ขอรบกวนระบุมาเลยได้ไหมครับ
ว่ายี่ห้อไหน และรุ่นไหน ที่ผม เขียนแล้ว คุณรู้สึกกันว่า ไม่เป็นกลาง
อยากรู้ จะได้เอาไปปรับปรุงครับ
ขอเก็บรายละเอียดซักพักครับ เดี๋ยวจัดให้
ปล. ผมสามสิบถ้วนนะ อายุน่าจะน้อยกว่าคุณจิมมี่นิดนึง
สองสามชั่วโมง หลังจากที่นั่งอ่านทบทวนรีวิวเก่า จนเริ่มเวียนศีรษะ คลื่นไส้(สงสัยจะเริ่มแก่แล้ว เมื่อก่อนนั่งอ่านทั้งคืนได้) ผมก็ขอบอกเลยว่ายอมแพ้ ถ้าจะให้บอกทั้งหมด เท่าที่ผ่านมาตั้งกะ เวปอาหมู
แต่จะสรุปรวมๆ ให้ลองมองย้อนดูแล้วกันครับ
1. VOLVO เป็นรถที่คุณ จิมมี่ชื่นชอบเสมอครับ และมักจะมีข้อตำหนิเรื่องการขับขี่น้อย (เข้าใจครับ รถดีจริงๆ ผมก็ชอบ) แต่หากสังเกตดู ในกลุ่มรถยุโรปครับ มันจะทำเวลาในการวิ่ง 0-100 ช้าแค่ไหน ก็ไม่เคยได้รับคำว่า อืด
เลย ยกตัวอย่าง S40 นะครับ
"ที่เขียนมานี้ ก็คงสรุปได้คร่าวๆ ว่า Volvo S40 2.0 ลิตร นั้น แม้อัตราเร่งจะดูเหมือน พุ่งทะยานไป
อย่างเนิบๆ แต่พอสัมผัสได้ว่า มีแรงบิดหมุนฉุดลากรถให้พุ่งไปข้างหน้าอยู่ แต่ตัวเลขที่ออกมา
ก็อืดกว่า เพื่อนพ้องร่วมแพล็ตฟอร์มเดียวกัน ที่ใช้เครื่องยนต์บล็อกเดียวกันเป๊ะ แต่ใช้เกียร์ คนละลูกกัน
แม้ว่า อัตราเร่งแซง 80-120 กิโลเมตร/ชั่วโมง จะออกมาอยู่ในเกณฑ์ยอมรับได้กว่าที่คาดคิดนิดนึง ก็ตาม
ส่วนหนึ่ง เพราะ วิศวกร พยายามทดเกียร์ ให้มีระยะห่างพอๆกัน พอดี ก็ดูความเร็วสูงสุดในแต่ละเกียร์
ดูสิครับ มันพอจะบอกอะไรได้บ้างนิดหน่อยละว่า เกียร์ 1 หนะ มากำลังดี แต่หมดเร็ว ตัดเปลี่ยนเกียร์
ขึ้นจังหวะ 2 เร็วไป หน่อย
แต่ เมื่อมาพิจารณาดูดีๆ อัตราทดในลักษณะนี้ ก็คล้ายกับอัตราทดเกียร์ในรถแข่ง
และดูเหมือนว่าวิศวกรของ Volvo จะพยายามเรียกพละกำลังจากเครื่องยนต์
(ซึ่งมีอยู่ไม่ถึงกับมากนัก เครื่องเองก็เร่งรอบไม่ได้จัดเท่าไหร่เลย) จากช่วง
ออกตัว และเร่งแซง ในช่วงความเร็ว ระดับ ไม่เกิน 80 กิโลเมตร/ชั่วโมงเป็นหลัก
สังเกตดีๆ เกียร์ 2 นั้น จะถูกเซ็ตมาให้ ทำงานในช่วง 40-80 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ซึ่งเป็นช่วงที่ผู้คนมักใช้เร่งแซง ในเมือง หรือเร่งพุ่งออกไป ขณะรถกำลังขับแบบคลานๆ
เหมือนกับเพื่อเป็นการหลอกว่า ฉัน มีแรงนะ ทั้งที่เอาเข้าจริง เรี่ยวแรง ก็มีแค่ในระดับหนึ่ง
กระนั้น แม้จะต้องพูดกันตรงๆว่า อัตราเร่งที่ออกมา ช้ากว่า เพื่อนพ้องร่วมแพล็ตฟอร์มตัวถัง
แต่ ด้วยคุณงามความดีหลายอย่างของรถ มันทำให้ท่านผู้เกิน Commander CHENG ของเรา
กลับ Happy ในรถคันนี้ มากกว่าที่ผมจะคาดคิด เรียกได้ว่า มองปัญหาเครื่องยนต์ ที่พยายามเค้น
ได้จนที่สุดแล้ว กลายเป็นเรื่องไม่สำคัญในรถคันนี้ไปเลย "
หรือ C30 ครับ "ส่วนหนึ่ง เพราะ วิศวกร พยายามทดเกียร์ ให้มีระยะห่างพอๆกัน พอดี ก็ดูความเร็วสูงสุดในแต่ละเกียร์
ดูสิครับ มันพอจะบอกอะไรได้บ้างนิดหน่อยละว่า เกียร์ 1 หนะ มากำลังดี แต่หมดเร็ว ตัดเปลี่ยนเกียร์
ขึ้นจังหวะ 2 เร็วไป หน่อย กระนั้น เมื่อมาพิจารณาดูดีๆ อัตราทดในลักษณะนี้ ก็คล้ายกับอัตราทดเกียร์
ในรถแข่ง และดูเหมือนว่าวิศวกรของ Volvo จะพยายามเรียกพละกำลังจากเครื่องยนต์ (ซึ่งมีอยู่ไม่มากนัก
เครื่องเองก็เร่งรอบไม่ได้จัดเท่าไหร่เลย) จากช่วงออกตัว และเร่งแซง ในช่วงต่ำกว่า 80 กิโลเมตร/ชั่วโมง
เป็นหลัก สังเกตดีๆ เกียร์ 2 นั้น จะถูกเซ็ตมาให้ ทำงานในช่วง 40-80 กิโลเมตร/ชั่วโมง ซึ่งเป็นช่วงที่ผู้คน
มักใช้เร่งแซง ในเมือง หรือเร่งพุ่งออกไป ขณะรถกำลังขับแบบคลานๆ เหมือนกับเพื่อเป็นการหลอกว่า
ฉัน มีแรงนะ ทั้งที่เอาเข้าจริง เรี่ยวแรง ก็มีแค่ในระดับหนึ่ง"
C30 อีกอันครับ "แน่นอนว่า รุ่น 2.0 ลิตร มีตัวเขสมรรถนะ ด้อยกว่ารุ่น 2.4 ลิตร อย่างชัดเจน แต่ก็ไม่ถึงกับด้อยกว่ากันมากมาย
จนเกินยอมรับได้ ขณะเดียวกัน ตัวเลขที่ออกมา ก็แสดงให้เราได้รู้แล้วว่า ถ้า C30 ได้เครื่องยนต์ที่แรงกว่านี้
ผมว่า คู่แข่งอย่าง Volkswagen Scirocco อาจถึงกับต้องเหลียวมองค้อนขวับ กันเลยทีเดียว "
สังเกตได้เลยครับ ว่าทุกครั้งที่มันอืด กว่าคู่แข่ง จะต้องมีคำอธิบาย ว่ามันอืด แต่ก็รับได้ ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วมันอืด และถ้านับจากเวลาแล้ว มันก็อืดกว่าคู่แข่งอย่างชัดเจน
ดูรีวิว hyundai coupe ครับ 10.5 วินาที กลายเป็นแมวหง่าว หรือ focus 2.0 ที่อัตราเร่ง ถึงกับ หาวเรอ และ น่าเบื่อมาก ทั้งที่เวลา ก็ใกล้เคียงกันพอสมควร
สรุปว่า คุณจิมมี่ จะไม่สับ ว่า VOLVO อืดมากเด็ดขาด ไม่ว่ามันจะทำเวลาช้าเท่าเพื่อนฝูงก็ตาม
2. อัตรา สิ้นเปลือง สังเกต รถส่วนน้อย จะต้องมีการ ทดสอบอัตราสิ้นเปลือง ซ้ำ
VOLVO S60 2.0T ใหม่ อีกแล้วครับ ครั้งแรกได้ 11 หน่อยๆ ต้องขอซ้ำ จนได้ 12กลางๆ แล้วจบที่ตัวเลขใหม่ ทำไมล่ะครับ ปกติก็บอกเองไม่ใช่หรือว่าลูกค้ากลุ่มพรีเมี่ยม ไม่ค่อยสนใจเรื่องประหยัดน้ำมันเท่าไหร่ แต่กลับต้องทดสอบซ้ำแถมยังสรุปเป็นเลขใหม่อีกด้วย ไม่ได้นำมาหารเฉลี่ยอะไร แต่อย่างใด แถมอ่านดูยังไม่ค่อยจะเป็นข้อเสียเท่าไหร่อีกต่างหาก!!
ที FOCUS TDCI ยังต้องเอามา เทสซ้ำ เพราะตอนแรก ประหยัดเกิน? จนได้เลขหลัง 17กว่าๆ แล้วสรุปจบ? ทำไมไม่คิดดูล่ะครับ ว่าถ้าเอาอีกรอบ มันจะได้ 17 อีกหรือเปล่า ถ้าทำแล้วเหลือ 15 ล่ะ?
3. ความนุ่มแข็ง ของช่วงล่าง Skoda superb!! "บุคลิกของช่วงล่างรถรุ่นนี้ ถูกเซ็ตมาในแนวกึ่งนุ่ม กึ่งสปอร์ต และแน่น ก็จริง แต่ในช่วงความเร็วต่ำ ขณะขับใช้งานตาม
ตรอกซอกซอย คุณอาจพบเจอความสะเทือน ตึงตังบ้างนิดหน่อย อันมีส่วนมาจาก ล้อ 18 นิ้ว ที่ติดมากับรถคันที่เรานำมา
ลองขับ อยู่บ้าง การผ่านลูกระนาดแต่ละเนิน ยังสัมผัสได้ถึงพื้นผิวถนนที่ส่งเข้ามาจากล้อ ผ่านขึ้นมาถึงพวงมาลัย การซับ
แรงสะเทือนในช่วงความเร็วต่ำๆ ยังค่อนข้างแข็งกว่า รถยนต์ Saloon ระดับนี้ทั่วไปควรเป็น"
ทั้งที่ความจริง ช่วงล่างมัน " แข็งนรก!!! " วันนึง ผมเอา hyundai coupe เข้าศูนย์ พร้อมเพื่อน แล้วเทส sonata ใหม่ ในเวลาเดียวกัน แถม เจ้าตัวเพื่อน ยังใช้ sonata เก่า ตัว 2.4 อีกด้วย พบว่า ช่วงล่าง มันนุ่มสบาย ไม่กระด้างเท่า ตัวเก่า แถมยังเก็บ ถนน ข้อต่อปูนซีเมนต์ ได้นุ่มพอตัว แต่ติดตึงตังบ้าง ยังไม่หนักแน่นมากนัก
จากนั้น ผมก็ นั่งแทกซี่ ต่อไปยัง MTM สุขุมวิท เพื่อไปทดสอบ SKODA superb ต่อเลย
เมื่อเพื่อนขับออกจาก ศูนย์ แตะพื้นถนน และ ฝาท่อแรก แรงกระแทกที่ส่งมามันชัดเจนเลยว่า "แข็งชิบ แข็งกว่า hyundai coupe มรึงอีก" นั่นคือคำพูดของเพื่อนผม
และเมื่อวิ่งออกมาซักพักก่อน จะเข้าสู่ถนน บางนาตราด ใต้บูรพาวิถี ก็ได้ความเห็นตรงกันว่า ทำไมมันแข็งจังวะ หนักแน่นน่ะใช่อยู่ตามสไตล์รถยุโรป แต่แข็งขนาดนี้ แม่กรูคงบ่นอุบ (แน่นอนว่า เจ้าตัวขับ sonata อยู่เดิม)
แต่พอออกถนน บางนาตราดซึ่งเป็น ถนนราดยาง ก็โอเคครับ อาการก็ลดลง ตามปกติ จนเราสองคนสรุปว่า มันควรจะเป็นช่วงล่าง scirocco หรือ AUDI TT นะกรูจะไม่บ่นเลย และที่ยิ่งกว่านั้นคือ เมื่อผมได้เป็นเจ้าของ scirocco แล้วในตอนนี้
มันกลับมาหลอกหลอนทันที ว่า พอกดโหมด sport "นี่แหละ ใช่เลย เหมือน superb"
แล้วในคลิปน้องกล้วย กับน้องตอย ถึงบอกว่า มันนิ่มกว่า sonata ใหม่?
เอาคร่าวๆ ประมาณนี้ ก็แล้วกันครับ ที่เยอะ มากจริงๆ จะอยู่ในคลิปมากกว่า เพราะวิจารณ์กันสดๆ บางทีเห็นก็พูดเลย ไม่ได้คิดว่าเคยติแบบเดียวกันนี้ กับรถรุ่นอื่นที่เป็นเหมือนกันหรือไม่
เช่น sonata ใหม่อีกแล้ว ในคลิปทดสอบรถ คุณจิมมี่บ่นแผงบังแดดแข็ง ไม่ดี เพื่อนตัวดีของผม ก็ได้มานั่งรถผม scirocco แล้วก็พูดขึ้นมาว่า ของมรึงก็แข็งเหมือนกัน ทำไมไม่โดนด่าวะ ประมาณนี้
ถามว่า ทำไมมีแต่รถ พวกนี้ ก็เพราะผม มองรถพวกนี้เป็นหลักอยู่แล้ว ส่วนรถอื่นๆ จะอ่านเพราะความชื่นชอบรถยนต์เฉยๆ จึงไม่ได้ นั่งเก็บรายละเอียดมากเท่าใดนัก แต่ก็มีแน่นอนครับ อีกอย่างถ้าจะให้พูด ตั้งแต่ รีวิวลงใน headlightmag การจิกกัดเจ็บๆ ก็ลงลงไปมาก ถ้าเทียบกับเวปเดิม ซึ่งผมก็ไม่อยากกลับไปตามอ่านเหมือนกัน
คือเข้าใจนะ ว่าไม่ได้ตั้งใจ ให้เกิด bias แต่ว่ามันเป็นปกติ ของคนล่ะครับ ต้องมีบ้างโดยไม่ได้ตั้งใจแหละ หรือบางครั้งทำไป เพราะไม่คิดอะไร ก็ยังคงมีบางคน หาว่า ทำไปเพราะอย่างนั้นอย่างนี้อยู่ดี
ถ้าจะถามว่า แล้วจะทำไงให้ bias น้อยลงกว่านี้ล่ะ ง่ายๆครับ "เขียนเสร็จ เอาให้คนที่ ชื่นชอบรถรุ่นนั้นมากเป็นพิเศษ และคนที่ไม่ชอบ อ่านดูครับ" ลองสังเกต feedback ดูครับ จะได้รู้ว่าเรา เอนไปข้างไหนครับ