ผู้เขียน หัวข้อ: การติดกรองไฟทำให้ออกตัวไวขึ้น ประหยัดน้ำมันจริงมั้ยครับ  (อ่าน 21411 ครั้ง)

ออฟไลน์ spiritofsoul

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 104
พอดี เพื่อนแนะนำให้ลองใช้กรองไฟดูเผื่อจะประหยัดน้ำมันขึ้น อัตราเร่งดีขึ้น

มันมีผลมั้ยครับ เคยได้ยินแต่เกี่ยวกับเรื่องเครื่องเสียง

ถ้ามีผลปกติเขาใช้ของอะไรอะครับ ไม่เคยสนใจเรื่องพวกนี้เลย  :-[

ออฟไลน์ 6162002

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,089
เอาง่ายๆว่าคุณปิด A/C เห็นผลกว่าอีกครับ
มันจะกรองยังไงก็ประหยัดไฟรถลงเท่าปิดคอมแอร์ไม่ได้หรอกครับ


ไอ่พวกกรองไฟ กราวไว อะไรเนี่ย เขาโฆษณาว่าจะได้ผลดีมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก กับรถเก่า และรถที่ทำสีมา

ซึ่ง Mighty-X ผมเข้าเกณฑ์ทั้งคู่เลยครับ ก็เลยไปจัดลองมา (หาร้านถูกๆ บางร้านมันก็ฟันเว่อ)
ปรากฎว่า เหมือนเดิมเป๊ะ  ไอ่ที่บอกจะทำให้ไฟนิ่งขึ้น  ไม่มีผลเลยซักนิดเดียว  รถผมยังมีอาการโบเวอร์แอร์ เดี๋ยวเบาเดี๋ยวแรงเป็นพักๆ แกว่งตามไฟรถเหมือนเดิม (รถผมมีเกจบอกไฟแบตครับ)
เครื่องแม่งก็เร่งได้เท่าเดิมเป๊ะ

ตอนไปใส่ท่อใบพัด เสียไป 2500 ยังรู้สึกมากกว่าเลยครับ ตอนเกียร์ 3 รอบประมาณ 1500ขึ้นไป แรงขึ้นนิดนึง


ทุกวันนี้ถามร้าน มันยังอธิบายไม่ได้เลยว่า กรองไฟ คือกรองไฟอะไร ตรงไหน ยังไง มันเป็นการเติมอะไรเข้าไปในวงจร แล้วต่ออนุกรมต่อขนานมีผลมั๊ย แล้วจะทดสอบได้ยังไง ต่อมิเตอร์อะไรวัดได้รึเปล่า แม่งงงแดรกตลอด  - -

ออฟไลน์ -Anonymous-

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,428
  • Catch me if you can !!!
ได้ผลกับรถเก่าๆครับ ปิดACรถพุ่งกว่าชัดเจน

ออฟไลน์ ADS

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 227
เพิ่งติดมา 3วัน ราคา 3500 บาท กับ crv g3 ปี 07 รถเร่งดีขึ้นทันที ประหยัดน้ำมันหรือไม่ยังไม่ทราบเพราะต้องการเรื่องเร่งทันใจมากกว่า ที่กล้าติดเพราะคืนได้ภายใน 7วัน ต่อเข้ากับขั้วแบตโดยไม่ต้องถอดขั้วแบต
อดีต       Austin ... VW เต่า ... VW ตู้ ... Lancer Champ ... Galant GLS ... CRV G1 ... Nissan Super Neo
ปัจจุบัน   Accord G6 ... CRV G3 ... BMW F30 316i

ออฟไลน์ hutzero

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,561
    • อีเมล์
ตามนั้นครับ  เหมาะกับรถเก่าๆอายุซัก 5 ปีขึ้นไป  ยิ่งเก่ายิ่งเห็นผล   
แต่ผมก็ไม่ยืนยัน 100% นะครับ   แต่ในคลับ EX ใช้แล้วไม่มีอะไรดีขึ้น
ไม่แต่ใจว่าเป็นเพราะรถใหม่  หรือระบบไฟมิตซูเสถียรอยู่แล้วกันแน่
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 26, 2013, 23:13:56 โดย hutzero »

ออฟไลน์ ADS

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 227
เข้า google แล้วพิมพ์ kwt super dc filter ลองอ่านดูในหลายๆ web เพื่อประกอบการพิจารณาครับ ครั้งแรกบอกตรงๆ ว่าเตรียมใจว่าต้องส่งคืนแน่นอน แต่พอขับแล้วก็งงมาก มันเป็นไปได้อย่างไร ลองเลยครับเพราะคืนได้
อดีต       Austin ... VW เต่า ... VW ตู้ ... Lancer Champ ... Galant GLS ... CRV G1 ... Nissan Super Neo
ปัจจุบัน   Accord G6 ... CRV G3 ... BMW F30 316i

ออฟไลน์ AD

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 26
ถ้ามันได้ผลจริง มันติดมาจากโรงงานแล้ว หรือไม่คนค้นคิด เอาไปขายบริษัทรถยนต์รวยไปแล้ว ไม่ต้องมาหลอกขายในเวปหรอก

ออฟไลน์ promay

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 132
    • อีเมล์
มันจะเห็นผลมากกับรถที่มีระบบไฟไม่สมบูรณ์ประมาณว่ารถอายุมากๆน่ะครับ แต่สำหรับรถใหม่แทบจะไม่เห็นผลหรือเห็นผลน้อยมากจนเราอาจจะไม่สามารถแยกแยะออกก็ได้ เปรียบเทียบกับแบตเตอรี่ยี่ห้อธรรมดาหรือรุ่นต่ำๆ กับยี่ห้อดีๆที่มีคุณภาพหรือรุ่นสูงๆนั่นแหล่ะครับ มันจะสามารถจ่ายไฟได้นิ่งและเสถียรกว่าแบตเตอรี่ยี่ห้อธรรมดาหรือรุ่นต่ำๆแน่นอน ดังนั้นเจ้าตัวกรองไฟเนี่ยมันจะไปช่วยทำให้ระบบไฟของรถยนต์หรือกล่องecuต่างๆทำงานได้เต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นเท่าที่มันจะทำได้น่ะครับ แต่จะเห็นผลมากน้อยก็แล้วแต่รถแต่ละคันด้วย
ปล.ถ้าคุณเล่นเครื่องเสียงดีๆซักชุด คุณจะรู้ว่าระบบไฟมันมีผลต่อคุณภาพเสียงแค่ไหน กล่องecuของรถก็เหมือนกันยิ่งไฮเทคมันก็ยิ่งไวต่อเรื่องนี้มาก

ออฟไลน์ นครอัญมณี

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,181
    • นครอัญมณี
    • อีเมล์
มันจะเห็นผลมากกับรถที่มีระบบไฟไม่สมบูรณ์ประมาณว่ารถอายุมากๆน่ะครับ แต่สำหรับรถใหม่แทบจะไม่เห็นผลหรือเห็นผลน้อยมากจนเราอาจจะไม่สามารถแยกแยะออกก็ได้ เปรียบเทียบกับแบตเตอรี่ยี่ห้อธรรมดาหรือรุ่นต่ำๆ กับยี่ห้อดีๆที่มีคุณภาพหรือรุ่นสูงๆนั่นแหล่ะครับ มันจะสามารถจ่ายไฟได้นิ่งและเสถียรกว่าแบตเตอรี่ยี่ห้อธรรมดาหรือรุ่นต่ำๆแน่นอน ดังนั้นเจ้าตัวกรองไฟเนี่ยมันจะไปช่วยทำให้ระบบไฟของรถยนต์หรือกล่องecuต่างๆทำงานได้เต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นเท่าที่มันจะทำได้น่ะครับ แต่จะเห็นผลมากน้อยก็แล้วแต่รถแต่ละคันด้วย
ปล.ถ้าคุณเล่นเครื่องเสียงดีๆซักชุด คุณจะรู้ว่าระบบไฟมันมีผลต่อคุณภาพเสียงแค่ไหน กล่องecuของรถก็เหมือนกันยิ่งไฮเทคมันก็ยิ่งไวต่อเรื่องนี้มาก

อืม..เหตุผลฟังขึ้น ครับ
รักรถมาก
รักครอบครัวมากกว่า
รักชาติ-ศาสน์-กษัตริย์มากที่สุด

ออฟไลน์ zeb80

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 413
ตามทฤษฎีผมว่ามีผลครับ เหมือนถ้าคุณเล่นเครื่องเสียงน่ะแหละ ระบบไฟมีผลจริงๆ แต่ขึ้นอยู่กับว่าระบบไฟเดิมดีิยู่แล้วขนาดไหน

ออฟไลน์ rocky55555

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 630
ผมว่าน่าจะมีผลกับรถที่ระบบไฟไม่ค่อยดี อย่างผมใชcivic เวลาต่อเครื่องกรองอากาศ จะพบว่าเดี๋ยวแรงเดี๋ยวเบา
แต่ก็ยังไม่เคยใช้ของพวกนี้
ถ้าถามว่ากรองไฟใส่แล้วดีขึ้นมั้ย ดีขึ้นแต่เรารู้สึกหรือเปล่าเท่านั้นเอง เพราะผมเล่นเครื่องเสียงบ้านใส่กับไม่ใส่ต่างกันชัดเจน
แต่ในรถไม่ทราบครับ

ออฟไลน์ PJ"

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,722
  • Fake Forester
    • อีเมล์
ตามท่านบนๆที่บอกเลยครับ จะดีต่อเมื่อรถเก่าๆ

แต่รถใหม่ๆไปติด ส่วนใหญ่จะหลอกคนหัดแต่งรถทั้งนั้น

ออฟไลน์ ceberos

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 780
    • อีเมล์
เครื่องเสียงบ้าน เกี่ยวทุกอย่างคนที่เขาเล่นจริงจังลงทุนเดินสายไฟใหม่จากสายหน้าบ้าน ลงปลั๊กไฟใหม่ กะอีแค่ ฟิวส์ตัวละ 5-50บาท ยังไปหาตัวละ3500-5000 มาใส่ ถามว่าพวกนี้ถ้าคนที่เล่นจะฟังออกจริงๆครับ เช่นเสียงสูงกลางต่ำความ เข้มของเสียงร้อง แต่เรื่องรถยนต์มันง่ายกว่านั้นเยอะมันสามารถขึ้น Dyno เทสได้ถ้าดีขึ้นจริงอย่างน้อยแรงบิดก็ต้องเพิ่มถูกต้องมั้ยครับ ถ้ายิ่งมีประกันเงินคืนลองเลยฮะ ไดโน่ พัฒนาการ testcar 2รอบ 1พันบาท รู้ผลได้เลยถ้าของเขาดีจริง ผมก็หาข้อมูลอยู่เหมือนกันแต่ก็เข้าใจว่ารถใหม่ ระบบไฟไม่น่าชำรุดง่ายๆ นอกจากพวก Ford Chev หรืออะไรที่ระบบไฟฟ้าเยอะเห็นผลจริง   Cruzeในกลุ่มที่ผมรู้จักติดพวก ground volt stabilizer เห็นผลได้จากแอร์เย็นขึ้นจริง ผมมาเล่าประสบการณ์ที่ผมได้เจอมาแชร์ให้ฟังครับ

ออฟไลน์ 6162002

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,089
เอาไปเทียบกันยังไงอะครับ เครื่องเสียงมันเป็นระบบอนาลอค ไวต่อไฟฟ้า

แต่เครื่องยนต์ มันเป็นเครื่องกล


แล้วไอ่ที่บอกว่ารถเก่าๆ แบตจ่ายไม่ดี ทำให้วิ่งไม่ดีไปด้วย

รู้รึเปล่าครับ รถเก่าๆ มันไม่มีแบตก็วิ่งได้ ใส่แบตแค่สตาร์ทแล้วถอดออกได้เลย -*-

ออฟไลน์ AD

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 26
กรองไฟ กับ ground wire มันคนละเรื่องกันนะครับ ที่ว่ารถเก่า ground จะไม่ค่อยดี มีความต้านทานสูงขึ้น ใส่ ground wire มันก็ช่วยลดความต้านทานลง ground ได้จริง แต่คงเห็นผลไม่มาก

ส่วนกรองไฟที่ขายนี่ มันเป็นอุปกรณ์หลอกแดกโดยเฉพาะ ถ้าคนรู้เรื่องอิเล็กโทรนิคก็จะรู้ดี การกรองสัญญานรบกวนทำได้ไม่ยาก แค่ใส่ L และ C ไม่กี่ตัว ต้นทุนไม่กี่บาท  ซึ่งการกรองสัญญานรบกวน มันต้องกรองที่ระหว่างจุดกำเนิดสัญญานรบกวน กับอุปกรณ์ที่จะมีผลกับสัญญานรบกวน เช่น ECU หรือเครื่องเสียงเป็นต้น
การเอากรองไฟไปใส่ที่แบ๊ตไม่ได้ทำให้สัญญานรบกวนลดลงไป เพราะแบ๊ตไม่ใช่ตัวกำเนิดสัญญานรบกวน หรือสัญญานรบกวน มันก็ไม่มีผลอะไรกับแบ๊ต ไม่รู้จะเอาพวก C ฟิวเตอร์ไปใส่คร่อมแบ๊ตทำไม ใช้ไปนานๆ C อาจ leak หรือช๊อต ทำให้แบ๊ตหมดไว และเสื่อมไวอีกต่างหาก
ซึ่ง ECU หรือเครื่องเสียงดีๆ เค้าก็ใส่พวก filter สัญญานรบกวนมาให้อยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องไปใส่เพิ่มเอง

สำหรับเครื่องเสียง การเพิ่ม C ความจุสูงๆก็อาจจะจำเป็น เพราะเครื่องเสียงอาจดึงกระแสไฟจำนวนมาก ช่วงสั้นๆ ซึ่งแบ๊ตอาจจะจ่ายกระแสไฟได้ไม่เพียงพอ ประจุไฟที่เก็บอยู่ใน C ก็จะช่วยตรงส่วนนี้ ซึ่ง C ที่ใช้ในงานลักษณะนี้ ตัวจะใหญ่มาก จะมีค่าความจุมากกว่าที่ใช้ในพวกวงจรกรองไฟ หลายพันหลายหมื่นเท่า

ออฟไลน์ ชายโอ๊ต

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,034
เข้ามาลงชื่อฟังเก็บข้อมูลด้วย
แต่โดยส่วนตัวคิดว่ามีผล แต่น้อยจนไม่เห็นผล
เอ๊ะยังไง ;D
"ศัตรูแห่งความก้าวหน้า คือเวลาที่เสียไป"

ออฟไลน์ slate

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 318
ตัวกรองเอาไปใช้กับเครื่องเสียง ถ้าทำไม่ถึงจริงๆ ส่วนมากจะร่วงมากกว่ารุ่งนะคับ

ออนไลน์ sk-non

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 499
ผม เปลี่ยน แบตเตอรี่ จากเติมน้ำกลั่น
เป็น MF เห็น ผลชัดเจนเลย ครับ

ออฟไลน์ Thor.1

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 557
   
  กระทู้นี้ทำให้รู้ว่า...........ในเว็บนี้มีคนเล่นเครื่องเสียงเยอะเหมือนกัน... ;D


 

ออฟไลน์ ceberos

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 780
    • อีเมล์
เผื่อมีคนเล่นเครื่องเสียงบ้าน จะขอไฟล์เพลง แหล่มๆบ้างซะหน่อย ฟังเพลงแบบนี้แล้วใจเย็นขึ้นเยอะเลยครับเวลาขับรถ

ออฟไลน์ นครอัญมณี

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,181
    • นครอัญมณี
    • อีเมล์
เอาไปเทียบกันยังไงอะครับ เครื่องเสียงมันเป็นระบบอนาลอค ไวต่อไฟฟ้า

แต่เครื่องยนต์ มันเป็นเครื่องกล


แล้วไอ่ที่บอกว่ารถเก่าๆ แบตจ่ายไม่ดี ทำให้วิ่งไม่ดีไปด้วย

รู้รึเปล่าครับ รถเก่าๆ มันไม่มีแบตก็วิ่งได้ ใส่แบตแค่สตาร์ทแล้วถอดออกได้เลย -*-

รถยนต์สมัยนี้ มีระบบอีเลคทรอนิคส์ ในการควบคุมการจ่ายน้ำมัน เปิดปิดวาวล์อากาศ จ่ายไฟให้กับหัวเทียน ฯลฯ
ต่างจากรถยนต์สมัยก่อน ที่ใช้ระบบคาบูเรเตอร์ พอสมควรครับ

ส่วนรถยนต์ที่ถอดแบตแล้ววิ่งได้ คือรถที่ไม่มีหัวเทียน เช่น เครื่องยนต์ดีเซล ยุคก่อนๆครับ
แต่สมัยนี้ อย่าถอดเลยครับ เดี๋ยวกล่อง ECU คอมมอนเรล จะพังเอาซะ เพราะไดชาร์ต ปั่นไฟไม่เรียบ ตามรอบของเครื่องยนต์ครับ

ส่วนกรองไฟ ที่ว่านั้นหน่ะ ก็ทำได้แค่ ให้รถยนต์คันนั้น มีระบบไฟดีเหมือนรถใหม่ป้ายแดงเท่านั้นครับ (รถเก่าจึงเห็นผลชัดเจน)
แต่ไม่ได้ดี หรือ แรงกว่า ประหยัดกว่า สมัยป้ายแดงไปสักเท่าไร หรอกครับ
รักรถมาก
รักครอบครัวมากกว่า
รักชาติ-ศาสน์-กษัตริย์มากที่สุด

ออฟไลน์ spiritofsoul

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 104
ขอบคุณครับ อาจจะลองซื้อมาใช้กับรถคันเก่าบ้างเผื่อจะดีขึ้น  ;D

แต่คันใหม่ๆ นี้ไม่เกิดผลเลยใช่มั้ยครับ เสียดายจัง น่าจะได้กับเขาด้วย  :P