเลยครับว่า ตารางเวลาในการทำงาน ต่อ รถ 1 คัน
จะต้องปรับใหม่หมด และเลื่อนกันจนปวดกาลแน่ๆ 4 วัน 3 คืน อาจไม่จบ อาจต้องขอยืมรถต่อเพิ่มอีก 1 วันด้วยซ้ำ
ซึ่งนั่นก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก

3. Skoda Superb ไม่ใช่รถที่นิ่มแน่ๆ "แต่มันไม่แข็งนรก อย่างที่คุณหมอเจอแน่ๆครับ"

เส้นทางที่ผมจะต้องใช้กับรถทดลองทุกคัน มีซอยอารีย์ และอารีย์สัมพันธ์
ซึ่งที่นั่น เต็มไปด้วย ฝาท่อ และลูกระนาดสารพัดรูปแบบ ตั้งแต่ ขึ้นแบบเบาๆเนียนๆ
หรือกระแทกกระทั้น ละแวกนั้น เต็มไปด้วยลูกระนาด ฝาท่อ และหลุมบ่อต่างๆพอสมควร
รถทุกคันที่เรารับมา จะต้องแล่นผ่านตรอกซอกซอยเหล่านี้ ผ่านลูกระนาด หลุมบ่อ
จุดเดียวกัน ตำแหน่งเดียวกันเป๊ะ ดังนั้น ผมจึงมั่นใจในการจดจำและแยกการสัมผัส
ของรถแต่ละคันได้อยู่ครับ

และจะบอกว่า พื้นถนน สุขุมวิท ตรงหน้าโชว์รูม MTM ของคุณโต ตรงนั้น
ต่อให้ Honda City เดิมๆ ของผม ลงฝาท่อตรงนั้นไป ก็แข็งครับ แข็งปั๊กเลย
มีแค่รถที่ใช้แก้มยางหนาๆ กับช่วงล่างนิ่มๆย้วยๆ เท่านั้น ทีจะไม่บ่นว่าแข็งครับ

ต่อให้รถเมล์ ปอ. ช่วงล่าง Air Suspension ลงหลุมนั้น ก็จะได้สัมผัสว่า "แข็ง" ครับ

ผมใช้ถนนเส้นนั้นเป็นประจำ เลยจำหลุมบ่อที่คุณหมอพุดได้แม่นเลยละ!

ครับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 16, 2012, 03:51:46 โดย J!MMY »

ออฟไลน์ BaSkInElItEgUyS

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,607
  • BaSkInElItEgUy PeRsEuS PrInCe of ZuEs
    • อีเมล์
Re: รีวิวรถ คลิปทดสอบสอบรถ ที่เป็นกลางที่ส&
« ตอบกลับ #37 เมื่อ: ตุลาคม 16, 2012, 07:59:19 »
รับทราบครับพี่จิมมี่
เรื่องการเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ เดี๋ยวจะบอกเจ้าของรถให้ครับ (คันนี้เกียร์1-2 และ 2-3 จะกระตุกมากครับ โดยเฉพาะเวลาออกตัว)
การเก็บเสียง ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากกันสาด
ส่วนเสียงเครื่อง รถคันนี้ 3 ปีครึ่งแล้ว เสียงเครื่องก็คงดังตามสภาพมั้งครับ
พวงมาลัย กับแรงดันลมยาง ผมตั้งตามในคู่มือบอกเป๊ะๆเลยครับ


ปล. ผมก็เิ่พิ่งได้ขับอย่างจริงๆจังๆ ในซิตี้ ไม่ถึง 1000 โลหรอกครับ
ปล.2 ผมอาจติดฟีลลิ่งมาจากโฟกัสมากไปก็ได้
ปล.3 ขอบคุณพี่จิมมี่นะครับ

ออฟไลน์ YF-19

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 974
Re: รีวิวรถ คลิปทดสอบสอบรถ ที่เป็นกลางที่ส&
« ตอบกลับ #38 เมื่อ: ตุลาคม 16, 2012, 11:03:18 »
1. เรื่อง Volvo นั้น สงสัยคุณหมอ จะเข้าใจผิดแล้วละ

ใช่ครับ ผมชอบ Volvo แต่แน่นอน เรื่องนี้ต้องทำความเข้าใจแล้วละ

เรื่องน่าประหลาดของรถที่เรานำมาทดลองกันส่วนใหญ่ นั้น
คือ รถบางคัน ทำตัวเลข แย่ชะมัด แต่ตอนขับจริง เร่งแซงจริง มันไม่ได้ก่อความรู้สึกว่าอืดเหมือนตัวเลขที่มันทำได้
กลับกัน รถบางคัน เร่งแต่ละที ทำไมมันเนือยอย่างนี้ ขี้เกียจทำงานก็บอกมาเถอะ แต่พอจับเวลา ดันเร็วที่สุดในตลาด
เช่น Nissan X-Trail 2.0 CVT คันนี้ งงมากๆ

เป็นเคสตัวอย่างของผมเลยว่าอย่าเชื่อในสิ่งที่สัมผัส และอย่าปักใจกับตัวเลขเพียงอย่างเดียว
ต้องเอา ทั้ง 2 อย่าง มาผสมผสานกัน แล้วกลั่นกรองออกมา ให้ดีๆ อย่างตรงไปตรงมา ที่สุด เท่าที่จะบรรยายได้

แต่อ่านดีๆครับ ในประโยคที่คุณหมอ ยกมา นั่นละ คือสิ่งที่ผมจะบอกกับทุกคนว่า
ถ้ามันได้เครื่องที่ดีกว่านี้ มันฟัดกับ Scirocco ได้ เพราะในเมืองนอก เขาก็เอารุ่นแรงสุดของทั้งคู่
มาฟัดกันออกสื่อแล้วก็มี

การพูดตรง บางครั้ง มันไม่จำเป็นต้องดุเดือดเลือดพล่านเสมอไป
มันมีหลายวิธี ครับ

แต่ถ้าถามว่า ทำไม พักหลัง ตั้งแต่มาทำ Headlightmag การจิกกัด มันน้อยลง

คำตอบก็คือ ตัวรถที่เรามาลองระยะหลังๆนั้น มันไม่มีอะไรให้ต้องจิกกัดกันมากมายถึงขนาดนั้น
อาจมีก็แค่ Brio ซึ่ง นั่นละ เป็นรถที่มีเรื่องให้จิกกัดมากที่สุด เท่าที่เราทำเว็บกันมา
แต่พอจิกกัดมากเกินขอบเขต ก็งานเข้าอีก หาว่าเราไม่เป็นมืออาชีพ
เลยต้อง อัดกันตรงไปตรงมา ด้วยภาพและหลักฐาน ใน Full Review ให้ดูกันจะจะ
Honda ในตอนนั้น ถึงจะยอมรับแต่โดยดี

ไม่ง่ายอย่างที่ทุกคนคิดครับ

-------------------------------------------

2. อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง

มี บางคัน เหมือนกัน ที่ผมไม่ได้เขียนลงในรีวิว ว่าผมต้องทำการทดลองซ้ำ

รถบางคัน เครื่องเดียวกัน ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า กับ 4 ล้อ
ขับ 4 ล้อ ทำได้ 13.5 กม./ลิตร ขับล้อหน้า ดันผ่าไปเป็น 15.08 กม./ลิตร
คุณหมอคิดว่า ควรทำการทดลองซ้ำอีกสักครั้งไหมครับ?
สุดท้าย มันคาใจ ผมต้องลองซ้ำ แล้วก็ได้ 13.7 กม./
ซึ่งแน่นอน มัน Make sense กว่า

แต่ก็น่าตลกอีกว่า รถคันเดียวกัน เครื่องเล็กกว่า ดันทำตัวเลขได้ 13.3
งานนี้ ไม่ต้องโทษใครครับ หัวจ่ายนั่นแหละ ตัดช้าไปจิ๊กเดียว! ตัดช้าไป 0.1-0.2 ลิตร!

อย่าว่าแต่ Focus หรือ Volvo เลยเถอะ City รถผมเอง ตอนทำรีวิวในเว็บเก่า
ก็ต้องทำ 3 ครั้ง

ที่ทำ 3 ครั้งได้ เพราะมีเวลาเหลือพอ อีกทั้ง เป็นรถตัวเอง จะลองวันไหน ก็ทำได้

แต่ถ้าเป็นรถที่ยืมมา 2 ครั้ง นั่นคือลีมิทที่เราทำได้ในแต่ละคืน ครับ

การทดลองในแต่ละครั้ง มันไม่ง่ายครับ
พักหลังมานี้เราเริ่มการทดลองตอน 3 ทุ่ม
เหตุที่ลองกลางคืน เพราะหนีปัญหาสภาพการจราจรล้วนๆ
ทางตอนกลางคืน โล่งกว่า ใช้ความเร็วต่อเนื่องได้ดีกว่า ไม่ต้องมานั่งกังวลว่ารถจะติดไหม
ไม่ต้องกังวลว่าจะเจอพวกจี้ตูดบ้าระห่ำ อีกไหม เพระาตอนกลางคืน รถจะโล่งพอให้หลบซ้าย
ให้พวกบ้าเขาแซงไปได้สบายๆ ไม่ต้องมากวนใจผม

ต่อไป ก็ขั้นตอนเติมน้ำมัน ถ้าต้องเขย่ารถกัน กว่าจะเสร็จ ปาเข้าไป 4 ทุ่ม บางคัน เขย่ากันชั่วโมงครึ่ง ก็มีมาแล้ว!
แต่ถ้าไม่เขย่า เอาแค่หัวจ่ายตัด ก็ได้เลย

ขับไปนี่ก็ ชั่วโมงนึง ตีไปเลย  กลับมาถึง มี 5 ทุ่ม ถึง 5 ทุ่มครึ่ง บางคันเขย่าเสร็จ เที่ยงคืน

ดังนั้น ถ้าต้องทดลองซ้ำ ต้องลองกันทันที จะไม่เปลี่ยนมาลองอีกครั้งในอีกคืน เพราะ ไม่อยากให้คอนดิชันการทดลองมันเปลี่ยน

ถ้าคันไหน ต้องลองซ้ำ คืนนั้น มี ตี 1 ถึง ตี 1 ครึ่งแน่ๆ

นั่นละครับ ทำให้ผม สามารถทดลองได้แค่ คืนละ 2 รอบแค่นั้น
ถ้าตัวเลขมันอยู่ในเกณฑ์ค่าเฉลี่ย ของรถในพิกัดเดียวกัน กับรถที่ทดลอง
เราถือว่า ตัวเลขในรอบ 2 ก็สามารถสรุปจบได้เช่นกันครับ

ก็ในเมื่อ เราทำการทดลองทุกอย่างเหมือนกันเป๊ะ
ความเพี้ยน มันก็จะมีอีกตัวแปรหนึ่งคือ หัวจ่ายน้ำมัน ซึ่งเราต้องใช้หัวเดิม
นี่ละ อีกตัวหนึ่งที่ทำให้ตัวเลขบางทีเพี้ยน
เพราะการตัดของหัวจ่ายนั้น มาจาก การที่มีไอน้ำมัน เข้าไปในรูเหนือช่องปล่อยน้ำมัน
ของหัวจ่ายเข้าไปจนทำให้ระบบมันตัดการทำงาน

อันนี้แล้วแต่บุญกรรมที่ทำมาล้วนๆครับ

ถ้าให้ลองซ้ำ เป็นรอบที่ 3 บอกเลยครับว่า ตารางเวลาในการทำงาน ต่อ รถ 1 คัน
จะต้องปรับใหม่หมด และเลื่อนกันจนปวดกาลแน่ๆ 4 วัน 3 คืน อาจไม่จบ อาจต้องขอยืมรถต่อเพิ่มอีก 1 วันด้วยซ้ำ
ซึ่งนั่นก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก

3. Skoda Superb ไม่ใช่รถที่นิ่มแน่ๆ "แต่มันไม่แข็งนรก อย่างที่คุณหมอเจอแน่ๆครับ"

เส้นทางที่ผมจะต้องใช้กับรถทดลองทุกคัน มีซอยอารีย์ และอารีย์สัมพันธ์
ซึ่งที่นั่น เต็มไปด้วย ฝาท่อ และลูกระนาดสารพัดรูปแบบ ตั้งแต่ ขึ้นแบบเบาๆเนียนๆ
หรือกระแทกกระทั้น ละแวกนั้น เต็มไปด้วยลูกระนาด ฝาท่อ และหลุมบ่อต่างๆพอสมควร
รถทุกคันที่เรารับมา จะต้องแล่นผ่านตรอกซอกซอยเหล่านี้ ผ่านลูกระนาด หลุมบ่อ
จุดเดียวกัน ตำแหน่งเดียวกันเป๊ะ ดังนั้น ผมจึงมั่นใจในการจดจำและแยกการสัมผัส
ของรถแต่ละคันได้อยู่ครับ

และจะบอกว่า พื้นถนน สุขุมวิท ตรงหน้าโชว์รูม MTM ของคุณโต ตรงนั้น
ต่อให้ Honda City เดิมๆ ของผม ลงฝาท่อตรงนั้นไป ก็แข็งครับ แข็งปั๊กเลย
มีแค่รถที่ใช้แก้มยางหนาๆ กับช่วงล่างนิ่มๆย้วยๆ เท่านั้น ทีจะไม่บ่นว่าแข็งครับ

ต่อให้รถเมล์ ปอ. ช่วงล่าง Air Suspension ลงหลุมนั้น ก็จะได้สัมผัสว่า "แข็ง" ครับ

ผมใช้ถนนเส้นนั้นเป็นประจำ เลยจำหลุมบ่อที่คุณหมอพุดได้แม่นเลยละ!

ครับ



ผมเข้าใจ สิ่งที่คุณ จิมมี่บอกมาครับ มันก็เป็นจริงตามนั้นแหละ ทั้งข้อ 1.2.3.

เป็นการตั้งข้อสังเกต ให้ดูครับ ว่าบางครั้ง สิ่งที่เขียน กับสิ่งที่สื่อออกไป บางครั้ง มันก็ไม่ได้ตรงกันเสมอไป

อะไรที่เราคิดว่าตรงไปตรงมาแล้ว บางครั้ง มันก็ไม่ตรงในมุมมองอีกมุมมองนึงอยู่ดี อีกอย่าง คุณจิมมี่ก็คงไม่สามารถมาอธิบายได้หมด

เหมือนที่อธิบายให้ผมฟัง แบบนี้ กับทุกคนที่มาอ่าน ว่าจริงๆที่เขียนไปนั้น มันเป็นอย่างไร

ผมก็แสดงให้ดูในมุมมองคนอ่าน อีกคนนึง ซึ่งก็อ่านแล้วคิดเห็นไปตามนั้นได้ครับ ;D ;D ;D
รีวิว "VW scirocco" กำลังจะมาครับ ขอเวลาอีกนิด

รีวิว "Hyundai coupe" ของผมเอง ติชมได้ตลอดครับ
http://www.headlightmag.com/webboard/index.php?topic=3731.0

ออฟไลน์ Pan Paitoonpong

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,457
  • Long live M/T
Re: รีวิวรถ คลิปทดสอบสอบรถ ที่เป็นกลางที่ส&
« ตอบกลับ #39 เมื่อ: ตุลาคม 16, 2012, 13:18:44 »
ที่หมอบอกมาก็มีส่วนที่ตรงกับความรู้สึกของผมครับ
อารมณ์มันต่าง เรียกได้ว่าถ้าไม่ใช่ว่าเรามีตัวเลขอัตราเร่งโชว์หราเป็นตารางน่ะ
รับรองยิ่งเข้าใจผิดกันได้ง่ายกว่านี้อีกเยอะ

เรื่องช่วงล่าง ผมมักจะเห็นตรงกันกับจิมมี่ แต่อย่างน้อย 2 ใน 10 จะไม่ตรงกัน
ในหลายกรณีกับส่วนอื่นของรถ ให้ความเห็นคนละแบบกันเลย
ดูอย่าง Impreza STi ที่ช่วงล่างออกเฟิร์มกลางๆในความเห็นของคนส่วนใหญ่
แต่ในความเห็นของผม..นุ่ม แสนสบ๊ายสบาย

ความต่างในความเห็น ย่อมมีอยู่แล้ว ผมว่าความเห็นที่ต่างไม่ใช่ปัญหา
คนเราจะเห็นเงาหน้าตัวเองมันก็ต้องส่องเงาจากพื้นน้ำหรือกระจก
และสิ่งที่เห็นก็เป็นภาพเสมือน กลับทิศกลับทางกัน..ไม่เหมือนกัน..แต่บอกเราได้หลายอย่างนะ

- Nissan Tiida บ้านๆ/NX Coupe/AE111/190E1.8