ผู้เขียน หัวข้อ: คิดว่า 2.5 Camry HV Top 1.8 ล้านแพงไปไหม อ๊อฟชั่นไหนควรมีได้แล้ว  (อ่าน 16132 ครั้ง)

ออฟไลน์ MonsterM3

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 27
    • อีเมล์
ตัวtopไม่คุ้มนะครับกับราคานี้ แต่ตัวcdผมค่อนข้างชอบมากและคิดว่าคุ้มอยุ่ และถ้าถามว่ามันจะมีประโยชน์อะไรบ้าง มันคงจะมีประโยชน์เหมือนๆกับรถเก๋งขนาดd-segละ จุดประสงค์ของมันก็มีอยุ่ในตัวของมันอยุ่แล้วขึ้นอยุ่ว่าก่อนซื้อคุณต้องการอะไรจากมัน

ออฟไลน์ NONT4477

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 9,851
  • Let the SKYFALL
ผมว่า เกือบคุ้มค่าครับ
สิ่งที่ต้องมีแต่ไม่มี
-Vdim
-Plasma Cluster
-Curtain Airbags
อย่างอื่นผมเฉยๆครับ
Top Gear's Biggest FAN!!! (IN MY House)
I'm NAC1701  ^ ^

ออฟไลน์ MystogaN

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,476
แพงมากครับ :P

ขอแค่ถุงลมไม่น้อยไปกว่าพี่อู๊ดก็พอ ;D

ออฟไลน์ myalexxp

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 829
ดี จน  BM ขอแจม ละกัน  ;D

ออฟไลน์ YenChar

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,179
2.0G อ่ะครับ คุ้ม

เพื่อนผมซื้อแคมรี่ใหม่ 2.0G
ทำภายนอกทั้งคัน แปลงเป็น HV
เนียนๆ วิ่งนอกเมือง มี 12-13 โลลิตร

ถึง HV จะประหยัดขนาดไหน
แต่ ใช้ 2.0 พร้อมตังเติมน้ำมัน 10 ปี ยังไม่เท่าส่วนต่างราคา
2.5HV แรงจริง
แต่ใน 100 คน จะมีคนเหยียบคันเร่งเต็มๆ เรียกสมรรถนะรถออกมาเต็มที่ ถึง 10 คนหรือเปล่า??

ออฟไลน์ Iwata Kana Σ4

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,483
  • Archievement in Control
    • อีเมล์
ตอนออกมาก็ faceplam ออปชั่นละ กั๊กไปไหน!!
ขอแค่นี้ก๋พอละ

- ถุงลม 7 ลูกเถอะ โตโยต้าเกลียดม่านถุงลมกับรถขายดีใช่ไหม!!
- ที่ล้างไฟหน้า
- Nanoe ทำไมเวอร์ตลาดโลกมี แต่เอเชียไม่มี
- Emergency Brake System
- VDIM ใน Hybrid
- มูนรูฟ ไหนๆไม่มี 3.5 แล้วจะใส่หน่อยก็ไม่ได้
- Blind Spot น่าจะใส่มาให้ได้แล้วนะ ทุกวันนี้จุดเด่นอยู่ที่ไหน (ถ้ารวมรุ่นใหม่)

และรุ่น 2.5 ขอเพิ่มรุ่น V ได้ไหม ทำเหมือนว่าไม่อยากขายรุ่นนี้เลย
ข้าวของนั้นขอ VSC,Push Start พอละ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 16, 2012, 08:21:44 โดย Iwata Kana 2.5G »
ความมีระดับ มาพร้อมศักดิ์ศรีที่เหนือใคร
มีเป้าหมาย ที่อะไรก็ไม่อาจขวาง
มีอำนาจ ที่เลือกใช้ได้ตามใจ
มีชีวิต อย่างที่ใคร ก็ไม่อาจปฎิเสธ

ออฟไลน์ slate

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 318
แพงไปคับ

ออฟไลน์ Eddy5659

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,619
2.0G อ่ะครับ คุ้ม

เพื่อนผมซื้อแคมรี่ใหม่ 2.0G
ทำภายนอกทั้งคัน แปลงเป็น HV
เนียนๆ วิ่งนอกเมือง มี 12-13 โลลิตร

ถึง HV จะประหยัดขนาดไหน
แต่ ใช้ 2.0 พร้อมตังเติมน้ำมัน 10 ปี ยังไม่เท่าส่วนต่างราคา
2.5HV แรงจริง
แต่ใน 100 คน จะมีคนเหยียบคันเร่งเต็มๆ เรียกสมรรถนะรถออกมาเต็มที่ ถึง 10 คนหรือเปล่า??

555+ คิดเหมือนผมเลย
จะว่าสมรรถนะดีเวลาวิ่งมอเตอร์เวย์เจอแต่ 2.0 บ้าพลัง HV ขับแบบรักษ์โลก  อิอิอิ
2007 Toyota Vios
2009 Toyota Hilux Vigo
2010 Toyota Camry
2011 Ford Ranger
2011 Isuzu Dmax
2011 Toyota Hilux Vigo
2015 Ford Ranger
2015 Ford Everest 2.2 Titanium
2015 Ford Everest 3.2 Titanium+
2016 Toyota Hilux Revo 2.4 J m/t (5 คันจะที่รัก)
2017 BMW 320d iconic

ออฟไลน์ vellcap

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,984
Spec แบบนี้แพงไปมากครับ

แต่ถ้าให้ Airbag มาอีก 4 จุด
Plasmacuster หรือ Nanoe
Moonroof

ราคานี้น่าซื้อมากถึงมากๆครับ

methus zaa

  • บุคคลทั่วไป
ตอนออกมาก็ faceplam ออปชั่นละ กั๊กไปไหน!!
ขอแค่นี้ก๋พอละ

- ถุงลม 7 ลูกเถอะ โตโยต้าเกลียดม่านถุงลมกับรถขายดีใช่ไหม!!
- ที่ล้างไฟหน้า
- Nanoe ทำไมเวอร์ตลาดโลกมี แต่เอเชียไม่มี
- Emergency Brake System
- VDIM ใน Hybrid
- มูนรูฟ ไหนๆไม่มี 3.5 แล้วจะใส่หน่อยก็ไม่ได้
- Blind Spot น่าจะใส่มาให้ได้แล้วนะ ทุกวันนี้จุดเด่นอยู่ที่ไหน (ถ้ารวมรุ่นใหม่)

และรุ่น 2.5 ขอเพิ่มรุ่น V ได้ไหม ทำเหมือนว่าไม่อยากขายรุ่นนี้เลย
ข้าวของนั้นขอ VSC,Push Start พอละ
+1

GreenG

  • บุคคลทั่วไป
ซื้อ A180 ดีกว่า ราคาเท่ากันได้ แต่ได้ภาพลักษณ์ด้วย

ออฟไลน์ Ruksadindan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,051
ซื้อ A180 ดีกว่า ราคาเท่ากันได้ แต่ได้ภาพลักษณ์ด้วย
ไม่มีประโยชน์ครับ

ออฟไลน์ Slipknot`

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 21,866
  • *** HLM.COM ***
มันไม่ใช่ 1.8 มัน 1.86 หนะสิ

ผมว่ามันแพงไปจริงๆแหละ

ถ้าจะเล่นขอ CD ไม่ก็ 2.0g พอ

ออฟไลน์ pierre

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 100
ผมใช้อัลพาร์ด ไฮบริดครับ   หากซื้อตอนป้ายแดงก็ฉลุยครับใช้งานได้ปกติ   แต่ อย่าเข้าใจว่ารถไฮบริดประหยัดนะครับ  ระบบไอบริดแค่ช่วยเรื่องมลพิษและสิ่งแวดล้อมมากกว่าเรื่องความประหยัด

ตอนนี้ผมเองก็ระบมไปกับการซ่อมระบบไฟฟ้า ซึ่งรถใช้มากว่า 4ปี และเกือบ 1แสนกิโล

1.  รายการสำหรับรถไฮบริด ที่ใช้ระบบเบรคแบบไม่มีหม้อลม  แต่ใช้ปั้มลมเบรคแทน  ระบบนี้จะมีปั้มน้ำระบายความร้อนด้วย ซึ่งรายการนี้ตามคู่มือให้เปลี่ยน
ทุกๆ 4 หมื่นโล   แต่ด้วยสภาพอากาศบ้านเรา  จำเป็นต้องเปลี่ยนทุกๆ 1-1.5 หมื่นโลครับ    ไม่งั้นปั้มระบบเบรค ABS พัง  ต้องเปลี่ยนลูกละ 1แสน
ระบบเบรค ABS นั้นปกติ จะพังทุกๆ 1แสนโลอยู่แล้ว    แต่หากไม่ระวังเรื่องระบบระบายความร้อนปั้ม จะพังภายในทุกๆ 2.5-3ปี ซ่อมไม่ได้เปลี่ยนลูกเดียว

2.  รถไฮบริด กับอัตราสิ้นเปลือง  ไม่ได้ประหยัดครับ แต่จะกินน้ำมันปกติของเครื่องยนต์ชนิดนั้นๆอยู่แล้ว  แต่หากวิ่งทางไกล กลับไม่ประหยัดเหมือนรถทั่วๆไป เนื่องจาก คอมพิวเตอร์ควบคุมระบบไฟฟ้า(มอเตอร์ไฟฟ้าไฮบริด)จะตัดการทำงานของระบบไฟฟ้าเป็นช่วงๆ เื่พื่อทำการชาร์ตไฟเป็นระยะๆ เนื่องจากระบบไฟฟ้าภายในรถตอนวิ่งจะใช้ไฟฟ้าจากแบตไฮบริดทั้งหมดรวมทั้งระบบแอร์   จึงกลายเป็นว่า วิ่งด้วยเครื่องยนต์ แถมยังต้องลากเจ้ามอเตอร์
ไปด้วยเมื่อวิ่งในความเร็วสูง  ดังนั้นไม่ประหยักแน่นอน

3. แบตเตอรรี่ ทางญี่ปุ่นเคลมว่าใช้ได้ตลอดอายุการใช้งานนนั้น  จริงๆครับ แต่! เค้าหมายถึงอายุการใช้งานไม่เกิน 4-5ปี เท่านั้นไม่ใช่ลากยาวแบบบ้านเรา    และด้วยอากาศร้อนบ้านเราทำให้อัตราการเสื่อมแบตเตอรรี่เป็นไปแบบก้าวหน้าคือ เฉลี่ยพังที่ 3-4ปี  และราคาแบตเตอรรี่นั้นสูงมาก  สำหรับรถผมนั้นเพิ่งเช็คราคาที่ BRG ลูกละ 24.0000 บาท  หลายที่รับซ่อม ไม่ได้ผลครับลองมาหมดแล้ว  ใครบอกว่าคนใช้เยอะราคาลดลง ไม่จริงครับ  ก่อนหน้านี้
2ปี แบตลูกละ ไม่เกิน 1.5 แสนเท่านั้น   แต่ปัจจุบันคนใช้มากขึ้น แบตฯ กลับแพงขึ้นเกือบเท่าตัว

4. ระบบอิเวอร์สเตอร์    ทำหน้าที่เป็นตัวแปลงไฟฟ้าจากการผลิตการหมุนเครื่องยนต์ และล้อ เพื่อชาร์ตไฟเก็บเข้าแบตไฮบริต ตัวนี้โดยมากจะพังทุกๆ 4ปี
เนื่องจากสภาพจราจรบ้านเรา ติดขัด รถจึงขยับแบบยึกๆยักๆ แถมอากาศร้อนมาก  ระบบคอมควบคุมจึงรวนก่อนวัยอันควร   ทำให้อินเวอร์สเตอร์พังครับ
อินเวอร์สเตอร์นี้ ระบายความร้อนด้วยปั้มน้ำตัวเดียวกับ เบรคไฮบริด  ตัวนี้ถ้าพัง หรือ ทุกๆ 4ปี  หรือ 1 แสนกิโล      ต้องเปลี่ยน ลูกละ 400,000 (สี่แสนบาท)

5. ระบบลูกปืนมอเตอร์  และแปรงถ่าน รวมทั้งตัวมอเตอร์ไฮบริด  พวกนี้คือ ส่วนระทึกขวัญ กระตุกวิญญาณ ไม่รู้มาเมื่อไหร่   

6. ระบบคอมพิวเตอร์ควบคุมรถทั้งคัน  มีหลายลูกมากน่าจะเกือบ 10ลูกมั้ง  (สมองรถ)  ลูกละ 1 แสน  พังได้ตลอดเวลาที่อายุ 3.5ปีเป็นต้นไป

7. หน้าจอสัมผัสควบคุมระบบ จะเริ่มรวนหลังจากผ่าน 1 แสนกิโลไปแล้ว  ถ้าเสีย  เปลี่ยน จอละ 3แสนบาท

8.  ลุยน้ำไม่ได้ระบบไฟฟ้าจะชื้น หรืออาจทำให้มอเตอร์พัง

9.  เซลบอกอะไรมาบอกนอกจากนี้  หรือ กระทู้ในพันทิพย์ บอกมาอย่าเชื่อ พวกเซลล์ไปแอบลงเชียร์กันเอง พวกนี้ไม่เคยมีรถแบบนี้ใช้ อ้างได้ยินเขามา หรือ พี่  ป้าน้าอาใช้อยู่อย่าไปเชื่อ   โม้บรรลัย  ขนาดช่างศูนย์ยังส่ายหัวกับผม แล้วคนอื่นจะว่ายังไง

10.  คุณอาจได้กินข้าวลิงกลางทาง หรือ บนเขา แบบกระทันหัน ดังนั้น ฝึกไว้ให้คล่อง ควรมีชุดครัวสนามพกติดรถไว้    รวมทั้งปืน

11.  เวลารถเสีย  ยกลูกเดียว ห้ามเข็น  ลากก้ไม่ได้ ต้องยกเท่านั้น  ไม่งั้น บานนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน

12.  ครอบครัวแตกแยก


สำหรับโตโยต้า พรีอุส  ค่อนข้างจะโชคดีกว่าอื่นๆหน่อย เนื่องจากว่า  รถรุ่นนี้  แพร่หลายในอเมริกา  พวกฝรั่ง จับโมและหาวิธีแก้ไขได้แบบราคาประหยัดมาก รวมทั้งแบตแบบ External ไว้ใช้สะดวกมาก   แต่รุ่นอื่นๆ ช่างบ้านเรายังมือไม่ถึง  แค่ซ่อมตามคู่มือก็ งง จนประสาทเสียไปหลายคนแล้ว


สำหรับข้อมูลนี้  คงพอจะเป็นการเตรียมใจสำหรับผู้ที่อยากถวิลหาไฮบริด  ก็ลองดูครับ  สำหรับผมนั้นยังคงเรยนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับมันต่อไป  ว่าจะไปลุยญี่ปุ่นและหาทางเอาอะไหล่มาขายอยู่เหมือนกัน เพื่อช่วยเหลือผู้ใช้รถประเภทนี้อยู่เหมือนกัน กำลังศึกษาอยู่

ออฟไลน์ Bboomboom

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 174
ผมว่าก้อคุ้มนะ แต่ยังไม่ค่อยคุ่มค่าในด้านความปลอดภัย

ออฟไลน์ golfzilla

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 45
ผมใช้อัลพาร์ด ไฮบริดครับ   หากซื้อตอนป้ายแดงก็ฉลุยครับใช้งานได้ปกติ   แต่ อย่าเข้าใจว่ารถไฮบริดประหยัดนะครับ  ระบบไอบริดแค่ช่วยเรื่องมลพิษและสิ่งแวดล้อมมากกว่าเรื่องความประหยัด

ตอนนี้ผมเองก็ระบมไปกับการซ่อมระบบไฟฟ้า ซึ่งรถใช้มากว่า 4ปี และเกือบ 1แสนกิโล

1.  รายการสำหรับรถไฮบริด ที่ใช้ระบบเบรคแบบไม่มีหม้อลม  แต่ใช้ปั้มลมเบรคแทน  ระบบนี้จะมีปั้มน้ำระบายความร้อนด้วย ซึ่งรายการนี้ตามคู่มือให้เปลี่ยน
ทุกๆ 4 หมื่นโล   แต่ด้วยสภาพอากาศบ้านเรา  จำเป็นต้องเปลี่ยนทุกๆ 1-1.5 หมื่นโลครับ    ไม่งั้นปั้มระบบเบรค ABS พัง  ต้องเปลี่ยนลูกละ 1แสน
ระบบเบรค ABS นั้นปกติ จะพังทุกๆ 1แสนโลอยู่แล้ว    แต่หากไม่ระวังเรื่องระบบระบายความร้อนปั้ม จะพังภายในทุกๆ 2.5-3ปี ซ่อมไม่ได้เปลี่ยนลูกเดียว

2.  รถไฮบริด กับอัตราสิ้นเปลือง  ไม่ได้ประหยัดครับ แต่จะกินน้ำมันปกติของเครื่องยนต์ชนิดนั้นๆอยู่แล้ว  แต่หากวิ่งทางไกล กลับไม่ประหยัดเหมือนรถทั่วๆไป เนื่องจาก คอมพิวเตอร์ควบคุมระบบไฟฟ้า(มอเตอร์ไฟฟ้าไฮบริด)จะตัดการทำงานของระบบไฟฟ้าเป็นช่วงๆ เื่พื่อทำการชาร์ตไฟเป็นระยะๆ เนื่องจากระบบไฟฟ้าภายในรถตอนวิ่งจะใช้ไฟฟ้าจากแบตไฮบริดทั้งหมดรวมทั้งระบบแอร์   จึงกลายเป็นว่า วิ่งด้วยเครื่องยนต์ แถมยังต้องลากเจ้ามอเตอร์
ไปด้วยเมื่อวิ่งในความเร็วสูง  ดังนั้นไม่ประหยักแน่นอน

3. แบตเตอรรี่ ทางญี่ปุ่นเคลมว่าใช้ได้ตลอดอายุการใช้งานนนั้น  จริงๆครับ แต่! เค้าหมายถึงอายุการใช้งานไม่เกิน 4-5ปี เท่านั้นไม่ใช่ลากยาวแบบบ้านเรา    และด้วยอากาศร้อนบ้านเราทำให้อัตราการเสื่อมแบตเตอรรี่เป็นไปแบบก้าวหน้าคือ เฉลี่ยพังที่ 3-4ปี  และราคาแบตเตอรรี่นั้นสูงมาก  สำหรับรถผมนั้นเพิ่งเช็คราคาที่ BRG ลูกละ 24.0000 บาท  หลายที่รับซ่อม ไม่ได้ผลครับลองมาหมดแล้ว  ใครบอกว่าคนใช้เยอะราคาลดลง ไม่จริงครับ  ก่อนหน้านี้
2ปี แบตลูกละ ไม่เกิน 1.5 แสนเท่านั้น   แต่ปัจจุบันคนใช้มากขึ้น แบตฯ กลับแพงขึ้นเกือบเท่าตัว

4. ระบบอิเวอร์สเตอร์    ทำหน้าที่เป็นตัวแปลงไฟฟ้าจากการผลิตการหมุนเครื่องยนต์ และล้อ เพื่อชาร์ตไฟเก็บเข้าแบตไฮบริต ตัวนี้โดยมากจะพังทุกๆ 4ปี
เนื่องจากสภาพจราจรบ้านเรา ติดขัด รถจึงขยับแบบยึกๆยักๆ แถมอากาศร้อนมาก  ระบบคอมควบคุมจึงรวนก่อนวัยอันควร   ทำให้อินเวอร์สเตอร์พังครับ
อินเวอร์สเตอร์นี้ ระบายความร้อนด้วยปั้มน้ำตัวเดียวกับ เบรคไฮบริด  ตัวนี้ถ้าพัง หรือ ทุกๆ 4ปี  หรือ 1 แสนกิโล      ต้องเปลี่ยน ลูกละ 400,000 (สี่แสนบาท)

5. ระบบลูกปืนมอเตอร์  และแปรงถ่าน รวมทั้งตัวมอเตอร์ไฮบริด  พวกนี้คือ ส่วนระทึกขวัญ กระตุกวิญญาณ ไม่รู้มาเมื่อไหร่   

6. ระบบคอมพิวเตอร์ควบคุมรถทั้งคัน  มีหลายลูกมากน่าจะเกือบ 10ลูกมั้ง  (สมองรถ)  ลูกละ 1 แสน  พังได้ตลอดเวลาที่อายุ 3.5ปีเป็นต้นไป

7. หน้าจอสัมผัสควบคุมระบบ จะเริ่มรวนหลังจากผ่าน 1 แสนกิโลไปแล้ว  ถ้าเสีย  เปลี่ยน จอละ 3แสนบาท

8.  ลุยน้ำไม่ได้ระบบไฟฟ้าจะชื้น หรืออาจทำให้มอเตอร์พัง

9.  เซลบอกอะไรมาบอกนอกจากนี้  หรือ กระทู้ในพันทิพย์ บอกมาอย่าเชื่อ พวกเซลล์ไปแอบลงเชียร์กันเอง พวกนี้ไม่เคยมีรถแบบนี้ใช้ อ้างได้ยินเขามา หรือ พี่  ป้าน้าอาใช้อยู่อย่าไปเชื่อ   โม้บรรลัย  ขนาดช่างศูนย์ยังส่ายหัวกับผม แล้วคนอื่นจะว่ายังไง

10.  คุณอาจได้กินข้าวลิงกลางทาง หรือ บนเขา แบบกระทันหัน ดังนั้น ฝึกไว้ให้คล่อง ควรมีชุดครัวสนามพกติดรถไว้    รวมทั้งปืน

11.  เวลารถเสีย  ยกลูกเดียว ห้ามเข็น  ลากก้ไม่ได้ ต้องยกเท่านั้น  ไม่งั้น บานนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน

12.  ครอบครัวแตกแยก


สำหรับโตโยต้า พรีอุส  ค่อนข้างจะโชคดีกว่าอื่นๆหน่อย เนื่องจากว่า  รถรุ่นนี้  แพร่หลายในอเมริกา  พวกฝรั่ง จับโมและหาวิธีแก้ไขได้แบบราคาประหยัดมาก รวมทั้งแบตแบบ External ไว้ใช้สะดวกมาก   แต่รุ่นอื่นๆ ช่างบ้านเรายังมือไม่ถึง  แค่ซ่อมตามคู่มือก็ งง จนประสาทเสียไปหลายคนแล้ว


สำหรับข้อมูลนี้  คงพอจะเป็นการเตรียมใจสำหรับผู้ที่อยากถวิลหาไฮบริด  ก็ลองดูครับ  สำหรับผมนั้นยังคงเรยนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับมันต่อไป  ว่าจะไปลุยญี่ปุ่นและหาทางเอาอะไหล่มาขายอยู่เหมือนกัน เพื่อช่วยเหลือผู้ใช้รถประเภทนี้อยู่เหมือนกัน กำลังศึกษาอยู่

สงสัย camry hybrid ตัวแรกน่าจะเริ่มเสียตามรายการด้านบนแล้ว
ค่าซ่อมโหดเอาเรื่องเลย