มีข้อแนะนำในการดู2ตัวนี้มั้ยครับว่าควรระวังหรือต้องสังเกตอะไรบ้าง
แนะนำวิธีดู ACCORD แล้วกันนะครับ
ก็วิธีการดูก็เหมือนการดูรถธรรมดาทั่วไปครับ
เช่น
- การดูประวัติจากคู่มือรถ เป็นเจ้าของคนที่เท่าไร ใครเป็นคนสุดท้าย (ตรงกับคนขายมั้ย) ต่อภาษีหรือยัง
(ถ้าจะให้ดีสอบถามเรื่องประกันภัยไปในตัวเลย ถ้ายังมีชั้น 1 ถือว่าคุณโชคดีมาก)
- เลขเครื่องและเลขตัวในคู่มือรถตรงกับ คันจริงหรือไม่ (สำคัญมาก)
- ตรวจสอบประวัติการเปลี่ยนแปลงที่คู่มือรถ
(ว่าเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง เช่น เปลี่ยนเครื่อง, ติดแก๊ส, ซันรูฟ, ดิสเบรก, ทำสี เป็นต้น)
- บอดี้ต้องบาง ลองเคาะๆดูครับ(เคาะมันทั้งคันนั่นแหล่ะ) เสียงมันจะบางๆ ใสๆ
- ระยะช่องไฟของตัวรถต้องเท่ากัน สีต้องเป็นสีเดียวกันไม่เพี้ยน
- คานหน้า และคานหลังไม่มีการทำสี และสวยงาม รูที่อยู่ที่คานหน้าต้องกลมเนียน
- ประตูเปิดและปิดง่าย เสียงกริ๊บ เซ็นทรัลล็อคทำงานปรกติ
หรือฝากระโปรงทั้งหน้าและท้ายต้องปิดง่าย
(ฝากระโปรงท้ายโช็คค้ำยันมักจะเสียแล้ว ไปเปลี่ยนทีหลังได้)
- ตรวจสอบกระจกไฟฟ้า และกระจกพับไฟฟ้า ทุกบานใช้งานได้ปรกติ
(บางบานอาจจะมีฝืดบ้าง ใช้น้ำมัน PANDO ฉีดทีหลังได้)
- ตรวจสอบที่กระบอกฉีดน้ำฝน และที่ปัดน้ำฝนใช้งานได้ดี
- ตรวจสอบระบบไฟทั้งหมด
ไฟหน้า,ไฟสูง,ไฟหรี่,ไฟเลี้ยว,ไฟฉุกเฉิน ติดทุกดวง แตรดัง
ถ้ามีสปอร์ตไลท์ก็ทดลองเปิดเลย
- ถ้าไฟท้ายสองก้อน กระจังหน้าจะมีโลโก้ H อยู่ในกระจัง
(ถ้าไฟท้ายก้อนเดียว โลโก้ H จะอยู่ที่ฝากระโปรง)
(ระวังเดี๋ยวผิดพิมพ์)
- ถ้าไฟท้ายสองก้อน ไฟเลี้ยวหน้าที่อยู่ในกันชนจะยาว และเป็นสีเดียวกันตลอด
(ถ้าไฟท้ายก้อนเดียว จะมีลักษณะสีส้ม บนพื้นไฟสีขาว และไฟสั้นกว่า)
(ระวังเดี๋ยวผิดพิมพ์)
- ถ้าเป็นตัวประกอบนอกเลขตัวถังจะขึ้นต้นด้วยรหัส CD 5
(OPTION ครบกว่าประกอบเนียนกว่า วัสดุคุณภาพดีกว่า)
- ตรวจสอบห้องเครื่องยนต์
- ลองชักก้านวัดน้ำมันเครื่องออกมาน้ำมันเครื่องควรอยู่ในระดับ MAX และอยู่ในสภาพใส (ไม่ดำแสดงว่าดูแลดีใช้ของดี)
เปิดฝาน้ำมันเครื่องเพื่อดูวาวล์ด้านในถ้าสภาพสมบูรณ์จะขาวและใสปิ๊ง
- ตอน" เครื่องเย็นๆ " เปิดฝาหม้อน้ำ น้ำหม้อน้ำจะต้องเต็มตลอด และหม้อพักจะต้องอยู่ในระดับ MAX
และถ้าเขาใช้น้ำยาหม้อพักเช่นสีเขียว น้ำจะต้องเป็นสีเขียวทั้งสองที่ (ถ้าเป็นสีชาเย็นเครื่องใกล้ไปแล้วล่ะ)
แล้วลองสตาร์ทเครื่อง(ขณะเปิดฝาหม้อน้ำ)น้ำต้องไม่ดัน และต้องไม่มีฟองอากาศจนเกินงาม (ถ้าเยอะแสดงว่าฝาสูบกลับบ้านเก่า)
(ทดสอบเสร็จแล้วอย่าลืมปิดฝาหม้อน้ำด้วยล่ะเดี๋ยวงานเข้า)
- ต่อมาลองเร่งเครื่องดูจะต้องไม่มีเสียงกร็อกๆๆๆที่ด้านล่างของเครื่องยนต์
ถ้ายิ่งเร่งยิ่งดังตาม กร๊อกๆๆๆ แสดงว่าชาร์ฟละลาย ได้เปลี่ยนเครื่องใหม่แน่นอนในไม่ช้านาน
ถ้าเครื่องร้อนแล้วลองไปดูบริเวณท่อไอเสียต้องไม่มีควันขาว
- ห้องเครื่องที่ดีต้องแห้ง ไม่มีน้ำมันรั่วซึม ในห้องเครื่องต้องไม่มีร่องรอยน้ำพุ่ง(ท่อยางน้ำอาจจะรั่ว)
ตรวจบริเวณฝาครอบวาวล์ไม่ซึม ปั้มพาวเวอร์ไม่ซึม แร็คพาวเวอร์ด้านล่างต้องไม่มีน้ำมันหยด (น้ำมันเพาเวอร์ในกระบอกควรอยู่ที่ MAX)
น้ำมันเบรก น้ำมันคลัทช์ปรกติ สายพานต่างๆอยู่ในสภาพดี
- ตรวจสอบภายใน
- สภาพเบาะนั่งคู่หน้า คู่หลัง อยู่ในสภาพดี(ถ้าเป็นเบาะไฟฟ้าก็ทดสอบเลย)
- ไฟหน้าปัดติด (ปรับความสว่างได้)
- ไฟเพดานใช้ได้
- ทดสอบแอร์ (รุ่นนี้แอร์เย็นแต่เบอร์แรงๆเสียงดังไปนิ๊สส)
- ทดสอบการขับขี่ (ผมติ๊ต่างว่าซื้ำอเกียร์ธรรมดาแล้วกันนะ)
- เมื่อความร้อนโอเคถึงอุณหภูมิใช้งานรอบจะอยู่ที่ประมาณ 800 rpm เครื่องต้องนิ่ง
ลองเบิ้ลเครื่องดูเข็มจะตวัดขึ้นเร็วและลงเร็ว ลองตวัดให้ถึงรอบปลายๆดู
แสดงถึงการตอบสนองการขับขี่ได้อย่างว่องไว กระฉับกระเฉง
- ลองเหยียบเบรกแล้วแช่ค้างไว้
เบรกต้องอยู่ระดับเดิมไม่ยุบลงไปอีกไม่ว่ากรณีใดๆก็ตาม
- ทดสอบคลัทช์ ลองเข้าเกียร์ 2 ดึงเบรกมือแล้วลองถอนคลัทช์ดู
มันต้องมีแรงต้านสู้กับเบรก อย่างนี้คลัทช์ยังพอโอเคอยู่
- เลขเครื่องของ H22A ตามที่แสดงไว้ข้างบน
แต่รหัสเกียร์ M/T ที่จะนำมาประกบต้องใช้รหัสที่เหมาะสมด้วย
เช่น M2A4 M2B4(เกียร์เต็ด) T2T4(เกียร์เต็ด) T2W4(อันนี้เกียร์ฝาแดง) พวกนี้อัตราทดเหมาะกับ H22A
(ถ้าเครื่อง H22A แล้วรหัสเกียร์ เป็น P2C4 ให้หลีกเลี่ยงครับเพราะอันนั้นสำหรับเครื่อง F22B 145 ม้าครับ
ตีนต้นจะไวกว่าแต่พอเกียร์ 3 จะเริ่มช้ากว่าเพราะมันทดไม่เหมาะสมครับ)
ค่าเกียร์อย่างเดียวลูกประมาณ 1.2 หมื่นUPครับ (แต่ถ้าเกียร์ฝาแดง T2W4 เปลี่ยนเกียร์รอบไม่ตก ลูกละ 3 หมื่นกว่าครับ)
- ถ้าเครื่อง H22A เปลี่ยนเกียร์ที่รอบเหมาะๆประมาณ 7200 rpm ก็ได้ครับ
(ควรใช้น้ำมันเครื่องเกรดดีๆครับ เพราะ V-TEC หัวใจสำคัญก็ต้องได้น้ำมันเครื่องดีๆ แรงดันน้ำมันถึง รอบและความร้อนถึงถึงจะทำงานดี)
- จากนั้นลองไปขับดูครับ (ต้องขออนุญาตเจ้าของรถเค้าพอสมควรเลยครับ ถ้าเค้าดูแลดีไม่พังง่ายๆครับใช้รอบอย่าให้เกิน 7200 rpmนั่นแหล่ะ)
- ลองสังเกตุความสูงของตัวรถดูครับว่าอยู่ในระดับไหน
- ลองทดสอบความสมบูรณ์และลักษณะการตอบสนองของโช้คอัพและสปริง ว่ารับมือการขับได้แบบใด
โดยการลองกดดูทั้ง 4 ด้านดูว่าต้องให้แรงเยอะเพียงใด และได้อาการยุบประมาณไหน และมันดูดซับแรงกระแทกอย่างไร
- ลองทดสอบชิ้นส่วนช่วงล่างโดยการโยกรถดูครับ ว่ามันเฟิร์มมากน้อยเพียงใด (ถ้าสั่นดิ๊กๆไม่หยุด หรืออาการย้วยๆ ให้พึงระวัง)
- ตรวจดูยางว่าสัปดาห์อะไร ปีอะไร ยางต้องอยู่ในสภาพโอเค ดอกยางเหลือมากน้อยเพียงใด
ถ้าทราบรุ่นด้วย ก็จะดีครับ จะได้ทราบบุคคลิกของยางเบื้องต้น ประกอบกับการตัดสินใจทดสอบช่วงล่างต่อไป
- ลองทดสอบเดินหน้า เลี้ยว ถอยหลัง ช้าๆ ต้องไม่มีเสียงเพลากร๊อกๆ เวลาเลี้ยวสุดๆ หรือ เสียงช่วงล่างก๊อกๆ แก๊กๆ
หากทดสอบในที่ขรุขระได้จะสังเกตุได้อาการของรถและเสียงต่างๆได้ชัดเจนดียิ่งขึ้น (ไม่ควรเปิดวิทยุแล้วขับ เพราะเสียงจะโดนกลบ)
- พวงมาลัยและศูนย์ล้อ ควรจะค่อนข้างสมบูรณ์ HANDING ควรจะโอเค
- ลองอัตราเร่งทางตรงครับเกียร์ 1 2 3 4 5 ให้ครบๆไม่มีดัง ไม่มีหอน
- จากนั้นลองทดสอบเบรกอาจจะประมาณสักเกียร์ 3 รอบพอประมาณแล้วกดเบรกดูรอบสองรอบ ดูอาการปัดเป๋เยอะหรือไม่
(ลองกำหนดจุดหยุดดูแล้วเหยียบเบรกดูก็ได้ แล้วดูว่ารถตอบสนองเราแบบไหน ถ้ารู้สึกว่าโอเคอาจจะเพิ่มเป็นความเร็วพอประมาณ
ที่เกียร์ 5 แล้วลองแตะเบรกดูว่าเบรกหน่วงความเร็วได้ดีหรือไม่ ลองพอสมควรเพื่อเช็คความอึดของผ้าเบรกไปในตัว)
- ลองSLALOM ที่ความเร็วไม่ต้องมากเพื่อเช็คอาการรถ
- ขณะที่รถทดสอบจนถึงจุดๆหนึ่งอาจจะต้องเก็บข้อมูลอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งอาจจะมีบางอย่างที่เปลี่ยนแปลงไปจากครั้งอุ่นเครื่อง
เมื่อทดสอบเสร็จเรียบร้อยลองจอดรถและเปิดฝากระโปรงขึ้นมาอีกครั้ง เพื่อตรวจสอบความผิดปรกติอื่นเพิ่มเติม
ลองดูนะครับ
เอาวิธีนี้ไปใช้ดูคันอื่นก็ได้เหมือนกันครับโชคดีนะครับ