ผู้เขียน หัวข้อ: สงสัยเกี่ยวกับรถ Hybrid ทั้งเรื่องความคุ้มค่า และเรื่องมลพิษ  (อ่าน 6309 ครั้ง)

ออฟไลน์ kawkrub

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 51
    • อีเมล์
เคยคิดๆเล่นดูว่าเจ้ารถ  Hybrid  ทั้งหลายนะ  มันมีดีที่จะซื้อแค่ไหนครับ   
-  เรื่องการปล่อยมลพิษ
    ส่วนใหญ่ก็โฆษณากันว่าช่วยลดมลพิษได้มากน้อย  เท่านั้นเท่านี้   ก็เลยสงสัยว่ามลพิษที่รถปล่อยออกมาน้อยลง  เมื่อเทียบกับมลพิษที่เกิดจากกระบวนการผลิตเนี้ย (โดยเฉพาะ  battery )   และเมื่อ  battery มันเสื่อมกันต้องกำจัด และรีไซเคิลอีก  ก็เลยสงสัยว่า   มลพิษที่รถไฮบริดช่วยลดให้โลกใบนี้มันน้อยจริงๆปล่าว 

-  เรื่องการประหยัด
    ต้องใช้รถยังไงให้คุ้มค่าที่สุดครับ (เข้าใจว่าถ้าขับในเมืองเยอะนะ  จะประหยัดสุดๆ)   เมื่อเทียบกับราคา  battery  ลูกใหม่เมื่อต้องเปลี่ยนใหม่   ราคาก็หลายหมื่นอยู่   

   :-\


ปล.  เคยคิดเล่นๆ  ถ้าเอารถ  Hybrid  มาติดแก๊ส  น่าจะดี    อิอิ    ;D
ปล2.  รถที่ยิ่งขับในเมืองยิ่งประหยัด  แต่ทำไมไปมีในรถคันใหญ่ๆซะเป็นส่วนมาก  .....ไม่มีที่จะวาง  battery  ??  :-\
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 24, 2009, 00:44:10 โดย kawkrub »

ออฟไลน์ Tonaka

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,706
มันมองได้หลายด้านครับ  อธิเช่น  ....ขออนุญาตอธิบายแบบไทยปนอังกฤษน่ะครับ

    เป็นการเพิ่ม Efficiency  ให้แก่เครื่องยนต์ก็ได้ เพราะขณะที่รถกำลังจะออกตัวจากจุดหยุดนิ่งนั้น  การที่จะเอาชนะแรงเสียดทานหยุดนิ่ง(ภาษาไทยใช้ว่าอะไรจำไม่ได้อ่ะ แต่ภาษาอังกฤษ เรียกว่า statics friction) จำเป็นจะต้องใช้ Starting torque ที่ค่อนข้างสูงครับ ซึ่งจะทำให้เครื่องทำงานหนัก  ทีนี้ รถ Hybrid นั้นใช้มอเตอร์ในการออกตัวก็เพราะว่า คุณสมบัติของมอเตอร์ไฟฟ้านั้นมันจะมี Starting torque ที่สูงกว่า ครับ

   ทั้งนี้การหาหนทางที่ทำให้เครื่องยนต์ทำงานเบาลง (รับ Load น้อยลง) ก็จะเป็นการเพิ่ม efficiency ได้ครับ

** Efficiency = ประสิทธิภาพ
阿蘇山

ออฟไลน์ kawkrub

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 51
    • อีเมล์
มันมองได้หลายด้านครับ  อธิเช่น  ....ขออนุญาตอธิบายแบบไทยปนอังกฤษน่ะครับ

    เป็นการเพิ่ม Efficiency  ให้แก่เครื่องยนต์ก็ได้ เพราะขณะที่รถกำลังจะออกตัวจากจุดหยุดนิ่งนั้น  การที่จะเอาชนะแรงเสียดทานหยุดนิ่ง(ภาษาไทยใช้ว่าอะไรจำไม่ได้อ่ะ แต่ภาษาอังกฤษ เรียกว่า statics friction) จำเป็นจะต้องใช้ Starting torque ที่ค่อนข้างสูงครับ ซึ่งจะทำให้เครื่องทำงานหนัก  ทีนี้ รถ Hybrid นั้นใช้มอเตอร์ในการออกตัวก็เพราะว่า คุณสมบัติของมอเตอร์ไฟฟ้านั้นมันจะมี Starting torque ที่สูงกว่า ครับ

   ทั้งนี้การหาหนทางที่ทำให้เครื่องยนต์ทำงานเบาลง (รับ Load น้อยลง) ก็จะเป็นการเพิ่ม efficiency ได้ครับ

** Efficiency = ประสิทธิภาพ

เข้าใจครับ   :)   แต่สงสัยว่าประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นมาเนี๊ย (ลดการใช้น้ำมัน)  เมื่่อเอามาใช้งานจริงมันจะช่วยประหยัดค่าน้ำมันได้คุ้มกับค่า  battery + ราคาที่แพงกว่า หรือปล่าวนะครับ  รบกวนใครที่ใช้อยู่ตอนนี้ลองหาอัตราการใช้น้ำมันมาคิดกันเล่นๆดีกว่า

คุณ  jimmy  รีบเอามาลองดีกว่าครับ  อิอิ ;D ;D ;D
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 24, 2009, 01:17:54 โดย kawkrub »

ออฟไลน์ GUDJA-MAN

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,648
เห็นนักเลงรถ/ยานยนต์ ฉบับเดือนตุลาคม
เขียนเกี่ยวกับความคุ้มค่าและประสิทธิภาพของรถ hybrid เอาไว้อยู่ 2-3 หน้า
ซึ่งบางประเด็นก็ทำให้น่าคิดเหมือนกันครับ

ออฟไลน์ SUN-PS

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 808
ณ.ตอนนี้
ผมว่าไม่น่าคุ้มกับค่าแบตเตอรี่ครับ
ค่าแบตเตอรี่ต้องถูกกว่านี้ และน้ำมันต้องแพงมากๆถึงจะคุ้ม

ออฟไลน์ gateaux

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 615
เคยอ่านเจอเกี่นวกับ Hybrid  ที่น่าสนใจ  ไม่ใช่เฉพาะ แบตเตอรี่ นะครับ  แต่มี Motor ในส่วนของราคาและการผลิตด้วย เนื่องจากวัตถุดิบที่ใช้ในการทำ เป็นวัตถุดิบที่หาได้ยาก และเกือบทั้งหมดของโลก มีในจีน
เลยเป็นเรื่องที่แซวกันว่า เมกา ญี่ปุ่น ยุโรป คิดกันหัวแทบแตก แต่คนที่ถูกหวยคือจีน  ถ้ามีการใช้แม่เหล็กไฟฟ้าแบบนี้มหาศาลขึ้นมาละก้อ

อันนี้รบกวนผู้รู้วิจารณ์ด้วยครับ

อ่ะ นี่ไง จาก wiki นะครับ http://en.wikipedia.org/wiki/Hybrid_car

"Raw materials shortage

Further information: Materials science
The rare earth element dysprosium is required to fabricate many of the advanced electric motors and battery systems in hybrid propulsion systems [76][77].
However, nearly all the rare earth elements in the world come from China[78], and one analyst believes that an overall increase in Chinese electronics manufacturing may consume this entire supply by 2012.[77] In addition, export quotas on Chinese rare earth exports have resulted in a generally shaky supply of those metals [76][79].
A few non-Chinese sources such as the advanced Hoidas Lake project in northern Canada as well as Mt Weld in Australia are currently under development;[79] however it is not known if these sources will be developed before a shortage hits."
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 24, 2009, 07:50:35 โดย gateaux »

ออฟไลน์ RhinoMango

  • Very Rhino User
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,290
  • Let's get back to '94.
โดยส่วนตัวแล้ว

รถ Hybrid ดีแค่ประหยัดน้ำมันแหละครับ ส่วนเรื่องการทำลายสิ่งแวดล้อมในระยะยาวเป็นข้อเสียของมัน
ฉะนั้นการตลาดจึงต้องนำเอาจุดเด่นของมัน (ประหยัดน้ำมัน) ซึ่งใกล้ตัวลูกค้ามากกว่า มาตีความกลบเกลื่อนไป
ว่ารักษาสิ่งแวดล้อมนะ เพราะใช้น้ำมันน้อยปล่อยไอเสียน้อย แต่ไม่มีใครพูดหรอกว่าขั้นตอนการผลิตชิ้นส่วนต่างๆน่ะ
ทำร้ายสภาพแวดล้อมไปแล้วเท่าใด 

เพราะส่วนมากลูกค้าก็สนใจแต่ประหยัดเงินในกระเป๋าแหละครับ ส่วนเรื่องสิ่งแวดล้อมน่ะ
ต้องรอให้นักวิทยาศาสตร์เขาพิสูจน์กัน ซึ่งยากมากเพราะบริษัทรถยนต์เงินมันเยอะ ..

ตัวผมสนับสนุนรถไฮโดรเจนล้วนครับ ไม่ต้องมีแบต ;)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 24, 2009, 08:02:44 โดย RhinoMango »

:. Volkswagen Vento VR6 '94 // :. Nissan NX "กูปรี" '94

You can Follow me on Twitter : @rhinomango

ออฟไลน์ P_Wut

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 866
  • My Sporty Innova
    • อีเมล์
ที่บอกกันว่า กระบวนการผลิตแบตเตอรี่ มันสร้างมลพิษมากกว่า

ช่วยให้รายละเอียดหน่อยได้มั้ยครับว่า มันให้มลพิษมากกว่ายังไง

อย่าลืมว่า รถ Hybrid ที่มันประหยัดน้ำมัน มันช่วยประหยัดน้ำมัน นาน 7-8 ปีกว่าแบตจะหมดอายุต้องเปลี่ยน

มันช่วยลด CO2 , CO , NOX ฯลฯ ไปเท่าไหร่แล้ว ??

ออฟไลน์ RhinoMango

  • Very Rhino User
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,290
  • Let's get back to '94.
นั่นแหละครับคือสิ่งที่กำลังรอการพิสูจน์  ;)

[youtube]http://www.youtube.com/watch?v=xqY8FUDcATE[/youtube]

:. Volkswagen Vento VR6 '94 // :. Nissan NX "กูปรี" '94

You can Follow me on Twitter : @rhinomango

ออฟไลน์ Wisidsak

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,260
  • My life is HONDA
    • ICONacc
ผมคิดว่ารถยนต์ Hybrid น้ำมัน + แบตเตอร์รี่ จะมีอยู่แค่ช่วงสั้นๆ นะครับ

ผมว่าความคุ้มค่าของรถยนต์คือ ต้องเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้า 100%

ถ้าจะ Hybrid กันจริงๆผมว่า น้ำมัน + แก๊สธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็น CNG หรือ LPG คุ้มว่าแบตเตอร์รี่อีกนะ
  ปังปอนด์ป่วน...คร๊าบ

ออฟไลน์ P_Wut

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 866
  • My Sporty Innova
    • อีเมล์
รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100%

ยังไงๆ ก็ต้องใช้ มอเตอร์ กับ แบตเตอรี่ จริงมั้ยครับ ?

ก็แค่ตัดระบบเครื่องยนต์สันดาปภายในออกไปเท่านั้น

ผมกลับคิดว่า รถยนต์ในอนาคต จะเป็น Plug-in Hybrid ครับ

ใช้ไฟฟ้าก่อน จนหมดแบต แล้วเครื่องยนต์ค่อยติดขึ้น

ส่วนจะใช้อะไรเป็นเชื้อเพลิง ก็แล้วแต่ภูมิภาค มีตั้งแต่ น้ำมันปิโตรเลี่ยม เอทานอล ฯลฯ

ออฟไลน์ Can

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 144
    • อีเมล์
เรื่องของรถไฮบริดคงต้องแยกพิจารณาเป็นข้อๆ

1) เรื่องความคุ้มค่า นั่นคือ ค่าน้ำมันที่ประหยัดได้เมื่อเทียบกับค่าแบ็ตเตอร์รี่ อันนี้คงต้องบอกว่า เขาเน้นเรื่องรักษาสิ่งแวดล้อม นั่นคือ ลดภาวะโลกร้อน ลดลงบ้างนะครับ ไม่ใช่ทำให้เป็นศูนย์ รัฐบาลในหลายประเทศก็เลยช่วยในเรื่องภาษีเพื่อให้ขายได้

2) การประหยัดน้ำมันมากหรือน้อยนั้นขึ้นกับสภาพการจราจร ถ้าคุณขับบนทางหลวงใช้ความเร็วสูงได้ตลอด มันก็ไม่ช่วยให้ประหยัดอะไร กลับกัน ถ้าคุณขับในกรุงเทพชั้นในซึ่งรถติดมาก มันก็ไม่ได้ช่วยให้คุณประหยัดอะไรมากมาย เพราะแบ็ตลูกเล็กนิดเดียว จะจ่ายให้แอร์ได้นานซักเท่าไหร่กัน เพราะพอแบ็ตหมด เครื่องก็ต้องทำงานอยู่ดี แต่ถ้ารถไหลไปได้เรื่อยๆ ต้องแตะเบรคบ่อยๆ อันนี้น่าจะประหยัดได้มาก รถพวกนี้ออกแบบให้ประหยัดเมื่อวิ่งในเมือง และเมืองทั่วๆไปที่การจราจรไม่ติดขัดมาก อย่างเมืองฝรั่งเท่าที่เห็นรถก็ขับกันราวหกสิบ แล้วติดไฟแดง ติดทีก็ไม่นาน ประมาฯนาทีนึง ไม่บ้าเลือดเหมือนกรุงเทพบ้านเราที่ใช้ตำรำรวจกดไฟ กดปุ๊ปก็ก้มหน้าอ่าน นสพ ปั๊ป หรือไม่ก็ดูทีวี รอจนโฆษณามาเมื่อไหร่ก็กดอีกที หรือไม่ก็กดเพื่อแกล้งดักจับ

เรื่องการประหยัดนี่บางทีก็สงสัยเอามากๆ เพราะอย่างแคมรี่ก็เปลี่ยนเครื่อง ความจุเท่าเก่าแต่แรงม้าลด แบบนี้เอาไปเทียบอัตราการกินน้ำมันกับรุ่นปกติก็ไม่น่าถูกต้อง ก็สงสัยอยู่มากเหมือนกันว่าถ้าใช้เครื่องเดิมๆจะประหยัดได้เท่าไหร่ หรือถ้าถอดแบ็ตออกไปเลยจะกินน้ำมันเท่าไหร่เมื่อเอาไปเทียบกับรุ่นปกติ

ส่วนความเห็นจาก TOP GEAR ผมว่าควรฟังหูไว้หู เพราะสองปีก่อนก็เคยอ่านจากเว็บของ บีบีซี นี่แหละ ตำหนิ PRIUS สาดเสียเทเสีย คือเขาเอา PRIUS และBMW 520D วิ่งจากลอนดอนไปเจนีวา  แล้วเทียบอัตรบริโภคน้ำมัน จากนั้นสรุปว่า 520D ประหยัดกว่า  แต่พี่แกเล่นกดซะราว 140 ในช่วงที่ไม่จำกัดความเร็ว ก็ PRIUS ไม่ได้ออกแบบมาให้ใช้งานแบบนั้นนี่นา แล้วบ่นกระปอดกะแปดว่าไม่เข้าใจว่าทำไมรัฐบาลอังกฤษยกเว้นไม่เก็บภาษีพิเศษในการวิ่งในลอนดอนให้กับ PRIUS แต่มาเก็บกับ BMW มันบ่นออกมาได้ทั้งๆที่มันวัดการประหยัดน้ำมันโดยการวิ่งบนทางหลวง
ข่าว บีบีซี ระยะหลังนี่เชื่อถือไม่ได้ เพราะเขาไม่ได้รับเงินจากรัฐบาลแล้ว ต้องช่วยเหลือตัวเอง คือต้องขายข่าว นักข่าวก็คุณภาพต่ำลง อย่างข่าวเกี่ยวกับเมืองไทยนั้นจะเห็นชัดเลยว่าไอ้นักข่าวที่อยู่เมืองไทยเขียนแค่ครึ่งเดียว คือครึ่งที่อยากเขียน ไม่อยากบอกหรอกว่ารับเงินไหม แต่ไม่เป็นกลางแน่นอน ไม่เหมือนสมัยก่อนที่รักษาความถูกต้อง ขนาดถ้ารัฐบาลอังกฤษทำผิด็ไม่เข้าข้าง

ออฟไลน์ Zx-III

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 723
ผมเคยดูNHK World อะครับเขาพาไปชมโรงงานHondaเเล้วก็Review Hondaรุ่นที่ใช้Hydrogenอะครับ ผมว่าอันนี้น่าจะดีกว่า ควันเสียก็ไม่มี ออกมาเป็นหยดน้ำตรงท่ออะครับ แต่กว่าจะเป็นรถยนต์พานิชย์ น่าจะอีกนานอะครับ แต่เห็นมีไปทดสอบหลายประเทศเเล้วทั้งยุโรปและอเมริกา