เดินหน้าตามแผนธุรกิจ Power Up 2016 สำหรับค่ายนิสสันในประเทศไทย เพื่อให้สอดคล้องกับแผน Power 88 ของบริษัทแม่ โดยตั้งเป้าหมายจะเพิ่มส่วนแบ่งการตลาด หรือแชร์ไม่ต่ำกว่า 15% ซึ่งแน่นอนการที่จะบรรลุเป้าหมายดังกล่าวได้ จำเป็นต้องมีผลิตภัณฑ์ครอบคลุม 90% ของเซกเมนท์ในตลาดรถยนต์ไทย นั่นย่อมหมายความว่าจะต้องมีการเปิดตัวรถใหม่ 10 รุ่น ภายในปี 2559 หรือเฉลี่ยปีละ 2 รุ่น และจากวันประกาศแผนเมื่อกลางปี 2554 และถึงล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการส่ง โมเดลที่ 3 นิสสัน พัลซาร์ สู่ตลาดไทย และแน่นอนปีนี้ยังจะมีตามออกมาต่อเนื่อง
ทั้งนี้รถโมเดลใหม่ที่เปิดตัวออกมา ตามแผนธุรกิจของนิสสันในประเทศไทย แต่ละรุ่นนับว่าประสบความสำเร็จมาก โดยเฉพาะ นิสสัน อัลเมร่า ที่ตอนนี้เป็นเบอร์หนึ่งในตลาดอีโคคาร์ซีดาน และโมเดลล่าสุด นิสสัน พัลซาร์ (Nissan Pulsar) ที่เพิ่งถูกส่งลงทำตลาด นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย ได้ตั้งเป้าหมายการขายรถรุ่นนี้ไว้เบื้องต้น 7,500 คันต่อปี ซึ่งจะทำให้สามารถครองแชร์ในกลุ่มเก๋งคอมแพ็กต์แฮทช์แบ็กมากที่สุด หรือกว่าครึ่งของตลาดที่มีประมาณ 1.5 หมื่นคันต่อปี
นิสสัน พัลซาร์ นอกจากเรื่องของการออกแบบและเทคโนโลยีล้ำสมัยแล้ว ยังมีจุดเด่นที่ราคาเหมาะสม และราคาสูงสุดไม่เกิน 1 ล้านบาท ซึ่งหากเทียบดูคู่แข่งในตลาดจะเป็นราคาที่น่าสนใจมาก ที่สำคัญยังมีอุปกรณ์มาตรฐานที่เหนือกว่าด้วย ประพัฒน์ เชยชม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส การตลาดและขาย บริษัท นิสสัน มอเตอร์(ประเทศไทย) จำกัดกล่าว
สำหรับนิสสัน พัลซาร์ ใหม่ เป็นเก๋งคอมแพ็กต์แบบแฮทช์แบ็ก หรือ 5 ประตู ที่ปัจจุบันมีคู่แข่งหลักในตลาดเป็น มาสด้า3 และฟอร์ด โฟกัส โดยพัลซ่าร์เปิดตัวทำตลาด 2 ทางเลือก กับเครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร 116 แรงม้า และรุ่น 1.8 ลิตร 131 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ XTRONIC CVT มีทั้งหมด 5 รุ่นย่อย ราคาเริ่มต้นที่ 7.76- 9.76 แสนบาท ซึ่งจะเห็นว่ารุ่นท็อป (1.8V Sunroof Navi) มีราคาไม่ถึงล้านบาท ขณะที่อุปกรณ์ใส่มาให้ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นปุ่มรับ-วางสายการเชื่อมโทรศัพท์ผ่านระบบบลูทูธ ครูซคอนโทรล ระบบไฟหน้าอัตโนมัติ ระบบนำทาง Navigation พร้อมด้วยฟังก์ชั่นระบบนำทางภาษาไทย และหลังคาแบบ Sunroof เป็นต้น
นี่จึงเป็นการรุกคืบของนิสสันอีกระลอก ขณะที่รถทำตลาดอยู่แล้วอย่าง นิสสัน มาร์ช เตรียมปรับโฉมแต่งหน้าทาปากสู้กับคู่แข่งเช่นกัน โดยเฉพาะปีนี้ที่จะมีการเปิดตัวอีโคคาร์ของโตโยต้า และยังจะมีเวอร์ชั่นซีดานของอีโคคาร์มิตซูบิชิออกมาด้วย ซึ่งตอนนี้มีภาพแอบถ่ายหลุดออกมาตามสื่อออนไลน์กันบ้างแล้ว และจะได้เห็นคันจริงในงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ 2013 นี้ โดยกำหนดเปิดตัวกับสื่อมวลชนวันที่ 22 มีนาคมศกนี้
ไม่เพียงเท่านั้นยังมีการแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ สู่ตลาดในช่วงปลายเดือนมีนาคมที่งานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ 2012 เช่นกัน โดยนิสสันจะมีการเปิดตัวรถตู้ นิสสัน เออร์แวน (Nissan URVAN) โฉมใหม่ หรือชื่อในญี่ปุ่น NV350 Caravan เป็นการนำเข้ามาทำตลาด ทั้งในรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลใหม่ YD25DDTi และรุ่นเบนซินรหัสเครื่องยนต์ QR25DE ซึ่งวางกลุ่มเป้าหมายเป็นรถใช้งานส่วนบุคคลเป็นหลัก เปิดตัวกับสื่อมวลชนวันเดียวกับ นิสสัน มาร์ช
ส่วนรถพลังงานทางเลือก ที่ตอนนี้คู่แข่งได้มีการเปิดตัว ทั้งรถยนต์รองรับพลังงานก๊าซธรรมชาติ หรือซีเอ็นจี(CNG) รถใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ อี85(E85) รวมถึงรถยนต์ไฮบริดสู่ตลาด ในเรื่องนี้สำหรับนิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย ได้มีการศึกษาและเตรียมแนะนำรถพลังงานทางเลือกเหล่านี้สู่ตลาดเช่นกัน
ในเร็วๆ นี้ นิสสันจะมีการแนะนำรถยนต์ซีเอ็นจีสู่ตลาดไทย รวมถึงรถยนต์ใช้น้ำมันอี85 ซึ่งขณะนี้กำลังเตรียมการอยู่คาดว่าอีกไม่นาน และจะทันโครงสร้างภาษีสรรพสามิตใหม่ ที่จะบังคับใช้อีก 2-3 ปีข้างหน้าแน่นอน ส่วนรถยนต์พลังงานทางเลือกอื่นๆ นิสสันมีความพร้อมเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นรถไฮบริด หรือไฟฟ้า แต่เป็นการยากที่จะเจาะจงชนิดใด เพราะแต่ละประเทศมีความแตกต่างกัน ทั้งในเรื่องการสนับสนุนและปัจจัยพื้นฐานที่จะรองรับ นายทาคายูกิ คิมูระ ประธานบริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัดกล่าว
อย่างไรก็ตาม มีรายงานข่าวว่านิสสันเตรียมจะวางระบบซีเอ็นจี ลงในรถยนต์เก๋งคอมแพ็กต์ซีดาน นิสสัน ซิลฟี ซึ่งเป็นตลาดใหญ่รองจากเก๋งขนาดเล็กอีโคคาร์ และซับคอมแพ็กต์ ที่สำคัญปัจจุบันในกลุ่มเก๋งคอมแพ็กต์ซีดาน หรือแบบ 4 ประตู คู่แข่งรายใหญ่ในตลาด โตโยต้า โคโรลล่า อัลติส มีรุ่นซีเอ็นจีทำตลาดเช่นกัน และยังมีรุ่นที่สามารถใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ อี85 เช่นเดียวกับ ฮอนด้า ซีวิค และมิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีเอ็กซ์
ทั้งนี้ตามแผนนิสสันจะมีการเปิดตัว นิสสัน ซิลฟี ซีเอ็นจี ประมาณช่วงกลางปีนี้ และยังมีรายงานข่าวนิสสันทำการการศึกษาติดตั้งซีเอ็นจีในปิกอัพรุ่น นาวารา เช่นกัน เพราะคู่แข่งต่างมีปิกอัพใช้ก๊าซธรรมชาติทำตลาดแล้ว สำหรับรายที่ยังไม่มีก็กำลังอยู่ในขั้นเตรียมการ ในส่วนของรถที่ใช้น้ำมันอี85 ของนิสสัน อยู่ในขั้นตอนการพัฒนาและเตรียมการ คาดว่าอย่างเร็วน่าจะเปิดตัวได้ในช่วงปลายปีนี้
นอกจากนี้ช่วงปลายปีจะเป็นไฮไลท์อีกตัว นิสสัน เทียน่า (Nissan Teana)โฉมใหม่ แม้จะได้เห็นรูปลักษณ์จากการเปิดตัว นิสสัน อัลติมา (Nissan Altima) ในสหรัฐอเมริกาไปแล้ว แต่หลายคนลุ้นอยู่ว่าในไทยอาจจะมีความแตกต่าง แต่ล่าสุดในการเผยโฉมที่ประเทศจีน ซึ่งปกติจะมีรูปลักษณ์ใกล้เคียงกับไทยที่สุด จะเห็นว่าแทบไม่มีความแตกต่างกันเลย ยกเว้นรายละเอียดเล็กน้อยเท่านั้น ดังนั้นคงไม่ต้องลุ้นอะไรมากนัก ทีนี้คงพอตัดสินใจได้ว่าจะรอเทียน่าโฉมใหม่ กับถอย ฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่ ที่เพิ่งเปิดตัวสดๆ ซิงๆ เลย หรือหันกลับไปหา โตโยต้า คัมรี เจ้าตลาด
ไม่ว่าจะอย่างไร
ภายใต้แผน Power Up 2016 นิสสันจะเป็นอีกแบรนด์ตัวยืนหลัก ในการเป็นตัวเลือกเปรียบเทียบซื้อรถใหม่ของคนไทย ครอบคลุมแทบจะทุกตลาดหลักๆ ในไทยเน่นอน!!
http://manager.co.th/Motoring/ViewNews.aspx?NewsID=9560000031094
