นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 31 ธ.ค.2555 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการยื่นขอใช้สิทธิ์โครงการคืนภาษีรถยนต์คันแรก
ที่เริ่มโครงการมาตั้งแต่เดือนก.ย.2554 มีผู้มาลงทะเบียนยื่นขอสิทธิ์ รวมประมาณ 1.3 ล้านราย สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 5 แสนราย
คิดเป็น เงินภาษีที่รัฐต้องสูญเสียประมาณ 9.1 หมื่นล้านบาท สูงกว่า เป้าหมายที่ตั้งไว้ 3 หมื่นล้านบาท
มีผู้ใช้สิทธิ์รับเงินคืนไปแล้ว 4.7 หมื่นราย คิดเป็นเงิน 3.48 พันล้านบาท
สำหรับผู้ใช้สิทธิ์ ที่ยังไม่ได้รับรถหรือคู่มือจดทะเบียนรถยนต์ ให้ผู้ขอใช้สิทธิ์ยื่นเอกสารที่เหลือ ประกอบด้วย สำเนาหนังสือสัญญาเช่าซื้อ
สำเนาคู่มือจดทะเบียนรถยนต์ หนังสือยินยอมสละสิทธิ์การโอนรถยนต์คันแรกภายใน 5 ปี หลักฐานการซื้อขายรถยนต์
ภายใน 90 วัน นับจากวันที่ได้รับมอบรถยนต์ ที่สำนักงานสรรพสามิตที่ได้ยื่นเอกสารในครั้งแรก
นายสมชาย กล่าวว่า นโยบายรถคันแรกส่งผลต่อการขยายตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ และอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่อง อาทิ อุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์
อุตสาหกรรมแร่โลหะและอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ ซึ่งนับว่าเป็นอุตสาหกรรมต้นน้ำของการผลิตรถยนต์ และยังส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมปลายน้ำ
เช่น ธุรกิจประกันภัย ธุรกิจสินเชื่อ ซึ่งจะ ช่วยกระตุ้นภาวะเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งการจ้างงาน การลงทุน และการจับจ่ายของประชาชน
นายสมชาย กล่าวว่า ยอดขอใช้สิทธิ์รถยนต์คันแรกแบ่งตามภูมิภาค พบว่า
สรรพสามิตภาค 10 พื้นที่กรุงเทพฯ มียอดยื่นสูงสุด 2.3 แสนราย
รองมาเป็น สรรพสามิตภาค 2 พื้นที่ จ.สมุทธปราการ ชลบุรี ระยอง มียอดยื่น 1.83 แสนราย
รองมาเป็นสรรพสามิตภาค 1 พื้นที่ จ.ปทุมธานี นนทบุรี มียอดยื่น 1.32 แสนราย
และภาค 3 พื้นที่ จ.นครราชสีมา มียอดยื่น 1.1 แสนราย
โดยพื้นที่ที่มียอดยื่นน้อยสุดคือ สรรพสามิตภาค 9 พื้นที่ จ.สงขลา ยอดยื่น 6.9 หมื่นราย (ที่มา:ข่าวสดออนไลน์)
นายสมชาย กล่าวว่า กรมอาจจะต้องมีการตั้งงบฯ คืนภาษีในปี 2556 ที่ประมาณ 3 หมื่นล้านบาท
ซึ่งขอสรุปตัวเลขการส่งมอบรถที่ชัดเจนอีกครั้ง โดยในวันที่ 31 ธ.ค.2555 เวลา 16.30 น. ซึ่งสิ้นสุดการยื่นขอใช้สิทธิ์ดัวยตนเอง
ตนได้ลงมามอบบัตรคิวให้กับผู้ขอใช้สิทธิ์ และได้รับการชี้แจงจากผู้ขอใช้สิทธิ์ว่า สาเหตุที่มายื่นเอกสารจนวินาทีสุดท้าย
เนื่องจากเพิ่งจองรถเมื่อคืนวันที่ 30 ธ.ค. โดยการเปิดขอใช้สิทธิ์ยังสามารถดำเนินการผ่านอินเตอร์เน็ต ได้จนถึงเวลา 24.00 น.
ของวันที่ 31 ธ.ค.2555
ที่มา มติชนออนไลน์
