##รีวิว Ford Focus TDCi Ghia 10 มันมีดีอะไรทำไมคนถึงถามหา?!?!##

[MoLee]

ณ...เช้าวันหนึ่งช่วงเดือนเมษา ตอนผมอยู่ในช่วงม.1

ผมกำลังโทรคุยกับคุณพ่ออยู่(จำไมได้ว่าเรื่องอะไร) 

พ่อ:พ่อมีจะไปลองรถใหม่วันเสาร์นี้โมอยากไปด้วยมั้ย?

ลูก:ห๊าาาา!?!?Honda stream คันเก่าพ่อยังไม่เก่าเลยน๊า!?!?

พ่อ:เอาน่าๆจะไปด้วยรึป่าว?

ลูก:ไปๆว่าแต่รถอะไรล่ะ?

พ่อ:Fordๆ Focus ดีเซล

ลูก:ห่ะFord!?!?จะดีหรอพ่อ!???



ล่ะนั้นเป็นบทสนทนา ที่ผมคุยกับพ่อผมทางมือถือ ด้วยความมึนงงเล็กน้อย ว่าเปลี่ยนรถอีกแล้วว จะไม่ให้คิดได้เยี่ยงไรก็ Stream เพิ่งใช้ได้เกือบๆ3ปี (ใช้แค่คนเดี่ยวอีกต่างหาก! )
นานๆทีจะครบ4ที่นั่ง ส่วนแอร์หลังกับที่นั่งหลังพับเก็บไว้อย่างเรียบร้อย….อ่ะๆมันก็เป็นรถที่โอเค หากไม่นับราคาตอนนั้นที่คุณพ่อผมซื้อมือ2มาจากเจ้านายตอนนั้น(ยังดีที่รถใช้มาน้อยมาก!!)
 

[MoLee]

กลับมาเรื่องFocusต่อ   ในตอนนั้นผมได้แต่จินตนาการภาพถึง ตอนที่เคยไปนั่งคลุกไปคลุกมา ในFord focus 2.0 s 5ประตู ในช่วงแรกๆที่เปิดตัวและแสดงอยู่ที่เมืองทองกับน้าผม
ในตอนนั้นดีไซด์ด้านนอกของ5ประตูโอเลยชอบ แต่พอเห็นภายในก็ไม่ได้รู้สึกอะไรมากก็แค่คิดว่ามันเป็นFord รุ่นหนึงไม่ได้มีอะไรเด่นเท่าไรยิ่งกับตัว4ประตู
กระจังหน้าที่พยายามออกแบบมาให้ล้ำสมัย แต่เหตุไฉนมันถึงดูเชยได้ขนาดนั้น ก็ไม่รู้ 




แล้วก็ถึงวันที่ไปดูที่ศูนย์และลองรถ เอ่ยยมันไปเปลี่ยนหน้ามันมาตอนไหนหว่า เออๆแบบนี้ค่อยดีขึ้นหน่อย แล้วเราก็กระโดดขึ้นFocus TDCi คันสีขาว4ประตู ผมก็นั่งอยู่เบาะหลัง เห้ยมันแรงกว่าที่คิดไว้เยอะเลยแหะ(แน่ซิเครื่องดีเซลมีหอยหนิ) ทันใดนั้นพ่อข้าพเจ้าก็พาน้องขาวมุดไปมุดมาแบบ FD ที่ผมเพิ่งได้มาไม่นาน ในตอนนั้นเวลาเปลี่ยนเลนไม่สามารถมั่นได้แบบนั้นแน่ๆ ถึงแม้ในตอนนั้นผมจะไม่ได้ขับ แต่ได้นั่งก็สามารถพอรับรู้ได้ว่ารถคันนี้มันมีอะไรบ้างอย่างที่ผมไม่ได้คาดไว้ซ่อนอยู่แบบเริ่มเปลี่ยความคิด
 ปล.ในตอนนั้นผมยังไม่เคยอ่านรีวิว เจ้านี้ที่พี่จิมทำไว้เลย และที่สำคัญตอนนั้นผมยังไม่รู้จักเว็บนี้เท่าไรนักถึงแม้คุณพ่อจะแนะนำมาแล้วก็จริงอยู่หุหุ

มาเข้าเรื่องกันเลย เจ้านี้มีกำลังเครื่องอยู่ 136 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที ทำไมม้ามันน้อยจังหว่า(อุทานในใจตอน อ่านในโบรชัวว์) แต่แรงบิดนั้น ไม่ธรรมดา320 นิวตันเมตรที่ 2,000 รอบ/นาที อืมๆแรงบิดนี้มันพอๆกับรถกระบะเลยนะเนี้ย
หน้าตาเครื่องก็เป็นแบบนี้...ไม่มีโช๊คอัพช่วยแต่อย่างใด(ห้องเครื่องดูรกเนอะ)

[MoLee]

แต่ถ้าใส่ฝาครอบเครื่อง ก็ค่อยจะดูเรียบร้อยขึ้นและใต้ฝาครอบก็เป็นไปตามรูป แอบคิดอยู่แบบนี้มันจะไม่ทำให้เครื่องร้อนขึ้นรึ?











มาดูส่วนรูปร่างหน้าตาด้านนอกกันบ้าง ก็ไม่ค่อยแตกต่างจากFocus ตัวปกติทั่วๆไปเท่าใดนัก สิ่งที่แตกต่างเด่นๆคงจะเป็น สติกเกอร์ด้านข้างลายTDCi ที่จะว่าสวยก็ไม่ จะน่าเกลียดก็ไม่เชิง
ส่วนกระจังหน้าก็เป็นแบบใหม่ ทำให้รถดูดุขึ้นและดูหน้าตาดีกว่าเดิมตอนเปิดตัวขึ้นเยอะ
 
  มาพร้อมกับไฟตัดหมอกหน้า ไฟเลี้ยวที่กระจกมองข้าง และไฟหน้าแบบปกติทั่วๆไปแบบฮาโลเจน ยังไม่ใช้ไฟแบบโปรเจคเตอร์ และHIDแต่อย่างใด ส่วนเสาอากาศวิทยุนั้นเป็นแบบหนวดแมลงสาปตรงกึ่งกลางหลังคารถด้านหน้า เป็นแบบเดี่ยวกับที่คุณสามารถพบได้ในHonda Jazz ตัวเก่ารุ่น Idsi ตัวกลาง

[MoLee]

อ่าและก็เกือบลืมไปอีกเรื่องหนึ่งครับ เจ้านี้ในตอนแรกนั้น สร้างความงงๆกับคนทั่วไปในเวลาเปิดกระโปรงหน้ารถอยู่พอควร เพราะต้องใช้กุญแจรถมันไขหน้ารถโดนต้องหมุนโลโก้Ford ที่หน้ารถเสียก่อนจึงจะค่อยไข ส่วนตัวไม่ค่อยจะHappyเท่าไรเพราะยุ่งยากเกินเอาแบบปกติทั่วๆไปน่ะดีกว่านะเออ... (ข้อควรระวัง โปรดค่อยๆหมุนโลโก้เบาๆนะครับเพราะมันค่อนข้างเปราะบางน่าหักเป็นอย่างยิ่งนัก)







มาดูทางด้านก้น กันบ้าง เจ้าFocus คันนี้เป็นตัว4ประตู จึงเรียกว่า GHiA  และป้ายนี้จะถูกติดอยู่กับประตูหลังและท้ายรถ
ส่วนไฟท้ายด้านหลังมาพร้อมไฟตัดหมอกหลัง มาให้ครบ2ข้าง  โดยไฟถอยหลังนั้นยังอยู่ครบทั้งคู่ แต่ถ้าเป็นรุ่น5ประตูไฟตัดหมอกหลังจะมีมาให้เพียงแค่ข้างเดียว
แต่ถ้าผมจำไม่ผิดไฟถอยหลังก็จะเหลือข้างเดียวตามด้วยเหมือนกัน

[MoLee]

มาเปิดตูดกันบ้าง...
 ท้ายนั้นสามารถใช้มือดึงขึ้นได้เลยเหมือนกับรถ5ประตูทั่วๆไปโดยไม่ต้องใช้กุญแจไข หรือเปิดจากในรถ ซึ่งจุดนี้ถือว่าok เลยผมชอบยิ่งเวลาถือของมาเยอะๆใช้ความพยายามนิดหน่อยก็เปิดได้ง่ายกว่าการที่จะใช้กุญแจไขหรือเปิดประตูฝั่งคนขับแล้วเข้าไปงัดขึ้น การใช้วิธีนี้ง่ายกว่าเยอะมากๆค่อนข้างHappyในจุดนี้ครับ

ส่วนพื้นที่เก็บของด้านในนั้นค่อนข้างโอเค ลึกกว่าCivc FDอยู่แต่จากการคาดการผ่านทางสายตา ของผมน่าจะเก็บของได้มากกว่าFD อยู่แต่อาจจะไม่ได้จุมากกว่าจนแตกต่างมากนัก

[MoLee]

เปิดขึ้นมาใต้นั้นคุณจะพบกับล้อแม็กลายเดียวกันกับด้านนอก เป็นยางอะไหล่ขนาด16นิ้ว ขนาด205/55 เท่ากันกับด้านนอกอีกต่างหาก ใช่แล้วครับFordให้ล้อแม็กมา5 ล้อเลยทีเดียว







ส่วนนี้ด้านนอกครับ ไปๆมาๆมันดูเล็กๆยังไงไม่รู้ทั้งๆที่ก็ขอบ16 ลายดูงั้นๆไม่ได้โดดเด่นอะไรมากนัก ส่วนตัวชอบลายตัวปรับอ็อพชั่นลดราคาช่วงสุดท้ายมากกว่า แต่เอาน่ามันกูดูดีกว่าที่อยู่ในรีวิวของพี่จิมล่ะกัน(ปลอบใจตัวเองเบาๆ )

[MoLee]

มา!มาเริ่มดูภายในกันบ้าง....
  กุญแจเป็นแบบพับเก็บได้ มีปุ่ม3ปุ่ม ไว้กดล็อค เปิดรถ และเปิดท้ายรถ น่าตาก็ดูเหมือนกุญแจรถ ยุโรปทั่วๆไปแต่ก็ดูดีกว่าFDเยอะอยู่









เปิดประตูมาทางด้านฝั่งคนขับ เบาะคนขับนั้นปรับไฟฟ้า6ทิศทาง มีระบบด้านหลังแต่ต้องใช้มือดันเองด้านข้างซ้ายของเบาะ 
ส่วนแผงประตูด้านข้างนั้น ก็พอเก็บของได้นิดหน่อย ในส่วนเรื่องช่องเก็บของจุกจิกต่างๆนั้นแพ้FDไปเลย(ส่วนตัวผมว่าในจุดนี้ Hondaมักจะได้เปรียบกว่าอยู่ตลอดทั้งJazzเองก็ตาม)
ส่วนบานประตูนั้นค่อนข้างหนัก หนักกว่าFD แต่ใช้แรงปิดไม่เยอะใช้แรงเท่ากับรถญี่ปุ่นทั่วไป ส่วนกระจกมองข้างปรับไฟฟ้าและพับเก็บไฟฟ้า

ด้านกระจกนั้นเป็นแบบAuto ทั้ง4บานและที่สำคัญมีระบบกันหนีบมาให้ครบทั้ง4บานอีกต่างหาก!!   ไฟเลี้ยวนั้นเป็นแบบรถยุโรปปกติ ไฟเลี้ยวอยู่ซ้าย ปัดน้ำฝนอยู่ขวา 
ไฟหน้านั้นเปิดปิดด้วยการหมุน(ยังไม่Auto) ถ้าดึงขึ้น ล็อก1จะเปิดไฟตัดหมอกหน้า ส่วนยกขึ้นล็อก2จะเปิดไฟตัดหมอกหลัง และเวลาปิดจะดึงตัวเองปิดกลับครบทั้งหมด ซึ่งไม่สามารถจะอ้างได้ว่าอุ๊ยไม่รู้วิธีปิด!!

[MoLee]

มาด้านเบาะผู้โดยสารด้านหน้านั้น ปรับด้วยมือยังไม่ใช้ไฟฟ้า ปรับได้แค่4ทิศทางปกติ ตัวเบาะเองค่อนข้างเล็ก แต่รองรับช่วงขาและหลังพอดีกับรูปร่างผมok
ส่วนพนักพิงหัวนั้นมีอาการดันหัวอยู่บ้างเล็กน้อย แต่ไม่ได้ดันจนน่าลำคาญอะไรมากมาย แก้ได้ด้วยการปรับเบาะให้เหมาะสมก็จะไม่มีปัญหา

ส่วนตัวมองว่าถ้าคุณก้นใหญ่หรือตัวอ้วนนั้นอาจจะมีปัญหากับคอนโซลและตัวเบาะซึ่งผมมองว่าค่อนข้างเล็ก ซึ่งคนอ้วนหรือตัวใหญ่คงไม่ค่อยHappyกับการโดยสารกับเจ้านี้ซักเท่าไร
 ตัวเนื้อเบาะหนังค่อนข้างเป็นเบาะแข็ง ซึ่งในFocusตัวใหม่เองได้มีการปรับ เบาะใหญ่ขึ้น และนิ่มขึ้นทำให้สบายกว่าเจ้าตัวนี้อยู่ แต่สำหรับผมเองก็ไม่ได้มีปัญหากับคันนี้แต่อย่างใด

[MoLee]

ส่วนบานประตูเปิดได้กว้างok มีช่องเก็บของเหมือนด้านคนขับ ที่วางแขนนั้นผมชอบสุดๆ ชอบกว่าFD ตรงที่มันมีที่ยึดเนี่ยวจิตใจผมแห่งที่2 คือคุณสามารถวางแขนปกติก็ได้และมันก็วางได้พอดีด้วย
 และในขณะเดียวกันคุณก็สามารถจับได้เวลา คนขับอยากจะเล่นโค้งหือมุดไปมุดมาตามนิสัยของรถคันนี้ เห้ยชอบๆ

[MoLee]

ส่วนประตูหลังนั้น น้ำหนัก หนักน้อยกว่าด้านหน้าแต่ก็ยังหนักกว่าพวกบรรดาคู่แข่งรายอื่นๆอยู่ ใช้แรงปิดไม่เยอะเหมือนประตูหน้าเด๊ะ    แต่ไม่มีช่องเก็บของข้างแผงประตู แต่มีมาให้ด้านหลังเบาะทั้ง2ฝั่ง
ส่วนที่วางแขนนั้นอาจจะวางไม่ได้เต็มแขนมากนัก แต่เป็นที่ยึดเนี่ยวชั้นดีของผมเลย (เป็นศาสดาที่ผมเคารพเวลานั่งตรงนี้ ) ส่วนช่องเก็บของด้านข้างเล็กๆนั้น เอาความจริงคือแทบใช้ประโยชน์อะไรไม่ค่อยได้เท่าไรเลยยย (เคยมีครั้งหนึ่ง แงมกระจกไว้แล้วฝนตก แล้วผมก็พบว่ามันเอาไว้รองน้ำได้ดีมาก!) มาพร้อมแอร์ตอนหลังซึ่งจำได้ว่าสมัยเปิดตัวก็เป็นจุดเด่นไม่ใช่น้อย (อันที่จริงผมว่าเขาใส่มาให้อ่ะดีแล้ว เพราะแอร์Focus ครึ่งหน้ามาด้านหลังไม่ค่อยทั่วถึงซักเท่าไร)
   

[MoLee]

เบาะด้านหลังนั้งค่อนข้างแข็งอยู่ พนักพิงศีรษะเป็นแบบ L คว่ำ ซึ่งเป็นแบบที่ผมเกลียด เพราะมันดันหัวอยู่แต่ถึงแม้จะดันไม่มากในคันนี้แต่ก็ยังไม่ชอบอยู่ดี และวัสดุของจุดนี้แข็งด้วย ทำให้แอบเสียแต้มจากผมไปบ้างในด้านเบาะหลังตรงพนักพิงหัว
ส่วนรื่องความสบายนั้นผมก็โอเคนะไม่รังเกียจหากจะนั่ง กรุงเทพ-พัทยายังโอเคอยู่ แต่ถ้าไกลเกินจากนี้อาจจะต้องมีการลงมายืดเส้นกันบ้างซักหน่อยก็ดี ตัวเบาะเองไม่ได้ถึงกับนั่งไม่สบายแต่มันก็ไม่ถึงกับสบายมากนัก สิ่งที่เสียแต้มหลักๆเลยจุดนี้ คือพื้นที่วางขาด้านหลังนั้นค่อนข้างน้อย น้อยกว่าคู่แข่งหลายๆคันเลยล่ะ









เบาะหลังเองนั้น สามารถพับลงได้ทั้ง2ข้าง แบบแยกกันอิสระ ด้วยปุ่มดำๆตรงนี้  และมีที่เสียบเข็มขัดนิรภัยมาให้ในจุดนี้สำหรับเอาไว้เวลาไม่ได้ใช้ ซึ่งก็โอเคถึงแม้ผมจะไม่ค่อยเห็นประโยชน์ของมันมากเท่าใดนัก

[MoLee]

พับมาแล้วก็จะเป็นเยี่ยงนี้

[MoLee]

มาดูทางด้านเครื่องเสียงกันบ้าง เครื่องเสียงเจ้าFocus รุ่นนี้นั้นเป็นแบบ2din จุได้6แผ่น  แนะนำว่าควรจะทำความร็จักมันให้ดีก่อนนะครับผม เพราะมันค่อนข้างใช้ยากอยู่บ้าง

คุณภาพเสียงนั้นจัดอยู่ในเกณน์ ค่อนข้างไม่ได้เรื่อง!(ไม่ผ่านหูผมอ่ะง่ายๆ ) แต่ก็อ่ะๆพอทนฟังได้ถ้าแค่ฟังกับวิทยุทั่วๆไป แต่จะมีหงุดหงิดบ้างถ้าฟังกับแผ่นCD คุณภาพดีๆ แต่ถ้ากับคนทั่วไปที่ไม่ได้สนใจจุดนี้มากเท่าใดนักก็ คงไม่มีปัญหาอะไร

ไล่มาด้านบน ไฟฉุกเฉินติดอยู่ในตำแหน่ง ok  และจุดเด่นของเจ้านี้มีคือ มันจะติดขึ้นเองอัตโนมัติ หากเบรกฉุกเฉินแรงๆจนรถหยุด จะติดขึ้นเพื่อกบอกรถหลังให้รู้  
ช่องแอร์ติดอยู่ในต่ำแหน่งตรงกลางปกติ มีที่เลื่อนปิดช่องแอร์มาให้ด้วย ระบบแอร์นั้นเป็นแบบแยก2ฝั่ง แบบดิจิตอล ซึ่งเอาเข้าจริงแล้วนานๆทีจะใช้ที เรียกได้ว่านับครั้งใช้ได้เลยล่ะ แต่เอาน่าให้มาดีกว่าไม่มีมาให้....

ถัดลงมาจะเจอกับ หัวเกียร์ที่ดูดีใช่ได้ มาพร้อมปุ่ม+ - มาให้เล่นขำๆ (เอาเข้าจริงก็ไม่ค่อยได้ใช้ เพราะลำพังแค่ใช้เท้ากดก็เกียร์ก็ฉลาดพอแล้ว) ระบบเกียร์เป็นแบบคลัชคู่
(ถือนำหน้าเพื่อนในกลุ่มเดียวกันไปได้ไกลมาก)อยู่ในเฉพาะตัวดีเซล (เดียวค่อยมาว่าต่อในตอนหลังล่ะกัน) และก็มีช่องจ่ายไฟมาให้และช่องเก็บของเล็กๆน้อยๆอีก1จุด

[MoLee]

ส่วนคอนโซลกลางนั้น สามารถปรับเลื่อนได้ เป็นวัสดุหุ่มหนังไว้บางๆแล้วก็จะพบกับวัสดุแข็งๆเลย สามารถวางแขนได้จริงแต่อาจจะไม่เต็มแขน จุดนี้ผมชอบของCivic FDมากกว่าครับผม 
มาจุดตรงกลางนั้น เบรกมืออยู่ทางซ้ายซึ่งไกลจากพวงมาลัยคนขับพอควร (มันควรจะอยู่ใกล้ตัวกว่านี้จะดีกว่าแต่ก็ไม่รู้ทำไมมันไปโพล่อยู่ปู้น! )
ซึ่งกลายเป็นว่าช่องวางแก้วนั้นใกล้คนขับมากกว่าคนนั่ง(เอิ๊กๆประหลาดดีแหะ...) ช่องวางแก้วนั้นพอวางได้แต่ถ้าแก้วใหญ่มากคงใส่ไม่ได้อยู่ และก็มีทีเก็บของอีกนิดหน่อยเล็กๆน้อยๆ 









ยกขึ้นมาแล้วก็จะเป็นเยี่ยงนี้ ไม่ต้องไปหาปุ่มกดเปิดนะครับเพราะเจ้านี้มันใช้แม่หล็ก เล่นเอาผมงงเลยในตอนไปลองรถครั้งแรกที่นั่งฮ่าๆด้านในนั้นก็พอเก็บของพอได้ แต่ไม่เยอะมาก

[MoLee]

พวงมาลัยเป็นแบบ 4ก้าน หุ้มหนัง แต่ถ้าเป็นตัว5ประตูSจะเป็นแบบ3ก้าน และลายวัสดุแผงตรงกลางจะเป็นแบบเคฟล่า ส่วนในรุ่น4ประตูเป็นลายไม้ที่ดูไม่แก่เกินไปแบบที่เห็นอยู่นี้ครับผม 

พวงมาลัยปรับได้4ทิศทาง และมีปุ่มควบคุมเครื่องเสียงมาให้ข้างๆ เป็นแผงใหญ่ๆส่วนตัวว่าชอบที่มันอยู่บนพวงมาลัยจะดีกว่านะ และเจ้าFocus โฉมนี้จะไม่มีระบบควบคุมความเร็วรถ ครูสคอนโทลมาให้ ทุกรุ่นย่อย (แอบเซ็ง)
และก็มีไฟอ่านแผนที่ มาให้และไฟกลางเก๋งนั้นมาอยู่ตรงด้านหน้าซะงั้น ซึ่งก็ทำให้ไม่มีไฟกลางเก๋งเป็นที่ให้น่าบ่นอยู่....

[MoLee]

กระจกมองหลังนั้นปรับด้วยมือยังไม่Auto และยังไม่มีระบบปัดน้ำฝนเองอัตโนมัติในตัวนี้









หน้าตาแผงหน้าปัด และรถคันนี้มีระบบESPมาให้ ซึ่งก็เคยได้ใช้ประมาณ2ครั้งตั้งแต่ซื้อมา เวลาใช้ก็จะมีไฟรูปรถลื่นติดขึ้นมา (ในรูปรู้สึกว่าถ่ายตอนไฟเริ่มดับแล้วอาจจะไม่เห็นครบทุกตัวนะครับ )
สามารถปรับอ่านข้อมูลต่างๆได้โดยกดปุ่มขึ้นลงตรงก้านไฟเลี้ยว

[MoLee]

ช่องเก็บของด้านหน้านั้นค่อนข้างลึก เก็บของได้เยอะอยู่ ส่วนฝาปิดนั้นเปิดลงมาจะมีที่วางแก้วให้2ที่(ซึ่งเอาเข้าจริงมันอยู่จุดนี้โอกาสที่จะได้ใช้งานจริงผมว่าน้อยกว่าตรงที่วางแขนด้านหลังซะอีก!)

 และถ้าสังเกตดีๆจะพบกับช่องเสียบAUX ซ่อนอยู่ในจุดนี้ ที่เป็นฝาขาวๆอ่ะครับ ในตอนแรกผมก็งงหาไม่เจอมานาน (ซ่อนไว้ในจุดที่ไม่ควรอยู่เกินน)










ส่วนเรื่องกระจกแต่งหน้านั้นก็มีมาให้ทั้ง2ข้างพร้อมไฟทั้ง2ด้าน ตามรูป วัสดุนั้นคล้ายกับโฟมที่ไว้แช่ของรักษาความเย็นเพียงแต่อันนี้แข็งกว่าเท่านั้นเอง ….

[MoLee]

มาดูด้านทัศนะวิสัยกันบ้าง....

เสาa ซ้ายนั้นก็มีบังบ้างแต่ไม่เยอะจนขับยาก

[MoLee]

เสาaขวา ไม่ค่อยบังเท่าไรนัก ถือว่าโอเค ส่วนเรื่องกระจกมองข้างผมไม่มีปัญหาเท่าไรแต่ต้องปรับตัวบ้างนิดหน่อย

[MoLee]

ด้านหลังนั้นมีกระจกเล็กๆ(ที่จริงก็ไม่เล็กซักเท่าไร) มาช่วยทำให้ดูโปร่งขึ้นแต่เสาหลังนั้นอ้วนพอตัวเลย











ส่วนด้านหลังนั้นกระจกหลังค่อนข้างใหญ่ แต่แผงด้านหลังมาสูงขึ้นทำให้มองเห็นด้านหลังยากหน่อย แต่ยังดีที่Ford ให้เซ็นเซอร์มา3จุดด้านหลังทำให้ช่วยได้เยอะ

[MoLee]

มาต่อด้วยเรื่องการขับขี่กันบ้างมา มาทำไมนะหลายๆคนถึงถามหาเครื่องดีเซลตัวนี้กันจัง!!?

ถ้าผมเป็นคุณผู้อ่านที่ ส่องเว็บนี้มาพักหนึ่งแล้วยังไม่เคยมีโอกาสสัมผัสเจ้านี้ ถ้าเป็นผมคงมีคำถามนี้ในหัวอย่างแน่นอนว่า มันมีอะไรดีนักหนาฟร่ะทำไมถึงต้องชาบูยกย่องมัน !?!? จนบ้างคนถึงขนาดอดรอไม่ซื้อ Focusเบนซินใหม่ เพื่อรอดีเซลเท่านั้น!

[MoLee]

ว่าด้วยกำลังเครื่อง รถดีเซล มีหอย กำลัง136ม้า แรงบิด320นิวตัน มาที่รอบ2000รอบต่อนาที กำลังแค่นี้ถ้าอยู่ในกระบะทั่วไปคงธรรมดาๆ แต่ก็สามารถลากน้ำหนักได้ประมาณ2ตัน+
แล้วลองคิดดูว่ามันมาอยู่กับรถเก๋ง ที่น้ำหนักตันต้น 1ตัน2+- มาบวกผสมโรงกับ เกียร์คลัชคู่ 6สปีด สมองเกียร์ที่ฉลาดใช่ได้

ผลก็คือ0-100 9วิปลายๆ(อ้างอิงตามผลทดสอบคุณจิมมี่) 80-120  7.67 วิ

[MoLee]

เอาจากความรู้สึกผมล้วนๆ คันเร่งไฟฟ้านั้นยังมีอาการหน่วงๆอยู่ในตอนเริ่มต้น(ตอนจอดสนิท)เหมือนขอเวลาแปปหนึ่ง ประมาณครึ่งวิแล้วรถก็ค่อยๆ ถีบตัวออกไปจนถึงช่วงบูสมา มันก็จะเริ่มดึงๆๆเกียร์ก็จะเปลี่ยนอย่างราบลื่นสมกับเป็นคลัชคู่
แต่ถ้าเป็นช่วงที่คุณ ลอยลำ วิ่งอยู่ซัก20-30-40-50หรือ60 กดเท้าลงไปเล็กน้อยมันก็พร้อมจะไปถึงความเร็วที่คุณต้องการได้ในไม่ช้า ยิ่ง60ใช้เวลาไม่นานมันก็สามารถถึง120และตอนนั้นอาจจะมีเพลินเกินไป140เสียด้วย

และที่สำคัญทุกช่วงความเร็วที่ต่ำกว่า140นั้น สามารถดึงให้หลังคุณติดเบาะได้ตลอดเวลา
สรุปเรื่องคันเร่งมีหน่วงๆเล็กน้อยแต่ไม่หน่วงจนน่าเกลียด แค่ประมาณเสี้ยววิเท่านั้นหลังจากนั้นกำลังเครื่องก็จะพาคุณไปมีความสุข













มาด้านเกียร์ มี Engine break มาด้วยเวลาคลานช่วงความเร็วต่ำๆ หรือถอนเท้าเข้าช่องเก็บเงินหรือจะเลียเบรก เจ้า Engine break ช่วยได้พอสมควร คนที่ขับรถคันอื่นอาจจะต้องปรับตัวซักเล็กน้อย เพราะไม่งั้นอาจจะลำคาญได้ จุดนี้มีกระตุกบ้างในบ้างครั้งเวลาชะลอแต่ไม่เป็นบ่อยนัก 

ส่วนเรื่องเกียร์ความฉลาดนั้นผมให้10ไปเลย เพราะมันฉลาดมากๆ เลือกเกียร์ได้เหมาะกับคันเร่งมากๆและสถานการณ์ต่างๆมาก จุดนี้

   
              มาเรื่องเบรกต่อ Focus TDCi นั้นมาเป็น ดิสเบรก4ล้อ พร้อมระบบ ABS EBD ESP TCS BA (น่าจะครบแล้วนะ)ก็ถือว่าระบบควบคุมเสถียรภาพรถมาได้ครบเลย  มาด้านแป้นเบรก อยู่ลึกกว่ารถToyota เยอะอยู่ต้องกดลงไปซักครึงหนึงถึงจะร็สึกได้ถึงจานเบรกที่เริ่มจับกับจาน ผ้าเบรกติดรถของเจ้าคันนี้นั้นไว้ใจได้เพราะหยุดได้ตามสั่งเลยผมHappyมากๆกับจุดนี้  ส่วนตัวมองว่าที่เบรกถูกเซ็ตมาให้อยู่ลึกนั้น คงเป็นเพราะในช่วงแรกเขาคงตั้งใจให้ Engine break ทำงานก่อนเหมือนช่วยชะลอความเร็วให้ในเบื้องต้นประมาณนั้นมั้ง (ความเห็น)

[MoLee]

เรื่องการตอบสนองของพวงมาลัยนั้น ไว คม หนักกำลังดีเป็นพวงมาลัยที่+กับช่วงล่างแล้วมุดไปมุดมาสนุก แต่บ้างครั้งก็รู้สึกแอบอยากให้มันไว้น้อยกว่านี้ซักนิดหนึ่งแค่นิดเดียว เพราะเวลาขับตรงๆยาวพวงมาลัยมันนิ่งไว้ใจได้อยู่ล่ะ แต่ต้องมีเกร็งแขนมากกว่ารถปกติหน่อยล่ะ
ง่ายๆเป็นพวงมาลัยที่ผมคิดว่าการจะต้องมุดไปมุดมา เปลี่ยนเลนไปเปลี่ยนเลนมา แอบจะทำให้มีความสุขมากกว่าขับตรงนิ่งๆ555+

ช่วงล่างก็ไว้ใจได้ ไม่แข็งจนน่าด่าแบบ Civic ไดแมนชั่น แต่ก็ไม่ได้นุ่มจนย้วย มันเป็นช่วงล่างที่เซ็ตมาให้ขับสนุกโค้งไม่กลัวทางตรงนิ่งดี ท้ายไม่ดีด ถือว่าเซ็ตมาได้เหมาะกับกำลังเครื่องดีมากๆ หากเทียบกับFD นั้นผมคิดว่าเจ้านี้มันนุ่มกว่าอีกนะ แถมหนึบกว่าFD ธรรมดาๆมากโข


ส่วนอัตราสิ้นเปลื้องนั้นน้ำมันนั้น เคยวิ่งต่างจังหวัดจากกรุงเทพ-หัวหิน วิ่ง120-140 ดีสุดที่เคยได้ตามมาตรวัดโชว์ 5.5/100 นั้นก็แปลว่าประหยัดถึง18.18 กิโลเมตรต่อลิตร!!แต่ๆๆนั้นคือบนจอนมาตรวัดนะครับ ถ้าวัดกันจากการหารจำนวนน้ำมันที่เติมเข้าไปกับระยะทางคงได้ซํกช่วง16-17 ตัวเลขคงน้อยกว่าที่จอแสดงมาบ้างแต่แค่นี้ผมก็ว่าพอใจมากๆแล้วอย่าลืมว่าวิ่งความเร็วประมาณ120-140 ไม่ใช้90นะครับ เสียดายที่ไม่ได้ถ่ายรูปเก็บไว้ตอนจอแสดง....

ส่วนในเมืองนั้น ส่วนมากคันนี้จะใช้อยู่แถบช่านเมืองนะครับ ที่ได้ส่วนใหญ่ประมาณช่วง6.8-6.4/100 ก็เอา100ตั้งหารด้วยจำนวนตัวเลขด้านหน้าก็ คือ14.7-15.6 กิโลเมตรต่อลิตร อันนี้คือจอแสดงเหมือนกันครับผม เอาเข้าจริงถ้าหารจากจำนวนน้ำมัน คงประมาณ12-13โลลิตรอยู่ ซึ่งก็ขับแบบมุดไปมุดมาบ้างถ้ารถโล่ง เร่งๆหยุดๆตามจังหวะรถติดครับ
ฝารูปช่องเติมน้ำมันอยู่ด้านขวานะครับ มีป้ายคำว่าดีเซลไว้ที่ฝา แต่ก็ไม่ควรนิ่งนอนใจกับคนเติมน้ำมันนะ!

[MoLee]

ปัญหาที่พบเจอ...
ตั้งแต่ใช้มามีปัญหาเล็กน้อยก็ที่เจอก็มี
1. โลโก้Ford ที่ล้อแม็ก ชอบหลุดหายไปก็เคลมๆบ้างซื้อมาใส่ใหม่บ้าง
2.สีสเกิร์ต หลุดลอกออกมากลายเป็นสีดำด้านซะงั้น แต่จุดนี้Fordเองก็รับผิดชอบ(+ด้วยความช่วยเหลือจากคุณจิมมี่ด้วยครับ)แต่จุดนี้คุณพ่อผมก็ไม่ได้อะไรเท่าไรเลยปล่อยไว้นานอยู่ ตอนนี้น่าจะเอาเข้าไปแก้แล้ว(มั้ง )
3.ก็เจอไป2รอบคือส่วนนี้ คือหลอดไฟหน้าที่ยึดหรือล็อคอยู่กับโคมมีปัญหา ทำให้ไฟหน้านั้นส่องไปไม่เป็นทิศเป็นทาง แต่ก็ได้เคลมไปแล้วเรียบร้อย
4.ก็มีไฟท้ายขาด ก็เคลมเปลี่ยนไปเป็นเรื่องเล็กน้อยครับ
ที่เจอหลักๆมาก็มีแค่นี้ครับเล็กๆน้อย ยังไม่เจออะไรน่ากลัวอย่างที่หลายคนกลัวหรือบ้างคนเจอกันในรุ่นอื่น

   สรุป
   ผมก็ได้คำตอบแล้วล่ะว่ามันเป็นรถที่ดีหรือไม่ ข้อดีเป็นรถที่ขับสนุกช่วงล่างดี ประหยัดน้ำมันโดดเด่น หน้าตาดีโอเคดีขึ้นในตัวปรับโฉม พวงมาลัยไวคม เก็บเสียงดีรับได้ เกียร์ทันสมัยกว่าชาวบ้านด้วยคลัชคู่
ข้อเสีย ที่วางขาด้านหลังมีพื้นที่น้อย ภายในเชยยย  เป็นรถที่เหมาะกับ1-2คนมากกว่า คนที่มีผู้โดยสารด้านหลังบ่อยๆ เครื่องเสียงคุณภาพไม่ค่อยคุ้มกับเงิน1.1ล้าน(อันนี้บ่นส่วนตัว) ศูนย์บริการFord เล็ก และหลังๆจำนวนรถFord เริ่มเยอะขึ้น ทำให้บริการได้ช้าต้องโทรจองคิวก่อนล่วนหน้านานอยู่ ศูนย์น้อย และความน่าเชื่อถือของบริการหลังการขายของFord

[MoLee]

   นอกนั้นก็แล้วแต่คุณๆแล้วล่ะครับว่ากล้าที่จะเสี่ยงกับแบรนด์นี้มั้ย? สำหรับผมกล้าโดย ส่วนตัวผมว่า รถทุกรุ่นทุกยี่ห้อมันมีแจ็คพ็อตหมดนั้นล่ะ เพียงแต่แล้วแต่ดวงใครเสียมากกว่าที่จะเจอไป
หลังจากนี้ก็ขอฝากถึงFord! รีบๆเอาดีเซลมาลงใน Focusใหม่หน่อยเถิด..!

   ท้ายสุดนี้ผมไม่ได้บอกว่าเจ้าคันนี้เป็นรถที่ดีที่สุด เพราะคำว่าดีที่สุดของแต่ล่ะคนนั้นไม่เหมือนกัน แต่สำหรับผมนั้นมันเป็นรถที่ผมพอใจมากที่สุดก็ว่าได้
ถึงแม้จะเป็นรถที่มีข้อเสียอยู่แต่ก็เป็นรถที่ผมอยากใช้ชีวิตอยู่หลังพวงมาลัยกับเจ้าคันนี้มากที่สุด ก็แค่นั้น...


----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

จบแล้วล่ะครับผม มีอะไรเชิญติชมได้ครับ

[pop]

ขอบคุณครับสำหรับ review ดีๆครับ
FORD FOCUS โฉมนี้เป็นมาตรฐานที่ดีเมื่อเทียบกันคู่แข่งของมันเลยหละ(แต่ต้องเป็น TDCIนะ)
และสำหรับในยุโรป เวอร์ชั่น ST, และ RS รวมถึงตัวแรงจาก Mountune นั้นเป็น hot rod อันดับต้นๆของ class มันเช่นกัน

ยินดีด้วยกับเจ้าของรถรุ่นคุณภาพในยุคของมันครับ

[PREM]

ผมเคยไปลองขับตอนมันลด 999,000 รู้ซึ้งถึงรสชาติ
ถึงภายในจะเชยและคุณภาพการประกอบงั้นๆ แต่พอได้ขึ้นแท่นขับแล้วลืมข้อเสียได้หมดเลย

รอว่าเมื่อไหร่ Mk3 TDCi จะมาซะที

[Slipknot`]

ขอบคุณครับ

รถดีอีก 1 คัน

 

[diow_1991]

ใครๆได้ลองเจ้านี่ก็ติดใจกันทั้งนั้นเก๋งดีเซลมันมีดีทั้งแรงทั้งประหยัด