ผู้เขียน หัวข้อ: จำเป็นไหมครับที่ต้องเอารถเข้าศูนย์เมื่อครบหนึ่งพันกิโลเมตร  (อ่าน 5026 ครั้ง)

ออฟไลน์ bluescorpion

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 35
จำเป็นไหมครับที่ต้องเอารถเข้าศูนย์เมื่อครบหนึ่งพันกิโลเมตรหรือเข้าตอนหนึ่งหมื่นกิโลเมตรไปเลยจะดีกว่า
ขอคำแนะนำหรือแชร์ความรู้ประสบการณ์ด้วยครับ

ออฟไลน์ Buffy

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,502
    • อีเมล์
March ผม ทางศูนย์แจ้งว่าไป check เมื่อ พันโล ผมก็เอาเข้าไป

CRV G4 ผม ทางศูนย์แจ้งว่าไม่ต้อง check พันโล check ที่หมื่นโล ผมก็เข้าไป check ที่หมื่นโล........


ส่วนใหญ่ก็ทำตามที่ศูนย์ฺแจ้งมาครับ มันมี record ด้วย ก็เลยว่าตามนั้นไป

ออฟไลน์ kez

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,591

 ทำตามคู่มือรถ เพื่อรักษา warranty

ออฟไลน์ numtik2005

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 584
    • อีเมล์

 ทำตามคู่มือรถ เพื่อรักษา warranty

และตรวจเช็คความผิดปกติด้วย เสียเวลานิดเดียวเองครับ

ออฟไลน์ NONT4477

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 9,851
  • Let the SKYFALL
แล้วแต่ยี่ห้อมั้งครับ
ยี่ห้อไหนเค้าจะเช็คให้ ก็ไปเหอะ เป็นการเช็ค defects
Vios ศูนย์แจ้งให้เช็ค ส่วน City ศูนย์ H บอกไม่ต้อง รอไปตอนหมื่นหรือ 6 เดือนเลย
Top Gear's Biggest FAN!!! (IN MY House)
I'm NAC1701  ^ ^

ออฟไลน์ Pasakorndvm

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,310
ทำตามคำแนะนำของศูนย์ทีีเราออกรถครับ
'19 Honda Civic EL

ออฟไลน์ pladaek

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,021
  • FF1.5SMG
ผมเอาเฟียสต้าไปเช็กครั้งแรกก็ 15000 ตามที่ศูนย์แจ้งเลยครับ..

พันโลแรก ผมก็ถามเค้าเหมือนกัน แต่เค้าบอกไม่ต้องเข้าครับ ก็ปกติดีครับ..
ไม่ได้ขับรถเพื่อทำเวลาที่ดีที่สุด.. แต่ขับรถเพื่อเจอช่วงเวลาที่ดีที่สุด..

ออฟไลน์ neung23

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,662
Jazz ผมศูนย์บอกไม่ต้อง แต่ผมทนเสียงเครื่องไม่ไหว คันเก่ารุ่นเดียวกันแต่ตัวรองท็อปเครื่องมันเงียบกว่านี้เยอะ

เลยมาถามที่นี่ว่าน้ำมันเครื่องติดโรงงานเป็นอะไรกันแน่ พอได้ยินว่า 0w-20 ผมเข้าเช็คพันกิโลเลยคับ รับไม่ได้ เอาโมบิล1 0w-40 ใส่ไป เสียงเครื่องเงียบลงเยอะเลยคับ

แล้วแต่คัน ถ้ารุ่นอื่นไม่มีอาการอะไรผมก็เข้าตามระยะคับ
2013 W204 C250 AMG Plus
2011 Prius
2010 X5 xDrive 4.8i
2003 E39 523i Sport

ออฟไลน์ adis

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,416
    • อีเมล์
สำหรับผม แล้ว จำเป็นที่จะต้องเข้าเช็คและเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องเมื่อรถวิ่งพ้นรันอินครับ
ผมไม่เชื่อคำแนะนำของศูนย์ทั้งหมด เพราะบอกได้เลยว่า ช่างศูนย์ที่มีความรู้ มีประสบการณ์จริง ๆ เดี๋ยวนี้มีไม่เยอะนัก
และยังมีเหตุผลด้านธุรกิจของศูนย์มาเกี่ยวข้องด้วย  การแนะนำของช่างศูนย์จึงมักพบได้บ่อย ๆ ที่ให้คำแนะนำกับลูกค้าไม่ดีเท่าที่ควร

   - การเอารถเข้าเช็คระยะหรือเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องที่ 10000 กิโล อาจไม่ส่งผลอะไรมากนักหรอกนะครับ เราจะทำตามที่ศูนย์บอกมาก็ได้  แต่....

1. ให้ดูว่าในคู่มือรถของเรา กำหนดให้ใช้ค่าความหนืดของน้ำมันเครื่องที่เท่าไหร่ และให้สอบถามดูว่า รถใหม่ที่ออกมาจากศูนย์ใช้น้ำมันเครื่องเกรดอะไรและค่าความหนืดที่เท่าไหร่
    เนื่องจากในปัจจุบันนี้ ค่ายรถหลาย ๆ ค่าย จะมีน้ำมันเครื่องเกรดกึ่งสังเคราะห์ ค่าความหนืด 0w-20 ออกมาให้บริการลูกค้า มันก็ใช้ได้หรอกครับแต่ถ้าค่าความหนืดในคู่มือรถเราเค้าให้ใช้ค่าความหนืดมากกว่านั้น (ปกติมักจะกำหนดค่าความหนืดที่ 30 ขึ้นไป รถใหม่ ๆ ก็ใช้เบอร์ 30)
ซึ่งหากเราไปใช้น้ำมันเครื่องเบอร์ 20 ค่าความหนืดจะน้อยเกินไป มันจะได้แต่ความลื่น แต่การปกป้องเครื่องยนต์จะน้อย กำลังอัดของเครื่องยนต์ก็จะน้อยและส่งผลให้สิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงมากขึ้นด้วย 

2. ทางศูนย์มักจะบอกว่า ปัจจุบันนี้ เทคโนโลยีการผลิตเครื่องยนต์ทันสมัยมากกว่าแต่ก่อน ความสกปรกในเครื่องยนต์มีไม่มากนัก และมีการรันอินมาจากโรงงานแล้ว  เรื่องเทคโนโลยีการผลิต เป็นเรื่องจริงครับ เครื่องยนยต์เดี๋ยวนี้สะอาดกว่าเมื่อก่อนมาก แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่ามันสะอาดจนไม่มีเศษโลหะหลงเหลืออยู่เลย มันยังมีบ้างครับยแต่มีน้อย ประกอบกับการรันอินที่บอกว่ามีการรันอินมาจากโรงงานแล้ว อันนี้ไม่อยากให้เชื่อนะครับ เพราะถ้ารันอินเครื่องยนต์มาทุกเครื่องจริง ๆ ต้นทุนการผลิตจะมหาศาล จึงเป็นไปไม่ได้ อาจจะแค่สุ่มเอาเพื่อตรวจสอบตามหลักการสุ่มตัวอย่างเท่านั้น ไม่ได้รันอินทุกเครื่องแน่ ๆ
ยกเว้นรถยนต์หรู ๆ ราคาแพง ๆ ผมก็ไม่แน่ใจนะครับ อาจจะรันอินมาทุกเครื่องก็ได้
ตามประสบการณ์ผม รถที่พ้นรันอิน ไม่ใช่ว่าที่ 1000 กิโลเสมอไปนะครับ ผมว่าขึ้นอยู่กับสภาพการใช้ของแต่ละคนด้วย การสังเกตุว่าพ้นรันอินหรือยัง ก็คือ จะรู้สึกได้เลยว่าเครื่องยนต์ลื่นไหลมากขึ้น ซึ่งแสดงว่าชิ้นส่วนต่าง ๆ ได้ปรับตัวเข้าที่เข้าทางแล้ว วิทาร่าผมพ้นรันอินจริง ๆ เมื่อวิ่งไปได้ 3000 กว่า กิโล
ส่วน freed พ้นเมื่อ 2600 กิโล

จากเหตุผล 2 ข้อนี้ ผมจึงเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง โดยไปใช้เกรดสังเคราะห์แท้ เบอร์ 30 หรือ เบอร์ 40 ไปเลยครับ พร้อมกับเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเครื่องและแหวนด้วย ผลคือ เครื่องยนต์เงียบ เรียบและลื่นขึ้น กำลังอัดเครื่องยนต์ดีขึ้นและประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงมากขึ้นด้วยครับ แล้วผมจะซื้อน้ำมันเครื่องไปเอง ไม่ได้ใช้ของศูนย์ครับ

ออฟไลน์ Slipknot`

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 21,866
  • *** HLM.COM ***
บ้านผมบางคันเข้า บางคันไม่เข้า ก็ปกติดีทุกคันครับ

มันก็แล้วแต่ จขกท. เพราะ 1000 โล ก็ไม่เสียเงินนิครับ เสียแค่เวลาเล็กน้อย

ว่างๆไปเข้าก็ไม่เสียหายครับ

ออฟไลน์ joufo

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,255
คู่มือรถช่วยท่านได้ครับ มีระบุไว้อย่างชัดเจน (ส่วนใหญ่นะครับ)

ออฟไลน์ J!MMY

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 15,628
    • www.headlightmag.com
    • อีเมล์
1. ถ้าเข้าศูนย์เพื่อเช็คตรวจสอบ ควรทำ เพื่อรักษาสิทธิ์ การรับประกันคุณภาพครับ
เพื่อไม่ให้บริษัทรถยนต์ มาหาเหตุอ้างกับคณได้ ในกรณีต้องมีการเปลี่ยนเคลมชิ้นส่วนในภายหลัง

2. แต่ถ้าถ่ายน้ำมันเครื่องละก็
ความเห็นของผม ยืนยันว่า "ไม่จำเป็น"

เครื่องยนต์สมัยนี้ หากมีโอกาสเข้าไปดูในโรงงานประกอบเครื่องยนต์นั้น
จะพบว่า การประกอบนั้น มันไม่เหมือนสมัยก่อนเท่าไหร่แล้ว ความสอาด
มีมากขึ้นกว่าเดิมเยอะมาก

อีกทั้งทุกวันนี้ ผู้ัผลิตรถยนต์เอง ก็ยังระบุไว้เลยว่า เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องครั้งแรก
ที่ระดับ 20,000 กิโลเมตร กันไปแล้ว และน้ำมันเครื่องทุกวันนี้ ทำออกมารองรับ
มาตรฐานของเครื่องยนต์ยุคใหม่อยู่แล้ว ดังนั้น ไม่มีความจำเป็นต้องเปลี่ยนถ่ายทิ้ง
เพื่อสร้างปัญหามลภาวะให้โลกเกินจำเป็น ที่ 1,000 กิโลเมตรเลยครับ

City ของผม เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง 10,000 กิโลเมตร แรกไปเลย
รถก็ไม่เห็นเป็นอะไร วิ่งนิ่ม เครื่องดี อยู่รอดมาได้ในทุกวันนี้ก็ 5 ปีแล้ว
มาดูสภาพได้ครับ