ด้านการใช้งานจากที่ได้ลองเล่นและขับในโหมดต่างๆ
เครื่องยนต์และระบบขับเคลื่อน
F30 320i ใช้เครื่องยนต์ 4 สูบบล็อค N20B20 ตัวเดียวกับที่ใช้ใน F10 5 Series และ E89 Z4 เป็นเครื่องเบนซินเทอร์โบแบบ Twin-Scroll, Direct Injection พร้อมระบบควบคุมการเปิด-ปิด valve แบบแปรผัน ให้กำลังสูงสุด 184 PS และแรงบิดสูงสุด 270 N-m @1250-4500 รอบ ประสิทธิภาพเทียบกับกับเครื่อง M50B20 ใน E36 ที่ผมใช้ก่อนหน้านี้ต่างกันมาก อัตราเร่งดี เหยียบเป็นมา จังหวะเร่งแซงดีกว่ามาก (ก็แน่นอนเพราะมีเทอร์โบ) แม้บางจังหวะอาจจะมี turbo lag อยู่บ้าง โดยรวมแล้วคิดว่าเป็นเครื่อง 4 สูบที่ทำออกมาได้ดีมาก เสียอย่างเดียวตรงเสียงเครื่องยังไงก็ไม่หวานหูเท่าเครื่อง 6 สูบทั้ง I6 และ V6 ที่ผมเคยใช้
เกียร์ 8 สปีดของ ZF-8HP ตัวใหม่ เปลี่ยนเกียร์ได้เร็วและลื่นมาก บางจังหวะถ้าไม่ดูเข็มวัดรอบแทบไม่รู้สึกเลยว่ามัน shift ไปแล้ว ไม่กระตุกเหมือนเกียร์รุ่นเก่าๆ และเกียร์รุ่นนี้ช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้มากขึ้น ยกตัวอย่างวิ่งโหมด Comfort (โหมดปกติ) ที่ 120 km/h รอบเครื่องอยู่ที่ประมาณ 2 พันเท่านั้น (น่าจะอยู่ที่เกียร์ 7) ตำแหน่งเกียร์นอกจาก P R N D แล้วก็มีเพิ่มมาอีก 2 คือ DS (Drive Sport) และ M (shift โดยโยกคันเกียร์ ไม่มี paddle)
โหมดการขับขี่มีผลต่อการตอบสนองของเครื่องยนต์และเกียร์ดังนี้
- Comfort + D โหมดขับปกติ เหมาะสำหรับการขับชิลๆ ออกตัวไม่พุ่งมาก ช่วง 0-100 ขึ้นเร็วใช้ได้ หลังจากนั้นก็ค่อยๆไหลไปเรื่อยๆ ไม่เร็วไม่ช้า รอบเครื่องโดยมากไม่เกิน 2000
- Comfort + DS โดยรวมจะคล้ายๆข้างบน แต่เกียร์ถูกตั้งมาให้ shift ที่รอบสูงขึ้น ส่งผลให้กำลังและอัตราเร่งดีขึ้น รอบเครื่องจะสูงกว่าโหมดข้างบนที่ความเร็วเท่ากันเพราะใช้เกียร์ต่ำกว่า
- Sport อยู่คู่กับ BMW มาช้านาน ชอบขับ BMW ก็เพราะสปอร์ทโหมดนี่แหละ คันเร่งไวขึ้น แค่แตะนิดหน่อยก็พุ่งแล้ว การตอบสนองของเกียร์เหมือนๆกับ DS ช่วง 0-100 เร็วขึ้น (ไม่ได้จับเวลานะครับ แต่น่าจะไม่เกิน 8 วิ ตามสเป็ค) หลังจากนั้นก็ยังขึ้นค่อนข้างเร็ว เคยลองจาก 120-140 ก็ขึ้นเร็วดี ไม่ต้องออกแรงเค้นมาก ช่วงล่างรู้สึกว่าเกาะดีกว่าโหมด Comfort โดยรวมแล้วพอเปลี่ยนมาเป็นโหมดนี้แล้วขับสนุกขึ้นเยอะ แต่ก็กินน้ำมันมากกว่า
- Sport+ ลองแค่นิดๆหน่อย รู้สึกว่าเกือบจะเหมือนกับโหมด Sport แต่จะลดระบบช่วยการทรงตัวและการยึดเกาะถนน (DSC, DTC) ขับทางตรงก็ไม่ต่างจากโหมด Sport ส่วนทางโค้งยังไม่ได้ลอง ถ้าวิ่งใน track ก็น่าลองอยู่แต่วิ่งบนถนนปกติ ยังไม่กล้าครับ แหะๆ
- Eco-Pro โหมดประหยัดพลังงาน ยังไม่ได้ลองใช้จริงจัง เพราะขับ Bimmer เราเน้นขับสนุก ความประหยัดมาทีหลัง 555
เปรียบเทียบแต่ละโหมดโดยวัดรอบเครื่องสูงสุดก่อนเปลี่ยนเกียร์ขณะขึ้น Ramp ทางด่วน โดยเหยียบคันเร่งประมาณ 70% ได้ วัดรอบได้ประมาณ 3000, 3500, 4000+ สำหรับโหมด Comfort, Comfort + DS, Sport ตามลำดับ ถ้าวิ่งทางราบความเร็ว 120 km/h รอบเครื่องอยู่ประมาณ 2000, 2500, 3000 ตามลำดับ
พวงมาลัย
ซื้อได้ตามแยกไฟแดง
.
.
.
เอ่อ ถึงไหนแล้วเนี่ย อ้อ พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า พร้อมระบบ Servotronic ปรับน้ำหนักตามความเร็ว เบาที่ความเร็วต่ำ ไม่ต้องออกแรงมากเวลาจอดรถหรือตอนเบี่ยงซ้าย-ขวาเวลารถติด พวงมาลัยแม่นยำดี บนพวงมาลัยมีปุ่มควบคุมฟังก์ชั่นต่างๆเช่น cruise control, เลื่อนเปลี่ยนเพลงหรือคลื่นวิทยุ, ปรับ volume, รับโทรศัพท์ผ่าน Bluetooth และสั่งการด้วยเสียง
ช่วงล่างและเบรค
ช่วงล่างออกแนวแข็งแต่หนึบ เท่าที่ขับมารู้สึกว่าหนึบกว่า E36 เล็กน้อย ระบบกันสะเทือนหน้าแบบ strut และหลังแบบ multi link การกระจายน้ำหนักหน้า-หลังทำได้ 50/50 พอดี
ระบบเบรค ABS ใช้ดิสก์เบรคพร้อมระบายความร้อน ทั้งหน้าและหลัง โดยรวมเบรคกระชับดีไว้ใจได้ ที่เหลือก็อยู่ที่ผู้ขับล่ะครับ
สำหรับยาง ตอนแรกนึกว่ายางรันแฟลทจะแข็งกว่านี้ แต่พอใช้จริง มันก็แข็งแหละแต่ก็ไม่รู้สึกว่ามันแข็งมากจนกระด้าง เวลาขับผ่านลูกระนาดก็ยังให้ความรู้สึกนุ่มอยู่บ้าง การเกาะถนนดีใช้ได้ เวลาวิ่งมีเสียงเข้ามาบ้างแต่ปกติเปิดเพลงฟังอยู่แล้วเลยไม่เป็นปัญหาอะไร
ระบบอำนวยความสะดวก
ระบบ iDrive เล่นๆไปก็พบว่ามันทำอะไรได้หลายอย่างเหมือนกัน ตั้งแต่ระบบนำทาง, ระบบ entertainment ไปจนถึงระบบเช็คสภาพรถเบื้องต้น (ลมยาง, น้ำมันเครื่อง)
ระบบ Comfort Access สะดวกมาก สามารถล็อค-ปลดล็อคประตู หรือเปิดท้ายรถได้โดยไม่ต้องกดรีโมท แค่มีรีโมทอยู่กับตัวก็พอ
อัตราสิ้นเปลือง
ถังแรกเติมโซฮอล 95 วันธรรมดาวิ่งไปกลับบ้าน-ที่ทำงานเช้าเย็น ระยะทางรวมประมาณ 25 กิโล เป็นทางด่วนประมาณ 60% วัดอัตราสิ้นเปลืองได้ประมาณ 9-10 l/100 km หรือประมาณ 10-11 km/l วิ่งโหมด Comfort เป็นส่วนใหญ่ มีบ้างที่ปรับตำแหน่งเกียร์ไปที่ DS
วันเสาร์อาทิตย์ วิ่งถนนปกติเช่น รัชดา เที่ยวละประมาณ 10 กว่ากิโลเมตร วิ่งประมาณ 60-80 km/h อัตราสิ้นเปลืองประมาณ 8.5 l/100 km หรือประมาณ 12 km/l ถ้าวิ่งทางด่วนรถไม่มาก ระยะทางประมาณ 10 กว่ากิโลเมตร วิ่งประมาณ 100-120 km/h อัตราสิ้นเปลืองประมาณ 6-7 l/100 km หรือ 14-16 km/l
ทั้งนี้ อัตราสิ้นเปลืองที่วัดได้มาจากคอมพิวเตอร์ของรถ อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยจริงต้องรอเติมน้ำมันถังต่อไปครับ ปัจจุบันยังเหลือประมาณ 1/4 ถัง คำนวณคร่าวๆจากระยะทางก็ได้ประมาณ 8-9 km/l ที่ได้ไม่มากก็เพราะผมเป็นคนค่อนข้างเท้าหนัก และบางครั้งก็ใช้โหมด Sport หรือ DS ทำให้เปลืองมากขึ้น
สรุป
โดยรวมแล้ว BMW 3 Series F30 เป็นรถที่ขับสนุกไม่แพ้รุ่นก่อนๆ แม้จะเป็นรุ่นต่ำสุดที่ขายในบ้านเรา (ในอนาคตอาจจะมี 316i ขายก็เป็นได้ เห็นมีข่าวที่สิงคโปร์มีแล้ว) แต่สมรรถนะก็อยู่ในระดับดีถึงดีมากสำหรับรถเครื่องยนต์ 2000cc ถ้าใครได้ลองขับดูก็น่าจะรู้สึกชอบมันได้ไม่ยากหรอกครับ
Like
- สมรรถนะของเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ ให้อัตราเร่งดี
- การ handling ทั้งในทางตรงและทางโค้ง
- ระบบ Comfort Access
- ภายในกว้างขวาง นั่งหลังเข่าไม่ติดแม้ว่าจะเลื่อนเบาะหน้ามาค่อนข้างมาก รู้สึกว่ากว้างกว่า C Class W203 เล็กน้อย
Dislike
- เสียงเครื่องยนต์ไม่น่าฟังเท่าเสียงของเครื่อง 6 สูบ
- ระบบ Auto Start/Stop ต้องคอยปิดทุกครั้งที่สตาร์ทเครื่อง น่าจะตั้งค่าเริ่มต้นเป็นปิดระบบได้
- รถราคาระดับนี้น่าจะมี Shift Paddle ติดมาให้ด้วย
รีวิวก็คงจบแต่เพียงเท่านี้ ขอบคุณที่ติดตามอ่านครับ