ไม่เคยใช้นะ แต่เคยขับครับ
รุ่นป๊อบอัพมาถึงไทยตั้งแต่ช่วงต้นยุค 90-91 เป็นรถที่เรียกได้ว่าเป็นพริกขี้หนูสำหรับตลาดคนทั่วไป
เพราะความที่เป็นรถเล็ก น้ำหนักเบาแค่ตันกับอีกไม่กี่สิบโล แต่ใช้เครื่อง BP 1.8 140 แรงม้า จับคู่เกียร์ธรรมดา
ที่มีอัตราทดค่อนข้างจัด (เกียร์ 5 วิ่ง 100 รอบขึ้น 3,200) ทำให้เป็นรถที่ขับสนุกมาก สมัยนั้นจำไ้ด้ว่าคุณพ่อผม
ขับเบนซ์ 6 สูบ พยายามจะไล่กวดไอ้เจ้านี่ สุดท้ายโดนทิ้งครับ เพราะเขาเร่งจากได้เร็วมาก
ตีนปลาย ยานยนต์เคยทดสอบไว้ 213 ก.ม./ช.ม. แต่ก็มีบางคนบอกว่าได้ 220 กันครับ
อัตราเร่งควอเตอร์ไมล์..เอาเป็นว่าถ้าสมมติเครื่องมัน 100% จริงๆ รถบ้านของทุกวันนี้ จะ 2.0 หรือ TDCi
มีหวังโดนน้องป๊อบเก็บหมดล่ะครับ
Astina รุ่นนี้มีรูปทรงด้านหน้าเหมือนรถสปอร์ต แต่มี 5 ประตู
สามารถนั่งได้ 4 คน ราคาไม่แพง 599,000 บาท และมีคู่แข่งร่วมยุคเป็นรถอย่าง Toyota Corolla GTi 4AGE
Nissan Sentra RZ-1, Mitsubishi Lancer 1.8GTi พวกนี้จัดเป็นรถเล็กหมัดหนักโดยที่มาสด้าน่าจะขับสนุกเป็นอันดับต้นๆของกลุ่ม
การขับขี่และการทรงตัวดีครับ แต่ผมอ่านจากยานยนต์เขาบอกว่าท้ายมันจะเบาเวลาวิ่งเกิน 170 ขึ้นไป ถามว่าตอนผมขับผมรู้สึกไหมว่ามันเบา? ก็รู้สึก แต่ไม่กลัวเพราะช่วงนั้นผมก็ขับ NX Coupe ที่ท้ายเบาเหมือนกันอยู่ และเป็นช่วงวัยกำลังเสี้ยนเลยด้วย เลยรู้สึกเฉยๆ
ข้อเสียของมันนั้น ที่ผมรู้อย่างเดียวคือมันสวาปามน้ำมันเกินตัวไปหน่อย เติม Gasohol 95 กับรถที่วิ่งมา 240,000โล พยายามเดินทางไปแปดริ้วแบบนิ่งๆไม่เกิน 120 ผมทำได้แค่ 10.8 กิโลลิตร..กินยังกะ 6 สูบ
ถ้าคิดซื้อหามาใช้ บอกได้ว่าหนทางทำให้แรงก็มีอยู่บ้าง คุณสามารถนำชุดเครื่องยนต์กับระบบส่งกำลังจากรุ่น GT-X หรือ GT-R (ถ้าหาได้นะ) แล้วเอ็นจอยกับพลังเทอร์โบขับสี่ หรือจะโมดิฟายเพิ่มกำลังจนวิ่งควอเตอร์ไมล์ระดับ 13.5-13.7 วิก็ได้ ( คันที่ผมเห็นทำแบบนี้มันเป็นรุ่น 4 ประตู แต่โครงสร้างทางวิศวกรรมคล้ายๆกัน)
ก็เป็นวิธีที่ไม่แพง และไม่เลวที่จะบอกเพื่อนบ้านคุณที่ใช้ MPS ว่าคุณแก่แต่ยังมีไฟอยู่