ทั้งหมดที่ผมเขียนนี้ ขอเป็นความคิดเห็นโดยส่วนตัวของผมคนเดียวละกันนะครับ ถ้าออกความคิดเห็นกันขอเป็นการเสนอแนวคิดดีกว่านะครับ อย่าถกเถียงหรือดราม่า เลยนะครับ
เมื่อวันก่อนผมได้อบรมสอบใบขับขี่มาครับ ซึ่งใชเวลาอบรม 4 ชม. แต่เมื่อไปอบรมมาแล้วบอกได้เลยครับสำหรับผม ไม่มีความจำเป็นเลยครับที่ต้องอบรม 4 ชม. วิทยากรส่วนมากไม่เน้นเรื่องลึกๆครับ พูดแต่พื้นฐานและวิทยากรก็ใช้คำพูดและรูปภาพอาจจะไม่เหมาะสมด้วยนะครับ (ยังไงก็ฝากตรงนี้ไว้ด้วยครับ) ผมว่าถ้าอยากให้ผู้ขับรถใช้ถนนอย่างปลอดภัยและถูกต้องตามกฏจราจรเปลี่ยนการบริหารใหม่เถอะครับ เพราะว่าผมไปอบรมมา 4 ชม. คร่าวๆเนื้อหาที่ผมจับใจความได้จะมีประมาณนี้ครับ
1.นำ Video รถที่เกิดอุบัติเหตุมาให้ผู้เข้าอบรมฟัง
2.แนะนำเรื่องจุดบอดของรถ
3.แนะนำเรื่องสัญญาณป้ายต่างๆ
4.เตือนเรื่องการใช้แตร
5.ความรู้เรื่องสัญญาณป้ายเตือน
6.ความรู้เรื่องกฏหมายพื้นฐานอีกนิดหน่อย
7.ความรู้อื่นๆ ที่ผมอาจจำไม่ได้อีกนิดหน่อยครับ
โดยทั้งหมดใช้เวลามากกว่า 4 ชม. นิดหน่อยครับ ถ้าหากเนื้อหามีเพียงแค่นี้ผมว่าสรุปรวบรวมทั้งหมดใช้เวลาเพียงแค่ 30 นาที - 1 ชม. เท่านั้นครับ แต่วิทยากรก็พูดไปพูดมาชวนเรื่องคลายเครียด ผมก็ว่าดีส่วนนึงครับ แต่สำหรับผมและผมคิดว่ายังมีหลายคนที่คิดแบบผมเพราะใช้เวลาอบรมนานมากบางคน เค้าอาจทำธุรกิจมีรายได้วันละหลักพัน หลักหมื่น หลักแสน ซึ่งมาอบรม 4 ชม.ผมว่าเสียเวลาเปล่าครับ
ในส่วนของวิทยากร บอกได้เลยครับว่าการบรรยายถือว่าดีครับ ไม่ตึงเครียดแต่บางครั้งวิทยากรท่านก็ใช้คำพูดและรูปภาพไม่เหมาะสมนะครับ
ผมมองว่าสำหรับการอบรม 4 ชม. และจะทำให้ผู้ขับขี่ขับดีขึ้นเข้าใจมากขึ้นในความคิดผมบอกได้เลยว่ายากครับเมื่ออบรมเสร็จ หรือ เค้าไม่ตั้งใจฟัง พอไปขับจริงบนท้องถนนก็เป็นอย่างเดิมครับ ผมว่าไปเข้มงวดกับกฏหมายเอาจริงจังแบบนั้นผมว่าดีกว่านะครับ อย่างเช่นขับฝ่าไฟแดง ก็ปรับ แต่เมื่อถูกจับแล้วพอทำซ้ำอีกก็ให้คูณเท่าตัวไปเลยครับ และ อาจจะริบใบอนุญาตชั่วคราว หรือ อย่างเช่น ตรงไหนที่เป็นจุดที่ชอบแซงกันผมว่าแก้ปัญหา ให้ตำรวจ ไปยืนจุดนั้นดีกว่ามาอบรมผู้ขับขี่อีกนะครับ เพราะจะมีโอกาสแก้ปัญหาได้สูงกว่า
สิ่งที่ผมอยากให้ทางกรมขนส่งแก้ก็มีดังนี้ครับ (ถ้ามีคนในขนส่งมาอ่าน หรือ ท่านใดพอรู้จัก ผมก็อยากฝากเรื่องนี้ไปให้พิจารณาดูครับ)
1.ปรับเปลี่ยนเวลาอบรม 4 ชม. ให้เหลือน้อยกว่านี้เถอะครับ ผมว่าใช้เวลาซักไม่เกิน 1 ชม. กำลังดีครับ แต่สำหรับเวลาการอบรม 4 ชม.นี้ผมเห็นว่าน่าจะนำไปกับผู้ขับขี่รถสาธารณะ , ผู้ขับขี่ที่ความรถแล้วประมาท , ผู้ขับขี่ที่เมาสุรา เป็นต้น
2.เพิ่มจำนวนข้อเขียน อันนี้ผมเห็นด้วยว่าควรเพิ่มให้เป็นซัก 100-200 ข้อ เพราะว่าข้อสอบที่ผมสอบ 30 ข้อบอกได้เดียวครับว่าง่ายมากและบางข้ออาจไม่จำเป็น และก็มีไม่ครอบคลุมทั้งหมดด้วยครับ ผมอยากเสนอให้มีข้อสอบ 2 ชุด โดยชุดแรกก็จะเป็นข้อสอบป้ายสัญญาณเตือนต่างๆ ที่ผู้เข้าทำข้อสอบจะต้องทำถูกต้องทั้งหมด ข้อสอบชุดที่ 2 ก็อาจจะทำเป็นข้อสอบกฏหมายจราจร การขับขี่ที่ถูกต้อง ตรงส่วนนี้ก็อาจจะให้ถึง 90% ขึ้นไปถึงจะผ่าน
3.ทำหนังสือแจกหรือขาย ผมมองว่าการที่จะให้ผู้เข้าอบรมไปสอบ 4 ชม. ทำหนังสือขายหรือแจกดีกว่าครับ และให้ผู้ที่ทำใบขับขี่อ่านหนังสือให้หมดเพื่อที่จะได้ทำข้อสอบได้และรู้กฏจราจรเพื่อให้สอดคล้องกับข้อ 2 ถ้าหากใครไม่ได้อ่านก็จะไม่สามารถสอบผ่านได้
4.ปรับเปลี่ยนกฏจราจร อย่างเช่นถ้าหากอยากให้ผู้ขับขี่ขับอย่างปลอดภัยผมว่าควรเด็ดขาดกับกฏหมายมากกว่ามา อบรม 4 ชม. แบบนี้นะครับ แต่ในส่วนของความเร็วอย่างกับ 80 หรือ 100 ผมว่าผ่อนผันเถอะครับ อย่างน้อยผมคนนึงก็ใช้ความเร็วเกินเพราะคงไม่มีใครใช้ความเร็วไม่เกินนั้นได้หรอกครับ อย่างกับบางทีตำรวจจราจรจุดต่างๆยังสั่งให้คำเร็วเลยครับ / เปลี่ยนกฏสำหรับรถมอเตอร์ไซค์ห้ามขึ้นสะพาน ผมว่าน่าจะผ่อนผันให้สำหรับผู้ขับ Bigbike นะครับเพราะว่ารถบิ๊กไบค์สามารถทำความเร็วสูงได้ก็น่าจะให้เค้าขึ้นได้ครับ แต่มอเตอร์ไซค์เล็กผมเห็นด้วยครับ
5.เรื่องการบริการของเจ้าหน้าที่ ผมบอกได้เลยครับว่าใครๆก็รู้กันอยู่สถานที่ข้าราชการ ยังไงประชาชนก็เข้าไปติดต่ออยู่แล้วครับไม่เหมือนบริษัทเอกชนที่เค้ายังสามารถเลือกใช้บริการได้ แต่ผมก็อยากให้เห็นความสำคัญแก่บริการหน่อยนะครับ ให้บริการให้ดีสุภาพเรียบร้อยกว่านี้ เพราะเจ้าหน้าที่ข้าราชการทำไมส่วนมากเป็นการทุกคนเลยครับ บริการด้วยน้ำเสียงที่ไม่สุภาพ อย่างวันที่ผมไปทำใบขับขี่มาก็เห็นได้ชัดครับ มีคุณลุงท่านนึงแกมาสอบในของทดสอบปฏิกิริยา ถ้าหากคุณลุงแกทำไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ก็ควรอธิบายให้คุณลุงท่านเข้าใจ กลับมาไปต่อว่าคุณลุง
ในส่วนของการทำใบขับขี่
เอกสารที่ต้องเตรียมไป พกไปแค่สำเนาบัตรประชาชน กับ ใบรับรองแพทย์พอนะครับ (สำเนาทะเบียนบ้านเลิกใช้แล้วนะครับ)
ขั้นตอนการทำใบขับขี่
1.ให้ไปถึงก่อนที่นั่นซัก 8 โมงครับ จะมีเจ้าหน้าที่ออกพูดให้คำแนะนำว่าขั้นตอนเป็นอย่างไรขึ้นไปติดต่อชั้นไหน
2.เมื่อทราบแล้วต้องไปติดต่อชั้นไหนก็ขึ้นไปชั้นนั้นเพื่อรับบัตรคิวครับ เสร็จแล้วก็เป็นเข้าห้องอบรมซักครู่นึงครับ ซึ่งตรงส่วนนี้อยากให้ตั้งใจฟังกันครับ เพราะเค้าจะบอกขั้นตอนการทดสอบปฏิกิริยาครับ (เพราะถ้าไม่ฟังเจ้าหน้าที่เตรียมต่อว่าเราอยู่แล้วครับ)
3.ทดสอบปฏิกิริยา เมื่ออบรมเสร็จแล้วเค้าจะให้เราไปทดสอบปฏิกิริยาครับ ซึ่งทดสอบจะมีด้วยกัน 4 ทดสอบด้วยกันครับ
3.1 ทดสอบตาบอดสี เจ้าหน้าที่ก็จะชี้สีและให้เราตอบสีที่เค้าชี้ครับ
3.2 ทดสอบเหยียบคันเร่ง (ผมก็เรียกไม่ถูกครับ) เค้าจะมีแป้นเหยียบคันเร่ง กับ เบรคครับให้เค้าเหยียบเมื่อเหยียบแล้วพอขึ้นไฟแดงเราก็ต้องเหยียบเบรคครับ
3.3 ทดสอบสายตาทางลึก (ไม่แน่ใจว่าถูกหรือเปล่านะครับ) จะมีแท่นด้วยกัน 2 แท่นครับ แล้วเจ้าหน้าที่จะเลื่อนแท่นออกไปไม่ให้ตรงกันครับซ้ายขวา เราต้องกดเลื่อนเข้ามาเพื่อให้แท่นขนานกันครับ
3.4 ทดสอบสายตากว้าง เจ้าหน้าที่จะให้เราเอาจมูกวางไว้แล้วตามองตรง ด้านขวาจะมีสีครับ เจ้าหน้าที่จะกดสีให้เราตอบว่าสีที่กดสีอะไรครับ
เมื่อสอบทดสอบเสร็จแล้วจะให้ไปลงชื่อครับ ให้ดูบัตรคิวเราครับว่าสีอะไร เลขอะไรให้ลงในช่องนั้นครับ และติ๊กถูกด้วยนะครับว่าจะสอบขับขี่รถยนต์ หรือ มอเตอร์ไซค์
4.9.30 เข้าห้องอบรมครับ อบรมจะมีด้วยกัน 2 ช่วงครับ คือเช้า และ บ่าย อบรมช่วงละ 2 ชม. ครับถ้าผมจำไม่ผิดรอบแรกอบรมถึงเกือบ 12.00 ครับและเข้าห้องอบรมอีกทีเวลาประมาณ 12.45 ครับแล้วจะเลิกประมาณ 15.00 น. ครับ
5.ทดสอบข้อเขียนครับ ในตอนอบรมเค้าจะบอกว่าขั้นตอนการทดสอบเป็นอย่างไร คร่าวก็คือการสอบด้วยอิเล็กทรอนิกส์ครับ ใช้บัตรเสียบลงไป (แต่ของผมจะมีเจ้าหน้าที่มาเสียบบัตรให้ทำทุกอย่างให้จนถึงเรากดข้อสอบได้เลยครับ) เมื่อเรากดเสร็จเรียบร้อย ก็กดปุ่มส่งครับแล้วเจ้าหน้าที่จะเรียกชื่อเรา หรือ เดินมาบอกเราให้เอาบัตรออกได้ครับ ถ้าเค้ายังไม่เรียกอย่าเพิ่งเอาบัตรออกนะครับ (ข้อสอบ 30 ข้อ 23 ข้อถึงจะผ่านครับ)
6.ขั้นตอนสุดท้ายเมื่อคืนบัตรสมาร์ทการ์ดกับบัตรคิวให้พนักงานเรียบร้อยแล้ว ออกมารอหน้าห้องครับ เพื่อรอรับใบนัดมาทำการทดสอบในเวลาทำการวันต่อไปครับ
ข้อแนะนำสำหรับผม
-ผู้หญิงแต่งกายสุภาพนะครับ เพราะว่าไปที่ขนส่งผู้คนมีหลายรูปแบบครับ ทั้งดี ทั้งไม่ดี ยังไงก็แต่งกายสุภาพนะครับเพราะแต่งกายไม่สุภาพไม่สามารถเข้าห้องสอบได้นะครับ (แต่เห็นเค้าบอกว่ามีชุดให้เปลี่ยนครับ)
-ใส่รองเท้าให้สบายถนัดๆครับ เพราะว่าเดี๋ยวจะมีขั้นตอนการทดสอบเหยียบใส่รองเท้าที่ถนัดดีกว่าครับ อย่างถ้าผู้หญิงไม่ควรใส่ส้นสูงมานะครับ เพราะอาจลำบากได้ครับ
-มารยาทในการอบรม ถ้าหากเมื่อไปสายและจะเข้าอบรม หรือ ออกจากห้องอบรมเพื่อไปเข้าห้องน้ำ ผมอยากให้ขออนุญาตเจ้าหน้าที่ซักหน่อยครับเพื่อให้เกียรติซึ่งกันและกันครับ
-ทำการบ้านก่อนไปอบรม ก่อนไปผมอยากให้อ่านพวกความรู้ต่างๆจากเว็บซักหน่อยพอไปเราจะสบายๆครับพวกกฏจราจร ป้ายเตือนครับ
ทั้งหมดที่ผมไปสอบใช้เวลาไปถึงนั่นประมาณเกือบ 07.00 ครับ เลิกประมาณ 16.00 น. ครับถ้าใครไปสอบผมให้ทุกคนผ่านการสอบไปด้วยดีครับ และไม่ต้องตื่นเต้นครับไม่ยากเลยครับขอให้ผ่านครับ