เรื่องจากในเฟสบุ๊คครับ
สืบเนื่องมาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2556 ได้นำรถเข้าไปใช้บริการยัง 0 มาสด้า เจริญนคร ( simedarby สำนักงานใหญ่) เพื่อทำการตรวจเช็ค ไม่สามารถ ล็อครถจาก หูจับประตูไม่ได้ ( รถที่ใช้งานเป็น มาสด้า2 สี่ประตูตัวท็อป รุ่นแรก ที่มีปุ่มกด ล็อกที่หูจับประตู )
18 เมษายน 2556
เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2556 ด้นำรถเข้าไปใช้บริการยัง 0 เพื่อทำการตรวจเช็ค และทาง 0 ทำการแจ้งว่าต้องเปลี่ยน เสาอากาศรับสัญญาณ รีโมท แต่ทาง 0 ไม่มีอะไหล่ แต่แจ้งว่าอะไหล่จะเข้ามาในคืนนี้ และได้ทำการแจ้งเข้ามาเปลี่ยนในวันถัดไป คือวันที่ 19 เมษายน 2556
วันที่ 19 เมษายน 2556
และในวันที่ 19 เมษายน 2556 ผมได้นำรถเข้า 0 บริการตามนัดหมาย เวลาเกือบ 9 โมง อยู่ลำดับคิวที่ 9 ผมจึงได้นั่งรอจนเวลาผ่านไป 10 โมงกว่า และได้เห็นรถที่เข้ามารับบริการ หลังจากผมได้รับบริการก่อน ตอนนั้นเลยไปถึงคิวที่ 24
ครั้งที่ 1 จึงได้สอบถามทางพนักงานว่ารออะไรอยู่ พนักงานที่ถามบอกว่าจะถามทางพนักงานที่รับรถผมไว้ให้ แล้วก็หายไปไม่ได้รับคำตอบใดๆ ทั้งสิ้น
ครั้งที่ 2 ตอนนั้นผ่านไปอีกประมาณ 4 คิวเป็นคิวที่ 29 ผมจึงได้ถามพนักงานอีกครั้ง และได้คำตอบเหมือนเดิม จะถามทางพนักงานที่รับรถผมไว้ให้ แล้วก็หายไป
สักพักหนึ่ง พนักงานที่รับรถผมก็เดินไปที่รถของผมเพื่อทำการเลื่อนรถไปเข้ารับบริการ ( ก่อนหน้านี้ มีการเลื่อนรถของผมเพื่อขยับให้รถคันอื่นเข้ารับบริการ อยู่หลายครั้ง) หลังจากที่พนักงานเลื่อนรถผมเข้าให้บริการ
ก็ได้มีเสียง "ดังโครม" ดังมาก ด้านข้างของ 0 บริการและมีฝุ่นตลบอบอวน ซึ่งตอนแรก ผมไม่ได้ลุกขึ้นไปดู เพราะคิดว่าฝ้าทาง 0 ถล่ม แต่เมื่อเห็นคนมุงเริ่มเยอะจึงเดินไปดู ครั้งแรกที่เห็น น้ำตาแทบร่วง เข่าแทบทรุด
ผมจึงเดินตัดหลังเค้าเตอร์บริการ ออกประตูด้านข้างเพื่อไปดูรถ ตอนเปิดประตูออกไป พนักงานคนดังกล่าวเดินเข้ามา ยกมือไหว้ขอโทษ แต่ยอมรับว่าวินาทีนั้นผมไม่ได้มองหน้าพนักงานคนนั้นเลย ตรงเข้าไปที่รถ
และถ่ายรูปเพื่อส่งให้แฟนดู และโทรบอกแฟน ทางพนักงานที่ขับรถแจ้งว่า คันเร่งค้างทำให้เบรค ไม่ได้ และหัวหน้าช่างก็ยังมาบอกอีกว่า พรมกระดุมในรถไปขัดคันเร่ง (แต่ถามหน่อยนะครับ ก่อนได้รับบริการมีการ เลื่อนรถผมอยู่หลายครั้ง ทำไม่ไม่ค้าง ถ้าพรมเข้าไปขัดคันเร่ง โดยปรกติแล้วคนเราจะเหยือบคันเร่งขนาดไหน โดยถ้าเป็นรถผม คุณต้องเหยือบไปจนสุดคันเร่ง พรมถึงจะเข้าไปขัดได้ และพรมของผมมีตีนตุ๊กแกเพื่อยึดกับตัวรถอีกครั้ง แล้วใน 0 ระยะสั้นๆ คุณจำเป็นต้องเหยือบคันเร่งและใช้ความเร็วขนาดนั้นเหรอ)
ทาง 0 จึงมาแจ้งว่าให้นั่งรอ เวลาผ่านไปสักพักหนึ่ง ทางผู้จัดการ 0 จึงมาคุยด้วย ว่าทาง 0 จะทำการ ซ่อมรถให้ แต่ผมไม่ได้รับข้อเสนออะไรทั้งสิ้น เพราะรอแฟนมาก่อน (มาจากที่ทำงาน)
หลังจากที่แฟนและพี่มาถึง จึงได้คุยกับทางผู้จัดการ ซึ่งครั้งแรกทาง 0 แจ้งว่าจะทำการ ซ่อมให้ ให้เงิน 1 แสนบาท และได้ให้รถทดสอบมาใช้งานจนกว่าจะ ซ่อมเสร็จ และนำรถไปใช้ทุกอย่างเหมือนเดิม
ทางผมจึงไม่รับข้อเสนอ เพราะถ้าหากรับรถไปแล้ว ถ้าหาก 3 เดือนต่อไปเกิดว่ารถวิ่งเสียศูนย์ เพราะอาจถึง คัท cรถ หม้อน้ำแตก ซ่อมจุกจิกที่จะตามมา ใครจะซ่อมให้ แล้วถ้าหากใช้ดีไม่มีปัญหา เกิดอยากขาย
ราคาจะต้องตกเพราะเคยชนหนัก
อ่านต่อกันที่นี่นะครับ เรื่องยังอีกยาว
http://www.facebook.com/photo.php?fbid=10151558086354570&set=a.10151558085979570.1073741825.761949569&type=1