ผู้เขียน หัวข้อ: ขอข้อมูลการ RUN-IN ที่ถูกต้องด้วยครับ  (อ่าน 16140 ครั้ง)

ออฟไลน์ pkdiamond

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 748
  • I 'm Axera.............
    • อีเมล์
ขอข้อมูลการ RUN-IN ที่ถูกต้องด้วยครับ
« เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2009, 13:53:22 »
พอดีเคยอ่านที่ท่านผู้การ โพส ไว้ ในกระทู้ไหนไม่ทราบอ่ะครับเพราะว่านานมาแล้ว

เลยอยากจะขอข้อมูลอีกครั้งครับ หรือไม่ก็ ใครก็ได้ครับที่รู้ ช่วยแจงหน่อยครับ

ออฟไลน์ JaY JaY

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 14
  • JJ Attaphongse
Re: ขอข้อมูลการ RUN-IN ที่ถูกต้องด้วยครับ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2009, 14:31:17 »
ไม่แน่ใจว่าจะถูกต้องเป๊ะๆ รึป่าวนะครับ
รู้แบบคร่าวๆ

Run-in เ็ป็นการใช้งานในช่วง 1,000 กม. แรก
เพื่อให้ชิ้นส่วนต่างๆในรถปรับสภาพให้เข้าที่

1) อุ่นเครื่องก่อนออกรถ
2) ขับไม่เกิน 120 กม/ชม. แต่ไม่ควรแช่ที่ความเร็วนิ่งๆเป็นเวลานาน
3) อย่าขับขี่แบบโหด(รุนแรง)ต่อรถ
4) ควรพักจอดบ่อยๆ เมื่อเดินทางไกล

เมื่อครบ 1,000 กม. ก็เข้าไปเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์
คิดว่าในน้ำมันคงมีเศษโลหะหลุดออกมา เพียบเลย
CR-V 2012

ออฟไลน์ Newhang

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,338
Re: ขอข้อมูลการ RUN-IN ที่ถูกต้องด้วยครับ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2009, 16:48:30 »
     เปิดในคู่มือดูครับชัดเจนที่สุด   แต่คู่มือผมเขียนว่า ห้ามถ่ายน้ำมันเครื่องที่1000กิโลเมตรแรกนะ   ผมก็ตามนั้น

ออฟไลน์ sirisak_ac118

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,579
    • อีเมล์
Re: ขอข้อมูลการ RUN-IN ที่ถูกต้องด้วยครับ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2009, 17:03:42 »
ไม่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับเปลี่ยนน้ำมันเครื่องและน้ำมันเกียร์ที่1,000 กิโลเมตรแรก เป็นการสิ้นเปลืองโดยใช้เหตุครับ ไม่จำเป็น มันมีใส้กรองน้ำมันเครื่องอยู่แล้วเศษเหล็กไม่เข้าเครื่องหรอกครับ
เปลี่ยนของเหลวต่างๆก็เช็คตามระยะของคู่มือรถดีที่สุดครับ

ออฟไลน์ TurBoZ

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 220
  • ZZZZzzzzzzzzzzzzzz
    • อีเมล์
Re: ขอข้อมูลการ RUN-IN ที่ถูกต้องด้วยครับ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2009, 17:32:08 »
ที่ว่ารถใหม่ๆไม่ต้อง run-in นั้น เท็จจริงประการใดครับ?

ออฟไลน์ gateaux

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 615
Re: ขอข้อมูลการ RUN-IN ที่ถูกต้องด้วยครับ
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2009, 19:51:25 »
เท่าที่ได้ยินมา ว่ารถใหม่ในสมัยนี้ ไม่ต้องรันอิน  ผมคิดว่าน่าจะอย่างนั้น แต่การไม่ตะบี้ตะบันขับ ในช่วงแรกๆ ก้อเป็นเรื่องที่ควรปฏิบัตินะ ผมว่า

ออฟไลน์ volvolover

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 809
  • mitsudriver
    • อีเมล์
Re: ขอข้อมูลการ RUN-IN ที่ถูกต้องด้วยครับ
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2009, 20:46:28 »
รัน-อิน รุ่นใหม่ๆ บางคนบอกต้อง บางคนบอกไม่
2011 Mitsubishi Lancer EX 1.8 GLS-Ltd.
2013 Honda City SV
2013 Toyota Prius TOP Option

ออฟไลน์ Newhang

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,338
Re: ขอข้อมูลการ RUN-IN ที่ถูกต้องด้วยครับ
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2009, 21:27:26 »
ต้องรันนะครับ  ผมไปลองขับรถหลายๆยี่ห้อมา ในคู่มือ(มันวางอยู่ในเก๊ะหน้ารถ)ยังคงเขียนอยู่ทุกยี่ห้อ ทุกรุ่น ทุกคัน ที่ผมได้ขับเลย ฉะนั้นเราเป็นผู้บริโภค ควรทำตามผู้ผลิตนะครับ

ผมไม่รู้ว่าเค้าเอามาจากไหนกันว่าไม่ต้องรันอิน เห็นบ่อยมากเลยที่ว่าเค้าบอกว่ารถสมัยใหม่ไม่รันอิน

ออฟไลน์ liveshow

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,751
  • รถไม่แรงแต่แซงยาก
Re: ขอข้อมูลการ RUN-IN ที่ถูกต้องด้วยครับ
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2009, 21:52:56 »
if 0-500km <=6oKm/h
if 501-1000Km <= 80Km/h
if 1001-2000Km <= 100Km/h
if 2001-5000Km <= 120Km/h
if 5001Km-เครื่องพัง 1pcs = สุดทีนนนน

ครับ

แต่ผมขับออกจาก 0 300Km ที่ขับ60 นอกนั้นก็เริ่ม 80-100แล้ว จะหลับในเอา
ก็แค่คนธรรมดา ไม่ลองก็ไม่รู้

ออฟไลน์ toptaro

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 137
    • อีเมล์
Re: ขอข้อมูลการ RUN-IN ที่ถูกต้องด้วยครับ
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2009, 21:54:48 »
รันดีกว่าครับ ก็ไม่ได้เสียหายอะไร


ผมก็ยังรันอยู่ ห้าร้อยโล ล่ะ

ออฟไลน์ PapaRo@ch~*

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,100
Re: ขอข้อมูลการ RUN-IN ที่ถูกต้องด้วยครับ
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2009, 22:12:23 »
ซัดๆไปเถอะครับ

ให้มันพังตอนมีประกันนี่แหละดี

อีกอย่าง รถยนต์สมัยนี้ ก่อนจะถึงโชว์รูมน่ะ เค้าขับในโรงงานกันก่อนใส่ไมล์ ทดสอบการกันน้ำ กระแทกกระเทือน เบรค อะไรต่อมิอะไรก่อนหมดแล้ว

อย่าไปกลัวครับ

คนไทยส่วนมากชอบคิดว่า รถในประกันต้องใช้ถนอมๆ อย่าให้มีอะไรพัง หมดประกันจะพังค่อยว่ากัน
แต่คนเมืองนอกจะบอกว่า รถในประกัน ต้องกระทืบให้สุด อะไรจะพังให้มันพังหรือปรากฎให้เห็นตอนมีประกัน จะได้เคลมได้
หลังหมดประกัน ควรทำแค่ดูแลรักษาและซ่อมบำรุงตามระยะเท่านั้นครับ

ออฟไลน์ mann

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 725
  • นี่หรือรถโมเดล
Re: ขอข้อมูลการ RUN-IN ที่ถูกต้องด้วยครับ
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2009, 22:24:17 »
ซัดๆไปเถอะครับ

ให้มันพังตอนมีประกันนี่แหละดี

อีกอย่าง รถยนต์สมัยนี้ ก่อนจะถึงโชว์รูมน่ะ เค้าขับในโรงงานกันก่อนใส่ไมล์ ทดสอบการกันน้ำ กระแทกกระเทือน เบรค อะไรต่อมิอะไรก่อนหมดแล้ว

อย่าไปกลัวครับ

คนไทยส่วนมากชอบคิดว่า รถในประกันต้องใช้ถนอมๆ อย่าให้มีอะไรพัง หมดประกันจะพังค่อยว่ากัน
แต่คนเมืองนอกจะบอกว่า รถในประกัน ต้องกระทืบให้สุด อะไรจะพังให้มันพังหรือปรากฎให้เห็นตอนมีประกัน จะได้เคลมได้
หลังหมดประกัน ควรทำแค่ดูแลรักษาและซ่อมบำรุงตามระยะเท่านั้นครับ

อ่านทีแรก นึกว่า ประชด แต่ก็จริงครับ พูดอีกก็ถูกอีก (โดนมากๆ) ครับ
1995 honda civic eg 3dr become jdm+spoon
1997 mb c-class w202 elegance
2003 toyota hilux tiger sport cruiser 4x4 2.5 d4d
2006 kawasaki ksr 111
...........................................................................

ออฟไลน์ Ruksadindan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,051
Re: ขอข้อมูลการ RUN-IN ที่ถูกต้องด้วยครับ
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2009, 23:25:04 »
ซัดๆไปเถอะครับ

ให้มันพังตอนมีประกันนี่แหละดี

อีกอย่าง รถยนต์สมัยนี้ ก่อนจะถึงโชว์รูมน่ะ เค้าขับในโรงงานกันก่อนใส่ไมล์ ทดสอบการกันน้ำ กระแทกกระเทือน เบรค อะไรต่อมิอะไรก่อนหมดแล้ว

อย่าไปกลัวครับ

คนไทยส่วนมากชอบคิดว่า รถในประกันต้องใช้ถนอมๆ อย่าให้มีอะไรพัง หมดประกันจะพังค่อยว่ากัน
แต่คนเมืองนอกจะบอกว่า รถในประกัน ต้องกระทืบให้สุด อะไรจะพังให้มันพังหรือปรากฎให้เห็นตอนมีประกัน จะได้เคลมได้
หลังหมดประกัน ควรทำแค่ดูแลรักษาและซ่อมบำรุงตามระยะเท่านั้นครับ

อ่านทีแรก นึกว่า ประชด แต่ก็จริงครับ พูดอีกก็ถูกอีก (โดนมากๆ) ครับ

แปลว่าถ้าเลือกที่จะทรมานเครื่องให้รีบทำ

ออฟไลน์ J!MMY

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 15,628
    • www.headlightmag.com
    • อีเมล์
Re: ขอข้อมูลการ RUN-IN ที่ถูกต้องด้วยครับ
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2009, 23:25:53 »
อดีต คนทำงานบริษัทรถ มาเล่าเองขนาดนี้ ก็ลองฟังและพิจารณาดูนะครับ

แต่ ทั้งนี้ อยู่ที่ความสบายใจกับแต่ละคน ใครจะรันอิน ก็ได้ จะไม่รันอิน ก็ได้

ผมเองก็เคยเห็นรถจากไลน์ผลิตของ BMW ต้อง วิ่งรันอิน ในห้อง ไดนาโมมิเตอร์ ไต่ขึ้นไปที่ความเร็วสูงถึง 180 กิโลเมตร/ชั่วโมง มาแล้ว อย่างน้อย 1 ครั้ง
ใช้คำว่า เห็นกับตาได้ครับ มีรูปถ่ายยืนยัน แต่ ไว้จะเอาลงให้ในวันหลังๆ

แต่สำหรับผม ผมยังแนะนำว่า รันอินไว้ก่อน คือ ภายในระยะ 1,000 - 1,500 กิโลเมตรแรก
ขับ ช้าๆ ไม่ควรเกิน 120 กิโลเมตร/ชั่วโมง และอย่าโหดร้ายกับรถมากนัก ก็ถูกแล้วครับ

แต่อีกหลายท่าน ก็ ซัดกันเต็มเหนี่ยวไปเลยตั้งแต่แรก ก็ "ตามอัธยาศัย" ครับ

ออฟไลน์ PapaRo@ch~*

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,100
Re: ขอข้อมูลการ RUN-IN ที่ถูกต้องด้วยครับ
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2009, 23:40:50 »
อ๊ะ ใจเย็น  ;D

ผมไม่ได้บอกว่าให้กระทืบกันสุดตรีนแบบว่าแตะเรดไลน์ทุกเกียร์นะ

ผมหมายความว่าใช้ได้เลยตามปกติน่ะ
เพราะทางโรงงานเค้าก้อรันอินมาแล้วระดับนึกตะหากนะ

บางคนถอยรถป้ายแดงมาปุ๊บ วันรุ่งขึ้นก้อซัดแช่ 120-150 ไปเชียงใหม่เลย แบบนี้ก้อถือว่ารันอินแล้วล่ะ

ออฟไลน์ Cool Runner

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 590
Re: ขอข้อมูลการ RUN-IN ที่ถูกต้องด้วยครับ
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: พฤศจิกายน 17, 2009, 09:54:46 »
ใช้งานได้ตามปกติ แต่อย่ารุนแรงกับมันมากนัก
เพราะว่าคนรถใหม่กับรถ อาจจะยังไม่ชินกับรถ จะได้ค่อยๆปรับตัวให้คุ้นกับรถด้วย
ในโรงงานเขาขับเต็มที่อยู่แล้วเพื่อที่จะได้รู้ว่ามันมีอะไรผิดปกติมั้ย

แต่ถ้าเรารันอินมันสักหน่อยอายุการใช้งานก็จะยาวขึ้น แต่อย่าไปซีเรียสขนาดว่าช่วงแรกต้องขับไม่เกิน 80 ตลอดเวลา
ลำบากเปล่าๆ แค่ไม่เร่งกระชาก หรือเบรครุนแรงโดยไม่จำเป็นก็พอ
แต่ตอนออกมาใหม่ๆผมก็รันอิน ขับ 80-100 รอบไม่เกิน 2500 ประมาณ 500 โลได้มั้งจากนั้นเต็มที่เลย

ออฟไลน์ boykung

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,174
  • ตอนเด็กๆ โคตรอยากเป็นจีบันเลย
Re: ขอข้อมูลการ RUN-IN ที่ถูกต้องด้วยครับ
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: พฤศจิกายน 17, 2009, 12:43:43 »
ตอนผมได้รถมาใหม่ ผมก็ขับขึ้นเชียงใหม่เลยในวันที่ได้รถ ความเร็วก็อยู่แถว 120-140 ตอนนี้ผ่านมา5ปีละ ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย
Hyundai Grand Starex 2012
Kia Rio 2013
Volvo XC60 D4 Hybrid with Engine Oil 2013
Mercedes Benz S300Hybrid AMG 2014
BMW 420D Coupe M Sport 2016

ออฟไลน์ Archman12

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 81
    • อีเมล์
Re: ขอข้อมูลการ RUN-IN ที่ถูกต้องด้วยครับ
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: พฤศจิกายน 17, 2009, 20:58:24 »
ถ้าไม่ใช่ขาซิ่ง  แนะนำ runin คับ    แต่ถ้าชอบอัด  ไม่ต้องรอพ้นหรอกคับ  กดไปเลยคับ

เรื่องมีอยู่ว่า  รถที่ถูกล็อคความเร็ว  สมมติ 175  ในเกียร์ 3   เป็นเฉพาะรถล็อตแรก  รถออกมาแทบจะพร้อมกัน  คันหนึ่งวิ่ง runin  อีกคันวิ่งอัดกระจาย    ปรากฎว่า  คันแรก เข้าเกียร์ 3 กดสุดๆ  ก็ได้ 175 ตามสเปก   แต่คันที่กดกระจาย  เกียร์ 3 ได้ เกือบ 190   


ออฟไลน์ earth_e60

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 533
    • อีเมล์
Re: ขอข้อมูลการ RUN-IN ที่ถูกต้องด้วยครับ
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: พฤศจิกายน 17, 2009, 23:41:25 »
520d ได้มาใหม่ เซลล์บอกไม่มีรันอิน แต่บางคนบอกมี ออกมาวันแรก เอาขึ้นเชียงใหม่ ก็ ซัด 180 -200 แล้วแต่ไม่ได้กระชาก ค่อยๆไต่ ไป แต่ 318 ผม นี้ ซัดตั้งแต่ 500 กว่าโลแรก แล้วเซลล มันเพิ่งโทมาบอก หลังจาก 4 วันว่า รถมีรันอิน ฮิฮิ

ออฟไลน์ RhinoMango

  • Very Rhino User
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,290
  • Let's get back to '94.
Re: ขอข้อมูลการ RUN-IN ที่ถูกต้องด้วยครับ
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: พฤศจิกายน 18, 2009, 11:12:08 »
คิดในแง่ร้ายสุดๆนะ อาจจะเป็นวิธีการป้องกันที่จะทำให้รถไม่มาพังตอนอยู่ในประกันของบริษัทหรือเปล่า?

แต่ก็ไม่แน่นะ เขาอาจจะรักเราจริงๆก็ได้ อิอิ ;D

ไม่รู้อ่ะไม่เคยมีรถใหม่ คันที่ขับอยู่นี่ก็อายุจะเข้า 23 ปีอยู่รอมร่อแล้ว ;D ;D ;D

ส่วนตัวนะครับ
ช่วงรันอินของผมคือ ช่วงที่เราเริ่มปรับตัวเข้ากับรถ แล้วพอชินเมื่อไหร่ .... เรดไลน์ ปร๊าดดดด
(แต่กว่าจะชินมันก็คงนานพอสมควรล่ะ)

:. Volkswagen Vento VR6 '94 // :. Nissan NX "กูปรี" '94

You can Follow me on Twitter : @rhinomango

ออฟไลน์ Prakaisang

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 23
Re: ขอข้อมูลการ RUN-IN ที่ถูกต้องด้วยครับ
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: พฤศจิกายน 19, 2009, 01:02:42 »
เห็นด้วยกะน้า Mango ครับ รถผมคันแรกออกมาได้สามวัน ก็เหยียบร้อยหก ร้อยเจ็ดไปเที่ยว เชียงใหม่เลยครับ จากนั้นเป็นต้นมาก็เยียบไม่ต่ำกว่าร้อยสี่ตลอดจะหกปีแล้วก็ไม่เห็นเป็นไรเลยครับ ดูแลก็เช็คตามคู่มือตลอดเลย เหยียบไปเหอะครับ ซื้อมาใช้ ซื้อมาเพื่ออำนวยความสะดวกตัวเราไม่ใช่เหรอ และก็รถใหม่เดี๋ยวนี้ไม่จำเป็นต้องรันอินแล้วครับ เมื่อสองปีก่อนผมออกอีกคันก็เยียบตั้งแต่วันแรกเลยทุกวันนี้ก็ใช้ปกติดีอยู่ อีกอย่างถ้ามันพังในช่วงประกันจะได้เคลมได้ และก็ศูนย์ก็ไม่ได้บอกนีครับว่า ถ้าคุณไม่รันอินก่อน ถ้าพังจะไม่รับผิดชอบ

ออฟไลน์ boyddii

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 575
  • Bunny
Re: ขอข้อมูลการ RUN-IN ที่ถูกต้องด้วยครับ
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: พฤศจิกายน 19, 2009, 16:09:47 »
งั้นไปออกรถ กทม. ขับกลับเชียงใหม่ได้เลยใช่ป่าวครับ ส่วนลดถูกกว่าหลายหมื่นเชียว คุ้มกว่าเห็น ๆ เติมน้ำมันอย่างมากสุดก็ 2000 ขับกลับ จาก กทม มาเชียงใหม่ อิอิ ไว้คราวหน้านะ จะไปถอยที่ กทม. ++  :-*