เมื่อวานผมนำรถ HONDA CITY MC ไปติดเครื่องเสียงมาเลยเอามารีวิวให้สมาชิกได้ชมเป็นแนวทางครับ
สิ่งที่ผมทำไปคือ
1.เปลี่ยนฟร้อน PIONEER X2550 ราคา 11,500
2.เปลี่ยนลำโพงคู่หน้า Hertz 165 แบบแยกชิ้น ราคา 7,500
3.ใส่ซับท่อ MTX ราคา 8,500
4.เปลี่ยนหน้ากาก ราคา 3,500
ทั้งหมดราคา 31,000 ต่อได้เหลือ 30,000 รวมติดตั้งเบ็ดเสร็จ
สำหรับผมที่ไม่ได้ใส่แอป์เพิ่ม เสียงที่ได้ตอนไม่เปิดซับนั้น เสียงต่างจากฟังผ่าน Iphone พอสมควร
(ใครที่มี CITY ผมอยากให้ลองเอาเพลงเดียวกับที่คุณใส่ USB มาใส่ Iphone แล้วใช้สาย USB เสียบเข้าฟร้อนเดิมครับ เสียงดีขึ้นอย่างรู้สึกได้)
แต่พอเปิดซับเสียงสมบรูณ๋ขี้นอย่างน่าพอใจ (สำหรับผม) เสียงร้อง เสียงเบส เสียงดนตรี บรรยากาศ มีออกมาอย่างครบเครื่อง
ต่างจากเครื่องเสียงเดิมค่อนค่างมาก โดยเฉพาะเบสที่เดิมๆ มีน้อยมาก
สรุป ความสุขในการฟังเพลงในรถของผมกลับมาแล้วววว
หลังจากที่ฟังเครื่องเสียงเดิมๆมาตั้งนาน แล้วก็รู้สึกติดในใจมาตลอดว่าจะเปลี่ยนเครื่องเสียงเมื่อไหร่ดี ?
แต่ความสุขที่ได้มาก็แลกด้วยงบประมาณที่บานปลาย เพราะอย่างที่คุณๆรู้กันแหละว่า ของแต่ละชิ้นที่ผมซื้อราคามันควรจะถูกกว่านี้
เพราะการที่เราซื้อของตามแหล่งถูกๆแล้วไปให้ร้านติดให้ มักจะถูกปฏิเสธ จะให้ซื้อของจากร้านเค้าท่าเดียว
และถึงคุณหาของถูกได้ หาร้านที่ติดให้ได้ ถ้าคุณไม่มีประสบการณ์ด้านนี้ จะทำให้คุณจัดชุดไม่ลงตัว เสียงไม่ได้อย่างใจคุณ
ขอฝากสักนิดสำหรับคนที่จะเล่นเครื่องเสียงครับ
ถ้าไม่มีประสบการณ์เรื่องเครื่องเสียงรถยนตร์อย่าซื้อทีละชิ้นแล้วมารวมร่างตามใจ เพราะอุปกรณ์แต่ละอย่างมีลูกเล่น มีลักษณะเด่นต่างกันอาจทำให้เสียงไปคนละแนวไม่เข้าพวก ฟังดูแล้วตีกัน
แล้วร้านที่มีความรู้เค้าเห็นการแนวคุณ ก็สามารถจัดชุดให้อย่างลงตัวครับ ร้านที่ดีจะไม่เชียร์ของแพง จะแนะนำให้ได้แนวเสียงตามที่เราต้องการมากกว่า
เช่นตอนแรกผมดิ่งใปหา Alpine เลยพี่แกก็แนะนำว่ามันเป็นแนวผู้ใหญ่นะเน้นรายละเอียดเสียง การปรับ EQ ก็ทำได้ไม่เยอะลูกเล่นโดนตัดออก
เพราะจะทำราคามาสู้กับรุ่นเล็ก แล้วก็บอกผมว่าดูจากแนวน้องเนี้ย Pioneer เหมาะกว่านะเล่นรุ่น 1550 ก็ได้ฟังชั่งเหมือนตัวท็อป ต่างแค่จอเล็กกว่ากับไม่มีบลูธูท
แต่ผมเลือก 2550 เพราะมีบลูธูทเพราะเวลาขับรถชอบมีคนโทรมาประจำ
รีวิวต่อภาค 2
1.เริ่มจากฟร้อน Pioneer X2550 ก่อนนะครับ
รุ่นนี้เป็นชีรีย์ของปี 2013 (เจ้าของร้านว่างั้น) เสียงก็จะไปแนววัยรุ่นหน่อยนะครับ
1-1 เสียงร้องจะไม่สดมากนัก จะออกแห้งๆ ไปหน่อย เบสมีให้อย่างเพียงพอ จะปรับให้หูอื้อเลยก็ได้แต่เสียงจะบวมจนฟังไม่รู้เรื่องนะ
ถ้าคุณฟังเพลงประมาณ บอดี้สแลม เคลช แล้วก็เพลงป็อปเกาหลี เพลงเด้นส์ละก็ มันลงตัวสำหรับคุณเลยละ
การปรับ EQ ก็มีให้ปรับพอประมาณ ไม่มาก(มีเยอะก็ปรับยาก)ไน่น้อยไป(มีน้อยก็ปรับอย่างที่ชอบไม่ได้)
ยิ่งคนเล่นลำโพงแบบแยกชิ้นการปรับ EQ เป็นเรื่องสำคัญมากที่จะจูนเสียงให้ได้อย่างใจเรา
และมีใหมดการปรับย่านความถี่ ซึ่งเท่าที่ศึกษามันเป็นการตัดเบสในย่านต่างๆ(ผมปิดไว้ตลอดกาล
)
1-2 การอ่านแผ่นเท่าที่ลองก็ไม่เจอปัญหาอะไร ไม่เลือกแผ่นใช้แผ่นไรท์เก่าๆก็เปิดหนังได้ การอ่าน USB ก็ดีไม่มีปัญหา(แถมมองเห็น Hidden Floderด้วย)
1-3 การต่อผ่าน iphone ยังไม่ได้ลองครับ เท่าที่รู้มันรองรับเดียวขอไปทดสอบก่อนจะมารายงาน ภาค 3 ครับ
1-4 การใช้บลูธูทเท่าที่ทดสอบกับ Iphone 4S IOS 5.0.1 ก็ใช้งานได้ดี ทั้งโทรออก รับสาย
สัญญาณดี ได้ยินเสียงชัดเจนครับ
พึ่งรู้ว่ามันดึงเบอร์ในเครื่องมากดโทรออกได้เลย(คิดว่าต้องจิ้มเบอร์เอง)
1-5 รองรับ App Mode(เป็นการเล่นแอปผ่านจอฟร้อน ส่วนใหญ่มักใช้นำทางแทน GPS) ยังไม่ได้ซื้อสายเพิ่มเลยไม่ได้ลองครับ
1-7 AUX ยังไม่มีสาย AUX เลยไม่ได้ลองครับ และคิดว่าคงไม่ซื้อ
1-8 การปรับลูกเล่น อื่นๆ สีที่ปุ่มกดของตัวเครื่องปรับได้หลายสี (ชอบมากๆ)
สีแบล็คกราวปรับได้หมายสีแต่ผมเฉยๆนะ
เปลี่ยนวอล์เปเปอร์ด้านหลังได้ แต่ยังไม่แน่ใจว่าโหลดมาลงเองได้หรือเปล่า
1-9 วิทยุใช้งานได้ระดับหนึ่ง แต่ผมว่า จับสัญญาณแย่กว่าของติดรถนิดหนึ่ง ล็อดได้ 6 สถานี
ข้อดีของรุ่นนี้คือ
-อ่านภาษาไทยได้ค่อนค่างเยอะครับ เท่าที่ผมลงใช้อ่านออกประมาณ 80% อีก 20%ยังเป็นภาษาต่างดาวอยู่
-ปรับเสียงได้ง่าย เล่นที่ EQ แป็บเดียวเห็นผลเลย แต่กว่าจะให้ถูกใจก็ใช้เวลาพอควร
-ไม่ค่อยเลือกแผ่น แผ่นไรท์เก่าๆก็อ่านได้
-บลูธูทใช้งานได้จริง โทรออกจากเบอร์ที่เราเซฟไว้ได้เลย จะแสดงเป็นรายชื่อสะดวกมาก เสียงก็ชัดเจน
-ปรับสีปุ่มกดที่ตัวเครื่องได้ (ชอบมาก)
-จอไม่สไลด์ ที่ร้านบอกว่าจอสไลด์จะมีปัญหาการใช้งานจะสั้นเพราะมีปัญหาตรงตัวสไลด์
ข้อเสียคือ
-ปุ่มกดเล็ก แถมดันอยู่ฝั่งซ้ายอีกต้องเอือมมือไปกด
-ปุ่มปรับเพิ่มลงเสียง ไม่ใช่แบบหมุน ต้องจิ้มๆๆ ไอ้ปุ่มเล็กๆนั้น
-ปุ่มเปลี่ยนเพลง เพิ่มลดเสียงที่จอทัสมีขนาดเล็ก ถ้าไม่เหลือบตาไปมองแตะไม่ถูกแน่นอน
-โหมดเสียงอัตโนมัติห่วยมาก ไม่ว่าจะเป็น Vocal , S. Bass 9ล9 ห่วยหมด ต้องปรับ EQ เองอย่างเดียว
-วิทยุจับสัญญาณได้แย่กว่าของเดิม (นิสสหนึ่ง)
-ไม่มี Welcome Screen ตอนเปิดเครื่องจะขึ้น Pioneer สีแดงหน่อยก็ไม่ได้ เปิดมาเจอเมนูเลย
2.ลำโพงแยกชิ้นของ Hertz 165
รูปทรงดูดี กรวยสีส้มได้ใจ แต่รู้สึกว่ายังเป็นกระดาษอยู่นะ ทางร้านเค้าว่าตัวนี้ถ้าไม่ใส่แอปม์เสียงจะออกแค่ 40%
แต่ผมไม่แคร์เรื่องแอปม์เพราะไม่มีตัง +555 เอาไว้มีโอกาสตังเหลือๆค่อยว่ากัน
เสียงที่ได้ก็โอเคในระดับหนึ่ง แต่ผมว่าเสียงแหลมมันบาดไป ไม่ใสอย่าที่คิด ไม่ออกโทนนุ่ม ไม่ค่อยอบอุ่น
เสียงกลางเสียงเบสพอได้ ไม่ได้ดีเวอร์อะไรมากมาย จนต้องฝันถึง
ข้อดีคือ
-ทรงสวย ยี่ห้อดี ผมให้แค่นี้จริงๆ
ข้อเสีย
-ยี่ห้อนี้มีของปลอมนะครับต้องระวัง (ยี่ห้อดังก็งี้)
-ไม่ใส่แอปม์เสียงดรอปไปเยอะ
3.Sup BOX ยี่ห้อ MTX ที่ร้านเรียกซับท่อ
เท่าที่ลองใช้ประทับใจมาก วางอยู่ในกระโปรงท้ายรถ ติดตั้งง่ายแค่ยิงน็อตยึดสายรัด 4 ตัว แล้วผูกสายรัดก็จบ
แต่ปรับได้แค่โวลลุ่มอย่างเดียว ปรับค่าอย่างอื่นไม่ได้
ข้อดีคือ
-เสียงโอเคครับ อบอวลทั่วทั้งคันเลยเพราะมีแอปม์ขับในตัว
-ติดตั้งง่าย ขนาดเล็ก
ข้อเสียคือ
-ไม่มีฝาครอบตรงดอกซับ กลัวมีอะไรไปกระแทกแล้วทะลุขึ้นมาเนี้ย เศร้าเลย
-ปรับได้แค่โวลลุ่มอย่างเดียว ปรับเสียงแหลมทุ้มไม่ได้
-รูปทรงหน้าตาไม่หล่อตัวอื่นดูหล่อกว่าเยอะ
รูปและคลิปเสียงจะตามมาใน ภาค 3 ตอนเย็นนี้ครับ
เพิ่มคลิปรีวิวครับhttp://www.youtube.com/watch?v=3VSz0uBJQ_s&feature=youtu.behttp://www.youtube.com/watch?v=i8AYZgEELRM&feature=youtu.behttp://www.youtube.com/watch?v=d2qKgy4X8H0&feature=youtu.behttp://www.youtube.com/watch?v=betnozMUhgM&feature=youtu.behttp://www.youtube.com/watch?v=pnEJo71b35k&feature=youtu.behttp://www.youtube.com/watch?v=imT22oo4P0Q&feature=youtu.behttp://www.youtube.com/watch?v=fsKIdUDf788&feature=youtu.be