*/*/* รบกวนสอบถามการเปลี่ยนผ่านของวงการรถยนต์ไทยในยุคผ่านมาครับ */*/*

F.I.P.G.

สวัสดีครับทุกท่าน

จากการที่ได้ลองศึกษาเรื่องวงการรถยนต์ไทยมาพักหนึ่ง ผมมีข้อสงสัยจะสอบถามสมาชิกว่า
ในช่วงหนึ่งของวงการรถยนต์ไทย (ยุคก่อนสหัสวรรษใหม่) การขายรถยนต์ของแต่ละยี่ห้อนั้น
จะไม่ได้จัดจำหน่ายด้วยบริษัทแม่โดยตรง แต่จะผ่านทางผู้ถือสิทธิ์ที่คนไทยรับผิดชอบ อาทิ

นิสสัน>>สยามกลการ
มิตซูบิชิ>>เอม เอม ซี สิทธิผล
มาสด้า>>กมลสุโกศล
เมอร์ซีดิส เบนซ์>>ธนบุรีประกอบรถยนต์
เป็นต้น

(ถ้ามีแบรนด์ไหนที่เข้าข่ายลักษณะนี้ รบกวนทุกท่านช่วยเพิ่มเติมข้อมูล เพื่อเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์
แก่การเรียนรู้ครับผม :-P)

ทีนี้ผมมีข้อสงสัยว่า  เพราะเหตุใด….
- กลุ่มผู้ถือสิทธิ์ของแต่ละค่ายดังกล่าว ถึงจางหายไป จนกลายเป็น บริษัทแม่เข้ามาทำ 100 เปอร์เซ็นต์ 
- กลุ่มถือสิทธิ์เหล่านั้นมีค่ายไหนที่จบสวย และจบไม่สวย บ้างหรือไม่
- ต้นเหตุของการเปลี่ยนผ่านนั้นของแต่ละค่ายนั้นเกิดจากอะไร
- ในปัจจุบันนี้ กลุ่มผู้ถือสิทธิ์เหล่านั้น ได้เปลี่ยนแปลงบทบาทตนเองไปในแนวทางใด หรือ
ยกธงขาวอำลาวงการกัน ครับผม

รบกวนทุกท่านมาแสดงทรรศนะความคิดเห็นกันพลัน เพื่อเป็นประโยชน์แก่ชนรุ่นหลังกันครับ
(ขออภัยที่สอบถามเยอะเกินไปบ้างครับผม)



NONT4477

รู้แต่ว่า Nissan จบไม่สวย
โดนบริษัทแม่บีบ ไม่ยอมป้อนเทคโนโลยีและรถโมเดลใหม่ๆมาให้
จนช่วงนั้นลากขาย Cefiro A33 อยู่นาน จนสุดท้ายก็ต้องยอม
Top Gear's Biggest FAN!!! (IN MY House)
I'm NAC1701  ^ ^



veeraya

เท่าที่ทราบ ถ้าบ แม่เข้ามาเอง ตัวแทนเดิมด็จะลดบทบาทลงเป็นหนึ่งดีลเลอร์ครับ เช่น ยนตรกิจ ตอนนี้เป็นหนึ่งดีลเลอร์ของ BMTH. สิทธิผล เป็นหนึ่งดีลเลอร์ของ MMTH เป็นต้น ครับ



2k

จากที่เล่ากันมานี่พอเปลี่ยนให้บริษัทแม่มาทำเองแล้วมีพัฒนาการที่ดีขึ้นทั้งนั้นเลยนะครับ BMW มาสด้า ฟอร์ด นิสสันปัญหาเรื่องรออะไหล่นานมากกกกหมดไปทันทีเลย ยอดขายเองก็พัฒนาสูงขึ้นมากด้วย  :)
หมาเฝ้าบ้านแจกฟรีจ้า www.dogfindhome.com




i-din

ฮุนได ยังเปลี่ยนตัวแทนเข้ามา บริษัทฮุ่นไดไม่ได้เข้ามาทำตลาดเอง
BMW เปลี่ยนจากยนตรกิจ มาเป็น BMTH



ghia

แรกๆตลาดบ้านเรายังเล็กครับ (3 - 4แสนคัน/ปี) ไม่คุ้มที่บริษัทแม่จะมาลงทุนเอง เลยให้สิทธิ์การจัดจำหน่ายทั้งประเทศให้กับผู้ใดผู้หนึ่ง โดยจะเรียกว่า distributor

distributor จะสามารถซื้อรถในราคาที่ต่ำกว่ารคาขายส่งมาจากบ.แม่

หลังจากนั้นค่อยมาขายส่งต่อให้กับดีลเลอร์ในประเทศ เพื่อขายปลีกให้ลูกค้าอย่างเราๆต่อไป


คราวนี้พอถึงจุดหนึ่ง ตลาดมีขนาดที่พอจะทำให้บริษัทแม่เข้ามาตั้งสำนักงานเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจเองได้ เหล่าเจ้าของยี่ห้อก็เริ่มสนใจ

เริ่มอยากเข้ามาดูแลตลาดเอง

การจะเข้ามาทำตลาดเองก็ต้องมีข้ออ้างที่จะทำให้เข้ามาได้อย่างชอบธรรม

ซึ่งข้ออ้างที่มักใช้กันก็คือ "บริการหลังการขายลูกค้าได้ไม่ดีพอ" หรือ "ยอดขายรถใหม่ไม่เป็นไปตามที่ต้องการ"


การบริการหลังการขายที่ไม่ดีพอนี่ก็ต้องอาศัยลูกค้าร้องเรียนมาทางหนึ่ง หรืออีกทางหนึ่งก็คือ ตั้งมาตรฐานให้มันเวอร์เข้าไว้

พอdistributorในไทยทำตามไม่ได้ก็เป็นข้อ้างในการที่จะบอกเลิกสัญญา


ส่วนเรื่องยอดขายไม่เป็นไปตามเป้า ก็ตั้งเป้าให้มันโหดๆ เช่น ตลาดโต 10% แต่ฉันขอเพิ่ม 20% นะ มากขึ้นกว่าตลาดแค่ 10% เอง

แต่ถ้าาดูจริงๆคือ เราต้องเบ่งยอดการเติบโตเป็น 2เท่าของตลาดเลยทีเดียว

หลังจากขอยอดเสร็จ ก็ตัดเครื่ิองไม้เครื่องมือในการช่วยทำยอด

- รถโมเดลใหม่

- โฆษณาใหม่

- งบการตลาด

- global campaign

แค่นี้ก็ทำมาหากินกันเกือบจะไม่ได้แล้วครับ

สุดท้ายก็ต้องยอมคืนแบรนด์ให้เค้าไป


ส่วนบริษัทแม่ก็จะแสดงความใจดีด้วยการยอมให้ distributor เหล่านี้เป็นดีลเลอร์ใหญ่กว่าปกติหน่อยนึง หรือ mega dealer นั่นเอง

โดยจะได้สิทธิ์ในพื้นที่สวยๆ ยอดขายเยอะๆ มีหลายๆสาขา อาจจะมียอดขายประมาณ 10 - 20% ของยอดขายทั้งหมดของยี่ห้อนั้น

เพื่อเป็นการถนอมน้ำใจกันไป


ตลาดบ้านเราตอนนี้มียอดขายอยู่ที่ 1.2 - 1.3 ล้านคัน/ปี และคาดว่าภายในปี 2560 ยอดขายน่าจะเกือบถึง 1.8 - 2ล้านคัน

ทำให้ขนาดตลาดมีไซส์ที่ใหญ่พอจะส่งทีมงานเข้ามาทำตลาดได้เอง


ไม่ต้องดูอื่นไกล อย่างเบนซ์เป็นต้น ปีที่แล้วมียอดขายประมาณ 6,000 - 7,000 คัน ตกประมาณ 6000 * 3,000,000 = 18,000,000,000 บาท

แค่กำไร 1% ก็ 180 ล้านบาทแล้ว มีพนักงานซัก 100 คน เฉลี่ยเงินเดือนคนละ 40,000 บาท ทั้งปียังจ่ายเงินเดือนแค่ 48,000,000 บาทเอง


แล้วทำไมเค้าจะไม่มาหล่ะครับ......!
???????????? ??????????? ????????????????? ????????????????????? ??????????????????? ???????????????? ?????????????????????? ???????????????????? ???????????????? ???????????????? ????????????????? ??????????????????



tae_polestar

ผมแถม Volvo----> สวีเดนมอเตอร์อีกอันครับ ปัจจุบัน คือ VCT Volvo car Thailand
The love of automobile will be never cease



F.I.P.G.

ขอบพระคุณทุกท่าน สำหรับเกร็ดความรู้ตรงนี้มากๆครับ โดยส่วนตัวเชื่อว่า
ประวัติศาสตร์ในวงการนี้ ถ้าลองหยิบขึ้นมาดู น่าสนใจสำหรับคนรุ่นหลังๆอย่าง
ผมมากๆครับ

รบกวนทุกท่านแสดงความคิดเห็นกันต่อเนื่องเลยครับ  ขออนุญาตนั่งปูเสื่อครับผม



muzaa

เพิ่มเติมเรื่อง Brand ครับ
 Suzuki ในอดีตเป็นสยามอินเตอร์แนชั่นแนลในกลุ่มสยามกลการครับสำนักงานใหญ่คือโชว์รูมที่อนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิครับ (ปัจจุบันรับหน้าที่เป็น dealer suzuki เหมืิอนเดิมครับ) ส่วนบริษัทแม่คือ Suzuki Motor Thailanad ครับ
- Ford ในอดีตมี autorized dealer 2รายครับ คือ ยนตรกิจหรือที่เรียกว่าฟอร์ดยุโรป (ขายพวก escourt ,siera , granada ,transit ) และนิวเอร่าออโต้หรือฟอรดเอเชีย (ขายพวก laser,telstar.marathon,fesiva,aspire ) หลังจากปี 1997 ที่บริษัทแม่มาเองคือฟอร์ดประเทศไทยยนตรกิจก็ยุติบทบาททุกอย่างเกี่ยวกับฟอร์ดส่วนนิวเอร่ากลายเป็นดีลเลอร์รายหนึ่งคือฟอร์ดรามอินทราครับ
- GM Group ในอดีต GM เข้ามาทำตลาดร่วมกับบริษัทอโศกมอเตอร์ในยุค 1970 ครับแต่หลังจากสงครามเวียดนามยุตื GM ไม่มั่นใจในสถานการณ์จึงถอนตัวไปพร้อมกับยุติบทบาทของอโศกมอเตอร์ต่อมาบริษัทยานยนต์จำกัดในเครือพระนครยนตรการเข้ามาทำตลาด holden และพระนครยนตรการทำตลาด opel ในยุค 80-90 ครับก่อนที่ GM จะกลับเข้ามาตั้ง GM Thailland อีกครั้งในปี 1997 ครับ



localgame

จากที่เล่ากันมานี่พอเปลี่ยนให้บริษัทแม่มาทำเองแล้วมีพัฒนาการที่ดีขึ้นทั้งนั้นเลยนะครับ BMW มาสด้า ฟอร์ด นิสสันปัญหาเรื่องรออะไหล่นานมากกกกหมดไปทันทีเลย ยอดขายเองก็พัฒนาสูงขึ้นมากด้วย  :)
Fordประเทศไทยก็จัดการกับรถรุ่นเก่าโดยไม่สั่งอะไหล่ฟอร์ดรุ่นเก่าๆเข้ามา  :-[



kendo393

อยากรู้ลึกๆ กรณี เสริมสุข กับ แป๊ปซี่ ด้วยครับ. มันคล้ายๆกันกับรถยนต์  ช่วยบอกเป็นวิทยาทานหน่อยครับ