ผู้เขียน หัวข้อ: พฤติกรรมการใช้รถแบบนี้ถ้า ติดแก็ส จะคุ้มกับการติดมั้ยครับ  (อ่าน 6027 ครั้ง)

ออฟไลน์ kompakorn

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 43
คือผมเป็นคนนึง ที่ศึกษา เรื่องแก็สมาพอสมควรแล้วอยากติดมาก แต่มีปัญหาตรงที่ รถผมใช้วิ่งค่อนข้างน้อยครับ

โดนที่ เฉลี่ย วันจัน- ศุกร์ จะใช้รถวิ่งประมาณ 10-30 โล โดยประมาณ มากสุดก็ 50 โล แต่ไม่บ่อยเท่าไร(ที่บ้านใกล้กะที่ทำงาน)

โดยที่รถจะวิ่งเยอะสุดในวันเสาร์ตอนออก เที่ยวครับ เฉลี่ยประมาณ 100-150 โล โดยประมาณ วันอาทิดรถไม่ใช้ครับ

อยากทราบว่าถ้ารถใช้น้อยแบบนี้ คุ้มมั้ยครับ กับค่าถังแก็สที่ต้องเสียไป + ค่าบำรุงรักษาด้วย (แต่ในใจอยากติด เพราะเพื่อ

อนาคต อาจจะต้องทำงานในที่ไกลขึ้นครับ) แต่อยากทราบว่า ณ ตอนนี้ถ้าติดแก็สตอนนี้ จะคุ้มค่าแก่การติดมั้ยครับ

ปล. รถที่ใช้ติด Honda city 2010

ออฟไลน์ Sathukhun72

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 20
    • อีเมล์
เป็นผมจะรอให้มีความจำเป็นก่อนครับ เพราะตอนนี้ถ้ายังใช้ไม่มาก ก็ไม่รู้จะรีบติดไว้ทำไม แต่ถ้าพฤติกรรมการใช้รถเปลี่ยนเมื่อไร จะเอาไปติดครับ ตอนนี้ผมก็กำลังลังๆถ้าได้งานใหม่ ก็คงจะจับติด เพราะปัจจุบันขับไม่เยอะมาก ติดก็ยังไม่คุ้ม

ออฟไลน์ surin

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 34
ติดแล้วมันระแวงและกลัว

ออฟไลน์ ceberos

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 780
    • อีเมล์
ผมขับปีครึ่ง วิ่งแค่ 2หมื่นกิโลเองครับ  แต่เชื่อมั้ยว่าแต่ละวันผมกลับบ้าน จ-ศ ผมนับเฉพาะขากลับนะครับ 1.30 ชม. ขั้นต่ำทุกครั้งถ้าเป็นน้ำมันหน้าซีดเลยฮะ

ออฟไลน์ drugprofile

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 218
เป็นข้อมูลเพิ่มเติมนะครับ..

ผมออกรถ เครื่องพันห้า มาหนึ่งคัน เดือน ธ.ค. ปี 53 เงินเดือนแค่ 12000 พอได้เบี้ยเลี้ยงอื่นๆ มาช่วยชีวิตหน่อย อีกไม่เกิน 3000 บาท ต่อเดือน..

ออกรถป้ายแดง กู้หน่วยงานมา ผ่อนเดือน 4800 ค่าเช่าห้องอีก 3000 ต่อเดือน

ระยะทางระหว่าง ห้อง ไปที่ทำงาน ไป-กลับ 16 กม. แต่วิ่งกินข้าวด้วย ใช้รถประมาณ ไม่เกิน 30 กม. ต่อวัน (จันทร์-ศุกร์)

ส่วนเสาร์-อาทิตย์ วันหยุด มีเที่ยวบ้าง เที่ยวก็ระยะทางไม่น่าเกิน 300 กม. แต่ไม่ได้เที่ยวทุกอาทิตย์

วิ่งใช้งานได้สัก 1 หมื่นโล ชักไม่ไหวค่าน้ำมัน ยิ่งในเมืองกรุงฯ ช่วงนั้นค่าน้ำมัน ตกเดือนล่ะประมาณ 3 - 4 พันบาท

เลยติดแก๊ส ช่วงกลางปี 54..

ช่วงที่ใช้งานแก๊ส มาถึงทุกวันนี้ มีเงินเก็บ มีเงินแต่งรถ ทั้งๆ ที่เงินเดือนยังไม่สูงมาก (ยอมรับว่าเกินตัวครับ แต่ใจชอบการแต่งบ้าง)

แต่ก็ต้องแลกกับการดูแลมากขึ้น ต้องเข้าศูนย์ฯรถ และอู่แก๊ส เพื่อเช็คตรวจสอบ..

มาถึงช่วงนี้ ปี 56 การใช้งานแก๊ส ก็ยังปกติอยู่ ผมมองว่า วิ่งช้าๆ วิ่งในเมือง มีเร่งบ้าง ผ่อนบ้าง ไม่ได้ใช้ความเร็วสูง เหมาะกับการติดแก๊สดี..

แต่ ณ ตอนนี้ เงินเดือน เริ่มสูงหน่อยแล้ว.. มานั่งคิด รู้งี้ไม่ติดดีกว่า เพราะเหนื่อยดูแลครับ และถึงแม้ว่า มันต้องพังก่อน รถน้ำมัน แต่ก็นะ คงไม่ใช่คันสุดท้ายในชีวิตครับ  :)

ความเห็นส่วนตัวผม(คนเดียว) นะ.. รถวิ่งน้อย วิ่งทางใกล้ รถติด เร่งบ้าง ผ่อนบ้าง ไม่สามารถใช้ความเร็วสูงได้ในระยะทางยาวๆ การติดแก๊ส ผมกลับมองว่า เหมาะครับ.. รถไม่ได้ใช้ความร้อนสูง (ถึงแม้บางท่าน จะบอกว่า จอดแช่นั้นแหละความร้อนขึ้นก็ตาม ผมมองว่า ก็ยังดีกว่า วิ่ง 140 up แล้วระยะทางไกลๆ)

ถ้าอยู่ ตจว. ผมคงไม่ติด เพราะรถไม่ติด ถึงแม้วิ่งระยะทางไกลไปทำงาน วิ่งคงที่ก็ประหยัดพอควรแล้ว (แต่ถ้าวิ่งไกล แล้วแลกกับตัวเงินที่ได้ เช่น เป็นเซลส์ ก็คุ้มครับติดจะดีกว่า)

เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ  :)


ออฟไลน์ 6162002

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,089
ค่าบำรุงรักษามันไม่ได้มีอะไรมากมายหรอกครับ อู่ดีๆเช็คฟรีตลอดชีพ จูนฟรีตลอดกาลเยอะแยะ

เสียแค่ค่าเปลี่ยนกรองแก๊ส

แต่ถ้าวิ่งน้อย คืนทุนช้า ถ้าเงินไม่เหลือก็อย่าไปติดเลยครับ เอาตังไปทำอย่างอื่นก่อนดีกว่า

แต่ถ้าเงินเหลือๆ ติดไปแล้วแฮปปี้ขึ้นเยอะครับ เวลาควักค่าเชื้อเพลิง

ผมติดตั้งแต่ 800 กิโล ตอนนี้ 38000 กิโลละ รถ10เดือนเอง มาสด้า 2  ขับเพลินเลย  กะว่า 5 หมื่นกิโลเปลี่ยนกรองแก๊สอีกรอบ ตั้งวาล์ว ล้างปีกผีเสื้อ เบ็ดเสร็จไม่ถึง2พัน

แต่ที่ผ่านมาสี่หมื่นกว่ากิโล ประหยัดไปเกือบแสนละครับ (ประหยัดกิโลละสองบาทได้   น้ำมันโลละ 3.2  แก๊สโลละ1.2 บาท)  ค่าติดตั้ง 31500 เลยจุดคุ้มทุนมาไกลละครับ

ออฟไลน์ keamglad

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 395
    • อีเมล์
ถูกต้องที่สุดครับ  หนึ่งในเรื่องเข้าใจผิดของคนติดแก๊สคือ คนชอบคิดว่าติดแก๊สแล้วประหยัดเหยียบไปเลย ยิ่งเร็วยิ่งคุ้ม ยิ่งดี
ตรงกันข้ามเลยครับ สิ่งที่เหมาะกับการติดแก๊สที่สุดคือรถติดๆในเมืองวิ่งช้าๆ รอบต่ำๆนี่หละ ไมเปลือง ไม่สึกหรอก

ส่วนพวกที่ติดแล้วอัด 140 up บอกได้เลย บ่าวาวไปเร็วมากครับ
ใครอัดแล้วยังไม่ไปก็แสดงว่าท่านนั้นมีดวงครับ หรือมันยังม่ออกอาการ




เป็นข้อมูลเพิ่มเติมนะครับ..

ผมออกรถ เครื่องพันห้า มาหนึ่งคัน เดือน ธ.ค. ปี 53 เงินเดือนแค่ 12000 พอได้เบี้ยเลี้ยงอื่นๆ มาช่วยชีวิตหน่อย อีกไม่เกิน 3000 บาท ต่อเดือน..

ออกรถป้ายแดง กู้หน่วยงานมา ผ่อนเดือน 4800 ค่าเช่าห้องอีก 3000 ต่อเดือน

ระยะทางระหว่าง ห้อง ไปที่ทำงาน ไป-กลับ 16 กม. แต่วิ่งกินข้าวด้วย ใช้รถประมาณ ไม่เกิน 30 กม. ต่อวัน (จันทร์-ศุกร์)

ส่วนเสาร์-อาทิตย์ วันหยุด มีเที่ยวบ้าง เที่ยวก็ระยะทางไม่น่าเกิน 300 กม. แต่ไม่ได้เที่ยวทุกอาทิตย์

วิ่งใช้งานได้สัก 1 หมื่นโล ชักไม่ไหวค่าน้ำมัน ยิ่งในเมืองกรุงฯ ช่วงนั้นค่าน้ำมัน ตกเดือนล่ะประมาณ 3 - 4 พันบาท

เลยติดแก๊ส ช่วงกลางปี 54..

ช่วงที่ใช้งานแก๊ส มาถึงทุกวันนี้ มีเงินเก็บ มีเงินแต่งรถ ทั้งๆ ที่เงินเดือนยังไม่สูงมาก (ยอมรับว่าเกินตัวครับ แต่ใจชอบการแต่งบ้าง)

แต่ก็ต้องแลกกับการดูแลมากขึ้น ต้องเข้าศูนย์ฯรถ และอู่แก๊ส เพื่อเช็คตรวจสอบ..

มาถึงช่วงนี้ ปี 56 การใช้งานแก๊ส ก็ยังปกติอยู่ ผมมองว่า วิ่งช้าๆ วิ่งในเมือง มีเร่งบ้าง ผ่อนบ้าง ไม่ได้ใช้ความเร็วสูง เหมาะกับการติดแก๊สดี..

แต่ ณ ตอนนี้ เงินเดือน เริ่มสูงหน่อยแล้ว.. มานั่งคิด รู้งี้ไม่ติดดีกว่า เพราะเหนื่อยดูแลครับ และถึงแม้ว่า มันต้องพังก่อน รถน้ำมัน แต่ก็นะ คงไม่ใช่คันสุดท้ายในชีวิตครับ  :)

ความเห็นส่วนตัวผม(คนเดียว) นะ.. รถวิ่งน้อย วิ่งทางใกล้ รถติด เร่งบ้าง ผ่อนบ้าง ไม่สามารถใช้ความเร็วสูงได้ในระยะทางยาวๆ การติดแก๊ส ผมกลับมองว่า เหมาะครับ.. รถไม่ได้ใช้ความร้อนสูง (ถึงแม้บางท่าน จะบอกว่า จอดแช่นั้นแหละความร้อนขึ้นก็ตาม ผมมองว่า ก็ยังดีกว่า วิ่ง 140 up แล้วระยะทางไกลๆ)

ถ้าอยู่ ตจว. ผมคงไม่ติด เพราะรถไม่ติด ถึงแม้วิ่งระยะทางไกลไปทำงาน วิ่งคงที่ก็ประหยัดพอควรแล้ว (แต่ถ้าวิ่งไกล แล้วแลกกับตัวเงินที่ได้ เช่น เป็นเซลส์ ก็คุ้มครับติดจะดีกว่า)

เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ  :)



ออฟไลน์ wannachat

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 246
    • อีเมล์
ใช้น้อยมากๆๆ  แบบนี้อย่าพึ่งติดแก๊สเลย

ผมก็เหมือนกัน ทั้งสัปดาห์ใช้รถน้อยแบบนี้ละ  เลยไม่ใช้เลยใช้มอไซแทน  ประหยัดดีเยอะด้วย  แต่ร้อนๆๆอยู่

ช่วงนี้ปิดเทอมก็ประมาณ 60วัน กลับบ้านหนึ่งครั้ง ไปกลับ 770โล
หรือเบื่อๆว่างๆสัก3-4วันก็ไปเที่ยวไกลๆ ไกลแค่ไหนก็ตามงบค่าน้ำมัน 1000-3000บ

 แต่ถ้าเดือนนึงมีความจำเป็นต้องใช้รถยนต์และค่าน้ำมันไม่ต่ำกว่า2500ต่อเดือน ก็น่าติดแก๊ส และจะได้เตรียมเที่ยวไกลๆด้วย เอิ้กๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 24, 2013, 14:46:20 โดย wannachat »

ออฟไลน์ wittymazdaFC

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 171
    • อีเมล์
ผม ก็ใช้ น้อย แหละ ไม่ติด แก็ส เพราะ บำรุง รักษา เยอะ

mazda 3 ดู ซิ  มันกิน แค่ไหน ผม ยังไม่ติดเลย หุหุ    ( ไม่ได้ มี อคติ กับ แก็ส นะ )  แค่เราใช้ น้อย เลยไม่อยาก ติด   ครับ  :P :P
He who questions nothing learns nothing
ผู้ไม่สงสัย ย่อมไม่รู้
Don’t play for safety. It’s the most dangerous thing in the world.
อย่าเล่นกับความปลอดภัย เพราะความปลอดภัย นั่นแหละ อันตรายที่สุด

ออฟไลน์ ceberos

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 780
    • อีเมล์
ใช้แก๊สผมพูด ตรงๆนะครับถ้าเจออู่ดี คุณจะลืมไปเลยกับคำว่าปัญหาฮะ  รถhonda ไม่ว่าจะน้ำมันหรือแก๊ส มันก็ต้องตั้งวาวล์ครับ แต่ก็ขึ้นอยู่กับท่านด้วยว่า Mind ในส่วนไหนส่วนความคิดผม เติมน้ำมันเท่าไหร่ก็ควรเติมแก๊สเท่านั้น หมายความว่า เช่นเราเติมน้ำมัน 1800 แก๊ส แค่ 650  คุณก็ต้องเก็บส่วนต่างไว้ด้วย ไว้เป็นค่าบำรุง ผมว่าไม่นานหรอกคุณจะตกใจ รถ city เครื่องก็ทนแก๊สใช่เล่นนะครับ แต่ถามผมว่าปัญหาเยอะขึ้นมากแค่ไหนเห็นชัดๆก็ เปลี่ยนกรองแก๊ส ฮะ ติดแก๊สอยากให้ปัญหาน้อย ผมแนะนำศึกษาความสามารถของอุปกรณ์ครับ ไม่ใช่แค่ ECU  ต้องไปถึงท่อแก๊ส ท่อทองแดง หม้อต้ม คุณจะไม่โดนช่างฟันได้ฮะ ^^  ส่วนCity ถ้าอยู่ในคลับติดต่อท่านคนนั้นเลยฮะ พี่บี ไม่ทำให้ท่านผิดหวังฮะ

ออฟไลน์ MaiSki

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 679
ติดแก๊สปุ๊บนิสัยเปลี่ยนปั้บ ซิ่งขึ้น อยากเที่ยวมากขึ้น :D

popdemonic

  • บุคคลทั่วไป
ถูกต้องที่สุดครับ  หนึ่งในเรื่องเข้าใจผิดของคนติดแก๊สคือ คนชอบคิดว่าติดแก๊สแล้วประหยัดเหยียบไปเลย ยิ่งเร็วยิ่งคุ้ม ยิ่งดี
ตรงกันข้ามเลยครับ สิ่งที่เหมาะกับการติดแก๊สที่สุดคือรถติดๆในเมืองวิ่งช้าๆ รอบต่ำๆนี่หละ ไมเปลือง ไม่สึกหรอก

ส่วนพวกที่ติดแล้วอัด 140 up บอกได้เลย บ่าวาวไปเร็วมากครับ
ใครอัดแล้วยังไม่ไปก็แสดงว่าท่านนั้นมีดวงครับ หรือมันยังม่ออกอาการ




เป็นข้อมูลเพิ่มเติมนะครับ..

ผมออกรถ เครื่องพันห้า มาหนึ่งคัน เดือน ธ.ค. ปี 53 เงินเดือนแค่ 12000 พอได้เบี้ยเลี้ยงอื่นๆ มาช่วยชีวิตหน่อย อีกไม่เกิน 3000 บาท ต่อเดือน..

ออกรถป้ายแดง กู้หน่วยงานมา ผ่อนเดือน 4800 ค่าเช่าห้องอีก 3000 ต่อเดือน

ระยะทางระหว่าง ห้อง ไปที่ทำงาน ไป-กลับ 16 กม. แต่วิ่งกินข้าวด้วย ใช้รถประมาณ ไม่เกิน 30 กม. ต่อวัน (จันทร์-ศุกร์)

ส่วนเสาร์-อาทิตย์ วันหยุด มีเที่ยวบ้าง เที่ยวก็ระยะทางไม่น่าเกิน 300 กม. แต่ไม่ได้เที่ยวทุกอาทิตย์

วิ่งใช้งานได้สัก 1 หมื่นโล ชักไม่ไหวค่าน้ำมัน ยิ่งในเมืองกรุงฯ ช่วงนั้นค่าน้ำมัน ตกเดือนล่ะประมาณ 3 - 4 พันบาท

เลยติดแก๊ส ช่วงกลางปี 54..

ช่วงที่ใช้งานแก๊ส มาถึงทุกวันนี้ มีเงินเก็บ มีเงินแต่งรถ ทั้งๆ ที่เงินเดือนยังไม่สูงมาก (ยอมรับว่าเกินตัวครับ แต่ใจชอบการแต่งบ้าง)

แต่ก็ต้องแลกกับการดูแลมากขึ้น ต้องเข้าศูนย์ฯรถ และอู่แก๊ส เพื่อเช็คตรวจสอบ..

มาถึงช่วงนี้ ปี 56 การใช้งานแก๊ส ก็ยังปกติอยู่ ผมมองว่า วิ่งช้าๆ วิ่งในเมือง มีเร่งบ้าง ผ่อนบ้าง ไม่ได้ใช้ความเร็วสูง เหมาะกับการติดแก๊สดี..

แต่ ณ ตอนนี้ เงินเดือน เริ่มสูงหน่อยแล้ว.. มานั่งคิด รู้งี้ไม่ติดดีกว่า เพราะเหนื่อยดูแลครับ และถึงแม้ว่า มันต้องพังก่อน รถน้ำมัน แต่ก็นะ คงไม่ใช่คันสุดท้ายในชีวิตครับ  :)

ความเห็นส่วนตัวผม(คนเดียว) นะ.. รถวิ่งน้อย วิ่งทางใกล้ รถติด เร่งบ้าง ผ่อนบ้าง ไม่สามารถใช้ความเร็วสูงได้ในระยะทางยาวๆ การติดแก๊ส ผมกลับมองว่า เหมาะครับ.. รถไม่ได้ใช้ความร้อนสูง (ถึงแม้บางท่าน จะบอกว่า จอดแช่นั้นแหละความร้อนขึ้นก็ตาม ผมมองว่า ก็ยังดีกว่า วิ่ง 140 up แล้วระยะทางไกลๆ)

ถ้าอยู่ ตจว. ผมคงไม่ติด เพราะรถไม่ติด ถึงแม้วิ่งระยะทางไกลไปทำงาน วิ่งคงที่ก็ประหยัดพอควรแล้ว (แต่ถ้าวิ่งไกล แล้วแลกกับตัวเงินที่ได้ เช่น เป็นเซลส์ ก็คุ้มครับติดจะดีกว่า)

เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ  :)




อย่าไปคิดมากครับ บ่าวาล์วมันทำมาให้สึกอยู่แล้วหละครับ ทั้งแหวน ทั้งไกด์ ทั้งบ่า ยางตีนวาล์ว พวกนี้้ถึงเวลาก็ต้องเปลี่ยน

การติดแก๊สอาจจะทำให้มันสึกหรอเร็วขึ้นบ้าง เพราะLPG มันแห้งกว่าเชื้อเพลิงชนิดอื่น แต่ในระบบเครื่องยนต์มันจะมีการดูดไอระเหย

น้ำมันเครื่องเข้ามาเผาไหม้อยู่แล้ว ผมมองว่า ถ้าขับรถอัดลากรอบ จะLPG หรือน้ำมันปกติมันย่อมสึกหรอเร็วขึ้นกว่าปกติอยู่แล้วหละครับ

เพราะฉะนั้น ติดไปเถอะครับ ติดก่อนประหยัดก่อน รถผมเองตอนนี้ยังเริ่มคิดอยากจะติดเลย ผมใช้รถวันละ250kms วิ่งตกอาทิตย์ละ

1,000kms เติมE85 ยังตกกิโลละ4บาทเลยครับ ตกค่าน้ำมันเดือนละ 15000-16000บาท บางวันนี่ใช้น้ำมันวันละ1,000.-เลยนะครับ

ช่วงหนักๆนี่เติมE85 วันละ1,000.- ติดต่อกัน3-4วัน ลมแทบจับ ตอนนี้ต้องเริ่มคิดเยอะมากๆ อันไหนคุมค่าใช้จ่ายได้คุมเถอะครับ

ภายใต้สภาวะฟองสบู่ใกล้แตก ไหนจะค่ามือถือ2เบอร์เดือนละ3000-4000บาท นั่งคิดแล้วเวียนหัว รายจ่ายเยอะมากๆ แถมหุ้นก็ตก

แบบถล่มทลาย ตอนนี้จะขับรถแต่ละทีนี่มีเครียดเลยนะ

ออฟไลน์ HYDE--

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,643
    • อีเมล์
ถ้ารถตลาด มาติดแก๊ส ผมว่า ไม่ค่อยมีปัญหาหรอกครับ ถ้าดูแลอย่างถูกวิธี City คนใช้แก๊สกันเยอะมาก
กว่าจะพังจริงๆ ก็คงหลายแสนโลไปแล้ว คงไม่ต้องมองขนาดนั้น

ทีนี้ ปัญหาสำหรับเคสนี้ ลองมาคำนวนส่วนต่างค่าน้ำมันดีกว่าครับ ว่า กี่เดือน กี่ปี คืนทุน ไหนจะเรื่องราคาขายต่อตก แล้วก็ กะจะใช้รถอีกกี่ปี
ทุกวันนี้ ใช้น้ำมันเดือนละกี่บาท แล้วถ้าติดแก๊ส น่าจะเหลือสักเดือนละกี่บาท แต่ บอกตรงๆนะ เคสนี้ ถือว่า ใช้รถค่อนข้างน้อยครับ
นอกจากว่า ติดแก๊สแล้ว จะได้ขับไปไหนๆ ได้มากขึ้น เที่ยวได้บ่อยขึ้น เป็นต้น

อย่างที่บ้านผม ติดแก๊สแล้ว ไม่เกินปี ก็กำไรไปถึงไหนแล้ว เพราะใช้รถกันค่อนข้างเยอะ

ออฟไลน์ YenChar

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,179
รอบต่ำๆ คลานในเมือง
ติดแก๊สไปเลยครับ ประหยัดกว่าเผาน้ำมันทิ้งแน่ๆ

แล้วแต่มุมมองนะครับ
ถ้าอยากจบๆ ยอมจ่ายเงินหน่อย ไม่ต้องกังวลเรื่องแก๊ส ก็เติมน้ำมันไป
ถ้ามีเวลาดูแล ก็ติดแก๊ส

สำหรับผม
ถ้าติดแก๊ส แล้วคืนทุนได้ใน 2 ปี ถือว่าคุ้ม
แต่ถ้าติดแก๊สแล้วใช้เวลาเกิน 3 ปี ในการคืนทุน ถือว่าไม่คุ้มครับ

ออฟไลน์ plus

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 571
ถ้าใช้ วันหนึ่ง ไม่ถึง 20กิโล   น้ำมันดีกว่าครับ      ถ้า cng  หรือ  lpg    วิ่ง  ไม่ถึง 20กิโล    คืนทุนช้า ครับ 
 

ออฟไลน์ Slipknot`

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 21,866
  • *** HLM.COM ***
จขกท. ใช้รถน้อยมากๆครับ อย่าติดเลย แลจะไม่คุ้มครับ

คนที่ติดต้องวิ่งเยอะๆครับ 5 ใน 7 วัน วันละ100+ กิโลครับ คุ้มแน่นอน

ออฟไลน์ mikio

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 53
สำหรับผม ความคุ้มค่าคือประเด็นที่1
ความเสี่ยงในความปลอดถัย ก็อีกประเด็นที่2
เคยเห็นไฟครอกกับตา 2 ครั้ง
ถ้ายังไม่ stable 100% ผมไม่เสี่ยง แม้จะ 0.00000000000001 เปอร์เซ็นต์ก็ตาม

ย้ำอีกทีในภาษาไทย ......สำหรับผม

ออฟไลน์ นครอัญมณี

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,181
    • นครอัญมณี
    • อีเมล์
จะใช้น้อย หรือ ใช้มาก  ก็คุ้มครับ
เพียงแต่
คืนทุนช้า หรือ เร็วเท่านั้น

แนะตำติดแก๊ส LPG นะครับ
ถึงแม้ อนาคต รัดทะบาน จะปรับราคา LPG ให้สูงขึ้น ก็ไม่ต้องห่วง
เพราะ ท่านจะปรับราคาน้ำมันให้สูงนำไปก่อนเสมอ

การติดแก๊สหัวฉีดที่ดี มีคุณภาพ
จะทำให้คุณประหยัดเงิน เทียบจากการใช้น้ำมัน ประมาณครึ่งหนึ่ง

คนที่กลัวเรื่อง เครื่องพัง 555
ขอตอบว่า คุณอาจจะขายรถคันนั้นไปก่อน ที่เครื่องจะพังก็ได้

คนที่กลัวเรื่อง ความปลอดภัย 555
ขอตอบว่า แค่ขับรถ บนถนน ก็เสี่ยงตายจากอุบัติเหตุ อยู่ทุกนาทีอยู่แล้ว

เอ่อ..Honda เครื่องยนต์ค่อนข้างอ่อนแอ อาจจะต้องดูแล เป็นพิเศษกว่า Toyota สักหน่อยนะครับ

สรุป
ไปติดแก๊ส LPG หัวฉีด ที่ศูนย์ที่มีชื่อเสียง นะครับ
รักรถมาก
รักครอบครัวมากกว่า
รักชาติ-ศาสน์-กษัตริย์มากที่สุด

ออฟไลน์ myalexxp

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 829
ก่อนติดวิ่งน้อย ใช้น้อย

หลังติด วิ่งโคตรเยอะ 555+

อยากไปไหนก็ไปหมด  :D

ออฟไลน์ keamglad

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 395
    • อีเมล์
ผมล้างพอร์ทวันพฤหัส วันศุกร์โอ้โหๆๆๆๆๆ

สรุป วันนี้เด้งครับ อิอิ

ถูกต้องที่สุดครับ  หนึ่งในเรื่องเข้าใจผิดของคนติดแก๊สคือ คนชอบคิดว่าติดแก๊สแล้วประหยัดเหยียบไปเลย ยิ่งเร็วยิ่งคุ้ม ยิ่งดี
ตรงกันข้ามเลยครับ สิ่งที่เหมาะกับการติดแก๊สที่สุดคือรถติดๆในเมืองวิ่งช้าๆ รอบต่ำๆนี่หละ ไมเปลือง ไม่สึกหรอก

ส่วนพวกที่ติดแล้วอัด 140 up บอกได้เลย บ่าวาวไปเร็วมากครับ
ใครอัดแล้วยังไม่ไปก็แสดงว่าท่านนั้นมีดวงครับ หรือมันยังม่ออกอาการ




เป็นข้อมูลเพิ่มเติมนะครับ..

ผมออกรถ เครื่องพันห้า มาหนึ่งคัน เดือน ธ.ค. ปี 53 เงินเดือนแค่ 12000 พอได้เบี้ยเลี้ยงอื่นๆ มาช่วยชีวิตหน่อย อีกไม่เกิน 3000 บาท ต่อเดือน..

ออกรถป้ายแดง กู้หน่วยงานมา ผ่อนเดือน 4800 ค่าเช่าห้องอีก 3000 ต่อเดือน

ระยะทางระหว่าง ห้อง ไปที่ทำงาน ไป-กลับ 16 กม. แต่วิ่งกินข้าวด้วย ใช้รถประมาณ ไม่เกิน 30 กม. ต่อวัน (จันทร์-ศุกร์)

ส่วนเสาร์-อาทิตย์ วันหยุด มีเที่ยวบ้าง เที่ยวก็ระยะทางไม่น่าเกิน 300 กม. แต่ไม่ได้เที่ยวทุกอาทิตย์

วิ่งใช้งานได้สัก 1 หมื่นโล ชักไม่ไหวค่าน้ำมัน ยิ่งในเมืองกรุงฯ ช่วงนั้นค่าน้ำมัน ตกเดือนล่ะประมาณ 3 - 4 พันบาท

เลยติดแก๊ส ช่วงกลางปี 54..

ช่วงที่ใช้งานแก๊ส มาถึงทุกวันนี้ มีเงินเก็บ มีเงินแต่งรถ ทั้งๆ ที่เงินเดือนยังไม่สูงมาก (ยอมรับว่าเกินตัวครับ แต่ใจชอบการแต่งบ้าง)

แต่ก็ต้องแลกกับการดูแลมากขึ้น ต้องเข้าศูนย์ฯรถ และอู่แก๊ส เพื่อเช็คตรวจสอบ..

มาถึงช่วงนี้ ปี 56 การใช้งานแก๊ส ก็ยังปกติอยู่ ผมมองว่า วิ่งช้าๆ วิ่งในเมือง มีเร่งบ้าง ผ่อนบ้าง ไม่ได้ใช้ความเร็วสูง เหมาะกับการติดแก๊สดี..

แต่ ณ ตอนนี้ เงินเดือน เริ่มสูงหน่อยแล้ว.. มานั่งคิด รู้งี้ไม่ติดดีกว่า เพราะเหนื่อยดูแลครับ และถึงแม้ว่า มันต้องพังก่อน รถน้ำมัน แต่ก็นะ คงไม่ใช่คันสุดท้ายในชีวิตครับ  :)

ความเห็นส่วนตัวผม(คนเดียว) นะ.. รถวิ่งน้อย วิ่งทางใกล้ รถติด เร่งบ้าง ผ่อนบ้าง ไม่สามารถใช้ความเร็วสูงได้ในระยะทางยาวๆ การติดแก๊ส ผมกลับมองว่า เหมาะครับ.. รถไม่ได้ใช้ความร้อนสูง (ถึงแม้บางท่าน จะบอกว่า จอดแช่นั้นแหละความร้อนขึ้นก็ตาม ผมมองว่า ก็ยังดีกว่า วิ่ง 140 up แล้วระยะทางไกลๆ)

ถ้าอยู่ ตจว. ผมคงไม่ติด เพราะรถไม่ติด ถึงแม้วิ่งระยะทางไกลไปทำงาน วิ่งคงที่ก็ประหยัดพอควรแล้ว (แต่ถ้าวิ่งไกล แล้วแลกกับตัวเงินที่ได้ เช่น เป็นเซลส์ ก็คุ้มครับติดจะดีกว่า)

เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ  :)




อย่าไปคิดมากครับ บ่าวาล์วมันทำมาให้สึกอยู่แล้วหละครับ ทั้งแหวน ทั้งไกด์ ทั้งบ่า ยางตีนวาล์ว พวกนี้้ถึงเวลาก็ต้องเปลี่ยน

การติดแก๊สอาจจะทำให้มันสึกหรอเร็วขึ้นบ้าง เพราะLPG มันแห้งกว่าเชื้อเพลิงชนิดอื่น แต่ในระบบเครื่องยนต์มันจะมีการดูดไอระเหย

น้ำมันเครื่องเข้ามาเผาไหม้อยู่แล้ว ผมมองว่า ถ้าขับรถอัดลากรอบ จะLPG หรือน้ำมันปกติมันย่อมสึกหรอเร็วขึ้นกว่าปกติอยู่แล้วหละครับ

เพราะฉะนั้น ติดไปเถอะครับ ติดก่อนประหยัดก่อน รถผมเองตอนนี้ยังเริ่มคิดอยากจะติดเลย ผมใช้รถวันละ250kms วิ่งตกอาทิตย์ละ

1,000kms เติมE85 ยังตกกิโลละ4บาทเลยครับ ตกค่าน้ำมันเดือนละ 15000-16000บาท บางวันนี่ใช้น้ำมันวันละ1,000.-เลยนะครับ

ช่วงหนักๆนี่เติมE85 วันละ1,000.- ติดต่อกัน3-4วัน ลมแทบจับ ตอนนี้ต้องเริ่มคิดเยอะมากๆ อันไหนคุมค่าใช้จ่ายได้คุมเถอะครับ

ภายใต้สภาวะฟองสบู่ใกล้แตก ไหนจะค่ามือถือ2เบอร์เดือนละ3000-4000บาท นั่งคิดแล้วเวียนหัว รายจ่ายเยอะมากๆ แถมหุ้นก็ตก

แบบถล่มทลาย ตอนนี้จะขับรถแต่ละทีนี่มีเครียดเลยนะ

ออฟไลน์ purimpro

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 14
  • Manger Production Powder Coating
    • อีเมล์
ค่าบำรุงรักษามันไม่ได้มีอะไรมากมายหรอกครับ อู่ดีๆเช็คฟรีตลอดชีพ จูนฟรีตลอดกาลเยอะแยะ

เสียแค่ค่าเปลี่ยนกรองแก๊ส

แต่ถ้าวิ่งน้อย คืนทุนช้า ถ้าเงินไม่เหลือก็อย่าไปติดเลยครับ เอาตังไปทำอย่างอื่นก่อนดีกว่า

แต่ถ้าเงินเหลือๆ ติดไปแล้วแฮปปี้ขึ้นเยอะครับ เวลาควักค่าเชื้อเพลิง

ผมติดตั้งแต่ 800 กิโล ตอนนี้ 38000 กิโลละ รถ10เดือนเอง มาสด้า 2  ขับเพลินเลย  กะว่า 5 หมื่นกิโลเปลี่ยนกรองแก๊สอีกรอบ ตั้งวาล์ว ล้างปีกผีเสื้อ เบ็ดเสร็จไม่ถึง2พัน

แต่ที่ผ่านมาสี่หมื่นกว่ากิโล ประหยัดไปเกือบแสนละครับ (ประหยัดกิโลละสองบาทได้   น้ำมันโลละ 3.2  แก๊สโลละ1.2 บาท)  ค่าติดตั้ง 31500 เลยจุดคุ้มทุนมาไกลละครับ
เช้นครับ
รูปภาพก็แค่กด "ถูกใจ" จะมาสู้อะไร กับ"หัวใจ" ผูกอยู่ที่ใจคน

ออฟไลน์ DEAR[^,^]

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 356
ก่อนหน้านั้นผมมีความคิดแบบนั้นเหมือนกันครับ ผมก็กลัวเรื่องเครื่องพังไม่มีเวลาดูแลฯลฯ รถที่ใช้ Camry2.4 จากบานผมไปเรียนมหาลัย ตีเป็นไปกลับ 40 โลต่อวัน แต่เส้นทางที่ใช้ คือ สาทร สีลม ดินแดน ซึ่งขาไปก็ไม่ต่ำกว่าชั่วโมง ขากลับก็ไม่ต่ำกว่าชั่วโมงครึ่ง รถผมวิ่ง6โลลิตร ถังละสองพันกว่า วิ่งได้สามร้อยกว่าโล บางเดือนวิ่งออกนอกสถานที่ ค่าน้ำมันขึ้นไปหมื่นกว่าบาทก็มี เลยตัดสินใจติดแก๊สครับ จากเติมถังละสองพันตกกิโลละ6บาทกว่าๆ เป็นถังละ5ร้อยกิลโลละเกือบๆ2บาท วิ่งระยะทางเท่ากัน ติดมาสองเดือนกว่าแล้วครับ อีกพันโลจะคุ้มทุนและครับ เพราะว่านิสัยเสียเลย วิ่งเยอะขึ้นโดยไม่คิด